การ์ตูนแอนิเมชั่นมังกรฉลุย เดินหน้าสู่อุตสาหกรรมส่งออก

การ์ตูนแอนิเมชั่นจีนเรื่องเจ้าหนูเจ้าแมวจีนตะลุยอวกาศ

       ซินหัวเน็ต – อุตสาหกรรมการ์ตูนแอนิเมชั่นจีนกำลังบูม ด้วยยอดการรับชมในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล บวกกับยอดส่งออกไปในหลายสิบประเทศที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ กำลังเร่งเปิดสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับกับการพัฒนาในก้าวต่อไปของวงการการ์ตูนแดนมังกร
       
       นายจินเต๋อหรง ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารจีนได้ระบุว่า ปัจจุบันจีนได้พยายามยกระดับคุณภาพการ์ตูนให้สูงขึ้น จนกำลังเป็นที่นิยมจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยจากสถิติ ในประเทศจีนมีบริษัทที่ผลิตการ์ตูน 5,473 แห่ง และในปีที่ผ่านมา บริษัทที่ผลิตภาพยนตร์การ์ตูนได้ความยาวมากกว่า 2,000 ชั่วโมง มีถึง 11แห่ง อาทิ Sunchime Cartoon Group หรือ Hunan Greatdreams Cartoon Media เป็นต้น
       
       ปริมาณการผลิตการ์ตูนของบริษัทเหล่านี้มีเพิ่มขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด โดยนับตั้งแต่มีการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์การ์ตูนในปี 2005 เป็นต้นมา ได้มีการฉายการ์ตูนที่ผลิตในประเทศไปทั้งสิ้น 72 เรื่อง คิดเป็นความยาวกว่า 30,000 นาที อย่างเช่นเรื่อง เหวยฉีเส้าเหนียน (เจ้าหนูหมากล้อม) เทียนซั่งเตี้ยวเซี่ยไหลเก้อจูปาเจี้ย (ตือโป้ยก่ายที่หล่นจากฟ้า) เป่าเป้ยหนี่ว์เอ๋อห่าวมามา (สาวน้อยน่ารักกับแม่แสนดี) หลันเมาหังคงซี่เลี่ย (เจ้าหนูกับเจ้าแมวจีน ชุดตะลุยอวกาศ) เป็นต้น
       
       “บรรดาการ์ตูนที่ผลิตภายในประเทศจีน หลายเรื่องเป็นการ์ตูนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีการผลิตอย่างประณีต ใช้ภาษาที่สร้างความสนุกสนาน บวกกับเนื้อเรื่องที่น่าประทับใจ และภาพที่งดงาม ทำให้มียอดผู้ชมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก” จินระบุ
       
       นอกจากเป็นที่นิยมภายในประเทศแล้ว การ์ตูนเหล่านี้ยังได้รับความสนใจจากต่างชาติไม่น้อย โดยเรื่อง “หลันเมาเถาชี่ซันเชียนเวิ่น” หรือ 3,000คำถามกับเจ้าหนูและเจ้าแมวจีน ซึ่งเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นซีรีส์ที่ฉายทางทีวี ที่มีลิขสิทธิ์ทั้งภาพและเสียง เป็นการ์ตูนที่อาศัยบรรดาแมวกับหนูเป็นตัวเอกในการเดินเรื่อง เพื่อให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์กับเด็กๆ โดยอาศัยเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน พร้อมแนะนำความรู้อาทิ เรื่องราวของไดโนเสาร์ แนะนำเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฮเทค ความรู้เกี่ยวกับระบบสุริยจักรวาล และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งได้เผยแพร่ลิขสิทธิ์ไปยังใน17 ประเทศภูมิภาคอย่างในอิสราเอล สหรัฐฯ อังกฤษ ฮ่องกง ไต้หวันและไทย เป็นต้น ซึ่งนับรวมทั้งหมดเป็นจำนวน 4,430 ตอน มีความยาว 65,000 นาที และสร้างได้รายถึง 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
       
       นอกจากนั้นยังมีการ์ตูนเรื่อง “เทียนเอี่ยน” หรือดวงตาสวรรค์ ซี่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องจากบริษัทการ์ตูนเจ้อเจียงจงหนัน ที่ได้รับการแพร่ภาพไปกว่า 20 ประเทศภูมิภาคอาทิ สหรัฐฯ แคนาดา เยอรมนี สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เป็นต้น และทำรายได้ได้มากถึง 15 ล้านหยวน
       
       “การส่งออกภาพยนตร์การ์ตูนจีนจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะนำเอาวัฒนธรรมจีน

เผยแพร่ไปยังทั่วโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มอำนาจการแข่งขันในเวทีสากล อีกทั้งเป็นการทำกำไรอย่างมหาศาลให้กับวงการภาพยนตร์อนิเมชั่นจีนอีกด้วย” จินกล่าว
       
       ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ช่องทางการส่งออกและจำหน่ายการ์ตูนจีนสู่ต่างชาติยังคงเป็นไปแบบกระจัดกระจาย ซึ่งทางสำนักงานการสื่อสารจีนจึงเตรียมที่จะหารือเพื่อหามาตรการสนับสนุน

บริษัทภาพยนตร์การ์ตูนชั้นนำของจีน ให้มีช่องทางในการส่งออกไปยังต่างชาติมากขึ้น เช่นการสนับสนุนให้ไปร่วมประกวดในงานการ์ตูนสากลต่างๆมากขึ้นเป็นต้น
       
       มหาวิทยาลัยเร่งเปิดสาขารองรับ
       เพื่อรองรับกับอุตสาหกรรมการ์ตูนแอนิเมชั่นที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันจึงมีการเปิดสาขาการทำการ์ตูนแอนิเมชั่นขึ้นกว่า 447 มหาวิทยาลัย และมีอีก 1,230 มหาวิทยาลัยที่ได้เปิดสาขา ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการทำการ์ตูนดังกล่าว
       
       จินได้ระบุว่า “ในรอบหลายปีที่ผ่านมา เมื่ออุตสาหกรรมภายในประเทศพัฒนาไป การอบรมบุคลากรในด้านนี้จึงขยายตัวสูงขึ้นตามลำดับ เมื่อปี 2005 ทั่วประเทศมีบุคลากรที่จบทางด้านนี้โดยเฉพาะจำนวน 64,000 คน และที่กำลังศึกษาอยู่อีก 466,000 คน”
       
       “บุคลากรและทีมงานด้านงานพื้นฐานในประเทศเริ่มมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่บุคลากรชั้นยอดที่มีความคิดสร้างสรรค์ยังหาได้ยากอยู่ บุคลากรที่บริหารงานทางด้านนี้ก็มีไม่มาก ยิ่งเป็นถ้าคนที่สามารถสร้างผลงานควบคู่กับการดูแลการตลาดได้ด้วยยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่" จินระบุ
       
       อย่างไรก็ตาม เพราะว่าจีนได้มีการเริ่มสอนการวาดการ์ตูนมาไม่นานนัก ดังนั้นไม่ว่าเรื่องของผู้สอน อุปกรณ์การเรียน ระบบการสอนจึงยังไม่ค่อยสมบูรณ์ ทำให้บุคลากรที่ผลิตออกมายังห่างไกลกับมาตรฐานการใช้งานจริงอยู่บ้าง
       
       นอกจากนั้น ที่ผ่านมาแม้ว่าจีนจะพยายามพัฒนาวงการภาพยนตร์การ์ตูน และมีผู้รับชมเพิ่มขึ้นมาตลอด แต่ผลงานหลายๆชิ้นก็ยังขาดความคิดสร้างสรรค์ และความละเอียดประณีตเพียงพอ
       
       ดังนั้น การพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์การ์ตูนจีน จึงจำเป็นต้องมีการบ่มเพาะและคัดสรรค์บุคลากรชั้นหัวกระทิ การขจัดการลักลอบผลิตที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เพื่อให้วงการภาพยนตร์การ์ตูนจีน สามารถก้าวหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน
       
       “ในปี 2006 จีนสามารถผลิตภาพยนตร์การ์ตูนได้จำนวน 82,000 นาที ซึ่งจำนวนดังกล่าว ยังไม่พอแม้แต่จะตอบสนองความต้องการภายในประเทศด้วยซ้ำ” จินระบุ
 

 

 

 

 

ที่มา-