วธ.พบหน่วยงานราชการขาดศาสนพิธีกร

วธ.พบหน่วยงานราชการขาดศาสนพิธีกร ฟังภาษาบาลีไม่เข้าใจ ไหว้ไม่ถูก ล้างระบบใหม่ติวเข้มความรู้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เป็นแบบอย่างปฏิบัติแก่ประชาชน

เมื่อวันที่ 26 เมษายน   2550  นายวีระ  โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ( วธ.) กล่าวว่า ปัจจุบันหน่วยงานราชการต่าง ๆ ยังขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจในด้านพิธีกรรมที่ถูกต้อง ทั้งที่ใช้ปฏิบัติในงานพระราชพิธี รัฐพิธี และศาสนพิธี ซึ่งปฏิบัติเป็นประจำในหน่วยราชการ เช่น วันสำคัญเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ และวันสำคัญต่าง ๆ ทางพระพุทธศาสนา

วธ.จึงได้มอบหมายให้กรมการศาสนาจัดโครงการฝึกอบรมศาสนพิธีกร โดยมีผู้แทนจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กรมยุทธศึกษา และอนุศาสนาจารย์ ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับชุมชนและประชาชนทั่วประเทศ เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาบุคลากรด้านศาสนา

ขององค์กรให้มีคุณภาพ

 “จากประสบการณ์ที่ผ่านมายังพบเห็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องอยู่ เช่น ในการฟังสวดพระอภิธรรม ซึ่งสวดเป็นภาษาบาลี คนฟังก็ไม่ค่อยรู้ความหมาย จึงไม่ค่อยเข้าใจ และไม่สามารถปฏิบัติตามศาสนพิธีได้ หรือในบางครั้ง จะต้องมีคนชี้แนะว่า ตอนไหนของพิธีควรพนมมือไหว้หรือไม่ต้องพนมมือไหว้ จึงต้องมีผู้ที่ความรู้เป็นผู้แนะแนวทาง และควรจัดให้มีการสวดแบบแปล ก็จะทำให้คนฟังมีความเข้าใจขั้นตอนและปฏิบัติศาสนพิธีตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา

ได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นงานมงคล อวมงคลพร้อมสาธิต กฐิน ผ้าป่า ถวายทานต่างๆ วันสำคัญเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์และพระราชพิธี ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง สามารถชี้แนะและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้อื่นได้ปฏิบัติได้ ” นายวีระ กล่าว

 นายปรีชา  กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา  กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การจัดฝึกอบรมในครั้งนี้ จะสร้างศาสนพิธีกร ให้มีความรู้ความเข้าใจในศาสนพิธี และพิธีกรรมต่าง ๆ จนสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักของประเทศ ศาสนพิธีกรควรรู้พิธีกรรมพื้นฐานของศาสนา ว่าควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อเป็นแบบอย่างที่ถูกต้องให้กับประชาชนโดยทั่วไปต่อไป โครงการดังกล่าวจะฝึกอบรม จำนวน 3 รุ่น ๆ ละ รวม 375 คน ที่กรุงเทพฯ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น นอกจากนี้ ยังได้แจกหนังสือ คู่มือการปฏิบัติศาสนพิธี ศาสนพิธีในพระราชพิธี เพื่อใช้เป็นแนวทางการจัดศาสนพิธี ให้แก่ผู้ที่เข้ารับการอบรมด้วย

 

 

 

 

 

 

ที่มา-