"ผีพนัน"เสี่ยงป่วยโรคจิต ซึมเศร้าหนักถึงขั้นฆ่าตัวตาย

จิตแพทย์เตือนคนติดการพนันระวังนำไปสู่โรคทางจิต มีภาวะซึมเศร้า และอาจฆ่าตัวตายได้

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ร่วมกันจัดเวทีอบายมุขวิชาการ ครั้งที่ 1 "นโยบายสาธารณะว่าด้วยการควบคุมการพนัน" ณ ห้องประชุม 1 มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ โดย ศ.น.พ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานคณะกรรมการอำนวยการแผนงาน ส่งเสริมชีวิตมั่นคงปลอดอบายมุข เสนอควบคุมการพนัน โดยใช้หลักการเดียวกับการควบคุมสินค้า คือต้องควบคุม 4 พี คือ ลดรูปแบบการพนัน ลดรางวัลให้ดึงดูดใจน้อยลง ควบคุมจุดขาย จุดเล่นการพนัน และห้ามโฆษณา ห้ามประโคมข่าว ห้ามใบ้หวย พร้อมตั้งคณะกรรมการนโยบายควบคุมการพนันแห่งชาติ โดยมีกฎหมายรองรับ และให้จัดสรรเงินรายได้หรือผลกำไรจากการขายสลาก เพื่อนำไปใช้ในการบำบัดและบรรเทาต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพนัน

ทางด้านน.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน จิตแพทย์ และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการควบคุมเรื่องการพนัน เพราะมีคนเล่นการพนันจำนวนไม่น้อยต้องมาพบจิตแพทย์เพราะติดการพนัน ซึ่งถือเป็น "โรคทางจิต" ชนิดหนึ่ง จากแรกๆ เริ่มเล่นจำนวนน้อย ก็เพิ่มจำนวนเงินและเล่นเป็นประจำ เพราะรู้สึกสนุก ตื่นเต้น กว่าจะรู้ตัวก็อยู่ในระยะสุดท้าย ทำให้สูญเสียหน้าที่การงาน ครอบครัว เพื่อน และสังคม เกิดภาวะซึมเศร้า และทำร้ายตนเอง

"กรณีที่มาพบเป็นผู้ชาย ครอบครัวอบอุ่น กิจการดี มีเงินทองมากมาย แต่ครอบครัวต้องล่มสลาย เพราะเอาเงินไปเล่นพนันบอล เสียครั้งละเป็นล้านถึง 10 ล้านบาท ทำให้ครอบครัวที่เคยมีความสุขบรรยากาศเปลี่ยนไป กลางคืนพ่อตื่น ลูกนอน กลางวันพ่อนอน แต่ลูกไปเรียน งานการก็ไม่รับผิดชอบ และอีกกรณีเป็นเด็กมัธยม เสียพนันบอล 50,000 บาท แม่เพิ่งมารู้เพราะมีคนมาขู่ทวงหนี้ แม่ก็เสียใจ แต่เด็กไม่รู้ว่านี่คือปัญหา เพราะเล่นแล้วสนุก มีความมัน" น.พ.ทวีศิลป์กล่าว

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไม่มีประเทศใดในโลกเปิดการพนันเสรี แม้บางประเทศจะเปิดกาสิโนก็จะมีการกำกับดูแล ซึ่งความเข้มงวดแตกต่างกันไป สำหรับประเทศไทยคิดว่ายังไม่พร้อม แต่หากจะทำให้ถูกกฎหมายต้องมีองค์กรที่มากำกับดูแล และภาคประชาชนต้องช่วยเฝ้าระวัง 

 

 

 

 

 

ที่มา-