คนกรุงหนุนเลื่อนฉายละครน้ำเน่าไปหลังข่าวภาคค่ำ

เผยคนกรุงเทพฯ เห็นด้วยให้เลื่อนเวลาฉายละครที่มีฉากรุนแรงไปหลังข่าวภาคค่ำ เนื่องจากทำให้เด็กไม่เลียนแบบพฤติกรรม รวมทั้งเสนอให้กฎหมายลงโทษทั้งผู้ผลิต เจ้าของสถานี และสปอนเซอร์ ที่นำเสนอรายการเนื้อหารุนแรงไม่เหมาะสมกับเด็ก

       นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เผยผลสำรวจเรื่อง ความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพ และความรุนแรงในสื่อโทรทัศน์

กรณีศึกษาประชาชนอายุ 18-60 ปีในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,141 คน ระหว่างวันที่ 12 -15 กรกฎาคม 2550 พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 43.1 เห็นด้วยกับการเลื่อนเวลาฉายละครโทรทัศน์ที่มีฉากรุนแรงไปฉายหลังข่าวภาคค่ำ ด้วยเหตุผลคือทำให้เด็กไม่ลอกเลียนแบบพฤติกรรมในฉากละคร ในขณะที่ร้อยละ 23.9 ไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าช่วงเวลาไม่ใช่ตัวที่จะกำหนดการดูของคน แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการดูและเนื้อหาละครมากกว่า และร้อยละ 33 ไม่ระบุความเห็น
       
       สำหรับความคิดเห็นของตัวอย่างต่อเนื้อหาของละครก่อนข่าว 2 ทุ่ม ร้อยละ 89.6 ระบุว่าเนื้อหาของละครก่อนข่าว 2 ทุ่ม จะต้องนำเสนอเนื้อหาที่ส่งเสริมการทำความดี/ความเอื้ออาทร รองลงมาคือควรนำเสนอเนื้อหาที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว ควรมีเนื้อหาที่ส่งเสริมความสามารถของเด็กและเยาวชน และควรเป็นเนื้อหาที่เน้นตลก-เบาสมอง ผ่อนคลาย ตามลำดับ ส่วนความคิดเห็นของตัวอย่างที่มีต่อ “ผู้ผลิตรายการ/ผู้จัดละคร” ในการแสดงความรับผิดชอบต่อการนำเสนอรายการของตนกรณีนำเสนอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ร้อยละ 85.5 ระบุจะต้องตัดภาพที่ไม่เหมาะสมออก รองลงมาคือควรนำเสนอเนื้อเรื่องในเชิงบวก และควรจัดเรต (rate) หรืออันดับรายการของตนเองอย่างถูกต้อง

       นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 74.1 ยังต้องการให้ ผู้ผลิตรายการ/ผู้จัดละคร แสดงความรับผิดชอบต่อเนื้อหารุนแรงไม่เหมาะสมกับเด็ก รองลงมาคือหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบ เช่น กรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม เจ้าของสถานี สปอนเซอร์/ผู้สนับสนุนรายการ ส่วนความคิดเห็นต่อการใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อจัดการกับผู้ผลิตรายการ ผู้สนับสนุน และเจ้าของสถานีโทรทัศน์ที่ปล่อยให้ผลิตและเผยแพร่รายการที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก พบว่าส่วนใหญ่เห็นด้วยกับทุกมาตรการที่สอบถามคือ ร้อยละ 72.8 ระบุควรใช้กฎหมายควบคุมหรือลงโทษ เช่น พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค รองลงมาคือร้อยละ 60.1 ระบุรณรงค์ให้งดดูรายการในช่องที่ทำไม่เหมาะสมและรณรงค์ให้ลดเลิกการซื้อสินค้าที่สนับสนุนรายการที่ไม่เหมาะสม