ภาพจากอินเทอร์เน็ต นักวิจัยอังกฤษกำลังคิดค้นเทปลอกลายพิมพ์นิ้วมือ ที่ผู้ร้ายทิ้งไว้ในที่ก่อเหตุ แทนเทคนิคลอกลายนิ้วมือแบบเดิม สามารถล่วงรู้ได้ว่าคนร้ายกินอะไร เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และเชื้อชาติอะไร
นักเคมีจากอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน คิดค้นเทปที่ทำจากเจลาติน เพื่อทดลองเก็บหลักฐานลายพิมพ์นิ้วมือแฝง ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ สามารถเก็บลายนิ้วมือได้จากพื้นผิวหลายประเภท เช่น มือจับประตู มือจับแก้วน้ำ ผิวโค้งของแก้วน้ำและจอคอมพิวเตอร์ ได้เหมือนกับเทคนิคหารอยพิมพ์นิ้วมือแฝงที่กองพิสูจน์หลักฐานใช้กันอยู่
ที่พิเศษคือ เจ้าหน้าที่จะนำเทปที่ลอกลายนิ้วมือแฝงไปฉายรังสีอินฟราเรดด้วยเครื่องมือพิเศษ ที่ตรวจหาสารประกอบทางเคมีได้อย่างแม่นยำ และระบุโมเลกุลที่แฝงอยู่ในลายพิมพ์นิ้วมือได้ภายใน 30 วินาที หรือน้อยกว่านั้น
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานใช้เทคนิคพวกผง ของเหลวและไอระเหย เก็บลายพิมพ์นิ้วมือในที่เกิดเหตุ แต่เทคนิคดังกล่าวอาจทำให้ลายนิ้วมือคลาดเคลื่อน หรือลบร่องรอยหลักฐานอื่นที่สามารถนำมาใช้มัดตัวคนร้าย
ลายพิมพ์นิ้วมือจะมีคราบของเหลวปริมาณ 2-3 ล้านส่วนแฝงอยู่ แม้จะน้อยนิดแต่ก็เพียงพอที่จะสืบเสาะหาหลักฐานมัดตัวคนร้ายได้ เช่น เพศ เชื้อชาติ อาหารการกินและวิถีชีวิต
ยกตัวอย่าง ข้อมูลเบื้องต้นอาจระบุได้ว่า ผู้ร้ายเป็นผู้ชายโดยดูจากปริมาณยูเรีย (สารที่อยู่ในปัสสาวะ) จำนวนมากที่ติดอยู่กับลายนิ้วมือแฝง นอกจากนี้สารประกอบอินทรีย์ที่อยู่ในลายพิมพ์นิ้วมืออาจใช้บอกอายุและเชื้อชาติได้เช่นกัน รวมถึงสารเคมีอื่น เช่น เขม่าปืน บุหรี่ ยา ระเบิด และอาวุธเคมีหรือชีวภาพ หรือแม้แต่อาหารที่ผู้ร้ายกินอาจติดอยู่ที่ลายนิ้วมือ อาจบอกได้ว่าผู้ร้ายเป็นมังสวิรัติ เพราะมีองค์ประกอบของกรดอะมิโนต่างจากคนทั่วไป
อย่างไรก็ดี เทคนิคใหม่ที่กำลังคิดค้นอยู่นี้ ยังต้องทดสอบกับอาสาสมัคร เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับเชื้อชาติ เพศ และข้อมูลอื่น ส่วนการทดสอบหาสารประกอบอินทรีย์ที่อยู่ในลายนิ้วมือแฝงด้วยเทคนิคใหม่ พบว่าได้ผลดีเป็นพิเศษ นอกจากนี้ เทปเจลยังไม่ทำลายหรือทำให้ลายพิมพ์นิ้วมือผิดรูปไปจากเดิม และสามารถรักษาสภาพเดิมไว้ เพื่อการวิเคราะห์ซ้ำครั้งต่อไป
นอกจากเทปเจลแล้ว ยังมีวิธีอื่นที่คิดค้นโดยนักเคมีจากสถาบันเทคโนโลยีจอร์จเทค สหรัฐ สามารถใช้วิเคราะห์สารเคมีในลายนิ้วมือแฝง โดยใช้รังสีเอ็กซ์ และใช้เวลาตรวจน้อยที่มา-![]()
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-2238.png)
http://goo.gl/w6d93