Mobile Versionโพสต์ทูเดย์ — เปิดแผนกรมประชาสัมพันธ์ แตกช่องโทรทัศน์ดาวเทียม สนองนโยบายรัฐ ดึงวิทยุผลิตเอง เสริมด้วยอินเทอร์เน็ต
นายเผชิญ ขำโพธิ์ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ได้จัดทำแผนการดำเนินงานสู่อนาคต เสนอต่อนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยแผนปรับปรุงสื่อในอนาคตแบ่งสื่อเป็น 4 ระบบ ได้แก่ 1.สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย 2.สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย 3.โทรทัศน์ดาวเทียม และ 4.ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการโทรทัศน์ดาวเทียมสามารถดำเนินการได้ทันที จากความเป็นไปได้ด้านเทคนิคสามารถมี2 โมเดลด้วยกัน คือ 1.ใช้ความถี่ของสถานีโทรทัศน์ในภูมิภาค 1 ใน 8 สถานี มาบีบอัดสัญญาณเพื่อส่งสัญญาณดาวเทียมเพิ่มเป็น4 ช่อง แบ่งเป็น สทท.11 ส่วนกลาง ส่วนอีก 3 ช่องที่เพิ่มขึ้นจะดำเนินการเป็นโทรทัศน์ดาวเทียม ได้แก่ นิวส์ แชนแนล ให้สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการผลิตข่าวป้อน 24 ชั่วโมงช่อง 2 เอเชี่ยน แชนแนล ให้ สทท.ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ เป็นสถานีหลักรวบรวมรายการจากทุกภูมิภาค ผลิตเป็นรายการภาคภาษาอังกฤษและช่อง 3 จี–แชนแนล สถานีสำหรับรายการถ่ายทอดสด ซึ่งโมเดลนี้จะใช้เงินทุนช่องละ 60 ล้านบาท รวม 180 ล้านบาทสำหรับโมเดลที่ 2 ใช้โทรทัศน์ดาวเทียม8 ความถี่เดิมในภูมิภาคมาดำเนินการ โดยแต่ละสถานีสามารถส่งสัญญาณดาวเทียมที่มีเนื้อหาของภูมิภาคนั้นๆ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่โมเดลที่ 2 จะต้องใช้เงินงบประมาณสูงมากส่วน สทท.11 ซึ่งนายจักรภพมีแนวคิดที่จะทำให้เป็นสถานีโทรทัศน์ระดับชาติเครือข่ายเดียว หรือโมเดิร์น อีเลฟเวน นั้นต้องกำหนดทิศทางของช่องนี้ให้ชัดเจน และรีแบรนด์องค์กรทุกด้าน เช่น เปลี่ยนโลโก้ ปรับค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเอื้อต่อการแข่งขัน
“ไม่จำเป็นต้องมีโฆษณาแบบคอมเมอร์เชียล เพียงแค่ให้กระทรวงต่างๆ นำงบ 25% ของงบโฆษณาทั้งหมดมาลง ช่อง 11 ก็ไปรอด” นายเผชิญกล่าว นอกจากนี้ เสนอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องการขอยกเว้นการส่งเงินรายได้คืนคลัง 25% ด้วย
สำหรับธุรกิจวิทยุ นายจักรภพต้องการให้กรมฯ นำคลื่นความถี่ มาบริหารเอง โดยเฉพาะคลื่นความถี่ในกรุงเทพฯ 6 ความถี่ โดยแผนปรับปรุงจะนำอินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยกระจายสัญญาณให้เข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น
http://goo.gl/TGlKN
พิมพ์บทความนี้
