"ยัดเยียด"เด็กเรียนพิเศษปิดเทอม ระวัง"โรคซึมเศร้า"ถามหา

อีกไม่กี่วันก็จะถึงช่วงเวลาสุขสันต์ของเด็กๆ นั่นก็คือ "ปิดเทอม" กระนั้น พ่อแม่หลายคนกลับรู้สึกว่าช่วงปิดเทอมเป็นช่วงที่ "ยุ่ง" ที่สุด เพราะไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องเลี้ยงลูก ซึ่งจากผลสำรวจความคิดเห็นของเทสโก โลตัส ร่วมกับสวนดุสิตโพล พบว่าร้อยละ 73 ของพ่อแม่ผู้ร่วมตอบแบบสำรวจมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงปิดเทอม ตั้งแต่ 500-2,000 บาท และร้อยละ 68 ยอมรับว่ากังวลในค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ในขณะที่ร้อยละ 66 สารภาพว่าเป็นเรื่องยากที่จะหากิจกรรมให้ลูกๆ ทำ ทำให้ร้อยละ 50 ของพ่อแม่ผู้ร่วมตอบผลสำรวจวางแผนให้ลูกเรียนพิเศษในช่วงซัมเมอร์

โดยหารู้ไม่ว่า....การ "ยัดเยียด" ให้ลูกเรียนหนังสือมากเกินไป จนลูกไม่มีเวลาเล่น เป็นสาเหตุทำให้ "เด็กเป็นโรคซึมเศร้า!!!"

พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล

พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เปิดเผยข้อมูลในงานเปิดตัวเคมเปญสนุกสุดประหยัด รับลมร้อน กับเทสโก้ โลตัส ที่ เทสโก้ โลตัส สาขาพระราม 4 ว่า ปัจจุบันพ่อแม่นิยมส่งเสริมความฉลาดทางไอคิวจนลืมส่งเสริมความฉลาดทางอารมณ์หรืออีคิวให้ลูก ซึ่งการเรียนที่มากเกินไป ทำให้เด็กมีปัญหาทางอารมณ์

"จากการตรวจรักษาผู้ป่วยเด็กที่มาหาจิตแพทย์

พบว่าเด็กที่ถูกพ่อแม่ยัดเยียดให้เรียนหนังสือมากเกินไป เพราะกลัวลูกเรียนไม่เก่ง มีอาการซึมเศร้า เครียดง่าย งอแง ฉุนเฉียวง่าย หงุดหงิดง่าย ร้องไห้ไม่มีสาเหตุ นอนไม่หลับ เป็นต้น โดยพบในเด็กที่เรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล อายุ 4-5 ขวบ ไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งคนที่เครียดมากๆ สมองจะหลั่งสารบางอย่างออกมา ทำให้เซลล์สมองฝ่อ ไม่เจริญเติบโต แทนที่เรียนมากจะฉลาดขึ้น บางที่อาจตรงกันข้ามก็ได้ เพราะเครียดมาก"

เมื่อเป็นเช่นนี้ ในช่วงเวลา "ปิดเทอมซัมเมอร์" แทนที่พ่อแม่จะส่งลูกไปเรียนพิเศษ พญ.อัญชุลีแนะนำว่า ควรจะถือโอกาสทองช่วงนี้ ให้เขาได้พักสมองให้เต็มที่ หากิจกรรมทำเพื่อสานความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น รวมทั้งปลูกฝังนิสัยดีๆ ต่างๆ ให้กับลูก

"ช่วงเวลาปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เด็กจะจดจำไปตลอดชีวิต พ่อแม่ไม่ควรขโมยช่วงเวลาดีๆ ไปจากลูกด้วยการให้เรียนพิเศษ การให้เด็กขลุกอยู่แต่ให้ห้องสี่เหลี่ยม ไม่ได้ช่วยสร้างเสริมจินตนาการให้ลูกฉลาดขึ้นเลย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้บอกว่าไม่ควรให้เด็กเรียนพิเศษ แต่ควรให้เรียนในปริมาณที่พอดี พอให้เด็กมีเวลาพักผ่อนบ้าง"

เพื่อให้ "ปิดเทอม" เป็นช่วงเวลาแห่ง "ความทรงจำ" ที่ดีของเด็ก จิตแพทย์เด็กบอกว่า พ่อแม่ควรหากิจกรรมทำกับลูก ทั้งกิจกรรมนอกและในบ้าน

"กิจกรรมดีๆ มีมากมาย ไม่จำเป็นต้องเป็นกิจกรรมใหญ่โต ถ้าอยู่บ้านแค่ปลูกต้นไม้ด้วยกัน ทำงานบ้านด้วยกัน แค่นี้เด็กก็มีความสุขแล้ว แต่ถ้าจะออกไปข้างนอก ก็อาจไปช็อปปิ้งด้วยกัน ไปเที่ยวทะเล เดินเล่นสวนสาธารณะ ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่เด็กได้ใกล้ชิดกับพ่อแม่เพื่อให้เด็กรู้สึกอบอุ่น"

พ่อแม่รู้ไว้ จะได้ไม่เป็น "พ่อแม่รังแกฉัน"

 

 

 

 

ที่มา-