แนวทางใหม่แก้ปัญหา เด็กติดเหล้า ควรสร้าง"ภูมิคุ้มกัน"ตั้งแต่ชั้นประถม!!!

ปัญหาวัยรุ่นติดเหล้า ตอนนี้ทั้งที่สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย มองว่าเป็น "ปัญหา" ที่น่าวิตกมาก อย่างที่ออสเตรเลีย เมื่อเร็วๆ นี้ นายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรี ก็ออกมาประกาศแล้วว่า ในนโนบายใหม่ของรัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยมองว่าปัญหาวัยรุ่นดื่มเหล้าจนเมามาย ไม่ได้สติ ถือเป็น "โรคระบาด" อย่างหนึ่งที่ต้องเร่งแก้ไข และตั้งใจจะทุ่มงบประมาณถึง 53 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1,768.9 ล้านบาท) เพื่อจัดการแก้ปัญหา หลังจากพบว่ามีวัยรุ่นอายุ 17 ประมาณร้อยละ 10-12 ดื่มเหล้ากันหนัก โดยเฉพาะตามสโมสรฟุตบอล และชมรมกีฬาต่างๆ ที่มองการดื่มเหล้า เป็นประเพณีปฏิบัติอย่างหนี่ง

ส่วนที่สหรัฐอเมริกา ก็มีรายงานว่า มีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาอายุระหว่าง 11-14 ปีดื่มเหล้ากันเป็นจำนวนที่น่าห่วง และเป็นไปได้ว่าอาจมีเด็กอายุน้อยกว่านี้อีกที่แอบดื่มเหล้าโดยพ่อแม่ไม่รู้ ด้วยผู้ปกครองก็มองว่าลูกยังเด็กเกินกว่าที่จะมีโอกาสเข้าไปพัวพันกับ "น้ำเมา" โดยหารู้ไม่ว่าเด็กสมัยนี้โตเร็ว และ "รู้(เรื่องไม่ดี)" มากกว่าที่ผู้ใหญ่คิดไว้เยอะ

ล่าสุด จึงมีกลุ่มผู้ศึกษาออกมาแนะนำว่า หนทางหนึ่งที่น่าจะจัดการแก้ปัญหานี้ได้ ก็คือ ควรจะมีการสอนให้ความรู้เรื่องผลร้ายของเหล้า เพื่อเป็น "เกราะป้องกัน" แก่เด็กๆ ตั้งแต่ในโรงเรียนระดับประถมศึกษากันเลยน่าจะดี

"ฉันคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพ่อแม่ ที่จะต้องตระหนักไว้เลยว่าลูกๆ อาจจะหัดดื่มเหล้าตั้งแต่อายุน้อยๆ และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ เราควรจะมีการพูดคุยถึงปัญหาเรื่องเหล้าตั้งแต่ยังเด็กกันเลย" ดร.เครีน พาสช์ จากมหาวิทยาลัยมินเนโซตา สหรัฐอเมริกากล่าว

ดร.เครีนเล่าว่า จากที่เธอและทีมงานได้สุ่มศึกษาในกลุ่มนักเรียนชั้นเกรด 6 อายุระหว่าง 11-14 ปี จำนวนกว่า 4,000 คน จากโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา 61 แห่งในนครชิคาโก พบว่ามีนักเรียนถึง 17% ที่บอกว่าเมื่อปีที่แล้วพวกเขาก็ดื่มเหล้ากันแล้ว!!!

แล้ว "ปัญหา" ที่ ดร.เครีนพบตามมาด้วยก็คือ พวกเด็กๆ ที่ดื่มเหล้า มักจะไปเที่ยวก่อปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกเพียบมากกว่าเพื่อนวัยเดียวกันที่ไม่ดื่ม ไม่ว่าจะเป็นปัญหา เมาแล้วไปทะเลาะวิวาท ชกต่อย,ลักของ หรือก่อเรื่องที่โรงเรียน

สำหรับคำแนะนำของ ดร.เครีนที่ว่าควรจะเริ่มปลูกฝัง "ภูมิปัญญา" ในการเอาตัวรอดจากหายนะของน้ำเมา ให้แก่เยาวชนตั้งแต่ในโรงเรียนระดับประถมศึกษากันเลยนั้น งานนี้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ก็ต้อง "ออกแรง" ช่วยด้วย เพราะในคำแนะนำของ ดร.เครีนได้พูดถึงสิ่งหนึ่งที่โรงเรียนน่าจะทำก็คือ มอบ "การบ้าน" หรือกิจกรรมต่างๆให้เด็กกลับไปทำที่บ้าน โดยพ่อแม่ต้องมีส่วนร่วมในการช่วยคิด ช่วยทำด้วย เพื่อผู้ปกครองจะได้มีเวลาอยู่กับลูก

นอกจากนั้น สิ่งที่พ่อแม่ ผู้ปกครองควรทำอย่างยิ่งก็คือ ควรมองหา "จังหวะเวลา" ที่เหมาะสม ที่จะชวนลูกพูดคุยถึงปัญหาเรื่องเหล้า หรือสอนลูกอย่างได้ผล ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเห็นตัวละครในทีวีดื่มเหล้า ผู้ปกครองก็ควรฉวยโอกาสพูดสอนลูกให้เข้าใจถึง ผลร้ายของการตกเป็นทาสน้ำเมากันตอนนั้นเลย

อีกอย่างหนึ่งที่พ่อแม่ ผู้ปกครองควรทำก็คือ อย่าทำแค่บอกลูกไม่ให้ดื่มเหล้า แต่ควรสอนลูกให้รู้จักวิธี "เซย์ โน" หรือพูดปฏิเสธเวลามีใครมาชวนไปดริ๊งก์ หรือส่งแก้วเหล้าให้ด้วย ทั้งนี้ เพราะมีเด็กจำนวนมากที่ต้องกลายเป็นคนติดเหล้า ติดยา ก็เพราะ อยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ดื่มเหล้า และเพื่อนก็ชวนให้ลองดู

ย้อนไปที่ออสเตรเลียอีกครั้ง สำหรับแผนที่ท่านนายกรัฐมตรีเควิน รัดด์ คิดไว้คร่าวๆ ที่จะแก้ปัญหาวัยรุ่นติดเหล้า ก็คือ จะทุ่มงบประมาณราว 20 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 584 ล้านบาท) เพื่อทุ่มทำโฆษณาเจาะกลุ่มวัยรุ่น ให้รู้ถึงเงินที่ต้องเสียไป และผลลัพธ์ที่จะตามมาเป็นพรวนจากการติดเหล้า ขณะที่จะทุ่มงบประมาณอีกราว 18 ล้านดอลลาร์ (ราว 525.6 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนกิจกรรม และโครงการสำหรับวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี

 

 

 

ที่มา-