วว.เพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรจับผลไม้ไทยแต่งตัวเป็นเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ น้ำผลไม้รวม น้ำมังคุด น้ำกล้วยหอมและน้ำมะม่วงหิมพานต์ ชูคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ลดเสี่ยงมะเร็ง ไร้ไขมันและคอเลสเตอรอล ประกาศหาผู้ประกอบการต่อยอดเชิงพาณิชย์
ดร.นงลักษณ์ ปานเกิดดี ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวว่าน้ำผลไม้รวมไลโคเอ็ม (Lyco M) เป็นผลงานจากโครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องดื่มเพื่อลดภาวะเสี่ยงโรคมะเร็งในผู้สูงอายุจากพืชผักผลไม้ มีส่วนผสมของผักผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งทีมวิจัยในฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติคัดเลือกผักผลไม้ไทยคือ ฟักทอง มะเขือเทศ แตงโม แก้วมังกรและแครอทมาตรวจวิเคราะห์สารไลโคปีนและเบต้าแคโรทีนธรรมชาติ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระจากนั้นนำไปผ่านกระบวนการเฉพาะที่คิดค้นขึ้น จนได้สูตรเครื่องดื่มไลโคเอ็มซึ่งไม่มีส่วนผสมของสารสังเคราะห์ น้ำตาลและสารปรุงแต่งแต่อย่างใดผลิตภัณฑ์ยังมีสีตามธรรมชาติรสชาติกลมกล่อมตามธรรมชาติ พร้อมด้วยส่วนผสมของเนื้อผลไม้ปั่นเพื่อเพิ่มกากใยอาหาร ช่วยการทำงานของระบบขับถ่ายนอกจากน้ำผลไม้รวมไลโคเอ็มแล้วผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากโครงการวิจัยฯ ยังมีน้ำกาหยู น้ำกล้วยหอมและน้ำมังคุดหากมีโอกาสต่อยอดผลิตเชิงพาณิชย์ จะช่วยให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคที่จะได้รับเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งยังนำไปสู่การเปิดตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากผลไม้ไทย"ผลไม้วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นประเภทตกมาตรฐานอย่างมังคุดก็ใช้เกรดต่ำ ไม่สามารถส่งออกก็นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพคือน้ำมังคุดพร้อมดื่มน้ำมังคุดเข้มข้นชนิดหวานเพื่อผสมน้ำชงดื่ม และน้ำมังคุดเข้มข้นชนิดเปรี้ยวเพื่อผสมน้ำชงดื่มจากการวิเคราะห์พบว่าน้ำมังคุดทั้งสามให้พลังงานสูง ไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล" ผู้ว่าการ วว.กล่าวส่วนน้ำกาหยูเป็นการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าให้ผลมะม่วงหิมพานต์หรือที่ภาษามลายูเรียกว่ากาหยูผลิตภัณฑ์ที่ได้มีค่าความหวานสูง แต่ก็ไม่มีคอเลสเตอรอล เหมาะเจือจางกับน้ำสะอาดหรือใช้เพิ่มความหวานให้เครื่องดื่มอื่นๆรวมทั้งผสมโซดาดื่มเพื่อความสดชื่นของร่างกายวว.จะเปิดตัวผลงานเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพข้างต้นเพื่อหาผู้สนใจรับถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตออกสู่ตลาดในงานเปิดโลกทัศน์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 45 ปี วว. ระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคมนี้ณ โรงแรมโซฟิเทล ลาดพร้าว กรุงเทพฯที่มา-
http://goo.gl/7gxms