“เมาไม่ขับ” กับ “หมอแท้จริง”

https://dmc.tv/a3393

บทความธรรมะ Dhamma Articles > DMC NEWS
[ 8 พ.ค. 2551 ] - [ ผู้อ่าน : 18258 ]
ด้วยมูลค่าความเสียหายปีละกว่า 2 แสนล้านบาทจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนและกว่า 80% ของสาเหตุหลักในการเกิดเหตุดังกล่าวมีที่มาจาก “ความเมา” จากจุดนี้ก่อให้เกิดกลุ่มคนทำงานเพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับคนที่ชอบดื่มสุรา
หันมาใส่ใจกับความเดือดร้อนของคนอื่นและสังคม ในชื่อของมูลนิธิ “เมาไม่ขับ”
ความเป็นมา...เป็นไปอย่างไร ผู้จัดการมอเตอริ่ง สัมภาษณ์ “นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช” เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ผู้เป็นตัวตั้งตัวตีโครงการนี้ เหนืออื่นใดครั้งหนึ่งเขาเคยประสบอุบัติเหตุจากคนเมาขับรถมาชน....มันน่าเจ็บใจจริง ๆ

       “นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช” หรือที่ใครหลายคนคุ้นเคยกับชื่อ “หมอเมาไม่ขับ” ผู้ซึ่งใช้เวลานานนับสิบปีในการรณรงค์เพื่อกระตุ้นจิดสำนึกให้กับคนที่รักการดื่มสุรา หันมาใส่ใจกับความเดือดร้อนของคนอื่นและสังคม ด้วยการ “เมาไม่ขับ” เพราะการเมาถือเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้ชีวิตและทรัพย์สินมูลค่าปีละกว่า 2 แสนล้านบาท
       
       ดังนั้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการช่วยรณรงค์ในเรื่องดังกล่าว ผู้จัดการมอเตอริ่ง จึงขอนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาต่างๆ ของโครงการ “เมาไม่ขับ” กับ “หมอแท้จริง” ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยสูญเสียเพราะเหตุคนเมาแล้วขับรถมาชน

       สำหรับที่มาที่ไปของ “มูลนิธิเมาไม่ขับ” ต้องย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน โดยเริ่มต้นจากตัวหมอแท้จริงมีความชอบในเรื่องวิทยุสื่อสาร (VR) ซึ่งทำให้หมอได้รับรู้ข่าวสารต่างๆ อย่างรวดเร็วก่อนคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ รถชน, ไฟไหม้ รวมถึงอุบัติเหตุหลายหลากรูปแบบ หมอจึงเกิดความคิดที่จะช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเหล่านั้น แต่ก็ยังไม่สามารถทำได
้เพราะสมัยก่อนรถพยาบาลยังไม่ทันสมัย เหมือนปัจจุบันที่มีเครื่องมือครบ
       
       
จึงเริ่มต้นด้วยการตั้งเป็นศูนย์วิทยุชื่อ “นเรนทร” ขึ้นเพื่อประสานงานไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน ทำมาได้สักพักยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ อยู่มาวันหนึ่งเกิดเหตุ ตึกรอยัลพาซ่าถล่มที่โคราช ทางปอเต็กตึ้งจึงเรียกวิทยุแจ้งเหตุเข้ามาที่ศูนย์นเรนทร หมอแท้จริงซึ่งประจำการอยู่หน้าวิทยุตลอดจึงโทรศัพท์แจ้งเหตุดังกล่าวแก่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ตามสายงานรับผิดชอบของตนเอง)เพื่อขออนุมัติส่งทีมแพทย์เข้าไปช่วยเหลือ
       
       ซึ่งปลัดก็อนุมัติทันที จึงเป็นที่มาของ ภาพข่าวที่สื่อออกไปในด้านการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างทันท่วงที เนื่องจากการประสานงานที่รวดเร็ว โดยเฉพาะทีมงานของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานของรัฐหน่วยแรกๆ ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ดังกล่าว
       


       จากความสำเร็จตรงจุดนี้ ทำให้ภาครัฐเห็นความสำคัญของการประสานงานจึงก่อตั้ง สถาบันการแพทย์ด้านอุบัติเหตุและสาธารณภัย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(ประมาณปี 2535) โดยเลือกหมอแท้จริงเป็นผู้อำนวยการสถาบันคนแรก เนื่องจากทางปลัดเห็นว่า หมอแท้จริงมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุอย่างดี และมีความสนิทสนมกับพวกอาสากู้ภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปอเต็กตึ้งหรือร่วมกตัญญู
       
       “ความที่ผมมีใจรักทำงานทางด้านนี้อยู่แล้วจึงตัดสินใจรับตำแหน่งผ.อ.สถาบัน แต่ทว่าก็ขอกับปลัดฯ ว่า จะยังคงทำงานเป็นหมอตาอยู่ด้วยเหมือนเดิมนะ เพราะหมอสถาบันมันหากินไม่ได้ แต่หมอตาพอจะหาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้”
       
       หลังจากนั้นก็จัดตั้งหน่วยกู้ชีพนเรนทรขึ้น ควบคู่ไปกับสถาบันฯ พอทำหน่วยกู้ชีพไปได้สักระยะหนึ่ง สังเกตเห็นว่า ผู้ประสบอุบัติเหตุที่ไปรับมา ส่วนใหญ่มีแต่คนเมา หมอแท้จริงเริ่มเก็บตัวเลขสถิติสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อรวบรวมได้จำนวนหนึ่งพบว่า กว่า 80% ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมาจาสาเหตุ “เมา” นั่นเอง
       
       จึงคิดว่า ถ้าจะทำการรักษาอย่างเดียวเห็นท่าจะไม่ดีแน่ มันเป็นทางนรก ไม่ใช่สวรรค์ ฉะนั้นต้องเริ่มทำเรื่องป้องกันด้วยเหมือนกับ การรณรงค์เกี่ยวกับโรคเอดส์ โรคอหิวา ของกระทรวงสาธารณสุข เพราะหากขืนแต่รอให้คนเป็นแล้วค่อยมารักษา คนคงจะตายหมดก่อน
       


       หมอจึงจัดตั้ง “ชมรมคนรุ่นใหม่ดื่มสุราแล้วไม่ขับรถ” ขึ้น เพื่อรณรงค์เกี่ยวกับการเมาแล้วไม่ขับรถ โดยทำร่วมกับคุณดำรง พุฒตาล ทว่าในช่วง 2-3 ปีแรกยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก ประชุมกันมาหลายครั้งงานรณรงค์ไม่คืบหน้า จึงกลับมาคิดกันว่าสงสัยชื่อชมรมไม่เหมาะ ว่าแล้วคุณดำรง ก็เลยจัดกิจกรรมให้ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งชื่อชมรม โดยมีเงินรางวัลให้
       
       ซึ่งผลของกิจกรรมนั้นมีคนส่งชื่อมาเป็นจำนวนมาก แต่มีเพียงชื่อเดียวที่โดนใจได้รับรางวัลชนะเลิศ และใช้มาจนถึงทุกวันนี้คือ “เมาไม่ขับ”
       
       เมื่อชมรม “เมาไม่ขับ” ได้ชื่อในการทำตลาดอย่างเป็นทางการ และเริ่มเป็นที่รู้จักของสาธารณชนเรื่อยมา
จนในปี 2546 หมอแท้จริงรวบรวมสถิติการเกิดอุบัติเหตุคนตายจากทุกโรงพยาบาลในช่วงวันปีใหม่ แล้วนำเสนอจัดงานแถลงข่าว ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและสาธารณชนเป็นอย่างมาก
       
       “สิ่งที่เราทำมาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2535-2546) ลุ่มๆ ดอนๆ แต่เพียงแค่นำเสนอตัวเลขสถิติเท่านั้นก็ได้รับการตอบสนองจากสื่อต่างๆ รวมถึงกระแสการตื่นตัวของคนเป็นจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ พร้อมกับลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยบนท้องถนนขึ้น”

       เป็นอันว่านับตั้งแต่นำเสนอตัวเลขสถิติต่อสาธารณชนในครั้งนั้น กระแส “เมาไม่ขับ” ก็เริ่มถูกจุดประกายเป็นวงกว้างมากขึ้น พร้อมกับสื่อและเจ้าของสินค้าต่างๆ หยิบเอาคำว่า เมาไม่ขับ ไปโฆษณา ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้คำว่า เมาไม่ขับ เป็นที่รู้จักมากชนิด 9 ใน 10 คน เคยได้ยินคำนี้ และจากชมรมที่ทำอะไรได้ไม่มากจึงปรับเปลี่ยนมาเป็นมูลนิธิเมาไม่ขับ ในปัจจุบันเพื่อการทำงานคล่องตัวและเป็นรูปธรรม
       
       แม้กระแสเมาไม่ขับจะแรงเพียงไรแต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับ หมอแท้จริง เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2550
หรือราวๆ 1 ปีก่อน หมอต้องพบกับฝันร้ายคือ รถหมอถูกคนเมาขับมาชนอย่างจัง ความแรงของการปะทะทำให้รถของหมอไม่สามารถซ่อมได้ต้องซื้อใหม่อย่างเดียว
       

       “จำได้ว่าวันนั้นผมขับมากับครอบครัวเพื่อไปเยี่ยมคุณพ่อและคุณแม่ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งทำเป็นประจำทุกปี ขับอยู่ดีๆ ความเร็วประมาณ 30-40 กม./ชม. ก็มีรถมาชนท้ายอย่างแรงแล้วขับหนีไป พอผมลงมาจากรถคิดในใจว่า โห!!! ซวยจริงๆ เลยเรา แต่ยังดีที่คนไม่เป็นอะไรมาก” หมอเล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วเล่าต่อว่า

       “พอดีมีมอเตอร์ไซค์ขับสวนทางผ่านมา บอกว่า พี่ๆ รถคันที่ชนพี่จอดเสียอยู่ตรงโน้นไง ผมก็วิ่งไปดูอย่างเร็วเลย หวังจะจดเลขทะเบียน พอไปถึงเห็นคนขับกับคนที่นั่งมาด้วยกันยืนเถียงกันอยู่ว่า กูบอกแล้วว่าเมาแล้วอย่าขับเร็ว พอผมได้ยินเท่านั้นถึงกับเข่าอ่อนเลยครับ คิดในใจเรารณรงค์ เย้วๆ ให้คนอื่นเมาไม่ขับ แต่สุดท้ายมาโดนคนเมาขับรถชนเสียเอง
       
       ความรู้สึกของหมอในตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับ ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย พร้อมกับความคิดในใจว่า “เลิกแล้วครับกับการรณรงค์” เพราะแสดงว่า สิ่งที่เราทำดีมาทั้งหมด 10 กว่าปี ไม่ได้ผลเลย แต่ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บกระดูกมือแตก หมอแท้จริงได้ดูรายการหนึ่ง แล้วเกิดความคิดว่า
       
       “จริงๆ แล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเรานั้นหมายความว่า สิ่งที่เราทำมาทั้งหมด ยังดีไม่พอต่างหาก ฉะนั้นเราต้องไปหาวิธีรณรงค์ให้เกิดผลมากกว่าเดิม”
       
       และนี่จึงเป็นที่มาของการรณรงค์อย่างไม่หยุดยั้งดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน พร้อมทั้งขยายเครือข่ายให้คลอบคลุมถึงบรรดาเหยื่อของผู้ที่ถูกคนเมาขับรถชน ให้ได้รับความช่วยเหลือและมีกิจกรรมทำอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการตั้งเป้าหมายของมูลนิธิว่า “เราจะต้องไม่สูญเสียจากคนเมาแล้วขับ”
       

       สุดท้ายเป้าหมายของหมอและมูลนิธิ จะเป็นไปได้เพียงไรหรือไม่ คงขึ้นกับสำนึกของคนที่รักการดื่มและภาครัฐที่จะออกกฎหมายที่ก่อให้เกิดความเกรงกลัว
ในการกระทำความผิด ซึ่งเราขอให้ความตั้งใจของหมอเป็นจริงในเร็ววัน
 
 
 
 
 
ที่มา- 
 

http://goo.gl/87RtC

     
Tag : โรค  สวรรค์  ปีใหม่  นรก  ดื่มสุรา  ครอบครัว  ข่าว  กตัญญู  

พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ผู้แทนวัดพระธรรมกาย อำนวยพรปีใหม่ พ.ศ.2567 สื่อมวลชน
      กรณีปล่อยข่าวเท็จใน Social Network
      วัดพระธรรมกายแฟรงก์เฟิร์ต จัดปฏิบัติธรรม เมืองลิมบวก
      วัดพระธรรมกายดีซี จัดพิธีส่งมอบดวงแก้วสำเร็จ
      วัดพระธรรมกายอิบาราขิ จัดงานบุญวันอาทิตย์
      กองบริหารงานผู้นำรถ จัดอบรมผู้นำรถ
      วัดพระธรรมกายบอสตัน จัดประชุมเตรียมงานวิสาขบูชา
      ร.ร.เตรียมพุทธศาสตร์ จัดพิธีทอดผ้าป่า
      วัดพระธรรมกายฮ่องกง จัดพิธีทอดผ้าป่า
      คณะครูโรงเรียนธีระวัฒน์บำเพ็ญ อบรมธรรมะ
      วัดพระธรรมกายปารีส จัดปฏิบัติธรรม เมืองอ๊อกลี่
      ยพสล. เชิญชวนร่วมบวชแสนเข้าพรรษา
      สธ.ระบุกฏหมายคุมยาสูบใหม่ช่วยลดจำนวนนักสูบ




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related