CASE STUDYคลอดลูกในสามล้อ แล้วอุ้มต่อไปตัดสายสะดือเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงลูก เข้าวัดเมื่อปี ๒๕๔๗ โดยมี น้องชาย เป็นกัลยาณมิตร ปัจจุบันเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาอย่างเต็มตัวแล้วค่ะ ลูกขอเล่าประวัติชีวิตให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฟังดังต่อไปนี้นะคะครอบครัวของลูกเป็นคนไทยเชื้อสายจีน คุณพ่อคุณแม่ อพยพมาจากเกาะไหหลำเมื่อ ๖๕ ปีที่แล้ว ท่านทั้งสองประกอบอาชีพในเมืองไทยอยู่หลายแห่ง สุดท้ายได้ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่กรุงเทพฯ มีลูกด้วยกันทั้งหมด ๗ คน หญิง ๖ คน ลูกชายเพียง ๑ คนคุณพ่อ มีอาชีพค้าขาย ไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ ไม่รู้เรื่องการทำบุญในพระพุทธศาสนา แต่เคร่งในการนับถือศาลเจ้า ต้องฆ่าไก่ไหว้เจ้าเป็นประจำ วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังค้าขายก็เกิดเป็นลมล้มลงอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ได้นำคุณพ่อส่งโรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่า ท่านเป็นอัมพฤต ต่อมากลายเป็นอัมพาตนานกว่า ๑๐ ปี จึงเสียชีวิตรวมอายุได้ ๖๕ ปี พี่สาวคนโต ได้สร้างองค์พระฯโดยจารึกชื่อท่าน พร้อมกับสร้างเสาแก้วอุทิศบุญให้ท่านแล้วตัวลูกเป็นลูกคนที่ ๒ คุณแม่ เล่าว่า เมื่อท่านเริ่มมีอาการปวดท้องที่จะคลอดตัวลูกนั้น ความเจ็บปวดได้รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะทนไม่ไหวเหมือนใจจะขาด มีอาการ ตัวชา มือสั่น เท้าสั่น ทั้งเจ็บทั้งปวดทุกข์ทรมานมาก จนร้องครวญครางอย่างทุรนทุราย ต้องตะเกียกตะกายพาตัวเองออกจากบ้าน ทั้งคลาน ทั้งเดิน อย่างโซซัดโซเซ เพื่อไปเรียกรถมอเตอร์ไซค์สามล้อนำตัวท่านเองส่งโรงพยาบาล เมื่อรถสามล้อมาถึง คนขับรีบกระโดดออกมาพยุงคุณแม่ ขึ้นบนรถสามล้ออย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็บิดคันเร่งแบบสุดๆโดยไม่สนใจว่าใช้ความเร็วแค่ไหน ส่วนคุณแม่มีอาการหูอื้อตาลายได้ยินแค่เสียงแว่วๆขึ้นมาว่า “ให้อดทนเข้าไว้ๆ ใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว ” ตลอดทางคุณแม่บ่นพึมพำว่า “ เมื่อไรจะถึงสักที ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้ว”ขณะเดียวกัน เหงื่อกาฬก็เริ่มไหลออกมาอย่างมากมาย ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสได้แผ่ซ่านไปทั่วท้อง รวมมาถึงช่องคลอดมือทั้งสองของท่านไขว่คว้าจับพนักพิง คือราวเหล็กของรถสามล้อไว้อย่างเหนียวแน่น แล้วคุณแม่ก็แผดเสียงร้องดังเพียงอีก ๑ ครั้ง ตัวลูกก็หลุดออกมาคลอดบนรถสามล้อนั่นเอง ส่วนรถสามล้อก็จอดสนิทเทียบท่าหน้าโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน ความเจ็บปวดค่อยๆทุเลาลง คุณแม่จึงอุ้มลูกที่เปรอะเปื้อนเลือดเข้าไปตัดสายสะดือในโรงพยาบาล ได้อย่างปลอดภัยเมื่อลูกเติบโตขึ้นมา อายุได้ ๑๓ ปี ขณะนั่งคุยกับคุณแม่อยู่นั้น ท่านได้เห็นหัวเข่าทั้งสองข้างของลูกบวมขึ้นมาจนผิดปกติ ลูกเห็นเช่นเดียวกัน แต่ที่น่าแปลก คือ ลูกไม่มีอาการเจ็บปวดเลย คุณแม่จึงรีบนำลูกส่งโรงพยาบาล ลูกได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือน แต่แพทย์คงยังหาสาเหตุของโรคไม่พบและไม่สามารถรักษาอาการใดๆได้ขณะนั้นกำลังใจลูกไม่มีเลย กลัวความพิการจะมีขึ้น เกิดท้อแท้และหมดหวังที่จะกลับมาเดินได้เป็นปกติ ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานได้คืบคลานเข้ามาทางจิตใจอย่างมากมาย ขาทั้งสองข้างของลูกเริ่มงอและค่อยๆลีบลงเรื่อยๆ จนในที่สุด ลูกเดินไม่ได้จริงๆ ลูกได้แต่ร้องไห้ เมื่อคุณแม่เห็นว่าคุณหมอไม่สามารถรักษาลูกให้ดีไปกว่านี้แน่ จึงนำลูกกลับไปหาทางรักษาตัวที่บ้าน มีผู้มาแนะนำให้ไปหาหมอไสยศาสตร์หรือเข้าสิงร่างทรงดูบ้าง เพราะอาจจะโดนของ คุณแม่ทำตามคำแนะนำเหล่านั้นที่ไหนที่ว่าดี รักษาหาย คุณแม่พาไปทุกที่ ทุกหน ทุกแห่ง แต่เจ้ากรรมจริงๆอาการไม่ดีขึ้นเลย จนครั้งสุดท้ายได้ไปรับการรักษากับร่างทรง ร.๕ ร่างทรงบอกว่า “โรคนี้เป็นโรคกรรม” พร้อมกับให้น้ำมันมาทา แล้วให้ไปหาอาทิตย์ละ ๑ ครั้ง เป็นเวลา ๒ เดือน อาการจึงเริ่มดีขึ้นจนสามารถเดินได้เป็นปกติ ลูกจึงมีความเคารพนับถือ ร.๕ เป็นอย่างมากต่อมาลูกอายุได้ ๑๙ ปี ได้พบรักกับ ทหารหนุ่มอเมริกัน ที่มาประจำการที่ประเทศไทยในสงครามเวียดนาม เราคบกันประมาณ ๑ ปี ก็แต่งงานกัน ได้ไปใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ที่ประเทศอเมริกา มีลูกด้วยกัน ๒ คน หญิง ๑ คน ชาย ๑ คน ลูกและ สามี เป็นคนรักครอบครัว เราจึงนำครอบครัวและญาติพี่น้องของลูกไปอยู่ที่อเมริกาด้วย วันหนึ่งเหตุการณ์คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นกับชีวิตลูกอีกครั้ง คือ สามีไปเที่ยวงานประจำปีของชาวสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งห่างจากบ้าน ๒๕ ไมล์ จนรุ่งเช้าเขาก็ยังไม่กลับบ้าน ลูกเป็นห่วงมาก กระวนกระวายถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ลูกจึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ ระหว่างการรอฟังข่าวจากตำรวจนั้น ทุกคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นลูกๆและญาติพี่น้อง ต่างเศร้า สลด หดหู่ใจ กลัวไปต่างๆนาๆ โดยเฉพาะลูกชายมีอาการมากกว่าใครๆ ทั้งเหม่อลอย ไม่พูดไม่จากับใคร ลูกยิ่งเห็นเป็นอย่างนั้นก็สงสารเขาขึ้นมาจับจิตจับใจ อยากให้พ่อเขากลับมาเร็วๆ ในที่สุดได้ทราบข่าวจากตำรวจว่า พบศพสามีลอยน้ำอยู่ในทะเลสาบเล็กๆแห่งหนึ่ง ซ้ำร้ายยังหาสาเหตุของการตายไม่พบ ลูกเสียใจมากกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่วนลูกชายได้ทราบข่าวถึงกับช็อค ทำให้หัวอกของผู้เป็นแม่อย่างลูกแทบแตกสลาย แต่พอจะมีสติอยู่บ้างจึงได้คิดว่า “เราจะต้องเข็มแข็ง” เมื่อลูกชายได้สติก็กลายเป็นคนเงียบขรึม ขาดความเชื่อมั่นในตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้จากนั้นประมาณ ๕ ปี ลูกจึงแต่งงานใหม่กับคนไทย เขาคือ สามีคนปัจจุบัน เคยมีครอบครัวมาแล้วมีลูกติดมาด้วย ๒ คน เราได้ประกอบอาชีพร้านอาหารไทยในอเมริกา เราสองคนมีอัธยาศัยคล้ายกัน ชอบทำบุญให้ทาน เราได้ชวนญาติพี่น้องสร้างวัดไทยในอเมริกาจนสำเร็จ ๑ วัด และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูแลรักษาวัดด้วย ต่อมาคณะกรรมการได้เกิดขัดแย้ง มีความไม่เข้าใจกัน จนถึงขั้นต้องแยกตัวออกมา ส่วนหนึ่งในผู้แยกตัวนั้นมีพี่สาวและน้องชายของลูกด้วย ต่อมาเขาได้ช่วยกันตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมใหม่ ในนามของวัดพระธรรมกาย ในขณะนั้นสื่อต่างๆก็ประโคมข่าวที่ไม่ดีต่างๆเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ลูกไม่ชอบวัดไปด้วย แม้ว่าพี่สาวและน้องชายได้มาเป็นกัลยาณมิตรชักชวนลูกเข้าร่วมในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมหลายครั้ง แต่ลูกและสามีก็ได้ปฏิเสธทุกครั้ง หลังจากนั้นมีคนรู้จักนำเอาเทปมงคลชีวิตทั้ง ๓๘ ประการชุดใหญ่มาให้ลูกและสามีฟัง เพื่อเป็นการไม่ให้เสียน้ำใจลูกจึงรับไว้และได้เปิดฟัง ลูกได้ฟังบ้างไม่ได้ฟังบ้าง ส่วนใหญ่สามีของลูกจะฟังเสียมากกว่า เขาพูดกับลูกว่า “หลวงพ่อทัตตะฯ ท่านเทศน์ดีนะ รู้สึกชอบท่านจัง ไม่น่าจะเป็นเหมือนสื่อที่ออกมาเลยนะ” ส่วนในใจลึกๆของลูกก็ไม่อยากจะไปยุ่งอะไรนัก เพราะ คิดว่าจะไม่ไปเกี่ยวข้องกับวัดนี่เลยวันหนึ่งลูกเองก็ต้องแปลกใจ เมื่อลูกชายที่เกิดกับอดีตสามีชาวอเมริกันมาขอลาบวช ลูกถึงกับตกตะลึง เกิดความปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งจนบอกไม่ถูก น้ำตาเอ่อล้นไหลออกมา เพราะไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้สำหรับเขา ลูกคิดว่าคงไม่มีวันเห็นชายผ้าเหลืองของลูกชายคนนี้อย่างแน่นอน แต่ความคิดของลูกนั้นหยั่งไม่ถึงจิตใจของเขาเลย จึงถามลูกชายว่า “แล้วบวชวัดไหนล่ะลูก” ลูกชายบอกว่า “ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกาย” ลูกถึงกับอึ้งไปชั่วขณะแล้วคิดในใจว่า “ ก็ดีใจมากนะที่หนูจะบวช แต่ทำไมๆ ต้องมาบวชวัดนี้ด้วยนะ” ลูกอนุญาตให้ลูกชายบวช และสืบทราบมาว่า ก่อนหน้าที่ลูกชายจะมาขอบวช ได้มีกัลยาณมิตรชักชวนลูกชายไปนั่งปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมฯแห่งนี้ เขานั่งธรรมะดีมาก และได้ขอบวชเป็นสามเณรแก้วคนแรก เมื่อลูกได้เข้าไปร่วมงานบวชของลูกชาย ลูกรู้สึกตื่นเต้นดีใจตลอดเวลาที่จะได้เห็นผ้ากาสาวพัตร ที่ลูกชายได้นุ่งห่ม ลูกประทับใจทุกอย่างในงานบวช แต่ในใจลึกๆก็ยังต่อต้านต่อมา น้องชายได้พยายามมาเป็นกัลยาณมิตรให้ติดจานดาวธรรม ลูกก็ปฏิเสธทุกครั้ง จนน้องชายคงจะเบื่อ เลยหายเงียบไป ด้วยความที่ลูกเป็นคนรักพี่รักน้อง ก็เลยอยากให้เขามีความรู้สึกที่ดีต่อลูกเหลือไว้บ้าง จึงคิดว่า “ติดจานดาวธรรมแล้ว ถ้าไม่ดีจะเอาออกเมื่อไรก็ได้นี่” เมื่อคิดเช่นนั้นก็เลยโทรศัพท์บอกน้องชายว่า “ถ้าจะติดจานดาวธรรมก็มาติดได้เลยนะ” น้องชายดีใจมากได้ให้ช่างเอามาติดทันทีเหมือนกัน จานดาวธรรมถูกติดอยู่ประมาณ ๓ เดือน โดยที่ลูกและสามีไม่สนใจที่จะดู อยู่มาวันหนึ่งลูกและสามีได้มาเปิดดูดาวธรรม มีอยู่หลายรายการที่เราชื่นชอบ โดยเฉพาะสามีได้ใช้ระยะเวลาดูอย่างต่อเนื่อง ๒-๓ อาทิตย์ จึงได้ข้อสรุปว่า ดีมาก เราทั้งสองได้มีความมั่นใจ และดีใจว่า ยังมีผู้ที่รักและห่วงใยพระพุทธศาสนา พร้อมที่จะเสียสละชีวิต เพื่อปกป้องและเผยแผ่พระพุทธศาสนา อย่างคุณครูไม่ใหญ่และหมู่คณะนี้อยู่ ลูกและสามีจึงขอร่วมทางในการสร้างบารมีกับหมู่คณะ อย่างเต็มที่เต็มกำลัง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ลูกและสามีได้สั่งติดจานเพิ่มขึ้นอีก ๒ ดวง และยังติดให้ญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนๆที่อเมริกา อีก ๔ ดวง ให้ญาติที่เมืองไทย อีก ๕ ดวง โดยเฉพาะ คุณแม่ของสามี ขณะนี้ ท่านกำลังป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นอัมพาตครึ่งตัวและเส้นเลือดในสมองตีบ จึงได้ติดจานดาวธรรมให้ท่านดูด้วย ลูกและสามีจะช่วยกันขยายจานโดยมีเป้าในใจถึง ๑๐๐๐ ดวง ขณะนี้เริ่มขยายจานได้กว่า ๒๐ ดวงแล้วค่ะ กราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่เป็นกำลังใจให้ลูกทั้งสองด้วยเจ้าค่ะกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังต่อไปนี้ค่ะ1. คุณพ่อของลูกป่วยเป็นอัมพาตนานกว่า ๑๐ ปี จึงเสียชีวิตเป็นกรรมอะไรคะ ขณะนี้อยู่ที่ไหน บุญที่พี่สาวคนโตสร้างองค์พระจารึกชื่อท่าน และบุญเสาแก้วอุทิศไปให้ ท่านได้รับหรือไม่อย่างไรคะ2. บุพกรรมใดของแม่และลูกทำให้ลูกคลอดบนรถสามล้อ เป็นเหตุบังเอิญหรือมีสาเหตุอื่นคะ และมีผลกับชีวิตลูกหรือไม่คะ3. บุพกรรมใด เมื่อลูกอายุได้ ๑๓ ปี ขาทั้งสองข้างจึงลีบงอจนเดินไม่ได้ แต่ก็หายในเวลาต่อมา เกี่ยวกับอานุภาพของร่างทรง ร.๕ ช่วยไว้หรือไม่คะ และร่างทรงมี ร. ๕ จริงหรือไม่ อย่างไรคะ4. บุพกรรมใด สามีชาวอเมริกันถึงอายุสั้น เสียชีวิตด้วยสาเหตุใดตายแล้วไปไหน ลูกทำบุญอุทิศไปให้ได้รับหรือไม่อย่างไรคะ5. ลูกชายคนโตของลูกที่เกิดกับสามีชาวอเมริกัน เขาสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ จึงได้คิดบวชอย่างที่ลูกไม่คาดคิดมาก่อน6. ลูกอยากให้คุณแม่ซึ่งแก่มากแล้ว ท่านได้ดูจานดาวธรรมแต่น้องสาวบางคนถอดปลั๊กออก ทำอย่างนี้บาปหรือไม่คะ ลูกควรทำอย่างไร มีวิธีแก้ไขอย่างไรคะ บุพกรรมใด ที่ทำให้น้องๆไม่เคารพและเกรงใจลูกเท่าที่ควร7. บุพกรรมใด คุณแม่ของสามีคนปัจจุบันจึงป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นอัมพาตครึ่งตัวและเส้นเลือดในสมองตีบ จะมีทางรักษาหายหรือไม่อย่างไรคะ ต้องทำบุญอย่างไรถึงแรงพอที่จะช่วยท่านได้คะ8. ด้วยบุญอะไรคะ พี่สาวคนโตและน้องชายคนที่ ๓ ถึงมาเป็นกัลยาณมิตรให้กับลูกและสามีโดยตลอด พวกเขาสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ9. ลูกชายทั้งสองของสามีคนปัจจุบัน ที่เกิดกับภรรยาคนเก่าก็ได้มีความศรัทธาบวชเป็นพระธรรมทายาทด้วย พวกเขาสร้างบารมีมาอย่างไรคะ10. บุพกรรมใด ที่ทำให้ลูกและสามีคนปัจจุบันมาพบกับหมู่คณะช้าและกว่าจะเข้าใจหมู่คณะก็ต้องใช้เวลานานเป็นกรรมใดคะ เราทั้งสองสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ11. ลูกและครอบครัวจะได้ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษมั๊ยคะ ต้องทำบุญอย่างไร ถึงจะได้ไปดั่งใจปรารถนาคะ
ฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ทีแล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ1. พ่อของลูกเป็น “อัมพาต” นานกว่า 10 ปี เพราะ …พ่อมีกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารเป็นประจำ ทั้งอดีตและปัจจุบันมารวมกันส่งผล
- เมื่อตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” อยู่ในหมู่บ้านภุมมเทวาแถวศาลเจ้าแห่งหนึ่ง
- ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ ทั้งบุญองค์พระและเสาแก้ว ทำให้ท่านมีสภาพที่ดีขึ้นในระดับหนึ่งจ่ะ! เพราะยังทำบุญอุทิศไปให้ท่านไม่มากพอ ต้องทำบุญอุทิศไปให้อีก
2. ลูกคลอดบนรถ “สามล้อ” เพราะ… “วจีกรรมในอดีต” คือ ในชาติหนึ่ง ลูกชอบไปล้อแกล้งน้องสาวของตัวเองบ่อย ๆ ว่า เป็นลูกคนขับรถลากได้เอามาทิ้งไว้ ไม่ใช่ลูกแม่ , แกล้งล้ออย่างนี้บ่อย ๆ ซึ่งทำให้น้องสาวไม่สบายใจเรื่อย ๆ แค่นี้เอง
- ซึ่งก็ไม่ได้เป็นกรรมหนักอะไร จึงไม่มีผลต่อชีวิตของลูก นอกจากลูกเกิดความรู้สึกว่า ลูกเกิดมาแปลกกว่าคนอื่นเท่านั้นจ่ะ!
3. เมื่อลูกอายุ 13 ปี “ขาลีบงอ” จนเดินไม่ได้ แต่หายในเวลาต่อมา เพราะ ...กรรมในอดีตชาติหนึ่ง เป็นคนมีฐานะ มีข้าทาสในเรือนมาก ได้เคย “ทำโทษ” ทาสที่ชอบหนีไปเที่ยว ไม่ทำงานให้เต็มที่โดยสั่งให้ “ล่ามโซ่ตรวนที่ขาไว้กับหลักเสาเรือน” ไม่ให้เดินไปไหน เพื่อให้หลาบจำ ได้ทำดังนี้หลายครั้งและหลายคน แต่ก็ไม่ได้ล่ามนาน เช่น ล่ามบางคน 3 วันบ้าง , 5 วันบ้าง , 7 วันบ้าง
- กรรมเหล่านี้ มารวมกันส่งผลให้ลูกขาลีบงอ พอกรรมคลายก็ หายได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับร่างทรง ร.5 จ่ะ!
- ร่างทรงไม่มี ร.5 จ่ะ! เป็นการแอบอ้างเพื่อการทำมาหากินเท่านั้น ท่านอยู่บนสวรรค์จ่ะ! มีความสุขสบายมาก และไม่เคยมาเข้าร่างทรงมนุษย์คนใดในโลกเลยจ่ะ!
4. สามีชาวอเมริกันอายุสั้น เพราะ …กรรมในอดีตและปัจจุบัน ได้เป็นทหาร และได้ฆ่าข้าศึกตายเป็นจำนวนมาก
- จมน้ำตาย เพราะ “เมาแล้วตกน้ำ”
- ตายแล้ว …ก็วนเวียนอยู่ 7 วัน หาทางกลับบ้านไม่เจอ
- แล้วเจ้าหน้าที่ก็มารับตัวไป “ยมโลก” ขุม5 มีกรรมฆ่าคน และดื่มสุราเป็นหลัก กำลังถูกเจ้าหน้าที่ “กรอกน้ำทองแดงร้อน” อยู่ด้วยความทุกข์ทรมานมาก
- ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ แต่ยังไม่พ้นกรรม , ต้องทำบุญอุทิศไปให้มาก ๆ และบ่อย ๆ จ่ะ!
5. ลูกชายคนโตของลูก ที่เกิดจากสามีอเมริกัน ได้คิดออกบวชเอง โดยลูกไม่คาดคิดมาก่อนนั้น ก็เพราะ บุญที่เคยทำกับ หมู่คณะแบบ “กองเสบียง” มาในอดีตจ่ะ!6. คุณแม่ของลูกแก่แล้ว ลูกอยากให้ท่านดูจานดาวธรรม จึงได้ติดจานดาวธรรมให้ท่าน เพื่อให้ท่านใจวนเวียนอยู่กับธรรมะ แต่มีน้องสาวบางคนดึงปลั๊กออกนั้น ก็เป็นเพราะน้องสาวยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องวัด ยังต่อต้าน อยู่จ่ะ!
- ลูกก็ต้องใจเย็น ๆ คุยกับเธอ ดี ๆ ค่อย ๆ ให้เหตุผล , สักวันหนึ่งเธอคงเข้าใจ และยอมให้คุณแม่ท่านได้ดูและฟังธรรมะในบั้นปลายของชีวิต เพื่อเป็นหนทางสว่างให้กับท่านจ่ะ!
- ที่น้อง ๆ ไม่ค่อยเคารพลูก เพราะ ลูก ในอดีตทำทานด้วยความไม่เคารพ จ่ะ!
7. คุณแม่สามีในปัจจุบัน เป็นเบาหวาน , ความดันโลหิตสูง ,เป็นอัมพาตครึ่งตัว , เส้นเลือดในสมองตีบนั้น เพราะ… กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร ทั้งในอดีตและปัจจุบันมาส่งผล จ่ะ!
- จะแก้ไข ให้ท่านทำบุญทุกบุญให้มากๆ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา และปล่อยสัตว์ปล่อยปลาบ่อยๆ แล้วอุทิศบุญกุศลไปยังสัตว์ที่ท่านไปเบียดเบียนเขาไว้จ่ะ! หนักก็จะเป็นเบา , เบาก็จะหาย , ถ้าตายก็ไปดีจ่ะ!
8. พี่สาวคนโต และน้องชายคนที่ 3 ได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมานานแล้วหลายชาติ “แบบกองเสบียง” , ในชาติก่อน ๆ ก็เคยเป็นกัลยาณมิตรให้กับลูกและสามีมาจ่ะ! บุญเก่าจึงตามส่งผล เมื่อมาเจอกันอีก ก็มาเป็นกัลยาณมิตรให้ลูกและสามีอีกจ่ะ!9. ลูกชายทั้งสองของสามีที่เกิดจากภรรยาเก่า ก็เคยเป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมาเช่นเดียวกัน จึงมีศรัทธาบวชเป็นพระธรรมทายาทด้วยจ่ะ!10. ลูกและสามีมาพบหมู่คณะในชาตินี้ช้า เพราะ เคยกระทบกระทั่งกันในหมู่คณะ จึงได้ออกจากหมู่คณะไประยะหนึ่ง
- ต่อมาภายหลังคิดได้ว่า เรื่องสร้างบารมีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชีวิต จึงได้หวนคืนกลับมาสร้างบารมีใหม่ ดังนั้นชาตินี้ กว่าจะเข้าใจหมู่คณะได้ จึงต้องใช้เวลานานจ่ะ!
- ลูกและสามีเป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมานานแล้วจ่ะ!
11. ลูกและครอบครัว จะต้องทำบุญทุกบุญอย่างเต็มกำลังจนตลอดชีวิต แล้วอธิษฐานจิตอย่างแน่วแน่ว่า ขอตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ! ทำอย่างนี้ให้สม่ำเสมอก็จะสมปรารถนาได้จ่ะ!
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-1060.png)
http://goo.gl/5AiN3