CASE STUDYหมู่บ้านลึกลับ...กลางคืนเห็น กลางวันหายเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMCกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงกระผม มีเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของกระผม มากราบเรียนถามคุณครูไม่ใหญ่ครับเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ ๑๖ ปีที่แล้ว (ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๒) โยมแม่ พร้อมด้วย พนักงานขับรถ ได้เดินทางจาก จังหวัดอุบลราชธานีเพื่อไปร่วมประชุมที่ จังหวัดนครราชสีมา ขณะที่รถยนต์กำลังแล่นผ่าน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่คนขับรถคุ้นเคยเป็นอย่างดี ขณะนั้นเวลาราวสามทุ่ม หน้าปัดรถยนต์ปรากฏสัญญาณสีแดง เตือนให้ทราบว่าเครื่องยนต์เกิดเหตุขัดข้องกะทันหัน ทั้งโยมแม่และคนขับรถต่างพากันแปลกใจ เพราะก่อนเดินทางก็มั่นใจว่าได้ตรวจสภาพรถมาอย่างดีแล้ว คนขับรถจึงตัดสินใจชะลอรถแล้วชิดซ้ายแวะจอดข้างทาง ซึ่งเป็นบริเวณทางแยกเข้าหมู่บ้าน มีบ้านไม้หลายหลังตั้งเรียงรายอยู่ตลอดแนวถนนทั้งสองฝั่งความเงียบและความมืดสลัว ปกคลุมบรรยากาศบริเวณนั้นโดยรอบ ในเวลานั้นเอง โยมแม่ก็ได้ยินเสียงกลองแว่วดังมาแต่ไกล ตีเป็นจังหวะช้าๆ คล้ายกับมีงานวัด โยมแม่จึงค่อยๆ กวาดสายตาผ่านความมืดสลัว สำรวจบริเวณนั้นโดยรอบอยู่ครู่หนึ่ง สังเกตเห็นเด็กวัยรุ่นกำลังนั่งจับกลุ่มคุยกันในศาลาริมทาง ซึ่งห่างออกไปไม่ไกลนัก โยมแม่พยายามตั้งใจฟังว่าเขาคุยอะไรกัน แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่อง เพราะเขาคุยกันเป็นภาษาเขมร อยู่ๆ เด็กคนหนึ่งในกลุ่มนั้น ก็เดินเข้ามาหาใกล้ๆ แล้วถามว่า รถเป็นอะไร ทันทีที่ทราบว่ารถเสีย เขาก็รับอาสานำทาง พาคนขับรถไปชาร์จแบตเตอรี่ที่ร้านซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม คนขับรถรีบถอดแบตเตอรี่ออกจากรถ แล้วบอกให้โยมแม่นั่งรออยู่ในรถเพียงลำพังไปก่อนเมื่อคนขับ เดินตามหลังเด็กหนุ่มจนหายลับไปกับความมืด โยมแม่ก็เริ่มใจไม่ดี ขณะที่กำลังกวาดสายตาไปมานั้นเอง โยมแม่ก็ต้องประหลาดใจ เพราะภาพที่เห็น คือ มีบ้านเรือนไม้หลังหนึ่งตั้งอยู่ด้านหลังศาลาริมทาง ยกพื้นสูงประมาณ ๒ ขั้นบันได ดูสะดุดตา กว่าบ้านหลังอื่นในบริเวณนั้น ภายในบ้านเปิดไฟสว่างเรืองๆ เหมือนจะคอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน โยมแม่สังเกตเห็นสองตายายนั่งอยู่บนบ้าน บริเวณชานบ้านมีหม้อปั้นรูปทรงคล้ายๆ กับไหบ้านเชียง วางเรียงอยู่ นึกแปลกใจว่าเวลาดึกดื่นขนาดนี้แล้ว ทำไมตายายคู่นี้ถึงยังนั่งขายของอยู่ ไม่ปิดร้านเข้านอนเสียที แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าน่าจะเดินไปขอเข้าห้องน้ำสักหน่อย แต่พอคิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจ นั่งรออยู่ในรถกระทั่งเคลิ้มหลับไปด้วยความเพลีย จนโยมแม่มารู้ตัวอีกที ก็เพราะได้ยินเสียงคนขับรถกลับมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ชาร์จเรียบร้อยแล้วเมื่อคนขับรถใส่แบตเตอรี่เข้าที่ เตรียมพร้อมที่จะเดินทางต่อไป เด็กหนุ่มคนนั้นก็หันมากำชับคนขับรถว่า ให้ค่อยๆขับไปเรื่อยๆ อย่าดับเครื่องและอย่าเปิดแอร์เป็นอันขาด จนกว่าจะเจอร้านซ่อมรถ คนขับรถก็รับคำ รถสามารถวิ่งไปเรื่อยๆ ซึ่งแปลกมาก พอถึงที่หมาย เครื่องยนต์ก็มาดับลงพอดี คนขับรถจึงขอเอารถเข้าอู่ซ่อมรถทันที ช่วงเหตุการณ์ที่รถเสียกลางทาง กินเวลาราวชั่วโมงเศษ ดูเหมือนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติแต่แล้วในวันรุ่งขึ้น ภายหลังจากโยมแม่เสร็จประชุมแล้ว จึงเดินทางกลับ โยมแม่ได้กำชับคนขับรถว่า อย่าลืม แวะศาลาริมทาง เพราะได้ซื้อหมูแผ่นของฝากเมืองโคราช ตั้งใจว่าจะไปฝากเด็กหนุ่มคนนั้น แต่พอรถแล่นผ่านเส้นทางเดิมใกล้ถึงบริเวณที่รถได้มาเสียเมื่อคืนก่อน คนขับรถได้ชี้ไปทางซ้ายมือของบริเวณ บอกให้โยมแม่มองไปที่ศาลาริมทางหลังเก่าๆ ด้วยความตื่นตระหนก โยมแม่รีบหันไปมองตามทันที โยมแม่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะภาพที่ปรากฏต่อหน้ามีเพียงศาลาริมทางอยู่เพียงหลังเดียวเท่านั้น กลับไม่ปรากฏร่องรอยเรือนไม้ของสองตายาย อย่างที่เห็นเมื่อคืนวันก่อนแต่อย่างใด โยมแม่บอกให้คนขับรถลองขับวนไปวนมา เพื่อทบทวนหาตำแหน่งที่รถมาเสีย คนขับรถขับวนไปมาหลายรอบ จนกระทั่งมั่นใจว่าบริเวณศาลาริมทางนี้แหละ ต้องใช่ศาลาหลังเดียวกันอย่างแน่นอน ขณะนั้นเวลาเย็นมากแล้วจวนจะโพล้เพล้เต็มที โยมแม่จึงตัดสินใจกลับจังหวัดอุบลราชธานีด้วยความงงสุดขีด ทั้งคนขับรถและโยมแม่ต่างก็นั่งเงียบกันไปตลอดทางโยมแม่ลองเทียบเวลาจากนาฬิกาในรถยนต์ ซึ่งทำงานด้วยแบตเตอรี่ ปรากฏว่าเดินช้ากว่านาฬิกาบนข้อมือถึงหนึ่งชั่วโมงเศษ ระยะเวลาที่ต่างกันประมาณหนึ่งชั่วโมงนั้น แสดงให้เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่แบตเตอรี่ถูกคนขับรถถอดออกไปชาร์จจริง ๆ ทำให้โยมแม่ยิ่งมั่นใจว่า เหตุการณ์นี้ ต้องไม่ใช่ความฝันอย่างแน่นอนโยมแม่มาทราบภายหลังว่า สถานที่ตรงนี้เคยเป็นป่าช้ารกร้างว่างเปล่ามานาน และมีคนเคยประสบเหตุการณ์แปลกๆ ทำนองนี้อยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีใครรู้เลยว่า เหตุการณ์ประหลาดเหล่านี้ มันคืออะไรกันแน่มีเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับตัวกระผมเอง เรื่องนี้ถ้าไม่คิดก็ไม่แปลก แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกครับ คือ กระผมเกิดเมื่อวันที่ ๒๘ เดือนสิงหาคม ส่วน โยมพ่อของกระผม เกิดเมื่อวันที่ ๒๘ เดือนสิงหาคม เหมือนกันครับ ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ แม้แต่ โยมปู่ของกระผม ท่านก็เกิดวันที่ ๒๘ เดือนสิงหาคมเช่นเดียวกันครับ ไม่น่าเชื่อแต่ก็เป็นความจริง เราสามคนต่างก็มีวันที่และเดือนเกิดพ้องตรงกันโดยมิได้นัดหมายครับ โยมแม่เล่าว่า วันที่คลอดกระผม โยมพ่อกับเพื่อนๆ ยังตั้งวงดื่มเหล้าเลี้ยงฉลองวันเกิดโยมพ่ออยู่เลย ปัจจุบันโยมพ่อเป็นนายตำรวจระดับผู้การ แม้ว่าจะทำบุญให้ทานเป็นประจำ แต่ก็ยังดื่มเหล้าบ้างเป็นครั้งคราวครับโยมปู่ของกระผม มีอาชีพรับราชการทหารบก ท่านเป็นคนเจ้าระเบียบ เข้มงวด แข็งแรงมาก ท่านมีปกติเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจากับลูกหลาน ถึงคราวจะพูดที ก็พูดสั้น ๆ ห้วน ๆ แต่ก็แปลก เวลาที่ท่านอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูง กลับช่างพูดช่างคุย กลายเป็นคนสนุกสนานเฮฮา ทุกคนในบ้านไม่มีใครกล้าขัดใจโยมปู่เลย โยมปู่เสียชีวิตลงด้วยโรคชราเมื่ออายุได้ ๘๗ ปีโยมแม่ของกระผม เป็นลูกคนสุดท้อง ท่านเป็นลูกหลงเพราะเกิดถัดจากพี่ชายถึง ๑๐ ปี ในปีที่โยมแม่เกิด โยมตาของกระผม อายุ ๕๓ ปี ส่วน โยมยาย อายุ ๔๓ ปี เมื่อโยมแม่โตเป็นวัยรุ่นมักถูกเพื่อนๆ ล้อว่ามีพ่อแม่อายุมาก ครอบครัวของโยมแม่ยากจน โยมแม่มีเสื้อผ้าเพียงสองชุดเท่านั้น เป็นชุดนักเรียนเก่าๆ สำหรับใส่ไปโรงเรียนและใส่อยู่บ้านด้วย แต่โยมแม่เป็นคนเรียนเก่ง จบเกียรตินิยมคณะบัญชี จุฬาฯ ก็เลยได้งานดีๆทำ และมีหน้าที่การงานก้าวหน้าตามลำดับ กระทั่งปัจจุบันโยมแม่มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งในระดับภาคครับส่วนตัวกระผมเอง ได้รับแรงบันดาลใจจากโยมพ่อ จึงใฝ่ฝันว่าจะต้องเป็นทหารอากาศให้ได้ โยมพ่อจึงวางผังชีวิตให้กระผมสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร แต่แล้วกระผมก็ต้องผิดหวังอย่างแรงครับ เพราะตรวจทราบภายหลังว่า ผมมีอาการตาบอดสี จึงไม่สามารถสอบเข้าเรียนเตรียมทหารได้ แต่ทุกวันนี้ กระผมกลับมีความรู้สึกดีใจ เพราะทำให้กระผมเดินทางลัด มุ่งตรงมาบวชอย่างไม่ลังเลใจ นับรวมเวลาบวชสร้างบารมีได้ ๗ พรรษาแล้วครับคำถาม1. เหตุใดรถยนต์ถึงต้องมาเสียกลางทาง ทั้งๆ ที่ก่อนออกเดินทางก็ได้ตรวจสภาพมาดีแล้ว ระยะเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงที่รถเสียกลางทางเป็นเรื่องจริงหรือว่าเป็นภาพลวงตาครับ2. บริเวณที่เกิดเหตุซึ่งต่างก็เล่าลือกันมาว่าเป็นป่าช้าร้างนั้น คือที่อยู่ของอะไร เด็กหนุ่มคนที่อาสามาช่วยเหลือเป็นมนุษย์หรือว่าอมนุษย์กันแน่ เขาต้องการอะไร ถ้าเป็นผีในป่าช้าร้าง ทำไมเขาไม่ทำร้ายให้รถเกิดอุบัติเหตุ เพื่อหาคนมาอยู่แทนเขา แต่กลับให้การช่วยเหลืออย่างดี3. ตายายทั้งสองเป็นคนหรือเป็นใคร ทำไมต้องมานั่งขายของยามดึกดื่นด้วยครับ หมู่บ้านที่คุณแม่เห็น รวมถึงร้านที่คนขับรถเอาแบตเตอรี่ไปชาร์จมีจริงหรือไม่ ถ้าเป็นของภพละเอียด ทำไมจึงชาร์จแบตเตอรี่ที่เป็นของหยาบได้4. โยมปู่ โยมพ่อและกระผมเกิดวันที่ ๒๘ เดือนสิงหาคมเหมือนกัน สิ่งที่มาพ้องตรงกันอย่างนี้ เป็นเหตุบังเอิญ หรือมีบุพกรรมอะไรที่ทำร่วมกัน หรือทำเหมือนกัน ครับ5. โยมพ่อทำบุญสม่ำเสมอแต่ก็ยังไม่เลิกดื่มเหล้า บุญที่ท่านทำ จะมีโอกาสส่งผลให้ท่านมีดวงปัญญา คิดเลิกเหล้าได้เองบ้างไหมครับ นอกจากการทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้โยมพ่อแล้ว มีบุญอะไรไหมครับ ที่จะทำให้ท่านสอนตัวเองเรื่องนี้ได้ หากโยมพ่อยังไม่หักดิบตอนนี้บุญที่ท่านทำมาจะช่วยท่านได้อย่างไรครับ6. โยมปู่ละโลกแล้วไปอยู่ภพภูมิใดครับ ท่านเคยปรารภว่าไม่เห็นด้วยที่กระผมมาบวช ตอนนี้ท่านเข้าใจกระผมหรือยัง หากผมอุทิศบุญให้ แต่ท่านไม่เห็นด้วย ท่านจะได้บุญจากการบวชของผมไหมครับ กระผมจะช่วยอะไรท่านได้บ้างไหมครับ7. บุพกรรมใดจึงทำให้โยมแม่เกิดมาเป็นลูกหลงของโยมตาและโยมยาย ชีวิตวัยเด็กลำบากแต่มาสบายขึ้นในภายหลัง ปัจจุบันโยมแม่อายุเพียง 55 ปี แต่ความจำก็ชักเลือนๆ เป็นเพราะวิบากกรรมอะไร จะแก้ไขได้อย่างไรครับ8. โยมพ่อและโยมแม่ ได้เคยสร้างบารมีร่วมกับหมู่คณะมาอย่างไรหรือไม่ และหากไม่มีเชื้อสายหรือมีน้อย จะต้องเริ่มสร้างบุญกับหมู่คณะอย่างไรครับ ชาติต่อไปหากต้องการเกิดในตระกูลที่มีเชื้อสายการสร้างบารมีกับหมู่คณะที่เข้มข้น ควรทำอย่างไรครับ9. อาการตาบอดสีของกระผมเกิดจากวิบากกรรมใด และกระผมมักปวดศีรษะ บางครั้งเสียดหน้าอกเหมือนมีลมแน่นกระทั่งอาเจียนออกมา เป็นอย่างนี้บ่อยๆ โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ เป็นเพราะวิบากกรรมใด และจะแก้ไขได้อย่างไรครับ10. กระผมเคารพรักพระอาจารย์รูปหนึ่งมาก เพราะท่านเมตตาสอนสมาธิให้ ตั้งแต่ครั้งบวชเป็นสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดหนองกินเพล และปัจจุบันท่านก็ยังประคับประคองให้กระผมมั่นคงในเส้นทางการสร้างบารมี ในอดีตกระผมเคยสร้างบารมีร่วมกับท่านมาอย่างไร และท่านมีหน้าที่อย่างไรในกองทัพธรรมครับ11. กระผมมีเพื่อนรักที่สนิทกันมาก ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นจนเข้ามหาวิทยาลัย กระผมได้เป็นกัลยาณมิตรให้ท่าน จนปัจจุบันตั้งใจมาบวชสร้างบารมีกับคุณครูไม่ใหญ่ไปตลอดชีวิต ก่อนจะมาเกิดในชาตินี้ เราทั้งสองมาจากที่เดียวกันหรือไม่ เคยสร้างบารมีร่วมกันมาอย่างไร มีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม เคยเข้าถึงพระธรรมกายไหมครับ และมีข้อบกพร่องในการสร้างบารมีอย่างไร จะแก้ไขได้อย่างไรครับ
ฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ทีแล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ1. เหตุที่รถยนต์มาเสียกลางทาง ทั้งๆที่ก่อนออกเดินทางได้ตรวจสภาพอย่างดีแล้ว เพราะ …เกิดจากการบันดาลของ “ภูติ ภุมมเทวา” ที่อยู่บริเวณนั้น แต่ไม่ใช่พวกวิทยาธร ระหว่างทาง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นเรื่องจริงไม่ได้ฝันไปจ่ะ!
- เพราะเขาเอ็นดู เลยอยาก “หยอกล้อเล่น” เช่นเดียวกับรายอื่นๆ ที่เคยเจอ จะเรียกว่าเป็น “ภาพลวงตา” ที่เกิดจากการบันดาลของเขาก็ได้จ่ะ!
2. บริเวณที่เกิดเหตุเคยเป็น “ป่าช้าร้าง” มาก่อนจริงจ่ะ!... คือ ที่อยู่ของ “ภูติภุมมเทวา” ดังกล่าว
- เด็กหนุ่มที่อาสามาช่วยเหลือ คือ “อมนุษย์” จ่ะ!
- เขาต้องการแต่เพียง “หยอกล้อเล่น” เท่านั้น
- ทุกอย่างเขาเนรมิตหรือบันดาลขึ้นมาหมด ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน , ร้านค้า หรือร้านชาร์จแบตเตอรี่จ่ะ!
- เขาไม่ได้ตายโหงอยู่แถวนั้น จึงไม่จำเป็นที่จะหาคนมาอยู่แทนเขาตรงนั้นจ่ะ!
3. ตายาย 2 คน ก็คือ “ภูติภุมมเทวา” ดังกล่าว ที่ต้องการมาหยอกล้อเล่นกันเป็นทีม จึงทำมาเป็นขายของยามดึกดื่นจ่ะ! แต่ คุณแม่ไม่ทราบจ่ะ! จึงไม่มีอารมณ์จะไปเล่นกับเขาด้วย
- หมู่บ้านที่คุณแม่เห็น รวมทั้งร้านที่คนขับรถเอาแบตเตอร์รี่ไปชาร์จ ก็เป็นเรื่องของการเนรมิตให้เห็นดังกล่าวจ่ะ!
- แบตเตอร์รี่ของรถไม่ได้หมดแต่เขาบันดาลให้ดูเหมือนหมด เพื่อจะแกล้งพาไปชาร์จแบตเตอร์รี่ที่ร้าน จะได้มีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง ในวันนี้ ไงล่ะจ๊ะ! ว่าภพละเอียด , กายละเอียดมีจริงๆ จ่ะ!
4. โยมปู่ , โยมพ่อ และตัวลูก มีวันคล้ายวันเกิดในวันเดียวกันที่ 28 สิงหาคม ก็เป็นการมาพ้องพอดี และเคยสร้างบุญร่วมกันแค่นั้นจ่ะ!5. โยมพ่อทำบุญสม่ำเสมอ แต่ก็ยังชอบดื่มเหล้า เพราะความเคยชิน , และสังคมที่ท่านอยู่ อีกทั้งยังไม่เห็นโทษภัยในอบายและสังสารวัฏด้วยตัวท่านเองจ่ะ!
- เมื่อใดท่านเห็นได้ด้วยตัวของท่านเอง ท่านก็จะหนาวแล้วก็เลิกเอง , หรือบุญเก่าได้ช่องบวกกับบุญใหม่ ก็จะทำให้ท่านมีความคิด ที่จะนำดวงปัญญาที่ท่านมีมากอยู่แล้ว มาใช้เลิกได้เองจ่ะ!
6. โยมปู่ ตายแล้วก็ไปอยู่ “ยมโลก” ขุม 5 เพราะกรรมดื่มสุราและศีลปาณา , กาเมด้วย กำลังโดนเจ้าหน้าที่ยมโลก “กรอกน้ำทองแดงร้อน” ถ้าไม่มีบุญที่ทำตามประเพณีอุ้มไว้ ท่านก็จะต้องไปลึกกว่านี้จ่ะ!
- ตอนนี้โยมปู่ไม่ได้คิดอะไร เพราะกำลังโดนทัณฑ์ทรมานอยู่ ให้ลูกอุทิศบุญทุกบุญ ทั้งบุญบวชและบุญอื่นๆ ไปให้ท่านบ่อยๆ ท่านก็จะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งหลุดพ้นจาก “ยมโลก” จ่ะ!
7. โยมแม่ เกิดมาเป็นลูกโยมตา-โยมยาย เพราะ ...เคยอธิษฐานเป็น พ่อ-แม่-ลูก กันมา , เมื่อถึงเวลาจังหวะที่จะต้องมาเกิดในช่วงที่พ่อ-แม่อายุมาก ก็เลยกลายมาเป็น “ลูกหลง”
- แต่ที่วัยต้นมีชีวิตลำบาก และมาสบายภายหลัง เพราะตอนทำบุญช่วงแรกไม่ปีติ แต่มาปีติในภายหลัง จึงทำให้กรรมความ “ตระหนี่” บางชาติให้ผลในช่วงแรกของชีวิตก่อน และบุญที่ปลื้มปีติจากการทำทาน ก็ตามมาส่งผลในภายหลังจ่ะ!
- ปัจจุบันโยมแม่อายุ 55 ปี ความจำ “ชักเลือน” เพราะเศษกรรม “มุสา” ในอดีตมาส่งผลจ่ะ!
- แก้ไขก็ต้องสมาทานศีล และปฏิบัติธรรมทุกๆวันอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งทำบุญทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต ก็จะช่วยให้หนักเป็นเบา เบาเป็นหายจ่ะ!
8. โยมพ่อ-โยมแม่ ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยเป็น “กองเสบียง” จึงมีสายบุญกับหมู่คณะมาพอสมควร , ถ้าหากให้โอกาสตัวเองปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนาทุกวัน ก็จะทำให้เข้าใจมากขึ้นจ่ะ!
- หากต้องการเกิดในตระกูล ที่มีเชื้อสายในการสร้างบารมีกับหมู่คณะ ...ตัวลูกก็ต้องบวชไม่สึก และต้องทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรให้แก่ตนเองและญาติโยมมากๆ
- แล้วอธิษฐานจิตตอกย้ำผังที่ตัวเองต้องการให้หนักแน่น มั่นคง อย่าให้คลาดเคลื่อน ก็จะเป็นไปตามความปรารถนาของลูกจ่ะ!
9. อาการ “ตาบอดสี” ของลูก เกิดจากกรรมในอดีตชาตินานมาแล้ว หลายชาติที่ผ่านมา ลูกได้เคยเป็นพ่อค้าประเภท “ย้อมแมวขาย” คือ ตบแต่งสินค้าที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ ให้ดูมีคุณภาพแบบหลอกลวงเขาจ่ะ!
- ส่วนที่มัก “ปวดศรีษะ” บางครั้ง “เสียดหน้าอก” เหมือนมีลมแน่นจนอาเจียนบ่อย เพราะ ...กรรมในอดีตพุทธันดรที่ผ่านมา ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ทำการ , ทุบ , ซ้อม , ถอง เชลยศึกด้วยความมัน จนเชลยศึกทรมานและมีอาการดังที่ลูกเป็นอยู่จ่ะ!
- จะแก้ไขลูกก็ต้องหมั่นสั่งสมบุญ แล้วปล่อยสัตว์ปล่อยปลา แล้วอุทิศบุญให้กับผู้ที่เราไปเบียดเบียนทำร้ายเขาจ่ะ! หนักก็จะได้เป็นเบา เบาก็จะหายจ่ะ!
10. พระอาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตรให้กับลูกในชาตินี้นั้น ก็คือ อดีตญาติผู้พี่ซึ่งเป็น “กุลธิดา” เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา ได้คอยดูแลช่วยเหลือลูกเหมือนเป็นพี่สาวลูก ในช่วงที่ลูกเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช
- ต่อมาเมื่อลูกได้บวชแล้ว , ก็ได้ตามมาอุปัฏฐากดูแลลูกต่อ รวมทั้งเพื่อนสนิทกัน ซึ่งก็เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชด้วย และได้ออกบวชตามพระราชาในเวลาต่อมา
- ญาติผู้พี่ผู้ทำหน้าที่ดูแลลูกและเพื่อน ได้มีความปรารถนาที่จะเป็นผู้ชายในชาติต่อไป และขอให้ได้ออกบวชเหมือนตัวลูกและเพื่อน , จึงได้ทำบุญทุกบุญอย่างสม่ำเสมอ แล้วอธิษฐานจิตขอให้ได้เป็นผู้ชายและได้ออกบวชในชาติต่อไป
- มาชาตินี้ บุญก็ได้ตามส่งผล ก็สมปรารถนา คือ ได้บวชสมใจแล้วจ่ะ!
- เมื่อบวชแล้วจะฝึกตัวอย่างไร เพื่อให้เป็นเนื้อนาบุญและอายุพระศาสนาหรืออยากทำหน้าที่อะไร ก็ต้องฝึกกันต่อไปจ่ะ!
http://goo.gl/VyVLP