CASE STUDYโรคร้ายหายได้ด้วยอานุภาพบุญเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMCกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงลูก เข้าวัดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2531 โดยมีกัลยาณมิตรรุ่นพี่ท่านหนึ่ง ชักชวนให้มาร่วมงานบุญกฐินคุณยายอาจารย์ ซึ่งเป็นกฐินครั้งแรกของวัดพระธรรมกาย แม้ว่าในวันนั้นลูกจะตัดสินใจมาด้วยความเกรงใจ แต่เพียงครั้งแรกที่ได้มาวัด ลูกกลับมีความปีติใจตลอดทั้งวัน ความประทับใจเกิดขึ้นทันทีนับแต่ได้ก้าวขึ้นรถรับสาธุชนที่สนามเป้า ลูกมองดูน้องผู้หญิงซึ่งกำลังยืนทำหน้าที่ผู้นำรถด้วยความปลื้มใจ ดูเธอช่างเรียบร้อยสง่างาม พูดจาไพเราะฉะฉาน ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยทันทีที่สองเท้าของลูกเหยียบลง ณ ผืนดินอันศักดิ์สิทธิ์ ลูกก็ได้เห็นคลื่นสาธุชนนับหมื่นนับแสนคน จากทั่วสารทิศต่างพากันเดินทางมาแสวงบุญอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ลูกเห็นแล้วก็ยิ่งปลื้มใจ ขนลุกซู่ชูชันด้วยความปีติ ลูกจึงตัดสินใจทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดทันที วันนั้นลูกดีใจมากที่ได้รับเหรียญที่ระลึกจากมือของคุณยายเอง ท่านพูดกับลูกว่า “ให้มาเอาบุญกับยายนะ” ลูกสบตาท่านและนึกในใจว่า ตลอดชีวิตการเป็นพยาบาลที่ผ่านมา ลูกยังไม่เคยเห็นใครที่แสดงออกว่ารักและปรารถนาดีกับผู้อื่นอย่างบริสุทธิ์ใจอย่างนี้มาก่อนเลยนับแต่นั้นมา ลูกก็มีศรัทธาได้มาร่วมงานบุญอย่างต่อเนื่องมิได้ ขาด แม้ว่าช่วงแรก พ่อบ้าน ยังไม่เห็นด้วย แต่ลูกก็ไม่ท้อถอย พยายามชักชวน ลูกทั้งสามคน ให้มาวัดอย่างสม่ำเสมอ ปลายปีพ.ศ. 2538 ลูกได้ไปปฏิบัติธรรมที่วังธารรีสอร์ท ลูกเห็นดวงแก้วใสสว่างค่อยๆ ไหลเข้ามาหาตัว รู้สึกเย็นสบาย ลูกน้ำตาไหล ใจพองโต เต็มตื้นด้วยความปลื้มปีติใจอย่างบอกไม่ถูก ลูกบอกกับตัวเองว่า “นี่ไง ความสุขที่เราแสวงหา...เป็นอย่างนี้เอง” นับแต่นั้นมา ลูกก็เริ่มต้นทำหน้าที่ผู้นำบุญอย่างเต็มที่ คิดแต่เพียงว่าอยากจะให้ทุกๆคนได้มีโอกาสมาสัมผัสกับความสุขเหมือนอย่างลูกสองปีต่อมา ความพยายามของลูกก็สำเร็จ พ่อบ้านเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกสาว ภายหลังกลับจากการอบรมธรรมทายาทหญิง จึงตัดสินใจขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์ ลูกมั่นใจว่าคำอธิษฐานของลูกต้องสำเร็จสมปรารถนาอย่างแน่นอน เพราะแต่เดิมพ่อบ้านไม่สนใจมาวัดเลย และไม่ใคร่เต็มใจเมื่อลูกชวนให้ร่วมบุญด้วย แต่เมื่อเขากลับลงมา ลูกก็เหมือนได้พ่อแก้ว เขาเปลี่ยนไปมาก หันมาเข้าวัด เป็นประจำ ทั้งยังหักดิบตัดใจเลิกดื่มเหล้าไปจนตลอดชีวิต ครอบครัวของลูกมีความสุขมาก จนลูกอดภูมิใจไม่ได้แต่ในปีต่อมา ก็เหมือนวิบากกรรมมาตัดรอน อยู่ๆลูกเกิดปวดท้องขึ้นมากะทันหัน หนาวสั่นไปทั้งตัว ลูกถูกนำส่งโรงพยาบาลโดยหมอวินิจฉัยว่าน่าจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้ต้องงดอาหารไปตลอดทั้งคืน เวลานั้นลูกเจ็บปวดและทรมานมาก เหงื่อไหลท่วมตัว แล้วในที่สุด ลูกก็หมดแรงลงไปเฉยๆ แต่ลูกก็พยายามนึกถึงบุญและระลึกถึงธรรมะที่เคยปฏิบัติ เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะหมดสตินั้นเอง ลูกก็เห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะของลูก แล้วจากนั้นลูกก็หมดสติไปตลอดทั้งคืนน่าอัศจรรย์เหลือเกินค่ะ เพราะเมื่อลูกมารู้สึกตัวอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ก็พบว่าอาการปวดท้องนั้น กลับหายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับว่าไม่ได้เป็นอะไรเลย แม้คุณหมอจะลอง X-Ray ใหม่อีกครั้ง แต่ก็ไม่พบโรคดังกล่าวอีกเลยภายหลังที่ลูกหายป่วยแล้ว ลูกยิ่งเชื่อมั่นในอานุภาพบุญและอานุภาพของมหาปูชนียาจารย์ จึงมุ่งมั่นทำหน้าที่กัลยาณมิตรอย่างทุ่มเทสุดหัวใจ ลูกทำหน้าที่ผู้นำบุญโดยทั้งทำด้วยตนเองและบอกบุญชักชวนเขามาสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวได้มากกว่าร้อยองค์แล้วค่ะคุณพ่อของลูก ท่านเป็นคนใจดีชอบช่วยเหลือทุกคน จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน คุณพ่อเป็นคนขยันมาก ภาพที่ลูกประทับใจมาตั้งแต่เด็กคือ ลูกจะเห็นคุณพ่อลุกขึ้นมาสวดมนต์แต่เช้าตรู่และยังใส่บาตรเป็นประจำมิได้ขาด แม้ว่าท่านจะเข้าวัดทำบุญอยู่เสมอ แต่ก็ยังดื่มเหล้าเป็นครั้งคราวตามเทศกาล ต่อมาท่านป่วยเป็นไข้ป่า อาการทรุดลงเรื่อยๆ กระทั่งมาเสียชีวิตลงเมื่ออายุ 53 ปีส่วน คุณแม่ ภายหลังที่คุณพ่อจากไปแล้ว คุณแม่ก็ต้องทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ อดทนเลี้ยงลูกถึง 8 คนมาด้วยความยากลำบาก ลูกมีโอกาสกลับไปดูแลคุณแม่ที่โคราชเพียงเดือนละครั้งสองครั้ง แต่ทุกครั้งที่กลับไป ลูกก็พยายามเล่าให้แม่ฟังเรื่องบุญและถือโอกาสให้แม่ได้อนุโมทนาบุญ ท่านก็มักจะยิ้มและพูดกับลูกว่า “เออ” เป็นทำนองว่าท่านเข้าใจและอนุโมทนาด้วยเมื่อปี พ.ศ.2545 ลูกทราบข่าวจาก พี่ชาย ว่า คุณแม่ล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน จึงรีบเดินทางกลับไปรับคุณแม่มาดูแลเองที่กรุงเทพฯ คุณแม่เริ่มพูดไม่ได้ แขนและขาขวาใช้งานไม่ได้ คุณหมอบอกว่าเป็นโรคสมองฝ่อ ลูกพยายามพาแม่มาวัดทุกวันอาทิตย์ โดยให้ท่านนั่งรถเข็นและชี้ให้ดูองค์พระนับแสนองค์ ที่ประดิษฐานอยู่บนมหาธรรมกายเจดีย์ ลูกสังเกตเห็นโยมแม่ยิ้มเบิกบานด้วยความปลื้มปีติปีต่อมา อาการของแม่ก็ทรุดหนัก แผลลุกลามกดทับที่เท้าและที่หลังอย่างรุนแรง หมอบอกว่าเห็นทีจะต้องตัดขาข้างขวาของแม่ทิ้ง ลูกรู้สึกทุกข์ใจแทนเพราะรักและสงสารท่านเหลือเกิน จึงปรึกษากับพี่กัลยาณมิตรท่านหนึ่ง แล้วในที่สุด เราก็ตัดสินใจว่า ถึงอย่างไรก็จะไม่อนุญาตให้หมอตัดขาของแม่เป็นอันขาดลูกนำคุณแม่มารักษาที่คลีนิคของพี่กัลยาณมิตรท่านนี้ และได้ช่วยกันดูแลรักษาคุณแม่เป็นอย่างดี ลูกเชื่อมั่นว่า ไม่มีอะไรจะสำคัญมากไปกว่า “บุญ” จึงตั้งใจว่าจะให้ท่านได้สั่งสมเสบียงบุญติดตัวไปในภพเบื้องหน้าด้วยตัวของท่านเอง จึงได้สร้างบรรยากาศแห่งบุญ โดยเปิดจานดาวธรรมให้ท่านดูทุกวัน และจะคอยย้ำเตือนให้ท่านนึกถึงบุญอยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ ลูกยังคอยกระซิบที่ข้างหูคุณแม่บ่อยๆว่า “สัมมา อะระหัง” เนื่องจากคุณแม่พูดไม่ได้ ท่านจึงทำได้ก็แต่เพียงยิ้มตอบและ มองหน้าลูกเป็นการบอกให้รู้ว่าท่านรับรู้และเข้าใจ ต่อมาแม่มีอาการหอบรุนแรง และค่อยๆ หายใจแผ่วลงไปเรื่อยๆ แล้วในที่สุด ท่านก็นิ่งไปอย่างสงบคุณพ่อของสามี ป่วยเป็น โรคมะเร็งที่ปอด โดยไม่มีวี่แววมาก่อน ทั้งๆ ที่ตลอดชีวิตของท่านแทบจะไม่สูบบุหรี่เลย มะเร็งได้ลุกลามไปจนถึงกระดูก ก่อนเสียชีวิต 3 วัน หลานสาวเห็นท่านทำท่าเหมือนกำลังปัดป้องอะไรบางอย่าง โวยวายเสียงดังอยู่ตามลำพังว่า “ไม่ไป ไม่ไป” ในช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นลม คุณแม่สามี เขย่าตัวคุณพ่อสามีเบาๆ กระซิบข้างหูว่า “อย่าเพิ่งรีบไปนะเพราะลูก (คือสามีของลูก) ยังมาไม่ถึง” แล้วคุณพ่อสามีก็พยายามหายใจขึ้นมาใหม่เหมือนจะรอคอยลูกชาย เมื่อสามีของลูกมาถึง ท่านก็สิ้นลมจากพวกเราไปทันทีคำถาม
1. บุพกรรมใดจึงทำให้ชีวิตในวัยเยาว์ของลูกลำบากมาก พลัดไปเกิดในชนบทกันดารห่างไกลความเจริญ และมักไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่ภายหลังเมื่อมีครอบครัวแล้ว ชีวิตลูกจึงเริ่มดีขึ้นคะ2. ในช่วงเเรกที่เข้าวัด ลูกต้องลักลอบทำความดีโดยมีลูกสาวร่วมสนับสนุนเพราะพ่อบ้านยังไม่เห็นด้วย ต่อมาลูกสามารถชักชวนพ่อบ้านเข้าวัดได้สำเร็จ เป็นเพราะบุญที่ลูกสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวให้เขาและอธิษฐานจิตให้ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวธรรมกาย ใช่หรือไม่คะ3. เพราะเหตุใดเวลาทำบุญแทบทุกครั้ง พ่อบ้านมักจะตัดสินใจค่อนข้างช้า ในขณะที่ลูกตัดสินใจฉับไวทันที ซึ่งตรงข้ามกันมากค่ะ ลูกควรจะบอกเขาอย่างไร การตัดสินใจช้าเร็วต่างกัน จะมีผลต่อไปในภพชาติเบื้องหน้าของเราทั้งสองอย่างไรคะ4. วิบากกรรมใดลูกจึงต้องมามีอาการปวดท้องกะทันหันเช่นนั้น ลูกเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบอย่างที่คุณหมอวินิจฉัยหรือไม่ ครั้งนั้นลูกรอดมาได้ด้วยอานุภาพบุญจากการสร้างองค์พระ และอานุภาพของมหาปูชนียาจารย์ใช่หรือไม่ ลูกหมดวิบากกรรมดังกล่าวแล้วหรือยัง หรือว่ามีวิบากกรรมใดที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษอีกหรือไม่ จะแก้ไขได้อย่างไรคะ5. คุณพ่อของลูกละโลกแล้วไปไหน เหตุใดท่านจึงอายุสั้นเพียง 53 ปี การที่ท่านดื่มเหล้าตามเทศกาลจะทำให้ต้องไปตกนรกหรือไม่ บุญที่ท่านทำเองและบุญที่ลูกสร้างพระอุทิศไปให้จะช่วยท่านได้หรือไม่ อย่างไรคะ6. วิบากกรรมใดจึงทำให้คุณแม่เป็นโรคสมองฝ่อ พูดไม่ได้ แขนขาใช้งานไม่ได้ ถึงขนาดที่คุณหมอต้องแนะนำให้ตัดขาคุณแม่ทิ้ง ลูกตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ที่ไม่ยอมให้หมอตัดขาแม่ ถ้าหากครั้งนั้น ลูกตัดสินใจอนุญาตให้หมอตัดขาแม่ ลูกจะบาปไหมคะ จะมีวิบากกรรมอย่างไร ลูกตั้งใจดูแลรักษาคุณแม่อย่างดีแม้จะถูกพี่ๆต่อว่าหลายเรื่อง ลูกจะได้รับผลบุญนี้อย่างไร7. หลังจากที่คุณแม่เสียชีวิตได้ 3 วัน ลูกได้กลิ่นของแม่ในห้องนอน เป็นเพราะท่านกลับมาที่ห้องใช่ไหมคะ ท่านได้ไปฟังพระสวดอภิธรรมอย่างที่ลูกบอกท่านหรือไม่ ท่านละโลกแล้วไปอยู่ ณ ภพภูมิใด บุญที่ท่านได้ทำด้วยตนเองตามหลักวิชชาในวาระสุดท้าย ได้ช่วยให้ท่านไปสู่สุคติภูมิอย่างที่ลูกตั้งใจไว้หรือไม่ ท่านมีอะไรจะฝากบอกลูกบ้างไหมคะ8. บุพกรรมใดทำให้พ่อของสามีป่วยเป็นโรคมะเร็ง ท่านใช้มือปัดป้องเพราะเห็นยมทูตกำลังมาเอาชีวิตใช่หรือไม่ ขณะนี้ท่านอยู่ภพภูมิใด ได้รับบุญกุศลที่อุทิศไปให้หรือไม่ อย่างไรคะ9. ลูกมีเพื่อนกัลยาณมิตรสองคนที่สนิทสนมและรักกันมาก ไปวัดก็ไปด้วยกัน คอยประคับประคองกันสร้างบารมี ครั้งแรกที่ลูกไปชวนเขามาวัด แม้ว่าจะถูกเขาปฏิเสธแรงๆ แต่ทำไมลูกจึงรู้สึกคุ้นเคยกันเร็วมาก ราวกับว่าเป็นญาติที่รู้จักกันมานาน เราสามคนเคยสร้างบุญร่วมกันมาอย่างไร10. ลูกสาวฝาแฝดของลูก ก่อนมาเกิดในชาตินี้ ทั้งคู่มาจากที่ใด บุพกรรมใดจึงทำให้มาเกิดเป็นฝาแฝดกันคะ ลูกตั้งใจว่าอยากจะให้ลูกสาวทุกคนมาช่วยงานพระศาสนา ความตั้งใจของลูกจะสำเร็จหรือไม่ และลูกทุกคนจะสามารถสร้างบารมีไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่คะ11. ครอบครัวของลูกเคยสร้างบารมีมาอย่างไรในอดีต จึงได้มาสร้างบารมีพร้อมเพรียงกันทั้งครอบครัว ทำไมลูกจึงสามารถทำหน้าที่กัลยาณมิตรกับคนอื่นๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ในขณะที่ญาติพี่น้องของลูกเอง กลับเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก
ฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ทีแล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ1. ชีวิตวัยเยาว์ลูกลำบากมาก และมักอยู่ห่างไกลความเจริญและมักไม่ได้อยู่กับพ่อ-แม่ เพราะ ...ในอดีต เวลาทำบุญมักจะทำบุญไปอย่างนั้นเอง จึงทำให้บาปความ “ตระหนี่”และ “ถือตัว”ได้ช่อง ส่งผลให้ไปเกิดในชนบทกันดาร ห่างไกลความเจริญและมีชีวิตที่ลำบากในช่วงวัยเยาว์
- แต่ต่อมาบุญส่งผล จึงทำให้ชีวิตภายหลังมีครอบครัวดีขึ้นจ่ะ!
- ส่วนที่มักไม่ได้อยู่กับพ่อ-แม่ เพราะต้องออกมาทำมาหากิน
2. ในช่วงแรกที่ลูกเข้าวัด ลูกต้องลักลอบทำความดี โดยมีลูกสาวร่วมสนับสนุน เพราะพ่อบ้านไม่เห็นด้วย ต่อมาลูกสาวสามารถชักชวนพ่อบ้านเข้าวัดได้สำเร็จ
- เพราะ...พ่อบ้านได้มีบุญเก่าที่เคยสร้างมากับหมู่คณะเป็นหลัก กอปรกับการที่ลูกได้สร้างองค์พระธรรมกายให้พ่อบ้าน และอธิษฐานจิตให้เป็นครอบครัวธรรมกายมาเสริมด้วยจ่ะ!
3. พ่อบ้านตัดสินใจทำบุญช้า ซึ่งต่างจากลูกที่ตัดสินใจเร็วกว่า ก็เป็นนิสัยที่ติดมาข้ามชาติ ที่ชอบตัดสินใจช้า จึงทำให้มาถึงหมู่คณะช้า กอปรกับเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็ต้องห่วงใยครอบครัวและต้องคิดหน้าคิดหลังจ่ะ!
- การตัดสินใจในการทำบุญช้า ก็จะทำให้สมบัติเกิดขึ้นช้าในภพชาติต่อไป , ส่วนการตัดสินใจในการทำบุญเร็ว สมบัติก็จะเกิดขึ้นเร็วในภพชาติต่อไปจ่ะ!
4. ลูกปวดท้องอย่างกะทันหัน เพราะ ...ลูกเป็นโรค “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” ดังที่คุณหมอวินิจฉัย ด้วยวิบากกรรม ที่ในอดีตชาติตอนเป็นเด็กๆชอบ “ฉี่” ไม่เป็นที่เป็นทาง เพราะความเป็นเด็ก , บางครั้งก็เป็นที่สาธารณะ จึงทำให้เลอะเทอะ และทำให้คนอื่นเหม็นรำคาญ
- ดังนั้น วิบากกรรมจึงไม่มากนัก เพราะความเป็นเด็ก แต่ก็มีผลเมื่อถึงคราวกรรมส่งผล , เมื่อทำบุญสร้างองค์พระ บุญนี้จึงตัดรอนวิบากกรรมนี้ไม่ยาก จึงทำให้หายได้จ่ะ! และวิบากกรรมดังกล่าวนี้ก็หมดไปแล้ว
- ส่วนวิบากกรรมอื่น ๆ นั้น ลูกก็ไม่ต้องกังวลใจจนเกินไป ให้สั่งสมบุญทุกบุญให้มาก ๆ แล้วอธิษฐานจิตให้พ้นจากวิบากกรรมที่หากจะมีอย่างอื่นอีก , หนักก็ให้เป็นเบา , เบาก็ให้หายจ่ะ!
5. คุณพ่อของลูกอายุสั้นเพียงแค่ 53 ปี เพราะ ...กรรมทั้งอดีตและปัจจุบันที่ฆ่าสัตว์ทำอาหาร ซึ่งบางทีก็ต้อง “ล่าสัตว์” จ่ะ! มาส่งผล
- ตายแล้วบุญส่งผลก่อนบาป จึงทำให้ท่านได้ไปเกิดเป็น “อากาสเทวา” มีวิมานเป็นเงินขนาดปานกลางไม่ใหญ่มากจ่ะ!
- ได้รับบุญทุกบุญที่อุทิศไปให้ ก็ทำให้สภาพดีขึ้นจ่ะ!
- ส่วนบาปที่เกิดจากการดื่มสุราแม้จะเป็นไปตามเทศกาล ถ้าหากมาปรากฏเป็นกรรมนิมิตกับใครก่อนตายก็ตาม ล้วนต้องไปอบายหมด เพราะใจเศร้าหมอง จ่ะ!
6. คุณแม่เป็น “โรคสมองฝ่อ” พูดไม่ได้ แขนขาใช้งานไม่ได้ เพราะ ...กรรมในอดีตแม่เกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ เลี้ยงหมู ไว้ขายให้เขาฆ่าเอาไว้เยอะ,เวลาจับหมูส่งขายก็,มัดขามันและมัดปากด้วยจ่ะ!
- ส่วน “โรคสมองฝ่อ” เพราะ เวลาค้าขายก็มักจะ “มุสา” ลูกค้าเสมอ กรรมนี้จึงผสมไปได้ ทำให้เป็นโรคดังกล่าวจ่ะ!
- ลูกตัดสินใจถูกต้องแล้ว ที่ไม่ยอมให้คุณหมอตัดขาแม่ เพราะตัดก็ตาย ไม่ตัดก็ตาย เนื่องจากแม่หมดอายุขัยแล้ว
- เหตุที่ลูกไม่ยอมให้หมอตัดขาแม่นั้น ก็เป็นบุญส่วนหนึ่งของแม่ ที่ได้เคยตักบาตรพระ และบุญทำไว้ในพระพุทธศาสนามาส่งผล จึงทำให้ลูกตัดสินใจอย่างนั้น
- และสามารถอดทนต่อการต่อว่าของพี่ ๆ ได้ ซึ่งก็จะทำให้ลูก มีบุญด้านการดูแลบิดามารดา ที่จะติดตามไปส่งผล ให้ลูกได้มีลูกหลานคอยดูแลไม่ทอดทิ้งลูก และหากว่าถึงคราวลำบาก เพราะวิบากกรรมใดในอดีต ก็จะไม่ตกต่ำ ถึงเวลาก็จะมีคนคอยช่วยเหลือจ่ะ!
7. แม่ตายแล้ว ... แบบหลับแล้วตื่นขึ้น กลางวิมานทองของ “ชั้นจาตุมหาราชิกา” เป็นเทพธิดา “สายคนธรรพ์” ด้วยบุญที่ลูก ให้ทำและให้อนุโมทนา รวมทั้งให้นึกถึงบุญในช่วงท้ายของชีวิต ซึ่งท่านมีกำลังบุญเพียงแค่นี้จ่ะ! ...ดังนั้นท่านจึงไม่ได้มาที่บ้านหรือไปฟังสวดพระอภิธรรมที่วัดจ่ะ!
- ส่วนที่ลูกได้กลิ่นแม่ในห้องนั้น ก็เป็นเพียงความ “ผูกพัน” กับท่านเท่านั้นเอง จึงทำให้ได้กลิ่นดังกล่าว จ่ะ!
- ท่านกำลังตื่นเต้นดีใจในทิพยสมบัติ และรู้ว่าที่ท่านมาอยู่ตรงนี้ได้ เพราะลูกให้ท่านทำและทำบุญให้ท่าน , ท่านจึงซาบซึ้งและฝากขอบคุณลูก ที่ทำให้ท่านมาอยู่ตรงนี้ได้จ่ะ!
8. “พ่อสามี” ป่วยเป็น “โรคมะเร็ง” เพราะ ...กรรมในอดีตท่านเกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ถูกใช้ให้ “สุมไฟ” ไล่ยุงให้ “ควาย” บ่อย ๆ จึงทำให้เกิดความรำคาญไม่อยากทำ จึง “สุมไฟประชด” จนควายป่วยตายในเวลาต่อมา
- ท่านใช้มือ “ปัดป้อง” และบอกว่า “ไม่ไป , ไม่ไป” เพราะท่านเห็นเจ้าหน้าที่ “ยมโลก” มารอรับ เพราะถึงคราวหมดอายุขัยของท่าน , ท่านกลัวมากจึงส่งเสียงดังกล่าวและใช้มือปัดป้องจ่ะ!
- ตายแล้วถูกเจ้าหน้าที่พาไป “ยมโลก” และถูกส่งให้มาเป็น “ภุมมเทวา” ระดับดี เพราะบุญที่อุทิศไปให้ กับบุญที่ตัวท่านเคยทำเองบ้างตามประเพณีจ่ะ!
9. ลูกและเพื่อนกัลยาณมิตรอีก 2 ท่าน ก็เคยเป็นกัลยาณมิตรกันมา เคยชวนกันสร้างบุญกับหมู่คณะมาหลายชาติแล้ว แบบ “กองเสบียง” จ่ะ!10. “ลูกฝาแฝด” 2 สาว เคยเกิดเป็นพี่น้องกัน โดยเป็นลูกสาวของลูกในอดีตชาติ ได้สร้างบุญร่วมกันและมักจะอธิษฐานว่า ขอให้ได้มาเกิดเป็นพี่น้องกันอีก แต่ไม่ได้อธิษฐานให้เกิดมาเป็น “ฝาแฝดกัน” แต่จังหวะลงมาเกิด บุญที่เคยทำกับแม่มาส่งผลพร้อมกัน จึงมาเกิดเป็นฝาแฝดกัน
- โดยทั้งคู่ก็มาจากที่ดี เพราะเคยทำบุญกับหมู่คณะมา ให้ลูกประคับประคองลูกทุกคนให้ดี ก็จะสามารถสร้างบารมีช่วยงานพระศาสนาได้จ่ะ!
11. ครอบครัวของลูกเคยเป็น “ครอบครัวธรรมกาย” ได้สร้างบารมีร่วมกันมา โดยพุทธันดรที่แล้ว ก็ได้สร้างบารมีกันแบบ “กองเสบียง” ทั้งครอบครัว
- ที่ลูกเป็นกัลยาณมิตรให้กับคนอื่นได้ ง่ายกว่าญาติพี่น้องของลูก เพราะญาติแต่ละคนมีสายบุญกับหมู่คณะน้อยไปหน่อย จึงทำให้โปรดยากจ่ะ!
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-1043.png)
http://goo.gl/UCKVc