ประวัติพระพุทธศาสนามหายานในเวียดนาม
เวียดนาม ได้รับพระพุทธศาสนามาจากอินเดีย ผ่านเส้นทางการค้าทางทะเล และจากจีน เนื่องจากจีนเคยปกครองเวียดนามอยู่หลายร้อยปี โดยในพุทธศตวรรษที่8 พระมหาชีวกะ ชาวอินเดีย และ พระขวองตังหอย (หรือ กังเซงโฮย) ได้เดินทางเข้ามาประกาศพระพุทธศาสนา ต่อมา พระฉิโจงโหลง (หรือ พระกัลยาณรุจิ) ก็เดินทางไปจีน แปลคัมภีร์พระพุทธศาสนา แล้วจึงกลับเวียดนามในปีพ.ศ.732 ท่านโมวเป๋ย หรือเมียวโป ผู้เปลี่ยนจากการนับถือเต๋ามานับถือพระพุทธศาสนา เดินทางจากประเทศจีน ติดตามโยมมารดามาอยู่เวียดนาม และอยู่ประกาศพระพุทธศาสนา ณ ที่แห่งนี้ปลายพุทธศตวรรษที่11 พระภิกษุชาวอินเดียนามว่า พระวินีตรุจิ (อ่านว่า วิ-นี-ตะ-รุ-จิ) เดินทางเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนา และได้รับการนับถือว่าเป็นสังฆราชแห่งนิกายเธียน (เธียน เป็นคำเวียดนาม ได้แก่ ธยานะ หรือ ฉาน หรือ เซน) เมื่อท่านมรณภาพแล้ว ฝับเหียน ศิษย์ชาวเวียดนามได้เผยแผ่พุทธธรรมอย่างมั่นคงสืบมาพ.ศ.1363 (ยุคราชวงศ์ถังของจีน ปกครองเวียดนาม) พระภิกษุว่อง่อนถ่อง ประดิษฐานนิกายเธียนเป็นครั้งที่2 มีสถูปเจดีย์ 20องค์ และวัดหลายแห่ง มีพระภิกษุประมาณ 500รูป พระเถรานุเถระเป็นพหูสูตและเคร่งครัดในพระวินัย ประมาณพุทธศตวรรษที่15 เมื่อเวียดนามกู้อิสรภาพจากจีนได้สำเร็จ กษัตริย์เวียดนามหลายราชวงศ์ ได้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเรื่อยมา เช่น...สมัย ราชวงศ์ดินห์ พระเจ้าจักรพรรดิทรงเลื่อมใสใน พระภิกษุง่อฉั่นหลู ซึ่งเป็นปราชญ์ด้านกวีนิพนธ์ และเชี่ยวชาญสมาธิ(Meditation)แบบนิกายเธียน จึงได้สถาปนาท่านให้เป็นประมุขแห่งคณะสงฆ์และเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ด้วยต่อมาใน ราชวงศ์เล (ตอนต้น) และ ราชวงศ์ไล พระภิกษุเป็นผู้รอบรู้ในพระพุทธศาสนาและวิชาการต่างๆ ได้รับความเคารพศรัทธามาก กษัตริย์พระองค์ที่2 แห่งราชวงศ์เล ได้ส่งคณะทูตไปประเทศจีน เพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกมา และสนับสนุนให้ชาวเวียดนามหันมานับถือพระพุทธศาสนาแทนการนับถือผี แต่เมื่อถึงตอนปลายของราชวงศ์ การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ประชาชนจึงคลายความศรัทธา และไม่ได้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองต่อมา ในสมัยราชวงศ์ไล ราชวงศ์นี้มีอายุยาวนานถึง 215ปี (พ.ศ.1553-1768) และพระพุทธศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองที่สุด พระเจ้าไลทันต๋อง ได้ประดิษฐานนิกายเธียนอีกเป็นครั้งที่3กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ ทรงสนพระทัย ในการบำเพ็ญสมาธิมาก สละราชสมบัติให้พระราชธิดา แล้วออกผนวชสมัย ราชวงศ์ตรัน พระเจ้าตรันไทต๋อง ทรงนิพนธ์หนังสือว่าด้วยเรื่องสมาธิ หรือทางไปสู่ธยานะ และหลักธรรมค้นคว้า ฮือ-หลุก พระนัดดาของพระองค์ หลังขึ้นครองราชย์ได้ระยะหนึ่ง ก็สละราชสมบัติออกผนวช ณ วัดแห่งหนึ่งบนภูเขา สั่งสอนศิษย์เป็นจำนวนมาก จนชาวเวียดนามเหนือ ถือว่า พระองค์เป็นปฐมสังฆราชแห่งนิกายเวฬุวัน (หรือป่าไผ่)พ.ศ.2426 เวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส มีการควบคุมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ยึดคัมภีร์ไปเผาทำลาย การรวมตัวของพุทธศาสนิกชนเพื่อประกอบพิธีจะต้องได้รับการอนุญาตจากทางการฝรั่งเศสก่อน ความเชื่อเรื่องผีสาง และลัทธิต่างๆ ก็เข้ามาในพระพุทธศาสนา เช่น หว่าเหา และเกาได๋พระพุทธศาสนา ได้รับผลกระทบจากสภาพความวุ่นวายทางการเมืองและสงครามเรื่อยมา สถาบันศาสนาก็ถูกรังแกอย่างไม่เป็นธรรม จนเป็นเหตุของการสร้างความตกตะลึงให้ชาวโลก ในปี พ.ศ.2506 มีพระภิกษุและแม่ชีในเวียดนาม เผาตัวเองประท้วงฝ่ายปกครองกระทั่ง สภาวะทางการเมืองเริ่มสงบลง รัฐบาลลดการจำกัดสิทธิการนับถือศาสนาลงไปบ้าง ชาวพุทธจึงพยายามฟื้นฟูพระพุทธศาสนาขึ้นมาใหม่ จนมีอยู่หลากหลายนิกายในปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะเป็น พุทธบุตรหรือศาสนิก ของนิกายใด ศาสนาใด ต่างก็อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับบ้านเกิดเมืองนอนของตน และด้วยความรักที่มีให้กันและกันอย่างแท้จริง
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-2571.png)
http://goo.gl/AEPcR