บทความดีๆ จากสมาชิกตอน ชีวิตที่นับถ้อยหลังการเกิดของคนเรานับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต เราต่างเลี้ยงฉลองวันเกิดกัน ตั้งแต่พ่อแม่จัดให้และพอ เราโตขึ้น เราก็ฉลองกันเองในหมู่เพื่อน อายุเราเพิ่มขึ้นทำไมเราต้องดีใจนะ ทั้งๆ ที่เราแก่ขึ้น
ตอนที่อายุยังน้อยๆ ความคิดความอยากได้โน้นอยากได้นี่ มันก็ยังเป็นสิ่งเล็กๆ ตามภาษาเด็กคือ ถ้าไม่ของเล่นก็ของกิน พออายุเรามากขึ้นความอยากได้ในปัจจัย 4 มีกว่า 4 เราต้องดิ้นรนหามาให้ได้ สรุปว่า เราเกิดมาพร้อมกับความอยาก หรือ ที่เรียกว่า กิเลส ที่นอนเนื่องอยู่ในกระแสใจของเรา เป็นเหมือน หลุมดำ อยู่ในใจที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรถมให้เต็มได้เลย ยิ่งเราโตขึ้นเวลาชีวิตของเรา เวลาในการใช้ชีวิต ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ ลองคิดดูสิว่า อายุ 1 ขวบ เราอยากได้ของเล่น 2 ขวบเริ่มอยากได้ ของกิน + ของเล่น 3 ขวบ อยากได้ ของกิน + ของเล่น + ไปเที่ยว อายุที่มากขึ้นความอยากก็มากขึ้นตาม ของที่อยากได้ก็ใหญ่ตามวัย แต่ถ้าเราหยุดคิดกันสักนิดนะในเวลา 24 ช.ม ในหนึ่งวัน เราทำอะไรเพื่อ อนาคต บ้าง อนาคต ในที่นี้ไม่ใช่ แค่พรุ่งนี้ ไม่ใช่แค่ ปีหน้า แต่เป็น อนาคตที่หมายถึงโลกหน้า โลกหลังความตายเราไม่คิดกันเลยด้วยซ้ำ ว่าเราตายแล้วเราจะไปไหนจะมีความเป็นอยู่แบบไหน เราใช้ชีวิตอย่างประมาท พึ่งเข้าใจกับคำพูดของ กุนซือท่านหนึ่งท่านมักชอบพูดเสมอว่าพวกไม่รู้ อนาคต หรือ พวกไร้อนาคต เป็นแบบนี้้นี่เอง ด้วยความที่เราไม่รู้ เราจึงดีใจที่เรามีอายุ่เพิ่มขึ้นแต่ในความเป็นจริงที่โหดร้ายก็คือยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร เวลาในการใช้ชีวิตของเรายิ่งน้อยลงไปทุกที อนาคตในโลกเบื้องหน้า เราได้สร้างบ้างรึเปล่า ถ้าสร้างๆ ไว้มากแค่ไหน อันนี้เราต้องถามตัวเราเอง ว่าเราขวนขวายกันจริงรึไม่ แต่ก่อนยังไม่เจอวัดพระธรรมกาย ไม่เคยได้ศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การหาเช้ากินคำทำงานหาเงินมาเลี้ยงชีพต้องเผชิญสิ่งต่างๆมากมาย แทบล้มประดาตายจนเกิดความเบื่อหน่ายในการดิ้นรนหาเลี้ยงชีวิต มากๆอยากจะตายให้มันพ้นๆ ไปจากวังวน วงจรที่แสนเหนื่อยหน่าย ในใจร้องทุกข์ตลอด จนวันหนึ่งได้ฟังธรรมจากทางวิทยุ FM 100.25 mhz ช่อง DMC โดยบังเอิญ ความสงสัยมากมาย , คำถามมากมาย มีคนตอบให้หมด เหมือนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเราเดินในที่มืดมาตลอด แล้ว ช่อง DMC ก็มาจุดไฟส่องทางให้เราได้ดำเนินชีวิตในทางที่ถูกได้การได้พบเจอครูบาอาจารย์ที่ดีที่สุดในยุคนี้มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ คำสอนที่สามารถเปิดใจที่ถูกปิดด้วย กิเลส อวิชา นั้นก็ไม่ธรรมดาเลย ทุกวันนี้เข้าใจแล้วว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเราไม่ใช่แค่ปัจจัย ทั้ง 4 แค่ เท่านั้น เราต้องทำเพื่อ อนาคตในภพเบื้องหน้าด้วย นั้น คือการ นั่งสมาธินี้คือการวาง อนาคต ของเราหากเราขยันในนั่งสมาธิกลั่นกาย วาจา ใจ ของเราให้สะอาดแล้วก็จะนำไปสู่ภพชาติต่อๆไปเราก็ได้มีดวงปัญญาเข้าใจรู้แจ้งได้ เวลาชีวิตของเราดูเหมือนจะเพื่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงมันกำลังนับถ้อยหลังไปสู่ความดับสลาย คือความตายซึ่งมีโลกภพหน้าเป็นที่ไปแน่ๆ อย่าให้เวลาชีวิตเราหมดไปโดยเปล่าประโยชน์เลย ขยันหมั่นเพียรนั่งสมาธิกันเถอะบทความโดย : Pawarisar Boonlertkulpa
http://goo.gl/1yc2HI