พ่อตาย ไปเป็นยักษ์อยู่กับแม่

Case study

พ่อตาย ไปเป็นยักษ์อยู่กับแม่

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 

 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพยิ่ง       

 

    คุณพ่อ เป็นคนพูดไม่เก่ง แต่ทำจริง ขยัน ท่านเป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญตามวัดต่างๆโดยจะไปกับ คุณแม่ เป็นประจำ แต่เมื่อคุณแม่เสียชีวิตไป  ในปี พ.ศ.2545  คุณพ่อก็ดูเงียบขรึมขึ้น ท่านเคยบอกว่า คุณแม่ไม่อยู่แล้วเหงาจัง ท่านคิดถึงคุณแม่  ช่วงเวลาที่คุณแม่ตายนั้นเป็นช่วงเวลาที่ลูกลาออกจากงานพอดี   เพราะลูกต้องการมีเวลาพักผ่อน และดูแลบ้านมากขึ้น จึงเป็นโอกาสให้ลูกรับคุณพ่อมาอยู่ด้วย เพื่อจะได้คอยดูแลปรนนิบัติคุณพ่ออย่างใกล้ชิด   ลูกเคยพาคุณพ่อไปปฏิบัติธรรมที่กาสะลองรีสอร์ท   จังหวัดกาญจนบุรี และที่พนาวัฒน์ ซึ่งท่านชอบมากบอกว่า “พนาวัฒน์เหมือนสวรรค์เลย” คุณพ่อมาทำบุญด้วยตัวเองที่วัดหลายครั้ง เช่น มาถวายภัตตาหาร มางานมาฆบูชา ตอกเสาเข็มอาคาร 60 ปี กฐินจักรพรรดิปี พ.ศ.2546   และอีกหลายงาน   ในปีนี้คุณพ่อก็มีความตั้งใจอยากจะเป็นประธานกฐินจักรพรรดิ   ถวายปัจจัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อสัก 1 ล้านบาท  

 

    คุณพ่อให้ลูกขายที่ดินผืนหนึ่ง    ท่านก็หวังว่าเมื่อขายได้แล้วจะได้นำปัจจัยมาถวายหลวงพ่อ   แต่ในขณะที่ที่ดินมีผู้ต้องการมาซื้อแล้ว   และกำลังอยู่ในช่วงทำสัญญาซื้อขาย และชำระเงิน คุณพ่อก็มาจากไปเสียก่อน ไม่มีโอกาสได้จบเงินก้อนนั้นมาถวายกฐิน

 

    ก่อนที่คุณพ่อจะเสียชีวิตไม่กี่วัน   เด็กรับใช้ในบ้าน จะได้กลิ่นธูป และดอกไม้บ่อยๆ  แต่ก็ไม่ได้สะกิดใจว่านี่คือ ลางบอกเหตุใดๆ หรือไม่ ประกอบกับคุณพ่อป่วยเป็นหลายโรค   เช่น โรคหัวใจ, ความดันโลหิตสูง, เส้นเลือดในสมองตีบ, ต้อหิน และถุงลมโป่งพอง ช่วงนั้นคุณพ่อทานอาหารได้น้อยลง นอนก็ไม่ค่อยหลับ โดยเฉพาะคืนก่อนเสียชีวิต  คุณพ่อผุดลุกผุดนั่งเหมือนจะนอนแต่ก็ไม่กล้านอน  เด็กรับใช้จึงเข้าไปถาม   ท่านตอบว่า “กลัวตาย   กลัวหลับแล้วจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก” ลูกจึงบอกให้คุณพ่อนอนทำสมาธิ(Meditation)ภาวนาไป ไม่ต้องกลัวอะไร   แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็พบว่า คุณพ่อเสียชีวิตแล้วอย่างสงบ ด้วยใบหน้าที่ยิ้ม รวมอายุได้ 86 ปี 

 

    ภายใน  7  วันหลังจากคุณพ่อเสียชีวิตแล้ว   ครอบครัวของลูกมีความรู้สึกว่าท่านยังอยู่ที่บ้าน เพราะบางครั้งสุนัขในบ้านก็กระดิกหาง และทำท่าดีใจ มองไปทางเบาะที่นั่งที่คุณพ่อมักจะนั่งเสมอๆ   ครอบครัวของลูกทุกคน ก็พยายามจะพูดให้คุณพ่อนึกถึงบุญที่ท่านได้ทำมา   บอกให้ท่านมาฟังสวดพระอภิธรรมที่วัด ให้นึกถึงบุญที่ลูกได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้ นึกถึงมหาธรรมกายเจดีย์   และในวันที่  4  หลังจากคุณพ่อได้จากไปแล้ว ลูกและครอบครัวได้นำปัจจัยส่วนหนึ่งมาถวายหลวงพ่อ เพื่อเปิดกองกฐินจักรพรรดิ พ.ศ.2547  ด้วยค่ะ และได้ตั้งชื่อคุณพ่อ และคุณแม่เป็นประธานกอง ซึ่งต่อมาได้พา น้องชาย และครอบครัวมาถวายปิดกองไปแล้วเจ้าค่ะ

 

ลูกขอถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้นะคะ 

 

1.คุณพ่อทำวิบากกรรมใดมาคะถึงป่วยเป็นหลายโรค บุพกรรมใดถึงทำให้ท่านมาเสียชีวิตด้วยอาการสงบ ไม่มีอาการรุนแรงของโรคใดๆเลยคะ

 

2.ก่อนคุณพ่อจะเสียชีวิตไม่กี่วัน   ทำไมเด็กรับใช้ในบ้านจึงได้กลิ่นธูปและดอกไม้  

 

3.ช่วงเจ็ดวันที่คุณพ่อเสียชีวิตแล้ว ท่านนึกถึงบุญได้ไหมคะ และได้มาที่วัดพระธรรมกายบ้างไหมคะ การที่ลูกบอกให้ท่านนึกถึงบุญ และทำบุญกฐินจักรพรรดิให้   ท่านรับรู้หรือเปล่า

 

4.เมื่อครบเจ็ดวัน ได้มีการบรรจุศพคุณพ่อไว้ เพื่อรอครบ 100 วันจึงนำมาเผา ได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น คือ รถเคลื่อนศพซึ่งเป็นรถคันใหม่ของที่วัดได้เกิดการหยุดอย่างกะทันหัน   เมื่อกำลังนำศพไปได้ครึ่งทาง เข็นเท่าไหร่ก็ไม่ไป จนล้อรถแตก จึงต้องให้เจ้าหน้าที่วัดมาแบกศพไปเก็บแทน   ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้คะ หรือว่าคุณพ่อไม่อยากให้เก็บศพท่านไว้คะ

 

5.ขณะนี้คุณพ่ออยู่ที่ไหนคะ ท่านได้พบกับคุณแม่ไหมคะ เพราะท่านเคยบอกว่า ท่านรักคุณแม่มาก   ถ้าตายไปก็อยากจะได้ไปอยู่ด้วยกันอีก และท่านทั้งสองได้รับส่วนบุญส่วนกุศลทั้งหมดที่ลูกทำไหมคะ โดยเฉพาะบุญจากการเป็นประธานกองกฐินจักรพรรดิค่ะ ทุกครั้งเวลาลูกทำบุญจะนึกคุณแม่ตลอดท่านมีความเป็นอยู่ดีขึ้นไหมคะ   โดยเฉพาะบุญกฐินจักรพรรดิในครั้งนี้ ได้ช่วยให้คุณแม่ของลูกเปลี่ยนภพภูมิจากการเป็นยักษ์หรือยังคะ

 

6.ลูกชายของลูกเคยบอกว่า จะบวชให้มานานแล้วค่ะ แต่ก็ติดที่ยังไม่สามารถลางานมาบวชได้ ลูกชายของลูกจะมีโอกาสได้บวชไหมคะ และที่รับปากลูกไว้ว่าจะบวชให้ ถ้าเขาไม่ได้บวชจะเสียสัจจะไหมคะ

 

7.มีคนเคยบอกว่าในขณะที่มีงานอวมงคล เช่น งานศพ   เราไม่ควรจัดงานมงคลขึ้นมา   ควรให้งานอวมงคลผ่านไปก่อนจึงค่อยจัดงานมงคล   ตอนแรกลูกอยากจะทำบุญบ้านถวายภัตตาหารพระ   แต่เพราะอยู่ในช่วงเก็บศพคุณพ่อไว้  100  วัน แล้วค่อยเผา   จึงโดนคัดค้านจากหลายๆคน ต่างบอกว่า “ต้องรอเผาศพคุณพ่อก่อนจึงสามารถทำบุญบ้านได้” เป็นเช่นนี้จริงหรือคะ การจัดงานมงคลเช่นงานทำบุญบ้าน   ในระหว่างที่มีงานอวมงคล คืองานศพอยู่ จะส่งผลอย่างไรคะ

 

8.ลูกและครอบครัวเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ    โดยเฉพาะลูกสาว ซึ่งลูกเข้าวัดได้เพราะมาตามลูกสาวให้ไปทำงานข้างนอก   และลูกสาวก็เป็นคนชักชวนให้ทำบุญ   ตอนนี้   เธอก็ยังสร้างบารมีเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในวัด   เธอมีบุญอะไรถึงได้มาเป็นเจ้าหน้าที่วัด    และการอุทิศลูกสาวให้ได้เข้ามาช่วยงานพระศาสนา จะได้ผลบุญเหมือนกับที่ลูกอยากให้ลูกชายบวชไหมคะ และลูกจะมีโอกาสได้ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษหรือเปล่าคะ

 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที

แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

 

1.คุณพ่อเป็นหลายโรคหลายโรค เพราะอายุท่านมาก ป่วยตามอายุสังขาร กับเศษกรรมฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย

 

 

• เศษกรรมเจ้าชู้ทำให้เป็นโรคหัวใจ เศษกรรมบุหรี่ทำให้เป็นโรคถุงลมโป่งพอง ความดันโลหิตสูง เป็นต้น โดยเศษกรรมดังกล่าวมาส่งผลตอนอายุมากช่วงท้ายของชีวิต

 

 

• ที่ท่านเสียชีวิตด้วยอาการสงบทั้งๆที่เป็นหลายโรค เพราะบุญที่เลี้ยงดูบิดามารดาในอดีตกับบุญปัจจุบันที่ทำบุญรวมทั้งการฝึกสมาธิภาวนาด้วย

 

 

2.ก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเด็กได้กลิ่นธูปและดอกไม้ เพราะเด็กรู้สึกไปเอง ความจริงไม่มีอะไร

 

 

3.ท่านรับรู้เรื่องบุญกฐินจักรพรรดิ ทำให้ท่านเห็นทางสว่าง จึงเดินไปตามทางนั้นแล้ววูบไปเกิดกลางวิมานทองชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นยักษ์หล่อมีวิมานติดกับแม่ เพราะความรักและผูกพันกัน อีกทั้งได้ทำบุญร่วมกันช่วงมีชีวิตอยู่ ไม่ได้มาวัดพระธรรมกายภายหลังจากที่ตายแล้ว

 

 

4.วันที่นำศพคุณพ่อไปเผา ได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น จนเจ้าหน้าที่วัดต้องมาแบกศพไปเก็บแทนนั้น เป็นเหตุบังเอิญที่รถเกิดเสียขึ้นมา แม้เป็นรถใหม่ก็ตาม ไม่ได้เป็นเพราะคุณพ่อไม่อยากให้เก็บศพ

 

 

• เพราะท่านไม่ได้สนใจร่างของท่าน ขณะนี้ท่านกำลังสนใจสังคมใหม่และความดีใจที่ได้พบคุณแม่ซึ่งเป็นยักษ์สวย ที่มีวิมานติดกันสมความปรารถนาของท่าน

 

 

5.ท่านทั้งสองได้รับบุญที่เป็นประธานกฐินจักรพรรดิ ทำให้ท่านมีสถานดีขึ้นมาก แต่ยังไม่เปลี่ยนภพภูมิ คือ มีทิพยวิมานใหญ่โต มีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้น ได้เข้าไปอยู่ในสังคมไฮโซของยักษ์ เพราะท่านทั้งสองมีรัศมีที่สว่างมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ

 

 

6.ลูกชายเขากำลังมีความสนุกกับงาน และตั้งใจที่จะบวชให้แม่อยู่แล้ว ต้องคอยให้เขาพร้อมกว่านี้ ให้คุณแม่ใจเย็นๆ ค่อยๆพูดจาดีๆ กับเขา ลูกชายคนนี้เขาเป็นคนมีพื้นฐานใจดีและมีบุญ ที่สำคัญเขาก็รักคุณแม่ ดังนั้นเขาไม่เสียสัจจะแน่

 

 

7.การทำบุญทำได้ตลอดเวลา แต่ต้องปรารภเหตุให้เหมาะสม เช่นในตอนนี้อยู่ในช่วงเก็บศพพ่อ 100 วัน ทุกคนกำลังอยู่ในอารมณ์เศร้า ถ้าจัดงานทำบุญบ้านซึ่งดูเหมือนงานรื่นเริงก็จะมีหลายคนรับไม่ได้

 

 

• ดังนั้นต้องปรารภเหตุว่าทำบุญบ้านเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับคุณพ่อ-คุณแม่ ที่ละโลกไปแล้ว อย่างนี้ก็จะเหมาะสม และทุกคนสามารถรับได้ว่า เป็นงานบุญทักษิณาทาน ไม่ใช่งานรื่นเริง บุญนี้ก็จะถึงแก่คุณพ่อ-คุณแม่ และทุกคนก็จะได้บุญด้วย

 

 

8.ลูกและครอบครัวได้เป็นกองเสบียงมาหลายชาติ โดยเฉพาะลูกสาว ชาติที่ผ่านมาเป็นลูกชายเศรษฐีทั้งหล่อทั้งรวย มีนิสัยเจ้าชู้ จึงมีสาวๆ มาติดเยอะ

 

 

• ต่อมาได้มาเจอกัลยาณมิตรแนะนำให้มาเจอหมู่คณะ แล้วศรัทธาอยากบวช แต่ทางบ้านไม่ยอม เลยบอกกับทางบ้านว่าจะบวชชั่วคราว

 

 

• แต่พอบวชไปแล้วก็มีศรัทธาเพิ่มขึ้นจึงบวชไม่สึก มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี คือ เห็นองค์พระในตัว ต่อมาทางบ้านเห็นดีเห็นงามแล้วอนุโมทนา

 

 

• ดังนั้นชาตินี้เศษกรรมเจ้าชู้ จึงทำให้เป็นผู้หญิง แต่กระแสธารแห่งบุญที่เคยทำร่วมกันมากับหมู่คณะ จึงมีอัธยาศัยอยากประพฤติพรหมจรรย์สร้างบารมีกับหมู่คณะ

 

 

• จึงได้ทำคล้ายๆ กับชาติที่ผ่านมา คือ ออกจากบ้านแล้วก็เข้าวัดสร้างบารมีเลย แม้สมาชิกในครอบครัวไม่เห็นด้วยก็ตาม

 

 

• หากลูกอนุโมทนาบุญที่ลูกสาวได้อุทิศตนสร้างบารมีกับหมู่คณะด้วยใจชื่นบาน ลูกก็จะมีส่วนแห่งบุญทุกบุญที่ลูกสาวได้กระทำมา แล้วมีสิทธิ์ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ

 

http://goo.gl/9LbLu