Case studyภาพหลอนหรือของจริงเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMCกราบนมัสการหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพรักอย่างยิ่งครอบครัวของลูกมีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศลาว ต่อมาในปี 2528 ได้ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา รัฐมินิโซต้า ขณะนั้นลูกอายุเพียง 9 ปีครอบครัวของลูกได้มารู้จักกับวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2547 จากการแนะนำของกัลยาณมิตรผู้นำบุญท่านหนึ่ง ที่มาให้สัมภาษณ์ทางรายการธรรมะภาคภาษาลาวของแนททีวี (Nat TV) ที่ออกอากาศในสหรัฐอเมริกา ทำให้บ้านของลูก บ้านของคุณพ่อและบ้านเพื่อนของคุณพ่อ ติดจานดาวธรรม 3 ดวงแรกของรัฐมินิโซต้าค่ะ แล้วพวกเราทั้ง 3 ครอบครัว ก็ได้เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเราได้ช่วยกันทำหน้าที่ขยายจานดาวธรรมในรัฐมินิโซต้า ได้มากกว่า 52 ดวง และได้ร่วมกันทำบุญเสาแก้วพันปี 1 ต้นอีกด้วยค่ะครอบครัวของลูกก็มีเหตุการณ์แปลกประหลาด ก่อนที่จะมาพบกับ DMC ดังนี้ค่ะคุณยาย ก่อนจะมาแต่งงานกับ คุณตา มีลูกชายติดมาด้วย 1 คน ลูกชายคนนี้พออายุได้ 6 ขวบได้ตายเพราะเป็นไข้ แล้วกลับฟื้นขึ้นมากลายเป็นคนใบ้ พอคุณยายมาแต่งงานกับคุณตาก็มีลูกอีก 1 คน คือ คุณแม่ของลูกเอง เมื่อคุณตา อายุได้ 30 กว่าปี ได้ออกไปล่าเนื้อในป่า แล้วก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยคุณแม่ จบวิทยาลัยครูที่ประเทศลาว แล้วเข้ารับราชการครู แต่รับราชการครูอยู่เพียง 2 ปี ดวงตาของคุณแม่ก็พร่ามัวมองเห็นไม่ชัด ต้องหยุดการสอนหนังสือไป คุณแม่จงเริ่มแสวงหาธรรมะเป็นที่พึ่งทางใจ โดยฟังธรรมจากพระอาจารย์บ้าง ซื้อเทปธรรมะดีๆ มาฟังบ้างคุณพ่อ ได้แต่งงานกับคุณแม่ ตอนที่คุณแม่ยังรับราชการครูอยู่ หลังแต่งงานได้เพียง 1 ปี ตาของคุณแม่ก็พร่ามัว ท่านมีลูกด้วยกัน 6 คน ชาย 3 คน หญิง 3 คน สมัยอยู่หลวงพระบางคุณพ่อผอมมากเพราะไม่ได้นอน เนื่องจากมีผีมาอำเกือบทุกคืน คืนละหลายๆ ครั้ง ผีตัวนั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ ตัวดำทะมึน ชอบมายืนจังก้าอยู่หน้าประตู คุณแม่ต้องคอยลุกขึ้นมา กระทืบเท้าไล่ ร่างผีนั้นจึงหายไปสำหรับตัวลูกมักจะเห็นภาพและได้ยินเสียงต่างๆ ที่หาสาเหตุไม่ได้มาเป็นเวลากว่า 10 ปี แล้ว ดังเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ค่ะลูก ขณะอยู่ประเทศลาว ตอนอายุ 6 ขวบ ได้เห็นเด็กห่มผ้าสีขาวเหมือนผ้าห่อศพคลุมไปทั้งตัว เดินออกมาจากต้นมะม่วง มายืนมองหน้าลูก เขาเป็นเด็กผู้ชาย ลูกคิดในใจว่าเป็นผีอย่างแน่นอนจึงกลัว แล้ววิ่งไปอยู่ที่บ้านของเพื่อน พอลูกโตขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งพบภาพและเสียงประหลาดต่างๆ บ่อยขึ้น เมื่อมาอยู่อเมริกา วันหนึ่งขณะที่ลูกว่ายน้ำอยู่ในสระหลังบ้าน ลูกก็เห็นเงาของผู้ชายสีดำกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ในสระด้วย ขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัยลูกได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวยงามมากเหมือนนางฟ้ามีผมยาวหยักเป็นลอนเดินผ่านหน้าลูกไปพร้อมกับยิ้มให้ลูกด้วย และขณะที่ลูกเดินอยู่ในมหาวิทยาลัย ก็เห็นคนหน้าขาวๆ สูงประมาณ 7 ฟุต เดินไปเดินมา ทั่วบริเวณเขตมหาวิทยาลัยแต่ที่แปลกคือเท้าเขาไม่ติดพื้น ในบางครั้งขณะที่ลูกเดิน อยู่บนถนน ก็เห็นเงาของคนอยู่ตามถนนด้วยตาเนื้อของตนเอง มีคนเดียวบ้างมี เป็นครอบครัวบ้าง แม้ในยามกลางคืนลูกก็เห็นเช่นกัน คืนหนึ่งขณะที่ลูกกำลังทำการบ้านวิชาดาราศาสตร์อยู่ในห้อง ก็ปรากฏมีเงาสีดำเดินผ่านหน้าไป พร้อมๆ กับเสียงสุนัขหอนโหยหวนสอดรับขึ้นมายังกะนัดกันไว้ ครั้งนี้ลูกรู้สึกกลัวมากแทบจะทนไม่ไหว ลูกคิดว่าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปลูกคงบ้าตายแน่ๆ จึงไปเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง ท่านสงสารลูกมากหาวิธีการช่วยทุกวิถีทาง จึงพาลูกตระเวน ไปหาพระอาจารย์ที่เก่งๆ ทั้งพระลาว พระเขมร หมอดู ร่างทรง หมอผี และเจ้าพ่อต่างๆ รวมแล้วมากกว่า 20 แห่งทั้งที่ในอเมริกาที่ประเทศลาวและที่เมืองไทยพอลูกอายุใกล้ 22 ปี ลูกได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งมาคอยพูดกับลูกอย่างชัดเจน ลูกไม่ชอบที่เขามาบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ดีแนะนำให้ลูกพูดจาหยาบคายขึ้นมึงขึ้นกูกับท่าน ซึ่งปกติแล้วลูกจะสุภาพพูดจาไพเราะกับพ่อแม่ แต่ช่วงเวลาที่เขามา ลูกจะหงุดหงิด เหมือนโดนสะกด รู้สึกว่าเขากำลังเข้ามาหาลูก เสียงของเขาบังคับให้ลูกเดินเข้าไปในห้องนอน แล้วปิดประตู ลูกจะรู้สึกปวดหัว ง่วงนอนมากไม่มีแรง แม้รู้สึกตัวอยู่แต่ช่วยอะไรตัวเองไม่ได้ แขนขาอ่อนต้องนอนลงกับพื้น พอเริ่มเคลิ้มจะเห็นเหมือนมีร่างหนึ่งเคลื่อนเข้ามาทับร่างของลูก มีความรู้สึกว่าเหมือนมีงูมานอนด้วย ลูกจะเป็นอย่างนี้แทบทุกวันจนต้องเข้าโรงพยาบาลถึง 6 วัน หมอวินิจฉัยว่า ลูกเป็นโรคประสาทอย่างรุนแรง ฟังแล้วทำให้หมดกำลังใจชีวิตรู้สึกโดดเดี่ยวเคยมีคนมาสู่ขอลูกหลายคนแต่ลูกต้องปฏิเสธไปเพราะเพียงแค่มีคนมาจีบและขอแต่งงานด้วยเท่านั้น เสียงผู้ชายคนนั้นก็จะมาพูดสะกดบังคับลูกอย่างหนักกว่าที่เคยทำ จนลูกทนไม่ไหวเหมือนดั่งว่าไม่อยากจะให้ลูกแต่งงานกับใคร คุณแม่จึงไปนิมนต์เกจิอาจารย์รูปหนึ่งอายุ 80 ปี ให้มาช่วยเหลือ ปัดเป่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูก ท่านมาทำพิธี “ปัดหย่า” กับงูตัวนั้นให้ลูก โดยทำกระทง 3 หน้า เอาอาหารใส่ในกระทง เอาด้ายสายสิญจน์พันรอบตัวลูกแล้วสวดทำน้ำมนต์ จากนั้น 1 อาทิตย์ก็ไปทำพิธีหย่าร้างกับงูที่วัดของท่าน ตั้งแต่นั้นมาลูกก็ไม่เห็นสิ่งต่างๆเหล่านั้นด้วยตาเนื้ออีกเลย แต่ภาพหลอนยังเข้ามารบกวนอยู่ในความคิดของลูกพอลูกสำเร็จการศึกษาแล้ว อาการนี้ก็ยังมีอยู่ ลูกรู้สึกอ่อนล้ามาก ปัจจุบันนี้ยังไม่ได้งานทำที่เหมาะสมกับความรู้ระดับปริญญาตรีเลย นึกในใจว่าที่หมอผีพูดท่าจะเป็นจริง คือ ลูกต้องบวชชีไปตลอดชีวิตในชาตินี้ แล้วทุกอย่างจึงจะดีขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2546 ลูกได้รับข่าวร้ายจากหมอว่าลูกเป็นมะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ และต้องผ่าตัดออก ลูกรู้สึกหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตอีกครั้ง ลูกรู้สึกกลัวมาก แต่ลูกยังโชคดีที่หมอบอกว่าโรคร้ายของลูกนั้นสามารถรักษาได้ถึง 96 เปอร์เซ็นต์ และลูกก็สามารถมีชีวิตได้เหมือนคนปกติ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ลูกก็รู้สึกว่าลูกไม่เหมือนเดิม แม้ว่าลูกจะไม่ตายด้วยโรคนี้ก็ตามปัจจุบันโรคร้ายของลูกดูเหมือนเป็นปกติแล้ว แต่อย่างไรก็ตามลูกยังเห็นภาพลวงตาเป็นบางครั้ง ลูกได้ฝึกสมาธิ(Meditation)กับพ่อแม่ของลูกเกือบทุกคืน ยามที่ลูกนั่งสมาธิ บางครั้งลูกก็เห็นองค์พระ หรือแสงสว่าง นอกจากนี้ครั้งหนึ่งลูกได้เห็นแสงพระอาทิตย์และรู้สึกถึงความสุขภายในเหมือนอยู่ในความฝันจึงกราบขอความเมตตาหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ไขปัญหาที่ค้างคาใจของลูกและครอบครัวมานานแสนนานดังคำถามต่อไปนี้ค่ะ
1. คุณตาที่หายสาบสูญไปนั้น ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ถ้าตายแล้ว ท่านตายด้วยสาเหตุใด ตายแล้วไปไหน มีสภาพเป็นอย่างไร
2. คุณยายเป็นคนทำบุญตามประเพณี ปรโลกของท่านเป็นอย่างไร ได้รับบุญที่ลูกหลานอุทิศไปให้หรือไม่
3. พี่ชายของคุณแม่ที่ตายแล้วฟื้นขึ้นมาเป็นใบ้มีบุพกรรมอย่างไร และควรให้ท่านทำบุญอะไรจึงจะช่วยให้ท่านพูดได้คะ
4. คุณพ่อของลูก ตอนที่อยู่หลวงพระบาง มีผีมาอำทุกคืนจริงหรือ ไม่ อยากทราบว่าผีตนนั้นเป็นใคร และเกี่ยวข้องกับคุณพ่ออย่างไร ทำไมพอคุณแม่กระทืบเท้าไล่จึงหายไป
5. บุพกรรมใดดวงตาของคุณแม่จึงมองเห็นไม่ชัดขึ้นมาเฉยๆ ต้องทำบุญอะไรจึงจะช่วยให้ท่านมองเห็นได้คะ แม้ตาท่านไม่เห็นแต่ทำไมท่านจึงมีความจำดีมาก โดยเฉพาะจำหัวข้อธรรมต่างๆ
6. บุพกรรมใดทำให้ลูกเป็นมะเร็งที่ไทรอยด์ จะแก้ไขวิบากกรรมนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร
7. ภาพต่างๆ ที่ลูกเห็น เช่น เด็กผู้ชายที่เดินออกมาจากต้นมะม่วง เงาดำของผู้ชายที่สระน้ำและที่มหาวิทยาลัย ผู้หญิงสวยเหมือน นางฟ้าและผู้ชายหน้าขาวที่สูงประมาณ7ฟุตเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นจริงหรือไม่ พวกเขาเป็นใคร ทำไมลูกถึงเห็นสิ่งเหล่านี้เจ้าคะ? การที่ลูกเห็นเป็นเช่นนี้เพราะบุพกรรมใด มีสิ่งใดทำกับลูกหรือไม่หรือว่าลูกเป็นโรคประสาทจริงๆ
8. ทำอย่างไรลูกจึงจะมีสุขภาพกายใจปกติไม่มีเสียงและภาพหลอนเหล่านั้น หรือว่าชาตินี้ลูกต้องบวชชีไปตลอดชีวิตเหมือนคำที่หมอผีบอก ลูกจะมีโอกาสหางานที่ดีเหมาะสมกับความรู้ที่เรียนจบมาไหมคะ
9. อาการที่ลูกเป็นนี้ ลูกจะสามารถปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงองค์พระธรรมกายภายใน และไปดุสิตบุรีกับหลวงพ่อได้ไหมเจ้าคะ?
10. น้องชายคนถัดจากลูก มีอาการทางโรคประสาท ไม่พูดกับใคร นอนคลุมโปงตลอดเวลา แต่พอได้ยินเสียงของหลวงพ่อทางจานดาวธรรมเขาพูดว่าเสียงหลวงพ่อมาช๊อตตัวเขา แล้วก็ลุกขึ้นมาทั้งๆที่ยังคลุมโปงอยู่ เดินหันหลังไปหาจอทีวีเพื่อปิดเสียง พอคุณแม่มาเปิดใหม่ น้องชายก็จะมาปิดอีก เป็นเพราะบุพกรรมใดและมีวิธีแก้ไขให้เขาหายได้ย่างไร
11. ลูกและครอบครัวสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรค่ะ
ฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ทีแล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ1. คุณตาตายแล้ว เพราะถูกเสือกัดและถูกคาบไปกินแล้ว ด้วยวิบากกรรมที่เคยเป็นนายพรานล่าสัตว์ในอดีตตามมาส่งผล
- ตายแล้วก็ไปเกิดเป็นสัตว์อยู่ในป่าหลายรอบแล้ว จึงยังไม่อาจรับบุญได้จ่ะ!
2. คุณยายตายแล้วไปเป็น “อากาสเทวา” ด้วยบุญที่ทำตามประเพณี
- ได้รับบุญที่ลูกหลานอุทิศไปให้ ก็ทำให้ท่านมีสภาพที่ดีขึ้นในทุกด้าน
- ท่านดีใจและฝากขอบคุณลูกหลานทุกคน ที่ทำบุญอุทิศไปให้ท่านจ่ะ!
3. พี่ชายของคุณแม่ ตายแล้วฟื้นขึ้นมาเป็น “ใบ้” เพราะ ...กรรมในอดีตที่ฆ่าสัตว์ทำกับแกล้มสุรา แต่ที่ฟื้นขึ้นมาได้ เพราะ บุญที่ได้ทำไว้ในพระพุทธศาสนามาช่วยไว้
- ส่วนที่ฟื้นขึ้นมาแล้วเป็นใบ้ เพราะ ...เศษกรรมสุรา และกรรมที่บิดาแช่งเอาไว้ในอดีต เรื่องมีอยู่ว่า ในชาตินั้นชอบดื่มเหล้าเมาบ่อย ๆ ในวัยรุ่น เลยถูกบิดาตักเตือน , เฆี่ยนตีบ่อย ๆ
- เลยไม่ยอมพูดกับบิดาเป็นเวลานาน จึงทำให้ท่านโกรธขึ้นมา เลยแช่งให้เป็นใบ้จ่ะ!
- ก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญให้มากๆแล้วอุทิศส่วนกุศลนี้ให้กับบิดาในอดีตชาติบ่อยๆ ก็จะทำให้ดีขึ้นบ้างจ่ะ!
4. “คุณพ่อ” ของลูกตอนอยู่หลวงพระบางนั้น ท่านคิดว่าท่านถูกผีอำทุกคืน จริง ๆ แล้วไม่ได้มีผีอำ เป็นความคิดคำนึงของท่านที่คิดไปเองจ่ะ!
- ที่มีอาการอย่างนี้ เพราะ วิบากกรรมในอดีต ที่ชอบเรื่องสิง ๆ ทรง ๆ ไสยเวท ได้ตามมาส่งผล
- ส่วนที่เวลาคุณแม่กระทืบเท้าไล่ แล้วอาการเหล่านี้หายไป เพราะพ่อได้มีสติกลับคืนมาจ่ะ!
5. คุณแม่มีอาการดวงตาเห็นไม่ค่อยชัดขึ้นมาเฉย ๆ เพราะ...กรรมในอดีตที่ชอบจับปลามาขังไว้ในตุ่มเป็นเวลานาน ๆ เพื่อเตรียมทำอาหาร
- กับอีกกรรมที่ใช้ยางไม้ผิดชนิด ไปหยอดตาให้น้องสาวจนตาบอดโดยไม่มีเจตนา เรื่องมีอยู่ว่า ตัวท่านในชาตินั้นได้ทราบว่า ยางไม้ชนิดหนึ่งสามารถรักษาโรคตาได้ จึงเกิดความคิดที่จะช่วยน้องสาวที่มีอาการทางตา
- จึงไปตัดไม้อีกชนิดหนึ่งมา เพื่อเอายางมาหยอดดวงตา จนดวงตาน้องสาวมองไม่เห็นจ่ะ!
- ต้องทำบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา โดยเฉพาะบุญปล่อยสัตว์ปล่อยปลา และจุดประทีปบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ท่านจ่ะ! แล้วอุทิศบุญกุศลไปให้ “คู่กรรม” ในอดีตจ่ะ!
- ท่านมีความทรงจำได้ดีทุกอย่างโดยเฉพาะหัวข้อธรรม เพราะท่านต้องการหาที่พึ่ง จึงสนใจทางธรรมเป็นพิเศษ และระบบประสาทส่วนอื่นก็จะดีเป็นพิเศษทดแทนการมองไม่เห็นจ่ะ!
6. ลูกเป็น “มะเร็งที่ไทรอยด์” เพราะ ...กรรมในอดีต ที่ชอบ “ผูกโกรธ , อาฆาต พยาบาท” รวมทั้งกรรมฆ่าสัตว์ต่าง ๆ เช่น ฆ่าสัตว์ทำอาหาร ต่างกรรมต่างวาระมารวมกันส่งผลจ่ะ!
- จะแก้ไขลูกก็จะต้องสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทำทาน , รักษาศีล , เจริญภาวนา แผ่เมตตาบ่อย ๆ รวมทั้งต้องปล่อยสัตว์ปล่อยปลาให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน แล้วอุทิศบุญกุศลนี้ไปยังสัตว์ทั้งหลายที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาไว้จ่ะ!
7. ภาพต่าง ๆ ที่ลูกเห็น เช่น เด็กผู้ชายเดินออกมาจากต้นมะม่วง , เงาดำของผู้ชายที่สระน้ำและมหาวิทยาลัย , ผู้หญิงสวยเหมือนนางฟ้า , ผู้ชายหน้าขาวสูง 7 ฟุต
- เพราะวิบากกรรมในอดีตเวลาลูกโกรธหรือผูกพยาบาทอาฆาตใคร ก็มักจะไปจ้างหมอผีใช้วิชาไสยเวทไปรบกวนเขา
- ด้วยวิบากกรรมนี้ จึงทำให้ลูกเห็นภาพหลอนต่าง ๆ เหล่านี้มากมายจ่ะ!
- แต่ลูกก็ไม่ได้เป็นโรคประสาท , เป็นโรคเกิดจากวิบากกรรมดังกล่าวจ่ะ!
8. ลูกต้องหมั่นอยู่ในบุญทุกบุญดังกล่าว ก็จะทำให้ค่อย ๆ ดีขึ้นจ่ะ!
- ส่วนเรื่อง “บวชชี” ให้ตลอดชีวิตตามที่หมอผีบอกนั้น ก็ไม่จำเป็นจ่ะ!
- แล้วแต่ลูกจะมีศรัทธาแค่ไหนเท่านั้นแหละจ่ะ!
- ให้ลูกนึกถึงบุญแล้วอธิษฐานให้ได้งานดี ๆ ที่จะทำให้ลูกมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองจ่ะ!
9. ลูกสามารถปฏิบัติธรรมได้ในระดับหนึ่งจ่ะ! แล้วสั่งสมบุญทุกบุญให้มาก ๆ แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ ให้สม่ำเสมอทุกวันก็มีสิทธิ์จ่ะ!10. น้องชายคนถัดจากลูกไป มีอาการทางประสาท เพราะเศษกรรมดื่มสุราในอดีตตามมาส่งผลจ่ะ!
- จะแก้ไขก็ให้ทำบุญให้เขาทุกบุญ แล้วอธิษฐานให้บุญบันดาลให้หนักเป็นเบา , เบาเป็นหายจ่ะ!
11. ลูกและครอบครัว เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา “แบบกองเสบียง” แต่ไม่สม่ำเสมอ , ดังนั้นบางชาติก็เจอกัน , บางชาติก็ไม่เจอ
- เมื่อมาเจอกันในชาตินี้แล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีทุกบุญอย่าให้ตกหล่น , ผังนี้ก็จะได้หนาแน่น แล้วอธิษฐานตามติดไปดุสิตวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-1007.png)
http://goo.gl/cqixv