CASE STUDYป่วยหนักใกล้ตาย...ก็เห็นได้เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMCขอกราบนมัสการหลวงพ่อครับลูก เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันอยู่ที่เชียงใหม่ มีอาชีพเป็นหมอศัลยกรรม ได้เข้าฟังอนุบาลฝันในฝันมาประมาณ 1 ปีครึ่ง ลูกได้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะ Case study ลูกชอบมาก เพราะทำให้รู้สาเหตุของโรคต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้ลูกนำไปใช้อธิบายกับคนไข้ของลูกได้ดีมากครับ
มี ผู้ป่วยรายหนึ่ง เธอเป็นมะเร็งเต้านม ได้ผ่าตัดเต้านมออกไป 1 ข้าง 5 ปีต่อมาพบว่ามีมะเร็งแพร่ไปที่ปอดทั้งสองข้าง หมอที่รักษาเธออยู่ก็นัดให้มาพบลูก แต่เธอไม่ได้มาหาทันที อีก 9 เดือนจึงมาหาด้วยอาการน้ำท่วมปอด ลูกจึงให้ยาเคมีบำบัด 6 เดือนต่อมา อาการดีขึ้นมาระดับหนึ่ง แต่ก็อ่อนเพลียเดินไม่ไหว ตัวซีด ต้องมาให้เลือดเป็นช่วงๆ และทานยาบำรุงเลือดตลอด ลูกได้บอกเขาตรงๆ ว่า หมอรักษาให้ไม่หายขาดหรอกนะ เวลาที่เหลืออยู่ก็มีน้อย เราต้องทำบุญมากๆ รักษาศีลให้ดี และทางที่ดีควรรักษาศีล 8 ต้องนั่งสมาธิ(Meditation)ทุกวัน และต้องทำอย่างจริงจังด้วยนะ แล้วก็ให้อธิษฐานจิตด้วยเสมอ เธอก็รับปากว่า “ทำ” ทุกครั้ง จนมาวันหนึ่งเธอกลับมานอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในสภาพที่แย่มากๆทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะสังเกตจากใบหน้าดูเศร้าหมองมาก ลูกจึงพูดคุยสอบถามหลายเรื่อง จนถึงเรื่องการนั่งสมาธิว่าทำหรือเปล่า เธอก็บอกว่า “ทำ” ลูกจึงถามต่ออีกว่าทำแบบไหน เธอก็บอกลูกว่าโดยการสวดมนต์ ลูกจึงอธิบายว่าการสวดมนต์เป็นการรวมใจให้เป็นสมาธิระดับเบื้องต้นเท่านั้น อยากทำจริงๆจัง ๆไหม หมอจะสอนให้ เธอก็ตอบตกลง คืนนั้นลูกเลยเอา CD ของคุณครูไม่ใหญ่ที่ลูกตัดต่อไว้สำหรับนั่งสมาธิส่วนตัว ไปเปิดให้เธอฟังและนั่งสมาธิไปพร้อมๆ กันเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เธอนั่งได้นิ่งมากและเธอก็รู้สึกชอบมากด้วย เธออยากนั่งต่อ ลูกจึงให้วิทยุและ CD แก่เธอไว้ฟัง รุ่งเช้าลูกได้เข้าไปเยี่ยมตอนเช้า ก็พบว่าใบหน้าของเธออิ่มเอิบ เหมือนคนละคนกับเมื่อวานเลยครับ ลูกจึงให้ CD แผ่นนั้นแก่เธอเพื่อไปนั่งต่อที่บ้าน
ต่อมาเธอก็มานอนรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกหลายครั้ง มีครั้งหนึ่งลูกก็ถามว่านั่งสมาธิเป็นอย่างไรบ้าง เห็นอะไรไหม เธอบอกกับลูกว่าเธอเห็นองค์พระแต่องค์พระยังอยู่นอกตัวอยู่ ลูกก็รู้สึกแปลกใจที่เธอมีประสบการณ์ภายในเร็วจัง แต่ก็คิดว่ายังคงเป็นเพียงนิมิตอยู่ จึงบอกเธอให้นั่งสมาธิต่ออย่าให้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว และนั่งให้นิ่งๆ พร้อมทั้งอาราธนาองค์พระให้มาอยู่กลางท้องนะอยู่มาวันหนึ่งเธอเล่าให้ลูกฟังว่า ฝันว่ามีคนมาหา โดยคนที่มาหานั้นเป็นคนที่ตายไปแล้ว มาชวนให้ไปอยู่ด้วย เธอเล่าต่อว่าในขณะที่จะไป ก็มีแม่ชีองค์หนึ่งมาจับที่ข้อมือของเธอไว้ แล้วบอกกับเธอว่ายังไม่ถึงเวลา ลูกก็แปลกใจมาก และสงสัยว่าแม่ชีองค์ไหน เพราะลูกยังไม่เคยแนะนำหรือเอารูปอะไรมาให้เธอดูเลย แม้แต่รูปของหลวงพ่อ เธอก็ยังไม่เคยเห็นเลย ได้ฟังแต่เสียงของหลวงพ่อเท่านั้น ลูกจึงเดินไปหยิบหนังสืออยู่ในบุญฉบับที่มีรูปคุณยายอาจารย์ แล้วแกล้งเปิดหนังสือให้ดูรูปพระมหาธรรมกายเจดีย์ เปิดไปเรื่อยๆ จนถึงหน้ารูป คุณยายอาจารย์ เธอก็หยุดดูสักพักหนึ่งอย่างตั้งใจ แล้วบอกลูกว่า แม่ชีองค์นี้แหละที่เล่าให้คุณหมอฟังว่า มาจับข้อมือของเธอ แล้วบอกว่ายังไม่ให้ไป เพราะยังไม่ถึงเวลา ลูกรู้สึกปลื้มปิติมากครับที่คุณยายอาจารย์คอยดูแลพวกเราลูกๆ หลานๆ ทุกคน ต่อมาก่อนกฐินปี 47 ในเดือนพฤศจิกายน เธอมารักษาในโรงพยาบาลอีกครั้งด้วยเรื่องชัก ซึ่งผมคาดว่าเนื้อร้ายคงจะไปที่สมองแล้ว จึงบอกเธอว่าต้องทำบุญใหญ่ ก็คือบุญกฐินพระราช เธอก็ร่วมบุญมากับลูก ลูกได้บอกเธอให้ระลึกถึงบุญทุกบุญที่ทำมา นึกถึงองค์พระไว้ นึกถึงกฐินที่หมอจะไปทำให้นะ และลูกก็บอกกับญาติทุกคนว่าห้ามนำเรื่องไม่สบายใจมาคุยกับผู้ป่วยเด็ดขาด และให้ทวนบุญที่คนไข้ทำด้วย ญาติๆ ถามลูกว่าจะไหวไหมหมอ... ลูกก็บอกไปว่า “แล้วแต่ญาติๆ ว่าจะให้เธอตายที่บ้านหรือที่โรงพยาบาลก็ได้ เพราะหมอก็ทำได้ดีที่สุดแค่นี้ และคาดว่าอาจจะเสียชีวิตในวันสองวันนี้” ญาติจึงขอนำกลับบ้านในขณะที่ลูกลงมาวัดพระธรรมกายเพื่อมาทำกฐินพอดี
หลังจากลูกทำกฐินเสร็จ ลูกก็ให้เจ้าหน้าที่โทรไปเช็คอีก เธอบอกว่ายังมีชีวิตอยู่ แถมยังลุกขึ้นมาพูดได้ ลูกก็ประหลาดใจ แต่ก็คิดว่าก็คงได้อีกไม่นานหรอก เวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือนกว่า ลูกฉุกใจคิดถึงผู้ป่วยรายนี้ จึงให้เจ้าหน้าที่โทรไปถามอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร กลับได้คำตอบที่เหลือเชื่อว่ายังแข็งแรงดี ถึงขนาดทำงานอยู่หลังบ้านได้ ลูกยิ่งแปลกใจมาก จึงขอให้เธอมาโรงพยาบาลอีกครั้ง และถามว่าทำไมไม่มาหาหมออีกเลย เธอบอกว่าเพราะรู้สึกดีขึ้นมากและไม่ค่อยปวดแล้ว ลูกจึงขอถามรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมของเธอ ว่ายังเห็นองค์พระอยู่หรือไม่ เธอเล่าว่าตอนนี้เธอเห็นองค์พระอยู่กลางตัวแล้ว แต่เธอแปลกใจที่เธอเห็นองค์พระทั้งหลับตาและลืมตา เวลาเห็นก็มีความสุขมาก และเวลาเอาใจจรดองค์พระก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย แต่ถ้าหลุดออกมาจะมีอาการปวดมาก เธอจึงต้องเอาใจจรดอยู่ตลอดเวลา เธอยังเล่าต่อว่าเธอได้ยินวันที่หมอถามญาติๆว่าจะให้เธอตายที่ไหน วันนั้นเธอรู้สึกปวดเป็นที่สุด จนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว เธอก็เลยเอาใจจรดที่ศูนย์กลางกาย จนพบองค์พระผุดขึ้นมาเป็นสาย แล้วรู้สึกสบายขึ้น เธอก็เลยขอพรกับองค์พระว่าขอให้ไม่เจ็บได้ไหม ซึ่งหลังจากนั้นเธอตื่นขึ้นมาก็ไม่รู้สึกเจ็บอีกเลยเธอจึงคิดว่าที่เป็นเช่นนี้ต้องเป็นพรจากองค์พระแน่ๆ เลย ลูกจึงบอกว่าให้ทำหยุดทำนิ่งต่อไป ไม่ต้องกังวลเรื่องความตาย เธอก็บอกลูกว่า “องค์พระท่านก็บอกอย่างนั้น” ลูกแปลกใจมากครับ เพราะว่าเธอยังไม่เคยเจอหน้าหลวงพ่อเลยซักครั้ง แล้วพระท่านไหนมาบอก เธอก็บอกว่าองค์พระกลางตัวท่านพูดได้ ท่านบอกว่าอย่ากังวลกับเรื่องความตายเลย เราตายมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เราเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมี และบอกให้นั่งสมาธิมาก ๆ แล้วจะพบสิ่งดี ๆ อีกมาก ลูกถามว่าเวลาท่านพูด ท่านเปิดปากพูดแบบเราหรือไม่ เธอก็บอกว่าไม่ต้องเปิดปากพูด เพียงแต่ใจจรดถึงกันเท่านั้น ลูกจึงถามต่อว่า แล้วเคยเห็นดวงแก้วใสบ้างไหม เธอเล่าว่าเคยเห็นดวงแก้วใสก่อนหน้าองค์พระ และเห็นตัวเองอยู่กลางท้องก่อนเห็นองค์พระ โดยตัวเธอเองที่อยู่บริเวณกลางท้องนั้น จะทำท่านั่งสมาธิอยู่ แต่งกายสีขาว ใส สว่าง รูปร่างอ่อนวัยและหน้าตาสวยกว่ามาก จนตัวเองคิดว่าหายจากโรคแล้ว แต่พอลืมตาขึ้นมาดูกระจกก็พบว่าเราแก่กว่าเยอะเลย(แล้วเธอก็หัวเราะ)ลูกนัดเธอมาเป็นระยะ ๆ ก็พบว่าร่างกายของเธอแข็งแรงขึ้นมาก จากเดิมที่ต้องนั่งรถเข็นไปมา กลายเป็นเดินไปมาเองได้อย่างแข็งแรง จากซีดต้องให้กินยาบำรุงเลือดหรือบางทีต้องให้เลือด ก็หายจากซีด เจาะเลือดก็พบว่าความเข้มของเลือดกลับมาเป็นปกติ หน้าตาดูสดชื่น แจ่มใส อารมณ์ดี ลูกๆ ของเธอก็กลับมาอยู่รวมกันอย่างมีความสุข อบอุ่น และเธอก็ได้ติดจานดาวธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ เธอยังดูแข็งแรงมากกว่าที่ควรจะเป็นมาก ลูกได้ x-rays ปอดอีกครั้ง ก็พบว่าตัวมะเร็งเหมือนถูก freeze แช่แข็งไว้ ไม่มีน้ำในช่องปอดเลย ทั้งๆที่มะเร็งแพร่ไปทั่วแล้ว
ลูกอยากเรียนถามหลวงพ่ออีกบางอย่างครับ ในสมัยเด็ก ๆ ลูกมักจะติดตามแม่ไปไหว้เจ้าบ่อยๆ และแม่ก็ชอบไปดูเจ้าเข้าทรงด้วย ลูกในสมัยเด็ก ๆ ชอบเป็นผื่นคัน รักษาไม่ค่อยหาย แม่ก็จะพาไปหาพ่อที่เข้าทรงแล้วได้ท่อนไม้ปลุกเสกมาฝนผสมกับเหล้าขาว เอามาทาผิวหนัง ก็หายทุกที เวลาพี่ๆ จะสอบเข้า entrance ก็จะต้องไปขอพรจากพ่อเข้าทรงนี้ทุกคน และก็ได้สมความต้องการทุกครั้ง จนถึงพี่คนที่ 4 ก็ได้ไปขอให้ติดแพทย์ แต่พ่อเข้าทรงบอกว่าพี่ชายบุญไม่พอเป็นแพทย์ แต่ถ้าเป็นหมอฟันจะรุ่ง แล้วพ่อที่เข้าทรงก็มองมาทางลูกแล้วบอกว่ารอลูกคนเล็กซิ เขามีบุญที่จะได้แพทย์ ลูกตอนนั้นก็ไม่อยากเชื่อ เพราะพี่ของลูกเรียนเก่งกว่าลูกมาก แล้วพี่ของลูกก็สอบได้แค่ทันตแพทย์จริงๆ ตอนลูกเรียน ม.5 พ่อเข้าทรงก็บอกลูกอีกว่าปีนี้จะเป็นปีที่ไม่ประสพความสำเร็จเลย สอบอะไรก็จะไม่ผ่าน ซึ่งลูกรู้สึกขำในใจแล้วคิดว่าเราจะต้องพยายามทำให้ติดให้ได้ แต่ปรากฏว่าลูกก็สอบ entrance ไม่ติดจริงๆ ซึ่งปกติเด็กเตรียมอุดมห้องของลูกต้องติดอะไรบ้าง ต่อมาลูกพยายามอีกครั้งในปี ม. 6 และถือคติว่าใครก็ช่วยเราไม่ได้ ถ้าเราไม่ช่วยตัวเอง แล้วลูกก็สอบได้แต่ตอนที่อ่านหนังสือก่อนสอบ entrance นั้น ได้มีเหตุการณ์ประหลาดอย่างหนึ่ง คือ หลังจากลูกอ่านหนังสือเสร็จแล้วก็ล้มต้วลงนอน ลูกก็มีความรู้สึกขยับตัวไม่ได้เลย แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงประหลาดที่ดุ ดังน่ากลัว และเสียงเดินที่ดังมาก มาเรียกชื่อลูก แล้วบอกว่าให้ไปกับเขาได้แล้ว หมดบุญแล้ว แต่ลูกไม่ยอมไปกับเขา ลูกบอกว่ายังไม่ได้ทำสิ่งที่ต้องการ ลูกเลยพยายามดิ้นจนหลุดมาได้ก็วิ่งหนีลงมาข้างล่าง เจอแบบนี้ถึง 3 วันติดๆ กัน แต่วันที่ 3 เจอแบบน่ากลัวที่สุด จนลูกคิดว่าต้องไปกับเขาแล้ว ลูกก็ยังพูดซ้ำๆ ว่า ลูกยังไม่ได้ทำสิ่งที่ต้องการเลย หลังจากนั้นลูกได้ไปถามคุณครูของลูกที่เขานั่งสมาธิโดยการเพ่งกสิณ ท่านบอกว่า ลูกหมดบุญจริงๆ แต่ลูกขอแต่สิ่งที่ดีๆ เขาเห็นว่าลูกทำได้ และบุญใหม่ลูกมาทันพอดี จึงรอดมาได้ ต่อมาช่วงที่ลูกเรียนแพทย์ปี 3 ลูกได้ไปเล่นน้ำที่เขื่อนแม่แตง เกิดจมน้ำ ขณะที่จมน้ำอยู่นั้นเหมือนได้พูดคุยกับเขาว่าทำไมมาเอาตัวเร็วนัก ยังไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจเลย แล้วลูกก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำอีกครั้ง ก็พบลำไม้ไผ่ยาวอยู่ตรงหน้าพอดี ทำให้ลูกรอดตายมาได้
อากู๋ (น้องของแม่) ค้าขายปลา อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันอาทิตย์ตอนเช้าตรู่ มีคนมาพบว่านอนสลบไม่หายใจในบ้านตนเอง ได้ส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 48 ปีเท่านั้น ทั้งๆ ที่อากู๋ไม่มีโรคประจำตัว
พ่อของลูก ก็ชอบมีอาการปวดศีรษะบ่อย ๆ จนบางครั้งต้องไปรักษากับจิตแพทย์ อาการก็ทุเลาลงเป็นบางครั้ง ส่วนแม่ของลูกมี 2 คน อาหม่าม้า เป็นแม่บุญธรรม มักจะอาการปวดศีรษะอยู่เรื่อยๆ ต้องทานยาบ่อยๆ แพทย์ให้ความเห็นว่าน้ำในหูไม่สมดุลย์กัน อาแมะ เป็นแม่จริงของลูก ก็มีอาการปวดหลังและมีกระดูกสันหลังเคลื่อนและปวดหัวเข่าบ่อย ๆ
ลูกขอกราบเรียนถามหลวงพ่อครับ
1. คนไข้ของลูกที่นั่งเห็นองค์พระ ทำกรรมอะไรมาครับถึงเป็นโรคนี้ และเธอต้องปฏิบัติตัวอย่างไรต่อไปครับ เธอเคยทำบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร ทำไมถึงมาพบหมู่คณะช้า อดีตชาติเธอเคยปฏิบัติธรรมได้อย่างไร ทำไมชาตินี้จึงได้มาเห็นองค์พระตอนป่วยหนักใกล้จะเสียชีวิต และการที่เราสอนให้คนนั่งธรรมะได้ จะมีอานิสงส์อย่างไรครับ
2. ทำไมร่างทรงนั้นถึงบอกเรื่องต่าง ๆได้ถูกทั้งหมด และรักษาลูกได้หาย และบอกว่าลูกจะได้เป็นแพทย์ได้อย่างถูกต้อง
3. การเป็นแพทย์ต้องทำบุญแล้วอธิษฐานจิตมาหรือเปล่าครับ และการที่ได้เป็นแพทย์แต่ละสาขาต้องทำบุญแตกต่างกันอย่างไร เช่น ศัลยแพทย์ สูติแพทย์
4. แพทย์บางสาขาก็เสี่ยงต่อการทำกรรมต่อ เช่น สูติแพทย์ ถ้าเด็กในครรภ์สงสัยว่าจะพิการหรือไม่สมประกอบ ในการแพทย์เห็นว่าควรจะทำแท้งได้ อย่างนี้ในทางกฎแห่งกรรม ผิดหรือไม่ครับ
(ภรรยาเจ้าของ Case เป็นหมอทำงานผ่าตัดผู้ป่วยหญิง)
5. วันที่ลูกรู้สึกตัวว่ามีใครจะมาพาตัวลูกไป และบอกว่าลูกหมดบุญแล้วนั้น เขาเป็นใคร มีมาจริงรึเปล่าครับ เขาฟังคำที่ลูกพูดว่า ยังไม่ได้ทำสิ่งที่ต้องการเลย แล้วเข้าใจว่าอย่างไร ลูกหมดบุญจริงๆ หรือเปล่า และถ้าเป็นจริง บุญใดทำให้ลูกได้อยู่ต่อครับและจะอยู่ได้อีกนานไหม ต้องทำตัวอย่างไร ถ้าลูกบวชจะช่วยยืดอายุในการสร้างบารมีกับหลวงพ่อได้หรือไม่ครับ
6. พ่อและอามาม้าทำกรรมอะไรมาจึงปวดศีรษะอยู่เรื่อยๆ และอาแมะของลูกทำกรรมอะไรจึงปวดหลัง จะต้องแก้ไขอย่างไร
7. อากู๋ของลูกทำกรรมอะไรมาจึงตายโดยไม่รู้สาเหตุ และตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ ได้รับบุญที่ลูกอุทิศให้หรือไม่ครับ
8. คนไข้ที่เกิดอุบัติเหตุแล้วมาเสียชีวิตในโรงพยาบาล วิญญาณของเขายังวนเวียนอยู่ที่โรงพยาบาลหรือไม่ เวลาลูกอยู่เวรต้องนอนในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ที่นอนค้างอยู่ห้องข้าง ๆ มักได้ยินเสียงเปิด-ปิดประตูเข้าออกที่ห้องลูก เป็นวิญญาณที่อยู่หรือเปล่าครับ และเวลาลูกนั่งสมาธิเสร็จ แผ่เมตตาจิตให้เขา เขารับบุญได้หรือไม่ครับ
9. ตัวลูก ภรรยา และลูกสาว 2 คน เคยทำบุญมากับหมู่คณะอย่างไรครับ และลูกจะมีโอกาสได้บวชตลอดชีวิตในบั้นปลายชีวิตหรือไม่ครับ
ขอกราบนมัสการหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ทีแล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ1. คนไข้ของลูกเป็น “มะเร็งเต้านม” เพราะ ...“กรรมกาเม” เจ้าชู้ กับกรรมปาณาติบาตในอดีต ตามมาส่งผล เรื่องมีอยู่ว่าหลายกัปที่ผ่านมา เธอเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยได้บวชเป็นพระอยู่ในระยะหนึ่ง
และต่อมาได้ลาสิกขาบทไป แล้วก็ได้ไประมาทในการดำเนินชีวิต เช่น เจ้าชู้ , และฆ่าสัตว์ขายและทำอาหาร หลายวาระ จึงทำให้พลัดจากหมู่คณะไป
ในชาติหลัง ๆ จึงได้มาเป็นผู้หญิง , โดยเฉพาะพุทธันดรที่ผ่านมา ก็ได้กลับมาเจอหมู่คณะในสภาพที่สะบักสะบอม และได้ตัวลูกเป็นกัลยาณมิตรให้คล้ายในชาตินี้จ่ะ!
ในชาติที่เคยบวชเป็นพระ คนไข้ของลูกได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมะ แต่ก็ไม่เห็นธรรมะสักที จึงท้อใจ เลยคิดว่าจะอยู่ดีหรือจะสึกดี และในที่สุดก็ตัดสินใจสึก โดยมีผลการปฏิบัติธรรมดีในระดับหนึ่ง บุญนี้แหละได้มาส่งผล ให้ได้เข้าถึงองค์พระภายในตอนป่วย และทำให้ยืดชีวิตอยู่ต่อมาได้อย่างอัศจรรย์จ่ะ!
การที่แนะนำ ให้คนไข้เข้าถึงพระภายใน ก็จะมีอานิสงส์ให้ได้มีดวงตาเห็นธรรมะเหมือนกันจ่ะ!2. ร่างทรงที่บอกเรื่องราวต่าง ๆ ได้ถูกต้อง เพราะ ...ความศรัทธาของทุก ๆ คนที่มีต่อร่างทรง จึงพยายามให้เป็นไปตามที่ร่างทรงบอกจ่ะ! เช่น ร่างทรงบอกว่าไม่ติดหมอเพราะ บุญน้อย แต่จะติดทันตแพทย์ จิตก็เลยฝังใจ แล้วก็พยายาม ทำเพียงให้ได้อย่างที่ร่างทรงบอก เป็นต้น
ที่รักษาลูกหาย เพราะพอดีลูกเป็นโรคประเภทรักษาก็หาย ไม่รักษาก็หาย อีกทั้งสมุนไพรก็มีสรรพคุณในการรักษาโรคที่ลูกเป็นอยู่แล้วเป็นปกติ จ่ะ !
ส่วนคำพยากรณ์ที่ว่าลูกจะติดแพทย์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของลูกเองต่างหาก , ถ้าลูกไม่มีความพยายามก็ยาก ที่จะติดแพทย์ได้จ่ะ!3. การเป็นแพทย์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ คือ 1.ความคุ้นที่เคยเป็นแพทย์มาก่อนในอดีต 2. บางคนได้อธิษฐานจิตอยากจะมาเป็นแพทย์ เพื่อช่วยเหลือคนให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ
และ 3.บางคนได้เกิดแรงบันดาลใจในปัจจุบันที่อยากจะเป็นแพทย์ ทั้ง ๆ ที่ ในอดีตก็ไม่เคยเป็น ด้วยจิตเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์จ่ะ!
การที่ได้เป็นแพทย์แต่ละสาขา ก็ขึ้นอยู่กับความคุ้นในอดีต หรือความปรารถนามาในอดีตดังกล่าว หรือเกิดจากแรงบันดาลใจในปัจจุบันเช่นเดียวกันจ่ะ!4. “การทำแท้ง” ไม่ว่ากรณีใด ล้วนมีวิบากกรรมทั้งสิ้น แต่ว่ากรรมมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับเจตนา เช่น “รับทำแท้ง” เพราะ “ผู้ท้องไม่พร้อม” เกิดจากความรักสนุกอย่างนี้บาปมาก
แต่ถ้าพิจารณาว่าเด็กคงพิการ หรืออาจจะไม่สมประกอบจึงทำแท้ง อย่างนี้ก็บาปน้อยลงมาหน่อยนึงจ่ะ! ซึ่งก็จะมีผลทำให้อายุไม่ยืนในภพชาติต่อไป หรือถ้ากรรมมากก็จะถูกทำแท้งเช่นเดียวกันจ่ะ!5. วันที่ลูกรู้สึกตัวว่าจะมีคนมาเอาตัวลูกไป และบอกลูกว่าหมดบุญแล้ว ก็เป็นเพียงแค่ “ความฝัน” เท่านั้นจ่ะ!
ต่อมาที่จะจมน้ำตายนั้น ก็เป็นความ “ฝังใจ” จากความฝันครั้งแรก , ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่มีใครมารับลูกไปหรอกจ่ะ! เป็นเพียงแค่ วิบากกรรมเล็กน้อย ที่ลูกเอาน้ำไปราด “มด” ที่มาขึ้นภาชนะ หรือพื้นเท่านั้น บาปกรรมนี้ไม่ทำให้ถึงตาย , ทำได้แค่ตกอกตกใจจ่ะ!
ตัวลูกยังไม่หมดบุญหรอก แต่ว่าอย่าประมาทในการดำเนินชีวิต ให้สร้างบุญทุกบุญต่อไป ไม่ว่าบุญบวชหรือบุญอะไรก็เป็นบารมีติดตัวลูกไปทั้งนั้นแหละจ่ะ!6. พ่อและอาหม่าม้า “ปวดหัว” อยู่เรื่อย ๆ เพราะ ...กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร เช่น ทุบหัวปลา เป็นต้น มาส่งผล , ส่วนพ่อมี เศษกรรมสุราด้วย จึงทำให้รู้สึกเครียดและต้องไปพบ “จิตแพทย์” ด้วยจ่ะ!
“อาแมะ” ปวดหลัง เพราะ ... ท่านอายุเยอะ ก็เป็นไปตามวัยของสังขารในปัจจุบัน กอปรกับมีกรรมในอดีตที่ใช้แรงงานสัตว์มากเกินไป ในชาติที่เกิดในสังคมเกษตรกรรมจ่ะ!
จะแก้ไขก็ต้องให้ทุกท่านสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา และปล่อยสัตว์ปล่อยปลาให้ชีวิตเป็นทาน กับรักษาไปตามอาการที่เกิดขึ้นจ่ะ!7. “อากู๋” หัวใจวาย เพราะกรรมในอดีต ที่เลี้ยงสัตว์ไว้ฆ่าขายเป็นกรรมหลัก ปัจจุบันก็ฆ่าปลาขายด้วยมาเสริมจ่ะ!
ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ระดับล่าง ด้วยบุญที่ทำสาธารณะกุศลในอดีต ตามมาส่งผล จึงทำให้ตายแบบไม่ทรมาน และยังไม่ไปอบายเพราะปาณาติบาต อีกทั้งก่อนตาย ก็ตายด้วยใจที่ไม่ใสไม่หมองด้วยจ่ะ!
ได้รับบุญที่ลูกอุทิศไปให้แล้ว , จึงทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น คือ มีกายผ่องใสขึ้น , มีอาหารทิพย์ แต่ยังไม่มีวิมานอยู่จ่ะ! ให้ทำบุญไปให้อีกบ่อย ๆ8. คนไข้ที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วมาตายอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น , บางพวกก็วนเวียนอยู่ที่โรงพยาบาล , บางพวกก็เป็นไปตามกรรม ที่ตัวทำไว้ เช่น ไปอบายบ้าง , ไปสุคติบ้าง เป็นต้นจ่ะ!
ส่วนที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ยินเสียงประตูปิด – เปิด เข้าออกก็เป็นเรื่องของความ “หวาด” ที่มีอยู่ในใจเป็นพื้นฐาน , เพราะพวกกายละเอียดเขาเดินทะลุได้อยู่แล้ว ไม่ต้องปิด – เปิดอะไรจ่ะ!
เวลาลูกแผ่เมตตาจิตภายหลังจากนั่งสมาธิ , กายละเอียดที่อยู่ แถวนั้นบางพวกก็รับได้ , บางพวกก็รับไม่ได้ ขึ้นอยู่กับบาปกรรมมากหรือน้อยจ่ะ!9. ตัวลูก , ภรรยา และลูกสาว 2 คน ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” , โดยเฉพาะตัวลูกนั้น บางชาติ ก็ไม่ได้บวช , บางชาติก็บวชช่วงสั้น , บางชาติก็บวชช่วงยาว กับหมู่คณะจ่ะ!
ลูกก็มีผังบวชอยู่แล้ว , ปัจจุบันก็ขึ้นอยู่กับ ใจของลูกที่จะปรารถนาสร้างบารมีแบบไหนจ่ะ!
ชาตินี้มาเจอกันอีก ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ อย่าให้ตกหล่นเลย แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!
http://goo.gl/c1zfC