คุณตาหายไปไหน, หนุ่มอมตะ พระผู้สำเร็จ

CASE STUDY

คุณตาหายไปไหน , หนุ่มอมตะ พระผู้สำเร็จ 

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 

 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพ

 

    ลูก เป็นผู้นำบุญของศูนย์บริสเบน ประเทศออสเตรเลียเจ้าค่ะ ลูกและครอบครัวของลูก เราทั้งหมดเป็นนักเรียนประจำของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเจ้าค่ะ เป็นนักเรียนที่ถือว่ามีชั่วโมงเรียนดีเด่น เพราะแทบจะไม่เคยขาดเรียนเลย ที่ไม่อยากขาดก็เนื่องจากโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ไม่เหมือนโรงเรียนใดในโลก ที่ปิดนรกเปิดสวรรค์ให้ลูกอย่างแท้จริง เนื้อหาของทุกวันก็สนุก มุขก็ขำ หายง่วง และที่สำคัญเรามีครูไม่ใหญ่ที่ใจดี มีเมตตา เทคนิคการสอนสุดยอด ทำให้เราทุกคนรักโรงเรียนอนุบาลของเราและจะไม่ยอมขาดเรียนเลยสักวัน ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวธรรมกายเจ้าค่ะ โดยคุณพ่อและคุณแม่ของสามี ได้เป็นผู้นำบุญหลักที่ศูนย์ซันชายโคสต์ ส่วนตัวลูกและสามีก็เป็นผู้นำบุญที่ศูนย์บริสเบนเจ้าค่ะ 
 

    ลูกและครอบครัวที่นี่ เราสู้กันสุดๆ ในการสร้างบารมี โดย คุณพ่อและคุณแม่ ได้เป็นตัวอย่างที่ดีของทุกๆคน ในการเป็นยอดกัลยาณมิตรในการชวนคนมาทำบุญ ท่านไปทุกหนทุกแห่งที่มีคนไทย ไม่ว่าจะไกลถึงอิปสวิชซึ่งห่าง 140 กิโลเมตรจากบ้านท่าน หรือที่บริสเบนที่ห่างกัน 100 กิโลเมตร หรือแถวๆ บ้านที่ซันชายโคสต์  โดยท่านชวนทุกคนให้ทำบุญและให้เลิกจากอบายมุขทั้งหมด โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ให้มาเป็นอุปสรรคในการสร้างบารมี 

 

    ลูกกราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ช่วยฝันในฝันให้ฟังดังเรื่องราวต่อไปนี้ค่ะ

 

    คุณตาของลูก เคยบวชและสึกมาหลายครั้ง ครั้งหนึ่งท่านหายไปจากบ้านเป็นเวลานาน หลังจากกลับมาก็ได้เล่าให้ฟังว่า ท่านรู้สึกเร่าร้อนและอยากบวชมาก จึงได้เดินทางไปที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อท่านถึงที่สถานีรถไฟขอนแก่น ท่านก็ได้พบกับพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งเดินมาหาท่าน และบอกว่าได้รอท่านมานานแล้ว ให้ไปด้วยกัน พระภิกษุรูปนั้นให้ท่านหลับตาและจับชายจีวร ท่านรู้สึกเหมือนกับว่าท่านเหาะได้ และผ่านสถานที่ต่างๆ อย่างรวดเร็ว พอลืมตาขึ้นท่านก็มาอยู่ในกลางป่าใหญ่เสียแล้ว คุณตาได้บวช และได้เรียนวิชากับพระอาจารย์ในกลางป่าใหญ่นั่นเอง ตาเล่าว่าบางวันท่านได้ออกไปบิณฑบาต วิธีที่ท่านไปคือ เกาะชายจีวรพระอาจารย์และเหาะไป ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกายละเอียดต่าง ๆ ที่มาใส่บาตร ตาบอกว่า ถ้าคน ๆ นั้น เป็นยักษ์ ตาก็จะมีสีแดง บางครั้งก็บิณฑบาตกับนางฟ้า สำหรับอาหารที่บิณฑบาตมาได้จะเป็นก้อนสีเหลืองๆ เพียงก้อนเดียว แต่เมื่อกินเข้าไปแล้วก็จะสามารถอิ่มไปได้หลายวันเลยเจ้าค่ะ

 

    มีอยู่วันหนึ่งพระอาจารย์ของตาได้พาตาไปที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งมีสมบัติอยู่มากมาย บางถ้ำก็เป็นทอง เป็นเพชร เป็นพลอย พอตาเห็นแล้วก็อยากได้ เพื่อเอามาให้ลูกกับเมียที่บ้าน จึงขอลาพระอาจารย์กลับบ้าน พระอาจารย์ก็พยายามห้ามไม่ให้ตากลับ ให้ตาอยู่กับท่านที่นี่ แต่ตาก็ยืนยันว่าจะกลับ พระอาจารย์จึงชี้ไปที่ทางออก พอตาเดินพ้นถ้ำ ก็เกิดภาพนิมิตว่ามีรถไฟ 2 ขบวนเข้ามาชนตา แล้วตาก็สลบไป ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ที่วัดเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น แต่กลับจำใครไม่ได้เลย ความจำเลอะเลือนไปหมด จนเวลาผ่านไปตาก็ค่อย ๆ จำได้ และได้ติดต่อกลับมาที่บ้าน เราถึงได้ทราบว่าตาหายไปไหน หลังจากตากลับมาแล้วก็บวช ๆ สึก ๆ อยู่หลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายท่านสึกและกลับมาอยู่กับน้าสาวของลูก ท่านได้ถือศีล 8 ทุกวันจนถึงวันสุดท้ายของท่าน โดยจากไปด้วยโรคถุงลมโป่งพอง เพราะสูบบุหรี่เจ้าค่ะ

 

    เตี่ย ของลูกเกิดในวันสงกรานต์คือ วันที่ 13 เมษายน หรือ วันเสาร์ เดือน 5 ตามความเชื่อของคนไทย เตี่ยจะมีคุณสมบัติพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ เป็นคนที่มือหนักมากเจ้าค่ะ โดยเวลาเอามะเหงก    วางไปที่หัวเด็กแล้วเขกลงไปแค่ 1 ที หรือใช้มะเหงกขวิด หรือขูดที่หัว โดยไม่ยกมือ ปรากฏว่าหัวของคนนั้นจะปูดมาเป็นลูกมะนาวทุกรายไป แต่ถ้าถึงขนาดต้องชกกัน เตี่ยชกแค่ทีเดียวก็สลบได้เลยเจ้าค่ะ จึงไม่มีใครยอมลองกับเตี่ยสักราย

 

    วันที่ท่านจากพวกเราไป ท่านไปรับจ้างขนข้าวไปที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งก่อนไปท่านก็ได้มาที่บ้านเพื่อจะพาตัวลูกไปเที่ยวด้วย แต่วันนั้นตัวลูกไม่อยู่บ้าน เพราะออกไปเล่นที่บ้านเพื่อน ท่านก็เลยไปกับคนที่ว่าจ้างท่านเท่านั้น ระหว่างทางรถเกิดเสีย ท่านจึงจอดรถอยู่ข้างทาง และตัวท่านเองก็ลงไปดูรถทางด้านหน้า ทันใดนั้นเองก็มีรถสิบล้อคันหนึ่งวิ่งเข้ามากระแทกชนท้ายของรถเตี่ย ทำให้รถเตี่ยที่จอดอยู่พุ่งชนเตี่ยกระเด็นตกลงไปในคลองข้าง ๆ และเสียชีวิตในที่สุด    หลังจากเตี่ยตายแล้ว พี่ชายคนโต ก็มาบอกแม่ว่าจะบวชทั้งๆที่ก่อนหน้าก็ไม่มีวี่แววว่าจะบวชเลย  จากนั้น พี่ชายคนที่สอง ก็ฝันว่า เตี่ยมาหา แล้วมายิ้มและหัวเราะเหมือนกับว่าดีใจที่ได้ข่าวที่พี่ชายคนโตจะบวช  ซึ่งการบวชครั้งนี้ก็เป็นการบวชที่คุณแม่ภูมิใจมาก เพราะพี่ชายตั้งใจบวชเอง และตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเป็นอย่างดี
 

    เมื่อเตี่ยตายไปได้ 2 ปี ก็เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่โพธาราม จังหวัดราชบุรีโดยบ้านของลูกไหม้เป็นหลังที่สอง รองจากบ้านต้นเพลิง ไฟได้ทำลายทุกอย่างในบ้านจนหมด เราขนของออกมาได้เพียงบางอย่างเท่านั้น   แม่คือคนที่น่าสงสารที่สุด เพราะนอกจากจะต้องมาเสียเตี่ยแล้ว แม่ต้องมาเสียบ้านอีกด้วย แต่เหมือนความโชคร้ายของเรายังไม่หมดเจ้าค่ะ หลังจากไฟไหม้บ้านได้ไม่เท่าไหร่ บ้านที่อยู่ใหม่ก็โดนขโมยเข้ามางัด เอาเครื่องเพชรที่แม่ขนออกมาจากกองไฟได้ไปทั้งหมด เหตุการณ์ทั้งสามอย่างที่ประดังเข้ามาในเวลาที่ใกล้ ๆ กัน คือ เตี่ยตายเมื่อ 2518 ไฟไหม้ 2520 และขโมยขึ้นบ้าน

 

    คุณแม่ของลูก เป็นผู้ที่รักการปฏิบัติธรรมมากเลยเจ้าค่ะ และผลของการปฏิบัติธรรมดีด้วย แม่ขยันนั่งสมาธิ(Meditation)ทุกวันไม่เคยขาด ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนหรือไปเที่ยวที่ไหน ก็จะตื่นมาตอนเช้าตี 3 ตี 4 แล้วมานั่งสมาธิทุกวัน แม่รักในการทำบุญ ตักบาตรทุกวันไม่เคยขาด
 

    ก่อนที่แม่ของลูกจะเข้าวัด แม่เป็นคนชอบแต่งตัวมากค่ะ แต่พออยู่มาวันหนึ่งแม่กลับบอกกับลูกว่า ถ้าแม่อายุ 50 ปีเมื่อไหร่ แม่จะเลิกหมด จะเลิกแต่งตัวและจะหันหน้าเข้าวัด ซึ่งพอแม่อายุครบ 50 ปีแม่ก็ทำอย่างนั้นจริง ๆ เสื้อผ้าที่สวยๆเครื่องสำอางที่ดีๆให้คนอื่นหมดเลย แล้วก็หันหน้าเข้าวัด ถือศีล ไม่แต่งตัว ปล่อยผมขาวโดยไม่ย้อมเลย จนกระทั่งเข้าวัดพระธรรมกาย ก็มีโอกาสได้มาเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดภัตตาหารของวัดอยู่หลายปี
 

    พี่ชายคนที่ 4 ตอนเกิดมาก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลย แต่พออายุได้ 3 ปี ก็เกิดเป็นโรคโปลิโอ ทำให้ขาข้างหนึ่งเสีย พี่ชายไม่ได้ทำงานมาหลายปีแล้ว และตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็มีคนมาเสนองานให้อยู่เสมอ แต่พอตกลงจะทำ ขนาดตกลงเงินเดือนกันแล้ว ระบุวันแล้ว พอถึงวันที่จะเริ่มงานทุกแห่งก็ปฏิเสธไม่รับเสียดื้อๆ ทั้งๆ ที่ตกลงว่าจะรับในครั้งแรกอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง

 

    สุดท้ายนี้ลูกๆทุกคนขอปวารณาตัวที่จะสร้างบารมีตามติด และติดตามหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ไปทุกภพทุกชาติ  จะตั้งใจทำโครงงานทุกอย่างที่ได้รับมาให้สำเร็จ และดีที่สุด และด้วยบุญที่ลูกๆ ทั้งหมดได้มาเป็นต้นบุญที่ออสเตรเลียนี่ ขอให้บุญนี้จงดลบันดาลให้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่มีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่กับลูก  ๆ ไป ถึงสองร้อยซาวปี๋เลยนะเจ้าคะ

 

ลูกอยากกราบขอความเมตตาหลวงพ่อถามคำถามดังนี้เจ้าค่ะ

 

1. ตาของลูกหายไปไหนมา พระอาจารย์รูปนั้นกับตาเคยเป็นอะไรกันมาก่อน แล้วตาไปเรียนวิชาอะไรหรือคะ

 

2. ที่ตาบอกว่าได้ไปบิณทบาตกับกายละเอียด ตาไปจริง ๆ หรือคะ แล้วอาหารที่ได้มาใช่อาหารทิพย์หรือเปล่า ทำไมมีแค่ก้อนเดียว กินแล้วอิ่มไปตั้งหลายวัน

 

3. ก่อนที่ตาจะตาย ตาได้บอกว่าจะไปตอนเวลาตี 5 แล้วตาก็จากไปตอนตี 5 จริง ๆ ทำไมตารู้คะ แล้วตาตายแล้วไปไหนคะ

 

4. ด้วยบุพกรรมอะไรจึงทำให้เตี่ยมือหนักคะ  เกี่ยวกับการที่เกิดวันเสาร์เดือน 5 หรือเปล่าคะ   ทำไมคนโบราณถึงมักจะกล่าวว่าคนที่เกิดวันเสาร์เดือน 5 มักจะดวงแข็งคะ

 

5. ทำไมเตี่ยถึงอายุสั้น และประสบอุบัติเหตุด้วยการโดนรถชนตาย ทั้งๆ ที่รถก็จอดอยู่ข้างทาง   เตี่ยตายแล้วไปไหน บุญทุกบุญที่ลูกส่งไปให้เตี่ยได้รับหรือเปล่าเจ้าคะ  และพี่ชายคนโตได้บวชให้ ท่านทราบไหมคะ  และดีใจดั่งที่พี่ชายคนที่สองได้ฝันหรือเปล่าเจ้าคะ   มีวิธีใดที่จะให้เตี่ยได้อยู่ในที่ดีกว่าปัจจุบันเจ้าคะ

 

6. ครอบครัวของลูกทำกรรมใดมาเจ้าค่ะ ถึงได้เสียเตี่ย เสียบ้าน และทรัพย์สินในเวลาไล่เลี่ยกัน และทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

 

7. แม่ฝากถามมาเจ้าค่ะว่า ทุกครั้งเวลาแม่นั่งสมาธิดีๆลึกๆภายในจะรู้สึกต่อต้านอะไรบางอย่าง จะแก้ไขอย่างไรคะ เพราะแม่อยากให้ผลการปฏิบัติธรรมดีขึ้นไปกว่านี้เจ้าค่ะ  และทุกครั้งที่แม่กับพี่ชายคนที่สี่ของลูกเข้าใกล้ผู้ที่มีตบะแก่กล้า อย่างพระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ลึก ๆ ข้างในจะออกมาเป็นคำด่า อย่างแรงๆ ซึ่งทั้งสองคนพยายามที่จะห้ามใจไม่ให้ด่า ไม่ให้ทำเพราะกลัวบาป แต่ก็เหมือนกับมันจะออกมาอย่างอัตโนมัติ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นเจ้าคะ จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร และจะสามารถทำให้ที่แล้วๆมาเป็นอโหสิกรรมได้ไหมเจ้าคะ

 

8. พี่ชายคนที่ 4 ที่เข้าวัด ทำกรรมอะไรไว้จึงทำให้ตอนเด็กๆเป็นโปลิโอคะ

 

9. เป็นเพราะบุพกรรมอะไรคะ พี่ชายคนที่ 4 พอจะได้งานทำแต่กลับถูกปฏิเสธทุกครั้ง ทำอย่างไรจึงจะพ้นกรรมอันนี้ได้

 

10. ทำไมแม่ ตัวลูกและพี่ชายคนที่ 4 ถึงมีความผูกพันกันมาก โดยเฉพาะตัวลูกจะรักแม่กับพี่ชายคนนี้มากที่สุด ทั้งๆที่เราก็มีกันห้าคนพี่น้อง แต่ความผูกพันจะมีมากระหว่างลูกและพี่ชายคนที่ 4 และเฉพาะเราสามคนเท่านั้นที่เข้าวัด อีก 3 คน ไม่ยอมเข้าวัดและไม่เชื่อ บอกบุญก็ไม่ค่อยทำ แม่ , ตัวลูกและพี่ชายเคยทำบุญอะไรร่วมกันมา ถึงได้ผูกพันกันมากกว่าพี่ชายอีก 3 คนเจ้าคะ

 

11. สามีของลูก เป็นคนที่ขยันทำงานมากเจ้าค่ะ ทุ่มเททำงานทุกอย่าง แต่ผลที่ได้รับกลับมาไม่ได้เป็นอย่างที่ทำลงไป ได้มาน้อยมาก หรือแทบจะไม่ได้เลย และทำธุรกิจอะไรก็มีปัญหาและไม่ประสบความสำเร็จเลยสักครั้ง เป็นเพราะบุพกรรมอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไรเจ้าคะ เขาจะมีโอกาสได้บวชไหมเจ้าคะ

 

12. ลูก คุณแม่ พี่ชายคนที่สี่  สามีของลูก  พ่อสามี และแม่สามี เราเคยร่วมบุญกับหมู่คณะมาอย่างไรเจ้าคะ พวกเราเคยเป็นทหารของพระราชามาหรือเปล่าเจ้าคะ   เราทั้งสี่คน (ลูก คุณแม่ พี่ชายคนที่สี่  สามีของลูก)  อยากจะมีศูนย์ที่บริสเบนเจ้าคะ ด้วยบุญของเรา   เราจะทำได้ไหมเจ้าคะ

 

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

 

1. พระอาจารย์หนุ่มรูปนั้นกับคุณตา  ในอดีตได้เคยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก  ได้บวชเณรด้วยกัน และได้เรียนวิชาคาถาอาคม  ,  สมาธิกสิณด้วยกัน จนกระทั่งบวชเป็นพระและเป็นสหธรรมิกกัน ในชาตินั้นคุณตาก็มีนิสัยเหมือนในชาตินี้ คือ บวช ๆ สึก ๆ หลายครั้ง

 

 

• และชาตินั้นคุณตาได้ทำสมาธิจนเห็นแสงสว่างภายนอก ประกอบกับมนต์คาถาก็ทำฤทธิ์อะไรได้บ้าง 

 

 

• ต่อมาภายหลังได้ลาสิกขาจากพระมาเป็นคฤหัสถ์ มีครอบครัว และได้ป่วยตายในเพศคฤหัสถ์  ,  เมื่อตายแล้วก็มาเกิดเป็น “มนุษย์” ในชาตินี้ทันที   

 

 

• ส่วนเพื่อนภิกษุรูปนั้นรักในเพศสมณะ  และรักการเรียนวิชาสมาธิกสิณแบบผู้สำเร็จ  ,  ได้เรียนวิชานี้จากตำรา ที่พระอาจารย์ได้มอบให้ก่อนจะมรณภาพ

 

 

• ต่อมาได้เดินธุดงค์เข้าไปในป่า ได้ไปพบ “พระผู้สำเร็จ” วิชาประเภทกสิณแสดงฤทธิ์ต่าง ๆ ได้   เช่น  ย่นหนทาง  ,  แปลงธาตุ  , เดินบนน้ำ  ,  และความเป็น “อมตะ”   เป็นต้น  ,  พระผู้สำเร็จที่ท่านได้ไปเจอในตอนนั้น  อายุก็ประมาณ 200 กว่าปี  ,  ส่วนตัวพระอาจารย์ตอนไปเจอพระผู้สำเร็จ  ก็อายุยังหนุ่มประมาณ  30  ต้น ๆ   

 

 

• ซึ่งพระอาจารย์ก็ได้เรียนวิชาเหล่านั้น และคงความเป็นหนุ่มอยู่ได้  เพราะสมาธิกับ “สมุนไพร” ที่เป็นของทิพย์   ซึ่งพวกภุมมเทวาสายยักษ์เฝ้าไว้

 

 

• และกว่าจะได้มาก็ต้องประลองฤทธิ์กับยักษ์ที่เฝ้า “สมุนไพร”   และทรัพย์ด้วย    แต่ท่านไม่ต้องการทรัพย์  ,  ในที่สุดท่านชนะ  ก็ได้สมุนไพรมาประกอบคาถาสมาธิตามหลักวิชาของพระอาจารย์ผู้สำเร็จ  ,  จึงทำให้ท่านเป็นหนุ่มตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

 

• จนพบคุณตาที่สถานีรถไฟ  ,  ซึ่งขณะนี้  พระผู้สำเร็จองค์นี้  ก็ยังมีชีวิตอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งฝั่งประเทศลาวและก็ยังดูหนุ่มอยู่เหมือนเดิม
  

 

• ต่อมาท่านทราบว่า   เพื่อนรักเก่าที่เคยเป็นสหธรรมิกด้วยกัน และชอบบวช ๆ สึก ๆ ได้ตายลงแล้ว ก็มาเกิดเป็นมนุษย์ในชาตินี้ทันที

 

 

• ท่านก็รอคอยจนกระทั่งคุณตาโตขึ้น แล้วท่านจึงมารับตัวคุณตาไปกลางป่า ด้วยการให้คุณตาหลับตาแล้วจับชายจีวรท่าน ,ท่านก็พา “แว๊บ” มากลางป่าประเทศลาว  ,  เพื่อให้มาเรียนวิชาแบบผู้สำเร็จ  แต่คุณตาเรียนไม่สำเร็จ เพราะ “ความโลภ” ในทรัพย์และคิดถึงบุตรภรรยาดังกล่าวจ่ะ!    

 

 

• ส่วนพระผู้สำเร็จหนุ่มนั้นในอดีตได้สั่งสมบารมีด้านนี้มาหลายชาติแล้ว  บางชาติก็เป็นฤาษี, บางชาติก็เป็นพระภิกษุ  และชอบที่จะมีอัธยาศัยอยากเป็นพระผู้สำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง

 

 

• มาในชาตินี้ท่านก็อยากจะมีชีวิตอยู่ไปจนถึงพุทธันดรหน้า  และไปบรรลุมรรคผลนิพพานในยุคของพระศรีอารย์ ซึ่งก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะท่านได้อยู่ในชุมชนพระผู้สำเร็จที่มีวิชาอมตะในขณะนี้จ่ะ!

 

 

2. ที่คุณตาบอกว่าได้บวชกลางป่านั้น  ท่านก็บวชกับพระผู้สำเร็จ ซึ่งเป็นภันเตของชุมชนผู้สำเร็จ

 

 

• และได้ไปบิณฑบาตกับกายละเอียดนั้น ก็เป็นความจริง  ,  ผู้มาใส่บาตร   ก็คือ   “รุกขเทวาบ้าง  ,  ภุมมเทวาบ้าง”   และอาหารที่ได้มาก็คือ   อาหารทิพย์ของเทวดาเหล่านั้น  ,  ซึ่งเพียงแค่ก้อนเดียวก็อิ่มไปได้หลายวันจ่ะ!   ... และกินมากไม่ได้ เพราะไฟธาตุไม่อาจย่อยได้  อาจจะตายได้จ่ะ!

 

 

3. คุณตาอยากจะกลับบ้านมาก  ,  เมื่อพระผู้สำเร็จชี้ทางออกให้   พอเดินพ้นถ้ำ   ก็เห็นภาพขบวนรถไฟ 

2  ขบวนชนคุณตา แล้วท่านก็สลบไป  เพราะ ...ท่านหลุดออกจากมิติของพระผู้สำเร็จ  ซึ่งเป็น “กึ่งหยาบกึ่งละเอียด” ระดับภุมมเทวา  แต่มีกายหยาบอยู่   จึงมีอาการดังกล่าวจ่ะ!  

 

 

• ต่อมาคุณตารู้วันตายได้ด้วยสมาธิที่ท่านฝึกมา ...เมื่อตายแล้วท่านก็ไปเป็นเทพบุตรสายวิทยาธร   ชั้นจาตุมหาราชิกา  ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา  ,  รักษาศีล 8   และความผูกพันในวิชาสายวิทยาธร
  

 

• ได้รับบุญที่อุทิศไปให้     จึงทำให้ท่านมีทิพยสมบัติมากขึ้น ...ท่านกำลังนั่งบริกรรมภาวนาคาถาของท่านอยู่ในขณะนี้  ตามลำพังในถ้ำ ๆ หนึ่งของป่าไม้สีทองของหิมพานต์จ่ะ!

 

 

4. เตี่ย “มือหนัก”    เพราะ ...เตี่ยแข็งแรงมากกว่าคนทั่วไปหน่อยนึง  เพราะคุ้นเคยกับการทำงานหนักสม่ำเสมอ  ไม่ได้เกี่ยวกับคนเกิดวันเสาร์  เดือน  5  จ่ะ!  

 

 

• คนโบราณกล่าวว่า คนเกิดวันเสาร์  เดือน  5  ดวงแข็ง ก็เป็นความเชื่อของคนเรียนไสยเวท แต่มีข้อสังเกตที่ว่า ถ้าเตี่ยดวงแข็ง  ท่านคงยังไม่ตายจ่ะ!

 

 

5. เตี่ยอายุสั้นเนื่องจากถูกรถชนตาย    เพราะ  ... กรรมฆ่าคน  เพราะท่านเป็นทหาร   และฆ่าสัตว์ใหญ่มาทำเป็นอาหาร   เช่น  ล้มวัว  ,  ล้มควาย  ในอดีตมาส่งผลจ่ะ!

 

• เตี่ยตายแล้ว   ยังวนเวียนเป็น “ภุมมเทวา   ระดับล่าง” อยู่    ในช่วงที่ยังไม่ได้รับบุญที่อุทิศไป  ต่อมาเมื่อได้รับบุญทุกบุญที่ลูกและทุกคนทำแล้วอุทิศไปให้  ,  จึงทำให้ท่านมีบ้านเป็นของตัวเองในหมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง  ,  มีอาหารทิพย์และเสื้อผ้า  อีกทั้ง มีกายที่สดใสขึ้น  เป็นต้นจ่ะ!

 

 

6. ลูกเสียเตี่ย  ,  เสียบ้าน  ,  เสียทรัพย์สิน   ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น  ก็ต้องแยกออกจากกันว่า   “เตี่ยตาย”    เพราะวิบากกรรมดังกล่าวของท่าน

 

 

•  ส่วนที่เสียบ้านและเสียทรัพย์สิน เพราะเคยอนุโมทนาบาป   คือ พลอยยินดีกับการที่กองทัพเมืองของตน  ไปออกรบกับอีกเมืองหนึ่ง  แล้วไปทำลายบ้านเรือนและริบทรัพย์สมบัติของเมืองนั้นมายังเมืองของตน  ,  วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผลจ่ะ!

 

 

7. คุณแม่เวลานั่งสมาธิดี ๆ มักจะมีอะไรมาต่อต้าน  เพราะเป็น “มโนกรรม” ที่ติดมาในอดีต ในชาตินั้นในช่วงแรกที่ยังไม่ได้เข้าใจการปฏิบัติธรรม  ,  เมื่อได้เห็นนักปฏิบัติธรรมก็มักชอบคิดตำหนิ หรือว่าในใจในทางไม่ดีต่าง ๆ นา ๆ

• จะแก้ไขก็ให้นั่งไปเรื่อย ๆ อย่างสบาย ๆ  โดยภาวนา สัมมาอะระหังไป  ไม่ช้าก็หายจ่ะ!
  

 

• คุณแม่กับพี่ชายคนที่  4  เวลาเข้าใกล้พระผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ มักอยากจะกล่าวคำหยาบออกมาแรง ๆ อย่างอัตโนมัติ  เพราะ  ... “มโนกรรม” ที่ติดข้ามชาติมา  ในช่วงที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องการปฏิบัติธรรมดังกล่าวจ่ะ!
  

 

• จะแก้ไข   ก็ต้องพยายามข่มใจไว้  ,  และให้เอาชนะมันด้วยอำนาจจิตของเรา  ,  โดยภาวนา สัมมาอะระหัง เรื่อยไป  จนความคิดหรือเสียงนั้นจะหายไป  , ไม่ช้าก็จะหายไปเองจ่ะ! อย่ากังวลใจไปเลย

 

 

8. พี่ชายคนที่  4  ตอนเด็กเป็น “โปลิโอ”  เพราะ ...เศษกรรมในอดีต ที่ “ล่ามโซ่ตรวน” พวกทาส  ในชาติที่เกิดเป็นหัวหน้าคุมแรงงานทาส  เพื่อเป็นการลงโทษและไม่ให้ทาสหนี  วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผลจ่ะ!

 

• และเวลาจะได้งานทำกลับถูกปฏิเสธทุกครั้ง   เพราะ  ... เศษกรรมในอดีตที่มักจะชอบมีอคติสูง  ,  ชอบกีดกันกลั่นแกล้งลูกน้องไม่ให้ประสบความสำเร็จ  มาส่งผลจ่ะ!
  

 

• จะแก้ไข   ก็ให้หมั่นมี “มุทิตาจิต” แสดงความยินดีกับทุกคนที่เขาประสบความสำเร็จ   และหมั่นสั่งสมบุญทุกบุญให้มาก ๆ แล้วอธิษฐานจิตให้พ้นวิบากกรมนี้จ่ะ!

 

 

9. คุณแม่  ,  ตัวลูก  และพี่ชายคนที่  4  รักและผูกพันกันมากกว่าพี่น้องคนอื่น ๆ เพราะ  ...เคยสร้างบารมีร่วมกันมามากที่สุดกว่าคนอื่น

 

• เข้าวัดกันเพียง  3  คน  นอกนั้นไม่เข้าวัด  ไม่เชื่อเรื่องบุญ – บาป   ...เพราะมีจิตติดทางโลก  มีสายบุญน้อย  อีกทั้งยังไม่เห็นทุกข์ในชีวิต  และขาดบุญในการคบบัณฑิตนักปราชญ์ มาจ่ะ!

 

 

10. สามีของลูกเป็นคนขยันทำงาน  แต่ผลตอบแทนกลับมาไม่คุ้มกับที่ลงทุนไป  แถมบางครั้งมีปัญหาและมักไม่ประสบความสำเร็จ เพราะ ...มีกำลังทานบารมีในอดีตมาในระดับหนึ่ง  ที่พอจะไปได้  แต่ยังไม่รุ่งนัก

 

• จะแก้ไข   ก็ต้องอดทน  ,  ขยันหมั่นเพียร  ,  ปรับปรุงพัฒนาตนเอง  แข็งในสิ่งที่ควรแข็ง  ,  อ่อนในสิ่งที่ควรอ่อน  แล้วก็สั่งสมบุญทุกบุญในปัจจุบันให้มาก ๆ ก็จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้  ,  อย่าวิตกกังวลจนเกินไปจ่ะ!

 

 

11. ตัวลูก  ,  คุณแม่  ,  พี่ชายคนที่  4  ,  สามีของลูก  , คุณพ่อ – คุณแม่  สร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” ,  ส่วนสามีก็มีบุญบวชช่วงสั้นจ่ะ!

 

• ลูกและครอบครัวอยากมีศูนย์ที่ “บริสเบน” นั้น  จะสมปรารถนาจ่ะ !  โดยลูกจะต้องไปรวมผู้มีบุญที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณนั้น  ,  แล้วชวนกันมาสร้างศูนย์  ,  อีกทั้งลูกต้องหมั่นนั่งสมาธิ   แล้วอธิษฐานจิตให้ดีทุกวันด้วยจ่ะ!
  

 

• ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ  แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์  อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!

 

 

 

 

http://goo.gl/G4ZUs