พุทธอุทยาน นานาชาติ

เรื่องของพญานาค เป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงนิยายพื้นบ้าน... ตำนานการหล่อพระพุทธรูป พระสุก พระใส พระเสริม เรื่องราวการอัญเชิญพระสุกขึ้นจากน้ำ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ เรื่องลี้ลับเหลือเชื่อในโลกใบนี้มีมากมายนัก แต่ที่นี่เรามีทุกคำตอบ... https://dmc.tv/a723

บทความธรรมะ Dhamma Articles > กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
[ 15 ต.ค. 2548 ] - [ ผู้อ่าน : 18284 ]
View this page in:
CASE STUDY
พุทธอุทยาน นานาชาติ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
 
        ลูกรู้สึกดีใจหลาย ที่คุณครูไม่ใหญ่จะจัดให้มีการสถาปนาพุทธอุทยานนานาชาติขึ้นในวันออกพรรษานี้ เพราะพื้นที่บริเวณนี้ อยู่ติดกับพื้นที่ที่ลูกอาศัยอยู่ในปัจจุบันค่ะ ลูกเป็นคนบ้านน้ำเป อำเภอกิ่งรัตนวาปี จ.หนองคาย และในฐานะที่ลูกเป็นคนในพื้นที่ลูกจึงขอส่งเรื่องราวที่เกี่ยวกับพญานาค ในบริเวณพื้นที่นี้มาเล่าสู่กันฟังก่อนที่สาธุชนจำนวนมหาศาลจะพากันเดินทางมาปลูกต้นสน และชมบั้งไฟพญานาคกันที่นี่ ลูกขอเริ่มเรื่องเลยนะคะ
   
        บ้านเป จัดว่าเป็นอาณาบริเวณที่มีการพ่นบั้งไฟพญานาคมากเป็นอันดับต้นๆของสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมบั้งไฟพญานาคกัน ซึ่งก็จริงๆค่ะ เพราะตั้งแต่ลูกเกิด พอจำความได้ก็ได้เห็นบั้งไฟพญานาคตั้งแต่ตัวน้อยๆแล้ว  บางปีที่นี่มีบั้งไฟพญานาคขึ้นมากกว่า 100 ดวง มีคนมาดูมากถึง 8,500 คน จนทำให้ชาวบ้านแถวนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา และชาวบ้านที่นี้ก็มีความเชื่อเรื่องพญานาคกันมาก เพราะบ่อยครั้งเขาจะเห็นพญานาคตัวเป็นๆ ว่ายน้ำเล่นกันในลำน้ำโขง ซึ่งลูกเองก็เป็นคนหนึ่งที่เห็นเช่นนั้นด้วย
   
        พอถึงวันออกพรรษาทีไร ก็จะเห็นพิธีการไหลเรือไฟตอนกลางคืนกลางลำน้ำโขง เพื่อเป็นการบวงสรวงพญานาค เทพเจ้าแห่งลำน้ำ โดยชาวบ้านจะช่วยกันตัดไม้ไผ่ลำใหญ่ๆมาต่อเป็นแพขนาดใหญ่ บนแพจะตกแต่งด้วยโคมเทียนนับร้อยๆดวง แต่สมัยนี้บางที่เขาจะประดับประดาด้วยหลอดไฟหลอดเล็กๆ และจัดให้มีการประกวดกันด้วย บนแพนี้จะมีต้นกัลปพฤกษ์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มีเครื่องอัฐบริขาร  มีขันธ์ 5 และชาวบ้านก็จะนำเรือแพนี้ออกไปล่องยังลำน้ำโขงในตอนกลางคืน ซึ่งลูกจำได้ว่า สมัยที่ลูกยังเด็กๆ ตอนนั้นตรงกับวันออกพรรษาในปีพ.ศ.2517 ลูกก็ได้ไปช่วยเขาทำเรือไฟ และออกไปล่องกลางลำน้ำโขงกับเขาด้วยตอน 2 ทุ่ม แต่ลูกนั่งไปบนเรือยาวที่ขนาบไป 2 ข้างพยุงแพนี้ค่ะ  คือแพอยู่ตรงกลางระหว่างเรือยาว 2 ลำใหญ่ พอพายๆกันไปลูกก็ได้สังเกตพบว่า อยู่ๆก็มีงูเขียวตัวเล็กๆจากไหนก็ไม่ทราบเลื้อยขึ้นไปอยู่บนยอดกัลปพฤกษ์ ในเรือแพของเราด้วย แล้วทำท่าผงกหัวเหมือนรับรู้ว่า เรามาบูชาบวงสรวงพญานาคเทพเจ้าแห่งลำน้ำนี้กัน  ซึ่งการบูชานี้ ต่างคนก็จะอธิษฐานขอปู่นาค ให้ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองพวกเรา ให้หาปลาได้ ให้อย่ามีภยันตรายใดๆเกิดขึ้นกับพวกเขาและคนในครอบครัวเลย และที่สำคัญก็จะไม่ลืมที่จะอธิษฐานขอให้คืนนี้มีบั้งไฟขึ้นเยอะๆด้วย
   
        การไหลเรือไฟของปีนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนานเฮฮาสุดๆ แต่ก็มีบางคนเอาเหล้าขึ้นไปกินบนเรือหางยาวนั้นด้วยในปีที่ลูกไป จึงเป็นเหตุให้เมากันยกใหญ่ และเกิดอุบัติเหตุเรือยาวพลิกคว่ำ คนในเรือจึงต้องมาอยู่ในน้ำป๋อมแป๋มกันหมด แต่แต่ละคนก็ว่ายน้ำกันคล่องอยู่ค่ะ จึงไม่ตกอกตกใจอะไรกันมาก ซึ่งลูกเองตอนนั้นก็รีบว่ายเข้าหาฝั่งเหมือนหลายๆคน แต่พอลูกว่ายมาจนถึงระดับน้ำสูงเท่าเอว  อยู่ๆลูกก็ต้องพบกับความประหลาดใจสุดๆ เพราะตรงหน้าของลูก ซึ่งห่างจากตัวลูกแค่ 1 ช่วงแขน มีน้ำแตกกระเด็นขึ้น สักครู่ก็มีเสียงปุดๆ พร้อมกับการลอยขึ้นของลูกบั้งไฟพญานาค ลอยขึ้นมาต่อหน้าต่อตาของลูกซ้อนกันถึง 3 ดวง จากนั้นลูกไฟก็ลอยขึ้นพ้นน้ำ  ความเร็วจะเท่ากันตลอด ขึ้นไปสูงเสียดยอดมะพร้าว แล้วก็หายไป ลูกรู้สึกสนุก ตื่นเต้น แต่ก็พลางคิดในใจลึกๆว่า พญานาคพ่นบั้งไฟออกมาตรงนี้ แล้วพญานาคจะไม่อยู่ใต้นี้หรือ ซึ่งลูกก็กลัวอยู่เหมือนกันว่าจะถูกพญานาคขึ้นมาทำอะไรรึเปล่า ลูกจึงรีบว่ายเข้าหาฝั่ง ซึ่งปีนั้นเองเป็นปีที่มีบั้งไฟขึ้นเป็นจำนวนมาก เป็นร้อยๆ ดวงเลยทีเดียว แต่โดยส่วนตัวแล้วลูกนับได้ทันแค่ 27 ดวงค่ะ
   
        เมื่อพูดถึงตัวพญานาคแล้ว ทำให้ลูกนึกย้อนไปในสมัยที่ลูกอายุได้ 7 ขวบลูกได้เห็นพญานาคจะๆ ด้วยตาเนื้อ ออกมาเล่นน้ำอยู่กลางลำโขงอยู่ 7 วัน 7 คืน ซึ่งก่อนพญานาคจะมา  น้ำจะเป็นคลื่น แล้วน้ำจะแตกดังมาก  พญานาคที่ลูกเห็นนั้นตัวใหญ่ยาวเท่าลำตาล ตัวสีดำเป็นเลื่อมๆ กำลังชูหัวว่ายเล่นน้ำอยู่ พอครบ 7 วันจึงได้หายไป
   
        พื้นที่บริเวณบ้านน้ำเป ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใกล้กับบริเวณที่จะสร้างพุทธอุทยานนั้น เพื่อนสามีของลูก 3 คน เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนเขาขับรถมาหาลูกและสามีที่บ้านช่วงประมาณ 4-5 ทุ่ม ตลอดตามทางตั้งแต่บ้านหนองกุ้ง เวินพระสุก จนถึงบ้านน้ำเป เขาเห็นบ้านหลายหลังตั้งเรียงรายกันเป็นหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ เปิดไฟสว่างไสวตลอดแนว ซึ่งลูกก็เถียงเขาว่าจะเป็นไปได้ยังไงพื้นที่แถวนี้จะมีหมู่บ้าน ได้ยังไง เพราะแถวนี้มีแต่ทุ่งนา และก็ยังมีที่นาที่เป็นที่ของลูกด้วย  และหนำซ้ำยังมีเพื่อนสามีของลูกอีกคนหนึ่งขับรถยนต์ผ่านบริเวณนี้ตอนกลางคืน อยู่ๆ ไฟรถก็เกิดดับลง แต่แล่นได้ แต่พอขับผ่านบริเวณนี้ไปแล้วไฟก็ติดใหม่ค่ะ ซึ่งลูกก็คาใจมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
   
        และเรื่องแปลกอีกเรื่องประมาณปี 2523-2534 ลูกได้ฝันว่ามีองค์พระแก้วใสองค์ใหญ่มากเท่าพระธาตุพนมมาประดิษฐานอยู่บนผืนดินที่ เวินพระสุก องค์พระองค์นี้ท่านได้เรียกลูกเข้าไปพบ ลูกจึงนั่งลงกราบแล้วก็สวด อิติปิโสค่ะ ซึ่งในฝันนั้นก็มีแม่ชีอีก 6 คนนั่งอยู่ใกล้ๆ ด้วย หลังจากนั้นภายในปีนั้นเอง ผืนดินตรงนี้ก็มีดอกบัวขึ้นเต็มไปหมด ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยมีเลยค่ะ  และก็ยังมีบัวขึ้นมากระทั่งถึงปัจจุบันนี้...
   
        ในบริเวณบ้านน้ำเปนี้เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ที่แปลกๆอยู่หลายอย่าง และเป็นผืนแผ่นดินที่อยู่ติดกับ เวินพระสุก ซึ่งเป็นสถานที่ๆตำนานเล่าขานกันว่า พระสุกได้จมหายลงไปในใต้บาดาลในบริเวณนี้ ซึ่งในสมัยที่มีการหล่อ พระสุก พระใส พระเสริม นั้น พระภิกษุและฆราวาสช่วยกันทำการสูบเตาหลอมทองอยู่ตลอดถึง 7 วัน แต่ทองก็ยังไม่ยอมละลายสักที จึงทำให้นำทองมาหล่อพระไม่ได้ แต่พอถึงวันที่ 8 มีเพียงพระภิกษุสูงอายุรูปหนึ่งกับสามเณรรูปหนึ่งสูบเตาอยู่ อยู่ๆก็ปรากฏมีชีปะขาวคนหนึ่งเดินเข้ามาขออาสาสูบเตาแทนพระและเณร แต่วันนั้นญาติโยมต่างเห็นบรรดาชีปะขาวจำนวนหลายคนต่างขมีขมันช่วยทำการสูบเตา เมื่อพระภิกษุและสามเณรฉันเพลเสร็จแล้วก็จะไปสูบเตาต่อ ปรากฏว่าได้มีผู้เททองลงเบ้าทั้ง 3 จนเรียบร้อยแล้ว และชีปะขาวก็ได้หายไปไม่เหลือแม้แต่คนเดียว การหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ สำเร็จลงด้วยดีอย่างน่าอัศจรรย์     ซึ่งในปัจจุบันนี้ มีพระสุกองค์เดียวที่ยังจมอยู่ใต้ลำน้ำโขงในบริเวณที่เรียกกันว่า เวินพระสุก
   
        ครั้งหนึ่ง พระครูสุวรรณคุณาวสัย  ท่านได้ประกอบพิธีบวงสรวง อัญเชิญพระพุทธคุณหลวงพ่อพระสุก ที่จมอยู่ใต้น้ำโขง อำเภอบ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิสัย ขึ้นจากน้ำ ท่านก็ขึ้นโผล่พ้นน้ำประมาณแค่อกองค์พระ จากนั้นก็จมลง คืออัญเชิญไม่สำเร็จ จากชาวหนองคายจึงได้ตัดสินใจทำพิธีเททองหล่อ หลวงพ่อพระสุกจำลอง แทนในปีพ.ศ. ๒๕๓๖ แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ วัดหลวง อำเภอโพนพิสัย ซึ่งก็มีเรื่องแปลกมากๆ คือ หลังจากอัญเชิญพระมาประดิษฐานภายในโบสถ์แล้ว เพดานโบสถ์มีน้ำไหลออกมาจากปล่องเพดานตลอดปี โดยหยดลงที่พื้นจนต้องเอาตุ่มมารองน้ำไว้ตลอดเวลา ลักษณะน้ำนั้นใสเย็นเหมือนน้ำฝน  โดยไม่ทราบที่มาที่ไปของน้ำนั้นเลยว่ามาจากไหน ทางวัดได้บูรณะโบสถ์ หาช่างมาซ่อมหมดเงินไปหลายแสนบาท แต่ก็ยังมีน้ำไหลหยดย้อยลงมาเช่นนั้นดังเดิม หยดจนชาวบ้านและทุกคนที่มากราบสักการะต้องแปลกใจไปตามๆกัน ทางวัดจึงประทับร่างทรงหาสาเหตุ จึงได้รับรู้ว่าเป็นหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์มาจากใต้บาดาลว่ากันว่า มีพญานาคหนุ่มมาดูแลรักษาน้ำอยู่ด้านบนมุมโบสถ์มิให้ขาดน้ำตลอดปี…
   
        สามีของลูก เสียชีวิตตอนอายุ 47ปี ด้วยมะเร็งต่อมลูกหมาก ในช่วงที่ลูกมาวัดพระธรรมกายเขาก็สนับสนุนลูกตลอดค่ะ หลังจากลูกแต่งงานกับเขาเรามี ลูกชาย ด้วยกัน 2 คน และก็ได้มาเลี้ยง ูกของพี่ชายสามี อีก 3 คนเลี้ยงเหมือนลูกแท้ๆของตัวเอง รวมเป็น 5คนค่ะ
 
ขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
1. การทำพิธีไหลเรือไฟนั้น พญานาคชอบหรือไม่ พญานาคคิดอย่างไร งูเขียวที่เลื้อยขึ้นไปอยู่บนแพที่ยอดกัลปพฤกษ์นั้นมาจากไหน เกี่ยวข้องกับพญานาคหรือไม่อย่างไรคะ การอธิษฐานขอพรพญานาคนั้นพญานาคจะรับรู้หรือไม่อย่างไร และพญานาคจะช่วยเหลือคุ้มครองชาวบ้านได้จริงไหมคะ หากช่วยจริงๆเขาช่วยทำอะไรบ้างคะ
 
2. ตอนที่ลูกตกน้ำทำไมพญานาคถึงพ่นบั้งไฟตรงหน้าลูกคะ ที่ลูกเห็นเป็นบั้งไฟพญานาคจริงหรือไม่ เพราะตอนลูกเห็นบั้งไฟนั้นน้ำตื้นระดับน้ำแค่เอวเองค่ะ ถ้าพญานาคพ่นจริงพญานาคอยู่ที่ตรงไหนคะ
 
3. ตอนที่ลูกเป็นเด็กเห็นพญานาคนั้น เป็นพญานาคจริงหรือไม่ ทำไมพญานาคถึงได้โชว์ตัวอยู่ในน้ำนานถึง 7 วันคะ และการที่พญานาคเล่นน้ำอยู่ใต้บาดาล กับเล่นอยู่เหนือน้ำพญานาคชอบแบบไหนมากกว่ากัน และทำไมถึงชอบมากกว่าคะ พญานาคชอบให้คนเห็นเขาหรือไม่คะ
 
4. ใต้ลำน้ำโขงตรงบริเวณบ้านน้ำเป และ เวินพระสุก ใต้นั้นเป็นเมืองพญานาครึเปล่า ทำไมมีการพ่นบั้งไฟพญานาค มากกว่าที่อื่น และทำไมที่เวินพระสุกถึงได้มีน้ำวนคะ
 
5. หมู่บ้านที่เพื่อนสามีของลูก 3 คนเห็นนั้นจริงหรือไม่คะ ถ้าจริงเป็นหมู่บ้านของใคร เกี่ยวข้องกับสถานที่ๆ จะสร้างพุทธอุทยานหรือไม่คะ และทำไมเขาต้องมาปรากฏให้เพื่อนสามีของลูกเห็นด้วยคะ และทำไมไฟรถของเพื่อนสามีลูกอีกคนหนึ่งถึงไฟดับ ขณะขับผ่านบริเวณนี้คะ
 
6. พื้นดินตรงเวินพระสุกที่ลูกฝันว่ามีพระพุทธรูปแก้วใสอยู่ ทำไมลูกถึงฝันเช่นนั้น หมายความว่าอะไร แล้วทำไมภายในปีนั้นถึงมีดอกบัวขึ้นเต็มหนองนาไปหมดคะ
 
7. สถานที่ที่เรากำลังมาสร้างพุทธอุทยานกันในปีนี้ อดีตเคยเกี่ยวข้องกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาอย่างไรหรือไม่คะ 
 
8. จากตำนานการหล่อพระ 3 องค์นั้น มีชีปะขาวมาช่วยจริงหรือไม่คะ หากจริง ชีปะขาวเป็นใคร ทำไมถึงได้มาช่วยสร้าง และสามารถทำให้ทองละลายได้ และทำไมญาติโยมถึงเห็นชีปะขาวหลายคน แต่พระเณรกับเห็นชีปะขาวเพียงคนเดียว แล้วช่วยเสร็จแล้วเขาหายไปไหนกันหมดคะ
 
9. ขณะที่พระท่านอัญเชิญพระสุกขึ้นจากน้ำ ท่านทำอย่างไรคะ ตอนนั้นมีการใช้ฤทธิ์ต่อสู้ หรือต่อรองกับพญานาคหรือไม่อย่างไรคะ แล้วพญานาครู้สึกอย่างไร แล้วทำอะไรกันบ้าง ถึงอัญเชิญพระสุกมาได้แค่ระดับอกคะ
 
10. หากเราสร้างพุทธอุทยานเสร็จ แล้วทำสถานที่นั้นให้เอื้อต่อการปฏิบัติธรรม เราจะสามารถอัญเชิญพระสุกขึ้นมาประดิษฐานที่พุทธอุทยานแห่งนี้ได้หรือไม่คะ หากจะอัญเชิญมาธิดาพญานาคท่านคิดอย่างไร ว่าอย่างไรคะและพญานาคจะแปลงกายเป็นมนุษย์ ขึ้นมาที่พุทธอุทยานนานาชาติหรือไม่อย่างไรคะ ถ้ามาได้จะขึ้นมาทำอะไรคะ
 
11. ทำไมในโบสถ์ที่ประดิษฐานพระสุกจำลอง ถึงมีน้ำไหลออกมาจากเพดานตลอดทั้งปี น้ำนั้นมาจากไหน มีพญานาคหนุ่มมาดูแลจริงหรือไม่คะ พระสุกใต้เมืองบาดาลกับองค์จำลองนี้ศักดิ์สิทธิ์เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แล้วที่มีพระสุกจำลองธิดาพญานาคที่ชื่อสุก ท่านคิดอย่างไรคะ 
 
12. ในชาติก่อนๆ ลูก และลูกพระธัมฯที่จะมาร่วมสถาปนาพุทธอุทยาน เคยได้ทำบุญในบริเวณพุทธอุทยานนานาชาติหรือไม่ อย่างไร และในชาติก่อนเคยทำบุญร่วมกันมากับพญานาคบริเวณนั้นมาหรือไม่อย่างไรคะ
 
13. ด้านหลังเหรียญห่วงใยมีพญานาคอยู่ ๒ ตัว จะทำให้เหรียญนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับพระมหาสิริราชธาตุกรอบพญานาคหรือไม่  เพราะเหตุใด และเหรียญของขวัญนี้จะช่วยให้การเดินทาง โดยเฉพาะทางน้ำจะปลอดภัยยิ่งๆ ขึ้นหรือไม่ เหรียญของขวัญนี้มีพญานาคอยู่ด้านหลังจะป้องกันภัยจาก งู  ตุ๊กแก และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ได้หรือไม่อย่างไรคะ
 
14. บุพกรรมใดที่ทำให้สามีของลูกเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและอายุสั้น เขาตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่อุทิศหรือมีอะไรอยากฝากบอกไหมคะ ทำไมลูกได้มาเลี้ยงลูกของพี่ชายของสามีทั้ง 3 คนด้วย อดีตชาติเป็นอะไรกับลูกมารึเปล่าคะ
 
15. ลูกและลูกชายแท้ๆ 2คน และลูกของพี่ชายสามีทั้ง 3 คนเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาหรือไม่อย่างไรคะ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1
ทีแล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. พญานาคบางพวกก็ชื่นชม  ,  บางพวกก็เฉย ๆ กับการ ไหลเรือไฟ     แต่ส่วนใหญ่จะชื่นชมที่มนุษย์ได้ร่วมเฉลิมฉลองกับเขา  ,  แต่ไม่ชอบมนุษย์ที่ดื่มน้ำเมาจ่ะ !

 
  • “งูเขียว” ที่เลื้อยขึ้นไปบนแพ   และไปอยู่บนยอดกัลปพฤกษ์นั้นติดมาจากต้นไม้ที่เขาเอามาทำต้นกัลปพฤกษ์     มันก็เลื้อยมาตามธรรมชาติ  ,  เป็นงูธรรมดาไม่เกี่ยวกับพญานาค
 
  • การอธิษฐานขอพรพญานาคนั้น   บางพวกก็รับรู้  ,  บางพวกก็ไม่รับรู้     แต่จะสำเร็จหรือไม่   ก็ขึ้นอยู่กับบุญหรือการกระทำของ      ผู้ขอพรเอง     เพราะพญานาคมาช่วยอะไรไม่ได้มากจ่ะ !  
  • พญานาคก็ช่วยเสริมผู้ที่ประพฤติธรรมเท่านั้น  ,  หลักใหญ่อยู่ที่ตัวมนุษย์เป็นหลักจ่ะ !
 
2. ลูกตกน้ำแล้วเห็นบั้งไฟพญานาคตรงหน้า   ก็เป็นเรื่องจริง เพราะ...เขาสามารถพ่นบั้งไฟได้ในระดับใต้ดิน  ,  ไม่เกี่ยวกับ   น้ำตื้นหรือน้ำลึกจ่ะ !  
  • อีกทั้งบั้งไฟพญานาคก็เป็นของกึ่งหยาบกึ่งละเอียดจ่ะ ! 
 
  • พญานาคที่พ่นบั้งไฟพญานาคตรงหน้าลูก    ก็อยู่ใต้ดินบริเวณที่ลูกยืนอยู่ในน้ำแค่เอวลูกนั่นแหละจ่ะ !   
 
3. ตอนลูกเป็นเด็กเห็นพญานาคนั้น   ก็เป็นเรื่องจริงจ่ะ !พญานาคเขาออกมาเล่นน้ำโชว์ตัวนานถึง  7  วัน    เพราะตอนช่วงนั้น   มนุษย์ยังมีศีลมีธรรมดีกว่ายุคนี้จ่ะ ! 
 
 
  • แล้วแต่โอกาสของพญานาคที่จะมาเล่นน้ำใต้บาดาลหรือเหนือน้ำ       แต่เขาชอบเล่นน้ำใต้บาดาลมากกว่าจ่ะ ! 
  • ที่ชอบมากกว่าเพราะเป็น “ส่วนตัว” มากกว่าจ่ะ !    
  • โดยธรรมชาติพญานาคเขาไม่ค่อยชอบให้มนุษย์เห็น    เพราะระแวงพวกมนุษย์    
  • ดังนั้นก็แล้วแต่โอกาสที่เขาจะมาให้เห็นจ่ะ !
 
 
4. ใต้น้ำโขงบริเวณ “บ้านน้ำเป” และ “เวินพระสุก”   ใต้นั้นเป็น “เมืองพญานาค” จ่ะ !  
  • ที่มีการพ่นบั้งไฟพญานาคมากกว่า ที่อื่น    เพราะเป็นบริเวณที่มีพญานาคมา “จำศีล” มากกว่าที่อื่นเนื่องจากมันสงบดีจ่ะ ! 
 
  • ที่เวินพระสุกมี “น้ำวน”    เพราะ...เป็นเรื่องธรรมชาติ   ที่น้ำไหลแล้วมากระทบเกาะแก่งก็หมุนวนเป็นเรื่องธรรมดา     ไม่เกี่ยวกับพญานาคจ่ะ !
 
5. หมู่บ้านที่เพื่อนสามีของลูก  3  คนเห็นนั้น เป็นเรื่องจริงจ่ะ ! เป็นหมู่บ้านของ “ภุมมเทวา” ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา     แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้าง   พุทธอุทยานนานาชาติ  ,  แต่ก็ปีติยินดีในการสถาปนาจ่ะ !    
 
 
  • เพื่อนสามีของลูกเห็นได้    เพราะอายตนะมาตรงกันกับอารมณ์ของภุมมเทวาที่อยากจะ “หยอกล้อเล่น” จ่ะ !
  • ไฟในรถของเพื่อนสามีอีกคนหนึ่งดับ แต่รถแล่นได้  ,  ก็เป็นฝีมือของภุมมเทวาขี้เล่นที่ต้องการหยอกล้อจ่ะ ! 
 
6. พื้นดินตรง “เวินพระสุก” ที่ลูกฝันเห็นว่ามีพระพุทธรูปแก้วใสอยู่นั้น     ก็เป็นนิมิตว่าต่อไปพื้นดินแถวนี้จะเป็นศูนย์รวมของชาวพุทธนานาชาติจ่ะ !

 
  • ภายในปีนั้นมีดอกบัวขึ้นเต็มหนองนาไปหมด   เพราะ...เป็นบุพนิมิตว่า   ต่อไปจะมีศูนย์รวมของชาวพุทธนานาชาติขึ้นบริเวณแถว ๆ นั้นจ่ะ ! 
 
7. สถานที่เรากำลังจะสร้างพุทธอุทยานนานาชาติในปีนี้ อดีตนั้น   ก็มีความเกี่ยวข้องกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า   ที่พระองค์ท่านเคยเหาะมาประทับเพื่อโปรดพญานาคแถวนั้น     รวมทั้งมนุษย์ที่อยู่แถว ๆ นั้นด้วย     จนทำให้เกิดความเลื่อมใสขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งจ่ะ !
 
 
8. จากตำนานการหล่อองค์พระ 3 องค์   มี “ชีปะขาว” มาช่วยจริง ๆ จ่ะ !   
  • ชีปะขาว  คือ  พญานาคแปลงตัวมา    เพราะต้องการมีส่วนร่วมในการหล่อพระครั้งนี้จ่ะ !
 
  • ญาติโยมเห็น “ชีปะขาว” หลายคน     แต่พระเณรเห็นเพียงคนเดียวนั้น   เพราะ...แล้วแต่เขาจะตั้งใจให้ใครเห็น   ...ที่ทองละลายได้    เพราะแรงที่พญานาคอธิษฐานขอให้มีส่วนร่วมในการหล่อพระจ่ะ !  
  • เมื่อหล่อพระเสร็จก็ “แว๊บ” กลับใต้บาดาลเลย จ่ะ ! 
 
9. ขณะที่พระอัญเชิญพระสุกขึ้นจากน้ำนั้น     พญานาค  ไม่ยอม     พระท่านจึงได้ทำพิธีอัญเชิญตามหลัก “วิชาไสยเวทย์”  จ่ะ !     แต่พญานาคก็ยังไม่ยอม   จึงดึงกลับ     ดังนั้นพระสุกจึงโผล่แค่ระดับอกจ่ะ !
 
 
10. หากเราสร้างพุทธอุทยานเสร็จ   ถ้าเรามีบุญพอ     และเจ้าของเก่าเขายอม     ก็มีสิทธิ์อัญเชิญ “พระสุก” ขึ้นมาประดิษฐานได้จ่ะ !    
  • พญานาคก็มีสิทธิ์แปลงกายมาที่พุทธอุทยานได้     ถ้าเขาปรารถนา    เพราะเขามีกายกึ่งหยาบกึ่งละเอียด   เช่นเดียวกับการมาหล่อพระนั่นเองจ่ะ ! 
 
11. โบสถ์ที่ประดิษฐานพระสุกจำลอง   มีน้ำไหลออกจากเพดานตลอดปี    เพราะมีพญานาคมาดูแล     เนื่องจากอยากได้บุญจึงบันดาลให้เกิดปรากฏการณ์นั้นจ่ะ !

 
  • พระสุกที่ใต้บาดาลและพระสุกจำลองที่เมืองมนุษย์     ก็มีความศักดิ์สิทธิ์พอ ๆ กัน    เพราะเป็นตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ,ถ้ามีความเลื่อมใสพระองค์อย่างแรงกล้า     ก็จะศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะถ้าปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์จ่ะ !    
  • ธิดาพญานาคก็อนุโมทนาในการสร้างพระสุกจำลองจ่ะ ! 
 
12. ในชาติก่อน ๆ นานมากแล้ว   ในพุทธันดรแรกของกัปนี้ ลูกและลูกพระธัม   ก็เคยมาสร้างบุญที่บริเวณที่จะสถาปนา          พุทธอุทยานนานาชาติจ่ะ !     โดยเคยมาสร้างวัดสาขาแห่งหนึ่งเป็นที่ปฏิบัติธรรมเผยแผ่ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นจ่ะ !    พญานาคยุคนั้นคนละกลุ่มกับยุคนี้    แต่ก็เคยมีอยู่  แถว ๆ นี้   เมื่อพุทธันดรแรกของกัปนี้จ่ะ !
 
 
13. ด้านหลังเหรียญ “ห่วงใย” มีพญานาค  2  ตน     ก็มีความศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระมหาสิริราชธาตุที่มีกรอบพญานาคจ่ะ !    เพราะได้ซ้อนวิชชาธรรมกายเหมือนกัน    
 
 
  • แต่ต้องทำให้ถูกหลักวิชชา  คือ      ต้องน้อมนำมาตั้งใจที่ศูนย์กลางกายแล้วทำใจให้    หยุดนิ่ง ๆ     ทำจิตให้เลื่อมใสจนเห็นองค์พระอยู่ภายใน     แล้วหมั่นระลึกนึกถึงให้ได้ตลอดเวลา    
  • เมื่ออธิษฐานจิตใด ๆ เสียงละเอียดก็จะดังก้องไปถึงผู้ผลิตพระของขวัญจ่ะ ! 
 
14. สามีของลูกเป็น “มะเร็งต่อมลูกหมาก” และอายุสั้น  เพราะ...กรรมปาณาติบาตฆ่าสัตว์ทำอาหาร   และฆ่าสัตว์ขายหลาย ๆ ชาติ  ,  รวมทั้งเคยฆ่าคน   บวกกับกรรมเจ้าชู้ไปด้วย      มารวมส่งผลจ่ะ !

 
  • ตายแล้ว   ก็ไปเป็นเทพบุตรสุดหล่อมีวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส  3   ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา  ,  ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว     ก็ยิ่งทำให้มีสถานที่ดีขึ้น    ...แต่ก็รู้สึกว่าบุญของตัวน้อย   เพราะมาอยู่ท้าย ๆ ของดาวดึงส์  ,  รู้สึกเสียดายว่า ตอนเป็นมนุษย์สร้างบุญน้อยไป   แม้จะเข้าใจเรื่องบุญดีก็ตาม ,       จึงอยากได้บุญเยอะ ๆ จากลูกที่จะอุทิศไปให้เขา 
 
15. ลูกและลูกชายแท้  2  คน   กับลูกของพี่ชายสามี  3  คน เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”    แต่ไม่ค่อยสม่ำเสมอจ่ะ !

 
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ ! 
 

http://goo.gl/eoQK2

กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)



พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      Case Study โรคมะเร็งลำไส้และภาวะลำไส้อุดตัน (คุณแม่ชื้น)
      Case Study โรคปอดติดเชื้อ (คุณพ่อกิตติ)
      Case Study โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (คุณพ่อวิศิษฎ์)
      Case Study โรคมะเร็งท่อไต (โยมแม่นุชชดา)
      ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 16 (ตอนจบ)
      Case Study วิบากกรรมใดทำให้ไปเป็นสัมภะเวสี (คุณพ่อหัน)
      วิบากกรรม "คนหาปลา" ตอนจบ
      Case Study โรคมะเร็งลำไส้ (อุบาสกปองสิชฌ์) ตอนที่ 2 (ตอนจบ)
      Case Study โรคมะเร็งลำไส้ (อุบาสกปองสิชฌ์) ตอนที่ 1
      Case Study โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (พระจุมพล)
      วิบากกรรมน้ำท่วมปอด (คุณแม่พยอม)
      Case Study โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โยมพ่อเกษมศักดิ์) ตอนที่ 3 (ตอนจบ)
      Case Study โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โยมพ่อเกษมศักดิ์) ตอนที่ 2




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related