กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพ
ตั้งแต่เด็ก ตัวผมเองคบหาทีวีเป็นเพื่อนสนิท ดูช่องสถานีต่างๆ เรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ผมได้บอกเลิกคบกับทีวีทุกช่องโดยสิ้นเชิง แล้วหันมาดูแต่ DMC ช่องนี้ช่องเดียวครับ
ผมมีเรื่องราวสงครามชีวิตของคุณพ่อ ที่นำเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีนสู่แผ่นดินไทย ผจญสิ่งต่างๆมากมาย มาขอความกรุณาคุณครูไม่ใหญ่ช่วยฝันในฝันดังนี้ครับ
คุณพ่อ เป็นบุตรชายคนโต ของคุณปู่และคุณย่า ซึ่งอพยพจากเมืองจีน คุณพ่อเกิดเมื่อปี 2481 แต่คุณปู่ไม่ได้ไปแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ จึงไม่มีหลักฐานการเกิดของคุณพ่อที่เมืองไทย พอคุณพ่อเจริญวัยขึ้น ก็ค่อยๆฉายแววเด็กหนุ่มหน้าตาดีราวกับดาราฮ่องกง จนอายุ 11 ปี คุณย่าได้พากลับไปศึกษาต่อ ณ เกาะไหหลำบ้านเกิดของปู่ย่าที่เมืองจีน จนถึงอายุ 16 ปี ก็สามารถสอบเข้าโรงเรียนที่ไหข่าว(เมืองหลวงของเกาะไหหลำ)ได้ ช่วงที่เรียนหนังสือคุณปู่ส่งเงินจากเมืองไทยมาให้เดือนละ 100 เหรียญฮ่องกง แต่พออายุได้ 17 ปี คุณปู่ก็มาเสียชีวิต คุณพ่อจึงไม่มีเงินเรียนต่อ แต่คงด้วยบุญนารีอุปถัมภ์ คุณพ่อจึงได้แฟนคนแรกของท่าน เข้ามาช่วยเหลือเรื่องการเงิน ทำให้คุณพ่อเรียนต่อไปได้ คุณพ่อเรียนอยู่ที่ไหข่าวได้ 3 ปี ก็สอบเข้าเรียนต่อได้ที่มหาวิทยาลัยกวางโจว คณะวิศวกรรมศาสตร์ เอกทางด้านบรรจุภัณฑ์อาหารกระป๋อง คุณพ่อมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมมาก เป็นคนหนุ่มหน้าตาดีฉลาดอนาคตไกล เมื่อขึ้นเรียนปีที่สองโรงงานแห่งหนึ่งแถวไซบีเรียถึงกับมาจองตัวคุณพ่อเพื่อให้ไปทำงานที่นั่น แต่แล้วในปีเดียวกันนั้นเอง ตรงกับ พ.ศ. 2492 ก็เกิดเหตุการณ์จุดเปลี่ยนชีวิต นั่นคือ ประเทศจีนได้ถูกเปลี่ยนแปลงการปกครอง ระบอบการปกครองใหม่นี้มีความเชื่อว่า คนทั้งโลกต้องทำงานเท่าเทียมกัน เป็นอยู่เท่าเทียมกัน ไม่มีใครล้ำหน้าหรือล้าหลัง อีกทั้งไม่ให้มีการนับถือศาสนาด้วย
คุณพ่อและหนุ่มสาวทุกคนที่เรียนอยู่ ก็ต้องหยุดเรียนและถูกเกณฑ์ไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย งานแรกคือ การใช้แรงงานขนถ่านหินจากตีนเขาไปบนยอดเขา ซึ่งคุณพ่อก็ขนอย่างลำบากยากเย็น เพราะเป็นคนผอมบาง สุขภาพไม่เอื้ออำนวย ขนไปแค่ 3 - 4 วัน คุณพ่อก็ล้มป่วย คุณพ่อคิดว่า ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างต้องตายคากองถ่านหินอย่างแน่นอน คงด้วยบุญเก่าตามมาทัน ภาพระบบเครื่องทุ่นแรงซึ่งคุณพ่อได้เคยร่ำเรียนมา ก็มาปรากฏขึ้นในใจ คุณพ่อจึงไปนำเสนอให้ผู้ควบคุมงานทราบถึงแนวคิดใช้รอกเป็นเครื่องมือในการขนถ่านหิน คุณพ่อจึงได้เลื่อนฐานะจากคนขนถ่านหิน มาเป็นผู้คุมแรงงาน ทำให้คุณพ่อสบายขึ้น แต่ก็เป็นความสบายนิดหน่อย ในท่ามกลางความยากลำบากนานาประการของชีวิตในขณะนั้นเมื่อเป็นอยู่ลำบากมากเข้า ประกอบกับมีบุญนารีอุปถัมภ์ครั้งที่ 2 คุณพ่อจึงวางแผนหนีกลับประเทศไทย โดยแฟนสาวคนที่สองได้ให้บิดาของเธอซึ่งมีบริษัทอยู่ในฮ่องกง ทำจดหมายขอเชิญคุณพ่อมาประชุมประจำปีของบริษัท คุณพ่อใช้โอกาสนี้ไปขออนุญาต จนได้เดินทางมาฮ่องกง แล้วก็เดินทางต่อไปยังประเทศไทย แต่เนื่องจากตอนเกิดและตอนเดินทางออกจากประเทศไทยไม่มีการทำเอกสารเป็นทางการ คุณพ่อจึงไม่มีเอกสารใดๆ พิสูจน์ได้ว่าตนเป็นผู้ถือสัญชาติไทยหรือเกิดในประเทศไทยเลย ดังนั้นคุณพ่อจึงต้องหลบเข้าประเทศไทยโดยใช้ชื่อ นามสกุล และเอกสารของคนอื่นแทน และได้ใช้ชื่อนั้นแทนตัวเองในเมืองไทยนับแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน การอยู่ในเมืองไทยของคุณพ่อก็ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เกรงคนจะรู้ว่าตนเองใช้เอกสารของคนอื่น แต่คุณพ่อก็อยากบอกว่า
คุณพ่อได้งานทำที่โรงงานผ้าห่มไทย ขณะทำงานที่ห้องพับผ้าท่านรู้สึกปวดหัว จึงนอนพักในห้องพับผ้านั้นเอง ในขณะที่ข้างบนก็กำลังเล่นไฮโลอยู่ จู่ๆ ตำรวจก็บุกเข้ามาจับกุมพวกเล่นไฮโล คุณพ่อก็เลยติดร่างแหไปด้วย แฟนคนที่ 3 ของคุณพ่อจึงถอดสร้อยคอทองคำไปประกันตัวคุณพ่อออกมา คุณพ่อจึงไปทำงานเป็นช่างไฟฟ้าที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่นี่เองคุณพ่อก็ได้รู้จักกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เธอทำงานเป็นแม่บ้านของโรงแรม คุณพ่อจึงช่วยขับรถมอเตอร์ไซด์ไปส่ง ขับส่งไปส่งมาทุกๆวัน จึงแต่งงานกัน แล้วก็ให้กำเนิดผมกับน้องสาวคนที่ 1 มา
หลังจากคุณพ่อแต่งงานคุณแม่แล้วก็เปิดไนท์คลับอยู่แถวชลบุรี ในไนท์คลับก็มีสาวๆ รายล้อมเยอะมาก ซึ่งก็ทำให้คุณแม่ระแวง คุณแม่จึงไปแสวงหาผู้ช่วยจัดการเรื่องนี้ ก็คือคนทรงเจ้า ช่วยไปช่วยมาจนคุณแม่เกิดอาการทางประสาท คุณแม่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หันมาดื่มเหล้า สูบบุหรี่หนัก พูดคุยอยู่คนเดียว เหมือนกับการคุยโต้ตอบกับใครสักคนอยู่ ภาษาที่คุยก็ใช้ภาษาธรรมดาบ้าง ภาษาราชาศัพท์บ้าง บางครั้งก็ใช้ภาษากร้าวร้าวหยาบคาย คุณพ่อพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ไม่หาย วันหนึ่งคุณแม่หายตัวไปจากโรงพยาบาล คุณพ่อไปตามหาก็ไม่พบ ทราบภายหลังว่าญาติพี่น้องทางแม่เป็นคนรับตัวไป แต่ปกปิดพ่อไว้ หลังจากแม่หายตัวไป 3 ปี พ่อก็แต่งงานใหม่ พ่อมาเจอแม่อีกครั้งหลังจากที่แม่หายตัวไป 10 กว่าปี โดยญาติเป็นฝ่ายมาบอก แต่ความรู้สึกก็ไม่ได้ผูกพันกันแล้ว แม่ก็อยู่กับญาติพี่น้องตามเดิม อาการดีขึ้นมาก จำทุกคนได้ เพราะได้รับการรักษาจากโรงพยาบาล
ในช่วงที่แม่ป่วยนั้น ไนท์คลับของพ่อก็ถูกกลั่นแกล้งจากผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นทำให้ต้องปิดกิจการ คุณพ่อจึงไปหุ้นกับเพื่อนซื้อรถเบนซ์เพื่อใช้ขับเป็นรถรับส่งแขกของโรงแรม แต่สุดท้ายถูกเพื่อนโกง สูญทั้งเงินทั้งรถ คุณพ่อจึงหันมาขับรถแท็กซี่ และมาพบรักใหม่ ซึ่งก็คือคุณแม่เลี้ยงของผมเองครับ มีลูกอีก 1 คน คือ น้องสาวคนสุดท้อง
ในบั้นปลายชีวิตเมื่อคุณพ่ออายุได้ 66 ปี ก็เกิดอาการอักเสบบริเวณทวารหนัก พอไปตรวจพบว่าเป็นมะเร็งที่ปลายลำไส้ใหญ่ แพทย์จึงผ่าตัดส่วนที่เป็นเนื้อร้ายทิ้งไป เย็บปิดทวารหนัก และเจาะหน้าท้องให้ใช้ขับถ่ายแทน ต่อมาก็ตรวจพบมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และก้อนเนื้อร้ายที่ลำไส้ใหญ่ก็กลับขึ้นมาใหม่ จึงรักษาโดยการฉายแสง และเคมีบำบัด รักษาอยู่ได้ 4 เดือน คุณพ่อก็แพ้เคมีอย่างหนัก ประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนพ่อเสียชีวิต แพทย์สั่งให้เลือด 3 ถุง แต่ธนาคารเลือดที่โรงพยาบาลมีเลือดเพียง 1 ถุงเท่านั้น จึงได้รับความกรุณาจากหลวงพี่ของวัดพระธรรมกายไปบริจาคเลือดให้คุณพ่อถึง 7 รูป หลวงพี่ท่านได้ไปเทศน์โปรดคุณพ่อที่โรงพยาบาลเป็นชั่วโมง ทำให้คุณพ่อซึ่งเป็นคนไม่เชื่อนรกสวรรค์ ไม่ชอบพระภิกษุเท่าไหร่ ได้มีความเข้าใจที่ดีขึ้น สุดท้ายหลวงพี่ก็ให้คุณพ่อรับศีล 5 และหมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาทุกวัน
2-3 คืนก่อนเสียชีวิต คุณพ่อละเมอว่า มีคนใส่ชุดขาวจำนวนเป็นร้อยมาร่วมงานเลี้ยงใหญ่โต มีอาหารต่างๆมากมาย เขามาเชิญคุณพ่อไปร่วมงานเลี้ยง ละเมออย่างนี้เป็นชั่วโมง และอีกคืน คุณพ่อก็ละเมอว่า มีข้าวต้มจำนวนมากตกลงมาจากท้องฟ้า ต้องหาภาชนะมารองไว้ ข้าวต้มหกตกลงนอกภาชนะเต็มไปหมด วาระสุดท้ายคุณพ่อเสียชีวิตอยู่บนเตียงในห้องนอนที่บ้าน ด้วยอายุ 68 ปี
ตัวผมเอง ปัจจุบันเป็นอาสาสมัครแผนกธรรมโฆษก์ ผมสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้ดีมาก แม้ฟังเพียงครั้งเดียว แต่กลับ หลงลืมข้าวของ เบลอๆ อยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งผมยังมีความรู้สึกกลัวชีวิตล้มเหลวในอนาคตอย่างมาก เป็นมาตั้งแต่เด็ก พอเข้าวัดรู้เรื่องบุญก็ดีขึ้น แต่ยังไม่หายขาด เวลาที่สุขสบายขึ้นมา จะคอยกังวลว่าสุขสบายได้ไม่นานหรอก ต่อไปต้องเจอเรื่องหนักๆ เป็นต้น
น้องสาวคนสุดท้อง ตอนเล็กๆ อายุใกล้จะ 1 ขวบเคยถูกตู้เก็บของล้มทับ แต่ไม่เป็นอะไรเลย เพราะตู้ที่ล้มมาทับน้องสาวมีช่องว่างอยู่ และตำแหน่งที่มาทับน้องสาว เป็นตำแหน่งของช่องว่างในตู้นั้นพอดีทำให้รอดตายมาได้ ต่อมาน้องสาวอายุจะใกล้ 13 ปีได้ไปเล่นน้ำกับเพื่อนแล้วก็ได้จมน้ำไปด้วยกัน เพื่อนจับตัวน้องสาวไว้ น้องสาวสลัดก็ไม่หลุด วินาทีที่น้องสาวนึกว่า ตายก็ตาย ช่างมัน เพื่อนก็ปล่อยมือออก น้องสาวจึงตะเกียกตะกายรอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ แต่เพื่อนกลับเสียชีวิต นอกจากนี้น้องสาวยังมีอาการประหลาดคือ ตั้งแต่เด็กต้องให้เท้าเปียกน้ำตลอดเวลา ไปแช่น้ำจนเท้าเปื่อย คุณพ่อเลยหาโลชั่นมาทาให้ ตั้งแต่นั้น น้องสาวก็ต้องทาโลชั่นที่เท้าเกือบตลอดเวลาเพราะต้องการให้รู้สึกว่าเท้าเปียกตลอดเวลา
คำถาม
1. บุญใดทำให้พ่อมีนารีมาคอยอุปถัมภ์ทุกครั้งที่ประสบภัย คือ ตอนที่ไม่มีเงินเรียน ก็มีแฟนคนที่ 1 มาให้เงินสนับสนุน, ตอนที่ต้องใช้แรงงาน ก็ได้แฟนคนท ี่2 มาช่วยให้หนีไปได้ , ตอนที่ถูกตำรวจจับก็ได้แฟนคนที่ 3 มาประกันตัวออกไป , การมีบุญที่เขากล่าวกันว่า “นารีอุปถัมภ์” นั้น เป็นเพราะสร้างบุญเฉพาะมากับสตรีหรืออธิษฐานมาอย่างไรหรือไม่ครับ
2. กรรมใดคุณพ่อต้องใช้ชื่อของคนอื่นแทนชื่อของตนเองจนตลอดชีวิต
3. บุญใดท่านมีฐานะดีขึ้นจากการเปิดกิจการไนต์คลับ กรรมใดกิจการต้องถูกอิทธิพลคุกคามจนต้องปิดลง และกรรมใดท่านจึงถูกเพื่อนโกงทรัพย์สินไป
4. กรรมใดคุณพ่อจึงเป็นมะเร็งลำไส้ ต้องถูกตัดลำไส้ และเย็บปิดทวารหนัก และมะเร็งปอดจนเสียชีวิตครับ เป็นเพราะบุญใดช่วงที่คุณพ่อเป็นมะเร็งไม่ค่อยเจ็บปวดทรมานครับ
5. ที่คุณพ่อละเมอว่า มีคนใส่ชุดขาวจำนวนเป็นร้อยมาร่วมงานเลี้ยง และละเมอว่า มีข้าวต้มจำนวนมากตกลงมาจากท้องฟ้า เป็นกรรมนิมิตหรือคตินิมิตหรือไม่ครับ คุณพ่อละโลกแล้วไปไหนครับ , หลังจากคุณพ่อเสียภายในเจ็ดวัน ลูกๆได้สร้างพระให้พ่อ 3 องค์ คุณพ่อได้รับบุญนี้หรือไม่ครับ แล้วมีข้อความอะไรอยากบอกหรือเปล่า หากไม่ได้สร้างพระให้พ่อผลจะเป็นเช่นไรหลังจากละโลกไปแล้ว
6. บุญใดทำให้คุณพ่อจึงได้รับความกรุณาจากหลวงพี่ที่วัดมาบริจาคโลหิตให้ และให้ข้อคิดทางธรรมะหลายอย่าง ทำให้คุณพ่อซึ่งเป็นคนไม่เชื่อและไม่นับถือศาสนา ได้รู้สึกดีกับพระภิกษุในพระพุทธศาสนาขึ้นมาอย่างมากเลย ซึ่งเป็นผลดีในบั้นปลายก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตครับ
7. คนที่เป็นต้นคิดลัทธิที่ทำให้คนไม่เชื่อและไม่นับถือศาสนาใดๆเลย เจ้าลัทธินี้ตายแล้วไปอยู่ที่ไหนครับ เขาไปรับผลกรรมอย่างไรครับ
8. กรรมใดคุณแม่จึงมีอาการทางประสาท เป็นเพราะไปหาคนทรงเจ้าหรือไม่ครับ หรือเป็นมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ยังไม่สำแดงออก
9. เหตุใดผมจึงจำเรื่องราวต่างๆ ได้ดี แต่กลับเป็นคนเบลอๆ หลงลืมข้าวของและมักกังวลกับอนาคตครับ ต้องสั่งสมบุญอย่างไร จึงจะเป็นคนไม่กังวลหรือกลัวสิ่งใดๆ ทั้งสิ้นครับ
10. น้องสาวคนสุดท้องกรรมใดมาจึงถูกตู้ล้มทับแล้วไม่เป็นอะไร ,กรรมใดจึงจมน้ำกับเพื่อน แล้วบุญใดมาช่วยไว้จึงทำให้รอดชีวิตมาได้ครับ , และกรรมใดจึงต้องให้เท้าเปียกน้ำตลอดเวลาจนติดโลชั่นมาถึงทุกวันนี้
11. ผมกับน้องสาวคนสุดท้อง สร้างบารมีร่วมกับหมู่คณะมาอย่างไรครับ
12. ในพุทธันดรที่แล้ว ที่หมู่คณะลงมาสร้างบารมี มีการมารวมกันสร้างบุญของชาวพุทธมากที่สุดจำนวนเท่าไรครับ , การเทศน์สอนให้คนเป็นจำนวนมากๆ ได้ยินทั่วถึงทำได้อย่างไรครับ และใช้วิธีใดนัดหมายแจ้งข่าวตามคนมาวัดครับกราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูง
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ทีแล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. พ่อมี “นารีอุปถัมภ์” ทุกครั้งที่ประสบภัย เช่น ตอนไม่มีเงินเรียนก็มี “แฟนคนที่ 1” มาให้เงินสนับสนุน , ตอนที่ต้องใช้แรงงานก็มี “แฟนคนที่ 2” มาช่วยให้หนีไปได้ , ตอนที่ถูกตำรวจจับก็มี “แฟนคนที่ 3” มาช่วยประกันให้ เพราะ.....ได้สร้างบุญมากับสตรีคนนั้น ๆ และเคยได้เกื้อกูลกันมาในอดีต กับเมื่อทำบุญใดแล้วก็มักจะอธิษฐานว่า ขอให้มีสตรีมาอุปถัมภ์จ่ะ !
2. พ่อต้องใช้ชื่อคนอื่นแทนชื่อตัวเองตลอดชีวิต เพราะ.....ในอดีต พ่อมีนิสัยไม่ค่อยเชื่อเรื่องบุญ แต่ก็ทำด้วยความเกรงใจ ดังนั้นเมื่อมีใครมาชวนทำบุญ ก็มักจะบอกว่าให้ใส่ชื่อคุณก็ได้ ไม่ต้องมาใส่ชื่อผม เป็นต้นจ่ะ ! และบุญนี้จึงทำให้หนีมาอยู่เมืองไทยได้โดยใช้ชื่อคนอื่นจ่ะ !
3. ท่านมีฐานะดีขึ้นจากการเปิดกิจการไนท์คลับ เพราะ.....เป็นผลบุญที่เกิดจากการทำทานเป็นช่วง ๆ แล้วไม่ได้อธิษฐานจิตล้อมกรอบเอาไว้ ดังนั้นเมื่อบุญส่งผล จึงอะไรก็ได้ก็จะรวยมีฐานะ กอปรกับมีกรรมคบคนพาลในอดีตมาส่งผลด้วย จึงมาประกอบอาชีพนี้จ่ะ !
- แต่กิจการต้องปิด เพราะมีผู้มีอิทธิพลคุกคาม เพราะ.....กรรมคบคนพาลในอดีต ได้เป็นนักเลงคอยข่มขู่คน ได้มาส่งผลจ่ะ!
- ถูกเพื่อนโกงทรัพย์สินไป เพราะ.....ตอนไปคบคนพาล ก็เคยไปโกงคนอื่นเขาไว้เช่นเดียวกับที่มาโดนในปัจจุบันนี้บ้างจ่ะ !
4. พ่อเป็น “มะเร็งลำไส้” ต้องถูกตัดลำไส้ไป และเย็บปิดทวารหนัก เพราะ.....กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารและฆ่าขายในอดีต มารวมกับอีกชาติที่เป็นนักเลง ได้เคยไปทำร้ายโดย “แทง” คู่อริที่ท้อง อีกทั้งเคยเอาประทัดเสียบก้นสุนัขแล้วจุดให้ระเบิด กับกรรมสูบบุหรี่มารวมส่งผล ให้เป็นมะเร็งปอดจนเสียชีวิตจ่ะ !
- ช่วงพ่อเป็นมะเร็งไม่ค่อยเจ็บปวด เพราะ.....พ่อเคยมีบุญบริจาคยาให้คนยากจนในอดีต มาตัดรอนวิบากกรรมให้ไม่ค่อยเจ็บปวดทรมานจากโรคร้ายจ่ะ !
5. คุณพ่อละเมอว่า มีคนใส่ชุดขาวเป็นจำนวนร้อยมาร่วมงานเลี้ยงนั้น เป็น “คตินิมิต” ที่พ่อจะได้ไปเกิดในภพภูมิของ “ภุมมเทวาชั้นดี” จ่ะ !
- ส่วนที่ละเมอว่ามีข้าวต้มจำนวนมากตกมาจากท้องฟ้านั้น เป็น “กรรมนิมิต” ที่แสดงให้เห็นว่า พ่อจะมีโอกาสสร้างบุญได้มาก แต่พ่อเอาบุญไปได้นิดเดียวในตอนช่วงท้ายของชีวิตจ่ะ !
- ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวาชั้นดี” ในหมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง มีบ้านใหญ่พอสมควร ด้วยบุญที่ทำช่วงท้ายและบุญที่ลูกทำให้จ่ะ !
- ได้รับบุญทุกบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ก็ยิ่งมีสภาพดีขึ้นกว่าเดิมจ่ะ !
- หากไม่ได้สร้างพระให้พ่อหลังจากพ่อละโลกไปแล้ว พ่อก็คงจะไม่ได้เป็น “ภุมมเทวาชั้นดี” และอาจจะต้องถูกพาตัวไป “ยมโลก” ก่อนจ่ะ !
6. คุณพ่อได้รับการบริจาคโลหิตจากหลวงพี่ที่วัด และได้ข้อคิดทางธรรมะ และทำให้เข้าใจพระภิกษุและพระพุทธศาสนาดีขึ้น เพราะ.....ในอดีตเมื่อทำบุญแล้ว ก็อธิษฐานขอให้มีลูกที่ดี จึงทำให้มีลูกอย่างตัวลูกที่เป็นผู้มีบุญมาเกิด แล้วคอยเป็นกัลยาณมิตรให้กับท่านในบั้นปลายได้ อีกทั้งได้บุญของลูกชายที่ทำในปัจจุบันมาเป็นอาสาสมัครช่วยงานพระศาสนามานาน จึงทำให้พระอาจารย์ท่านเมตตาดังกล่าวจ่ะ !
7. คนที่เป็น “ต้นคิด” ลัทธิที่ทำให้คนไม่เชื่อและไม่นับถือศาสนาใด ๆ เลย เจ้าลัทธินี้ตายแล้ว ก็ไปอยู่ “โลกันตมหานรก” เพราะ.....เป็น “นิยตมิจฉาทิฐิ” ทั้งไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ , บิดามารดามีคุณ , โลกนี้โลกหน้าไม่มี , ผลทานไม่มี เป็นต้นจ่ะ!
- เมื่อไปอยู่ในโลกันตนรกนี้ ก็มีกายใหญ่ขนาดภูเขาใหญ่ ๆ หรือใหญ่กว่านี้ ได้เอาหัวห้อยลง โดยเอาขาเกาะอยู่กับขอบหน้าผา ตะกายกัดกินกันเอง แล้วตกลงไปในน้ำกรดสีดำร้อนแรงจนตัวละลาย แล้วมารวมตัวตะกายขึ้นมาใหม่ วนเวียนซ้ำ ๆ ซาก ๆทุกข์ทรมานมากกว่ามหานรกต่าง ๆ และอยู่ยาวนานกว่าทุกมหานรกจ่ะ !
8. “คุณแม่” มีอาการทางประสาท เพราะ.....กรรมดื่มสุราเองด้วย และเอาเหล้าไปเซ่นไหว้ นับถือเจ้าทรงด้วยในอดีตมาส่งผลจ่ะ ! โดยเป็นมาก่อนเจอคนทรง อีกทั้งในปัจจุบันก็มีความเครียดเกี่ยวกับเรื่องของคุณพ่อจ่ะ ! จึงทำให้เกิดอาการเช่นนั้น !
9. ลูกจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดี แต่มีอาการเบลอ ๆ หลงลืมข้าวของและมักกังวลเกี่ยวกับอนาคต เพราะ.....ในอดีตเคยทำบุญแล้วอธิษฐานว่า ขอให้มีความทรงจำเป็นเยี่ยม แต่เวลาทำบุญมักมีจิตฟุ้งซ่านและวิตกกังวล จึงทำให้มีอาการของคนวิตกจริตจ่ะ !
- จะแก้ไข ก็ให้นั่งสมาธิเยอะ ๆ และให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน อีกทั้งให้ทำบุญทุกบุญอย่างสม่ำเสมอด้วยจิตที่ไม่ฟุ้งซ่าน รวมทั้งเวลาพระให้พรก็ต้องตั้งใจให้ดี แล้วอธิษฐานจิตให้หนาแน่นก็จะพ้นจากวิบากกรรมนี้ได้จ่ะ !
10. “น้องสาวคนสุดท้อง” ถูกตู้ล้มทับ แต่ไม่เป็นอะไร เพราะ.....กรรมในอดีตชอบเอาไม้ “ตีแมลงวัน” ไม่ว่าจะตอมอาหารหรือไม่ตอมก็ตาม มาส่งผล แต่ไม่เป็นอะไรเพราะยังมีบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนามาช่วยไว้จ่ะ !
- “จมน้ำกับเพื่อน” แต่รอดตาย เพราะ.....กรรมในอดีตได้เอาลูกหมาที่เพิ่งหย่านมไปหัดให้มันว่ายน้ำ จนมันจมน้ำเกือบตาย แต่ก็ช่วยมันไว้ทัน มาส่งผลจ่ะ !
- ส่วนเพื่อนเหล่านั้นต่างคนต่างมีกรรมของตนจ่ะ !
- เท้าต้องให้เปียกน้ำตลอดเวลา จนทำให้ติดโลชั่นมาจนบัดนี้ เพราะ.....ในอดีตเคยลงโทษคนรับใช้ที่เท้าเลอะ แล้วชอบเหยียบขึ้นมาบนเรือนจนเรือนเลอะเทอะ , โดยการสั่งให้คนรับใช้เอาเท้าแช่น้ำต่อเนื่องหลายวัน เพื่อให้เข็ดหลาบ มาส่งผลจ่ะ !
11. ลูกกับน้องสาว สร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยเป็น “กองเสบียง” ประเภทบางครั้งก็เต็มที่ , บางครั้งก็ตามอารมณ์จ่ะ !
12. ในพุทธันดรที่ผ่านมา มีการรวมตัวของหมู่คณะมากที่สุดหลายล้านคน โดยไปชักชวนกันมาปากต่อปากบ้าง ตีฆ้องร้องป่าวบ้าง จนต่อมาก็กลายเป็นประเพณีและรับทราบกัน โดยในยุคนั้นคนมีบุญมาเกิดกันมาก , อายุก็ยืนเป็นหมื่นปี , ระบบประสาทการรับรู้ทั้งหูตาก็ดีมากกว่าในยุคปัจจุบันหลายร้อยเท่า การเทศน์สอนทำให้คนได้ยินทั่วถึง โดยได้อยู่รวมกันในอาคารใหญ่ ๆ ที่จุคนได้ทั้งหมด , ใหญ่กว่าสภาธรรมกายสากลหลายเท่านัก , อีกทั้งผู้เทศน์ก็มีพลังเสียงที่ดังกังวานได้ยินทั่วถึงกันหมดโดยไม่ต้องใช้เครื่องขยายเสียงเหมือนปัจจุบันจ่ะ
- ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !
http://goo.gl/XbGdZ