ไม่อยากเจอเธอ

CASE  STUDY

ไม่อยากเจอเธอ

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 

       

กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง

         ลูกเป็นคนกรุงเทพฯค่ะ ได้เข้าวัดครั้งแรกเมื่อปี 2538 โดยมีผู้นำบุญท่านหนึ่งมาชวน ลูกรู้สึกประทับใจ ในความสะอาด   เรียบร้อยของสถานที่ ความยิ้มแย้มแจ่มใส ของเจ้าหน้าที่และสาธุชน รู้สึกมีความสุขและความสบายใจมากค่ะ วันแรกที่มานั้น ลูกก็เดินดูนั่นดูนี้ไปเรื่อยๆ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายชักชวนให้ทำบุญเลี้ยงพระทุกวัน วันละ 1,000 รูป โดยร่วมบุญเพียงเดือนละ 1,000บาท ลูกคิดในใจว่า เราก็สามารถทำได้ ลูกก็สมัครเข้าโครงการเศรษฐีถาวรทันทีนับตั้งแต่นั้นมา   ได้ทำทุกเดือนไม่เคยขาด ลูกตั้งใจจะทำไปจนตลอดชีวิตของลูกค่ะ นอกจากนั้นลูกยังได้ทำบุญทุกบุญที่หลวงพ่อบอกอย่างไม่เคยตกบุญมาจนปัจจุบัน เป็นประธานกฐินทุกปี สร้างพระทั้งภายในและภายนอกมากกว่า 200 องค์

 

ปี 2548 ลูกและครอบครัวก็ได้ร่วมกันสร้าง เสาแก้วมหารัตนวิหารคด 1 ต้นค่ะ เวลาใครมาบอกบุญลูก ลูกก็ทำทุกบุญทั้งฝากไปทำและทำด้วยตนเอง ลูกอธิษฐานทุกครั้งว่าขอให้ได้ทำบุญทุกบุญกับคุณครูไม่ใหญ่ไปจนตลอดชีวิตค่ะ เพราะบุญที่ครูไม่ให้ให้ทำแต่ละบุญนั้นน่ะ มีแต่บุญใหญ่ๆดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ

ปัจจุบันลูกเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เรียกว่ารุ่นแรกของโลก    เพราะลูกสมัครเป็นนักเรียนทันที ที่เปิดโรงเรียนค่ะ   ลูกเข้าเรียนทุกวัน วันไหนไม่ได้ฟัง จะมีความรู้สึกขาดสิ่งสำคัญในชีวิตไปเลยค่ะ  ลูกชอบทุกช่วงของรายการที่หลวงพ่อสอนค่ะ ลูกชอบฟังเรื่องราวของนักสร้างบารมีหลายท่านในช่วงรายการ Case Study ฟังแล้วได้รับรู้ เรื่องราวความจริงของชีวิตที่เอาไปใช้ได้จริงในชีวิต ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ ต้องขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ช่วยฝันในฝันให้   ลูกก็เลยอยากขอให้ คุณครูไม่ใหญ่ฝันให้ลูกด้วยเจ้าค่ะ

    เตี่ยของลูก เกิดที่เมืองจีน  เป็นลูกคนเดียว เตี่ยหนีมาเมืองไทยกับเพื่อนบ้านตอนอายุ 20 ปี แล้วไม่กลับไปเมืองจีนอีกเลย เตี่ยเช่าห้องแถวอยู่ในตลาดทำการค้าขาย  ต่อมาเตี่ยก็ได้แต่งงานกับลูกสาวห้องแถวที่เตี่ยเช่าอยู่ ซึ่งก็คือคุณแม่ของลูกเอง  เตี่ยกับแม่มีลูกด้วยกัน 10  คน ลูกเป็นคนที่ 6  ตอนแต่งเตี่ยก็ใช้ห้องเช่าเป็นเรือนหอไปก่อนค่ะ

หลังแต่งงานแล้วเตี่ยกับแม่ก็ช่วยกันทำอาชีพค้าขาย ทั้งขายของชำ, ขายเหล้า, ขายถ่าน, ขายเสื้อผ้า   จนมีทรัพย์สินมาก  อีกทั้งยังมีห้องแถวให้เช่าอีกหลายห้อง  ภายหลังเตี่ยได้หันมาสูบฝิ่น  เตี่ยติดฝิ่นมาก จนไม่ค่อยสนใจทำมาหากิน   ฐานะที่เคยดี จึงค่อยๆหมดไป เพราะเตี่ยทยอยขายไปทีละอย่าง เพื่อเอาเงินมาซื้อฝิ่นสูบ  จนกระทั่งรัฐบาลประกาศห้ามสูบฝิ่น และสั่งปราบปราม  แม้ยังงั้นเตี่ยก็ยังแอบหาซื้อฝิ่นมาสูบ

ช่วงท้ายของชีวิตหลายปีในวัยชรา ดวงตาทั้งสองของเตี่ยมีฝ้าสีขาวเกิดขึ้น ทำให้ดวงตามืดบอดมองไม่เห็นอะไรเลย จนกระทั่งอายุได้ 92 ปี วันหนึ่งเตี่ยนอนหลับไป แล้วไม่ตื่นมาอีกเลย 

แม่ของลูก เป็นคนขยัน ใจบุญ ชอบทำบุญใส่บาตรทุกเช้า  ถึงเทศกาลทำบุญแม่ก็จะไปวัด แม่ชอบถือศีลบวชชีพราหมณ์ ทำให้ลูกๆได้ตามท่านไปวัดด้วย แต่แม่ชอบสูบยาเส้นใบจาก  มาเลิกได้ตอนแก่แล้ว  แม่จากไปโดยการนอนหลับแล้วไม่ตื่นอีกเลย ในลักษณะเดียวกับเตี่ย แต่แม่เสียชีวิตก่อนเตี่ย 2 เดือน  ขณะอายุได้ 82 ปี

สามีของลูก ชอบสั่งสอนคนให้ทำความดีทุกอย่าง นอกจากนั้น เขาชอบทำบุญ เขาได้นำปัจจัยไปถวายหลวงพ่อที่วัดใกล้บ้านร่วมทำบุญ สร้างโบสถ์ สร้างเจดีย์ สร้างศาลาใหญ่ ที่วัดใกล้บ้านเป็นประจำ เขายังเป็นคนใจเย็น พูดน้อย แต่หนักแน่นมีหลักการ นิสัยซื่อตรง เป็นคนน่ารักมากๆค่ะ

เขาเคยสูบบุหรี่ มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ มาเลิกตอนอายุราวๆ 50 ปี จากนั้นก็หันมาดื่มเหล้าดองยา ดื่มทุกวันก่อนทานอาหารเย็น โดยให้เหตุผลว่า ทำให้เจริญอาหาร  

ลูกและสามี ประกอบอาชีพค้าขายเครื่องเหล็ก  มีลูกด้วยกัน 5 คน  เมื่อลูกๆ โตขึ้น ก็ได้ช่วยเหลือกิจการค้าขายในบ้าน ทำให้สามีของลูกพอมีเวลาว่าง จึงได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนๆ ทำบ้านจัดสรรและซื้อขายที่ดิน  ทำได้ประมาณ 2-3 ปี ในตุลาคม พ.ศ.2537 เวลาหกโมงเย็นกว่าๆ สามีได้ไปนั่งคุยกับพี่ชายของเขาที่บ้าน ซึ่งเขาจะไปอย่างนี้ทุกวัน บ้านเป็นห้องแถวอยู่ติดถนน ขณะสามีนั่งหันหลังให้ถนน ทันใดนั้น ก็มีคนร้ายขับรถปิ๊กอั๊พมาจอดตรงถนนหน้าบ้าน ชักปืนออกมายิงเข้าที่หลังของสามี กระสุนทะลุถึงหน้าอกเสียชีวิตทันที โดยไม่รู้สาเหตุของการฆาตกรรม

ตอนเสียชีวิตใหม่ๆ พี่สาวของลูกได้มาอยู่เป็นเพื่อนที่บ้าน   เวลาพี่สาวอยู่บ้านคนเดียว ตอนเย็นๆมักได้ยินเสียง คนปิด-เปิดประตู  เดินขึ้นเดินลงอยู่บนบ้าน แต่ไม่เห็นคน ถ้าเป็นตัวลูกเจอเองลูกจะถามก่อนว่า นั่นใช่สามีลูกหรือเปล่า ถ้าใช่ก็จะให้เคาะประตูก๊อกๆๆก่อน สามครั้ง.... แล้วจะเปิดประตูให้

ต่อมาถึงงานทอดกฐินที่วัดพระธรรมกายในปี 2538   ลูกได้มาร่วมงานทอดกฐินด้วยความปลื้มปีติมาก เมื่อกลับถึงบ้านตกกลางคืน ลูกและลูกสาวคนที่สอง ได้กลิ่นเหม็นมากในห้องนอน  ไม่รู้ว่าสามีของลูกมารับบุญหรือเปล่า

ปี 2541 ลูกได้ย้ายมาอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งกับลูกสาวคนที่สอง ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังเดิม เมื่อมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ พอจะเอนหลังลงบนเตียง ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ตาม ลูกมักจะได้ยินเสียงกรน เหมือนเสียงกรนของสามีตอนมีชีวิตอยู่ เหมือนเขาอยู่ใกล้ๆค่ะ มีช่วงหนึ่งลูกได้มากราบถวายปัจจัยหลวงพ่อ เสียงกรนนั้นก็เงียบหายไป แต่ปัจจุบันนี้กลับมาให้ได้ยินเสียงอีกแล้วเจ้าค่ะ

ลูกสาวคนที่สามของลูก ปกติอยู่ที่ จ.ยะลา เวลามาเยี่ยมตัวลูกที่บ้านหลังนี้เขามักจะฝันเห็นพ่อเขาอยู่เสมอ แต่งตัวใส่เสื้อกล้ามเหมือนตอนมีชีวิตอยู่ เวลาลูกสาวนั่งสมาธิ(Meditation)ก็จะได้กลิ่นธูปค่ะ ส่วนลูกชายคนโตนั้นอยู่ที่บ้านหลังเดิม แรกๆเขาไม่ได้กลิ่นอะไรเลย แต่พอหลังจากที่เขาได้เข้าวัด ได้นั่งสมาธิ เขามักจะได้กลิ่นธูป ในเวลาที่กำลังนั่งสมาธิเป็นประจำได้กลิ่นมาจนถึงปัจจุบันนี้ จนลูกชายพูดว่า “พ่อคงไม่ไปไหนไกล คงจะเป็นภุมเทวาอยู่แถวๆนี้แหละ” บางครั้งในเวลากลางวัน ลูกจ้างก็มักจะได้ยินเสียงคล้ายเสียงฉีกกล่องกระดาษอยู่ที่ชั้น 3 ของร้าน พอไปดูก็ไม่เห็นอะไร  ทำเอาลูกจ้างต้องวิ่งแน๊บ ลงมาชั้นล่างแทบไม่ทันทุกที ลูกเลยต้องกำชับว่าเสียงที่ได้ยินน่ะมันเสียงอะไร คราวหน้าต้องลองฟังให้ดีๆ 

ลูกสาวคนที่สองของลูก รับราชการครู หลังจากแต่งงานก็ได้ย้ายไปอยู่กับสามี อยู่จนมีลูก 1 คน สามีของเขาก็เป็นคนดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ แต่จู่ๆสามีของเขาก็รบเร้าขออย่า จนลูกสาวต้องหย่าให้ ทั้งๆที่ก็ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน พ่อกับแม่ของสามีเขา ก็รักลูกสาวของลูกดี ไม่น่าจะมีปัญหาถึงขั้นต้องแยกทางกัน

ลูกสาวคนที่ห้าของลูก แต่งแล้วก็ไปอยู่กับสามี ตอนแรกเปิดร้านทองขายอยู่ด้วยกัน สามีชอบดื่มเหล้าแล้ว ดึกดื่นแค่ไหนก็บังคับให้ภรรยาไปซื้อเหล้ามาให้ ไม่ไปก็ถูกตี แต่ถึงยังงั้น ลูกสาวของลูก ก็ยังอยู่กับเขาจนมีลูกด้วยกันสองคน เพราะความที่สามีดื่มเหล้าจนดึกดื่น ทำให้ลูกและภรรยาต้องนอนดึกไปด้วย กระทั่งวันหนึ่งลูกทั้งสองและภรรยาป่วย ฝ่ายสามีก็ไม่ยอมให้ภรรยาพาลูกไปหาหมอ คงเป็นเพราะเสียดายเงินไว้ซื้อเหล้ากิน ลูกสาวของลูกทนไม่ไหว เลยพาลูกๆหนีกลับมาอยู่กับตัวลูกและก็ไม่กลับไปคืนดีอีกเลย ยิ่งคิดยิ่งเกลียดคนเมาทุกคน

คำถามมีดังนี้ค่ะ

 

1.    เตี่ยมีกรรมอะไรคะ จึงมีฝ้าขาวขึ้นกลบดวงตาทั้งสองข้างทำให้ตาบอดในช่วงท้ายของชีวิต

2.    เตี่ยและแม่มีบุญ หรือมีกรรมอะไร จึงทำให้ท่านทั้งสอง เสียชีวิตด้วยอาการเดียวกัน คือ นอนหลับแล้วตายไปเฉยๆคะ  เตี่ยและแม่ตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่สร้างพระให้หรือไม่ 

3.    สามีของลูกมีวิบากกรรมอะไร จึงต้องมาถูกยิงตายเมื่ออายุ 65 ปี เขายิงเพราะสาเหตุใดคะ

4.    เสียงต่างๆที่ทุกคนในบ้านได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นเสียงเปิด-ปิดที่พี่สาวได้ยิน เสียงกรนที่ลูกได้ยิน เสียงฉีกกล่องกระดาษที่ลูกจ้างได้ยิน ตลอดจนกลิ่นเหม็นที่ลูกกับลูกสาวคนที่สองได้กลิ่น และกลิ่นธูปที่ลูกชายคนโตกับลูกสาวคนที่สามได้กลิ่นตอนนั่งสมาธิ ใช่สามีลูกเป็นคนทำหรือไม่คะ , ที่เขาพยายามสื่อให้รับรู้ด้วย เสียงกรน กลิ่นเหม็น และกลิ่นธูปคะ เพราะอะไรคะ ,  เขาตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่ลูกสร้างพระประจำตัวอุทิศให้หรือไม่ มีอะไรอยากบอกกับครอบครัวไหมคะ

5.    ทำไมลูกสาวคนที่สองของลูกต้องมาแยกทางกับสามีแบบไม่ทราบสาเหตุ   เขาทำกรรมในอดีตมาอย่างไรคะ และอะไรที่เป็นสาเหตุในปัจจุบันที่ทำให้อยู่ดีๆ สามีก็ขออย่าคะ

6.    กรรมใดทำให้ลูกสาวคนที่ 5 ได้สามีที่ชอบดื่มเหล้า ทุบตีภรรยา จนลูกสาวของลูกทนอยู่ด้วยไม่ได้ ต้องแยกทางกัน

7.    ลูกมีปัญหาด้านสุขภาพค่ะ คือ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ลูกได้ไปร่วมงานบวชหลานชาย ลูกเดินมากอยู่ 4 วัน จากนั้นก็มีอาการปวดขามาก และจะเป็นตะคริวตอนเช้ามืด ต้องไปให้หมอนวดทุกครั้งที่เป็น นวดแล้วก็ดีขึ้นอยู่หลายวัน แล้วก็กลับมาเป็นอีก ปวดๆหายๆมาจนทุกวันนี้ เกิดจากบุพกรรมใดคะ จะแก้ไขได้อย่างไร

8.    ลูกๆ ทั้งห้าคนมีความผูกพันกับตัวลูกอย่างไรคะ  ถึงได้มาเกิดเป็นแม่ลูกกัน  ,  ลูกและลูกๆ ทั้ง 5 คน ได้เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ ถึงได้มีโอกาสทำบุญทุกบุญ  ไม่เคยตกบุญเลยค่ะ , แล้วลูกจะได้ กลับดุสิตบุรีไหมคะ ลูกกลัวว่าจะไม่มีใครส่งบุญให้หลังจากลูกตายค่ะ

กราบอนุโมทนาบุญในความเมตตาของคุณครูไม่ใหญ่ค่ะ

 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    “เตี่ย” มีฝ้าขาวกลบดวงตา   กลบดวงตาทั้งสองข้างจนตาบอดในช่วงท้ายของชีวิต   เพราะ.....กรรมในอดีตเตี่ยเคยดูแลปู่ของตนเองที่ดวงตาไม่ดีเพราะอายุมากแล้ว  ,  เตี่ยก็หวังดีโดยไปหาสูตรยารักษาดวงตาและได้มาทดลองหยอดดวงตาปู่จนท่านมองไม่เห็นเพราะสูตรยาผิด     ด้วยเศษกรรมที่ไม่มีเจตนาร้ายกับปู่ก็มาส่งผลให้เตี่ยในชาตินี้ตาบอดในช่วงท้ายของชีวิตจ่ะ !

 

2.    เตี่ยและแม่มีอาการคล้ายกันตอนก่อนเสียชีวิต  คือ  นอนหลับแล้วตายไปเฉย ๆ   เพราะ.....ด้วยความชราทำให้สังขารเสื่อมไปตามวัย  ,  อีกทั้งหมดอายุขัยและไม่มีกรรมปาณาติบาตอะไรร้ายแรงมาส่งผลที่จะทำให้มีทุกขเวทนาตอนก่อนตายจ่ะ !

 

 

• ตายแล้ว “เตี่ย” ไปเป็น “ภุมมเทวา” ระดับทั่วไปในหมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง   เพราะ.....กรรมสูบฝิ่นยังไม่ส่งผล  ,  ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วก็ทำให้มีสภาพที่ดีขึ้นจ่ะ !

• “แม่” ตายแล้วไปเป็น “อากาศเทวา” ด้วยบุญที่ทำในพระพุทธศาสนา  ,  ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วก็ทำให้มีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้นจ่ะ !

 

3.    “สามี” ของลูกถูกยิงตายเมื่ออายุ  65  ปี   เพราะ.....ถูก “ยิงผิดตัว” จากมือปืนที่รับจ้างในปัจจุบัน  ,  แต่มีกรรมในอดีตชาติหนึ่งได้เป็นพ่อค้านักธุรกิจ    ได้ขัดแย้งผลประโยชน์กับคู่แข่งจึงได้จ้าง “มือธนู” ไปลอบสังหารฆ่าคู่แข่งทางการค้าตายได้มาตามส่งผลจ่ะ !

 

4.    เสียงต่าง ๆ ที่ทุกคนในบ้านได้ยินไม่ว่าจะเป็นเสียง ปิด - เปิด ที่พี่สาวได้ยิน  ,  เสียงกรนที่ลูกได้ยิน  ,  เสียงฉีกกล่องกระดาษที่ลูกจ้างได้ยิน  ,  และกลิ่นเหม็นที่ลูกและลูกสาวคนที่  2  ได้กลิ่น  ,  ตลอดจนกลิ่นธูปที่ลูกชายคนโตกับลูกสาวคนที่สามได้กลิ่นตอนนั่งสมาธินั้น  ก็คือ  ความรู้สึกที่เกิดจากความรักและผูกพันกับสามีและพ่อของบุตรภรรยาที่มีความคิดถึงจ่ะ !     แต่สามีก็ได้มาวนเวียนอยู่กับบุตรภรรยาจริง   เพราะเมื่อตายแล้วก็ได้ไปเป็น “ภุมมเทวา” ระดับทั่วไปที่ยังไม่สามารถตัดอาลัยอาวรณ์บุตรภรรยาได้เนื่องจากตายอย่างกะทันหัน  ,  แม้จะได้รับบุญที่อุทิศไปให้ที่สามารถจะไปเกิดบนสวรรค์ชั้น “ดาวดึงส์” หรือจาตุมหาราชิกาได้     แต่ก็ยังตัดอาลัยยังไม่ได้จ่ะ !     

 

 

• ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ ๆ ภรรยาเป็นหลัก     และอยากอยู่กับทุกคนจึงยังไม่อยากไปเกิด  ,  อยากอยู่ดูแลทุกคนเหมือนตอนมีชีวิตอยู่จ่ะ !

 

 

 

5.    “ลูกสาวคนที่สอง” ที่แยกกับสามีโดยหาสาเหตุในปัจจุบันไม่เจอ   เพราะ.....ได้ทำบุญร่วมกันมาแค่นี้     ไม่ได้มีสาเหตุโกรธเคืองใด ๆ    เมื่อหมดบุญจากการทำร่วมกันก็เบื่อขึ้นมาเฉย ๆ จึงขอหย่าจ่ะ !

 

6.    “ลูกสาวคนที่  5” ได้สามีที่ชอบดื่มเหล้า  ,  ทุบตีภรรยาจนลูกสาวของลูกทนอยู่ไม่ได้ต้องขอแยกทางกัน   เพราะ.....เป็นภาพในอดีตของลูกสาวคนที่  5  ในสมัยที่เกิดเป็นผู้ชาย     เมื่อดื่มเหล้าเมาแล้วก็ทุบตีบุตร - ภรรยาของตนเองมาส่งผลจ่ะ !

 

7.    ลูกมีอาการปวดขามากและจะเป็น “ตะคิว” ตอนเช้ามืด   ต้องไปให้หมอนวดทุกครั้งที่เป็น   นวดแล้วก็ดีขึ้นหลายวันแล้วก็เป็นอีก   ปวด ๆ หาย ๆ มาจนถึงปัจจุบัน   เพราะ...กรรมในอดีตที่เกิดในสังคมเกษตรกรรมมักจะชอบเอาโซ่ผูกล่ามขาสัตว์และข้าทาสในเรือนเพื่อลงโทษไว้ที่ขา  เช่น  ล่ามขาสุนัขที่อยู่ในบ้านจนทำให้มันทุกข์ทรมาน   และล่ามขาข้าทาสบริวารดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ !

 

 

• จะแก้ไขก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญ  ทั้งทาน  ,  ศีล  ,  ภาวนา  ,  ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน   แล้วอธิษฐานจิตอุทิศไปให้สัตว์หรือคนที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาเอาไว้บ่อย ๆ จ่ะ !

 

8.    ลูก ๆ ทั้ง  5  คนมีความผูกพันกับตัวลูก   เพราะเคยเป็นแม่ลูกกันและได้สร้างบุญร่วมกันมาจ่ะ !

• ลูกและลูก ๆ ทั้ง  5  คน  เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาโดยเป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมาจ่ะ !

 

• ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์     อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !

 

http://goo.gl/H32qV