เธอชอบกินเด็กแรกเกิด

ในประเทศเนปาลมีตำนานเล่าว่า “เชอรี ฮาราติมา” เธอเกิดในสมัยพุทธกาลและชอบกินเด็กแรกเกิด และเธอเองก็มีลูกอยู่ 5 คน https://dmc.tv/a166

บทความธรรมะ Dhamma Articles > กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
[ 3 ส.ค. 2549 ] - [ ผู้อ่าน : 18267 ]
CASE STUDY
เธอชอบกินเด็กแรกเกิด
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

    ผมเป็นพระภิกษุชาวเนปาล ได้มีโอกาสมาวัดพระธรรมกายครั้งแรกพร้อมกับหมู่คณะ ในโครงการแลกเปลี่ยนยุวสงฆ์โลกครั้งที่1 เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก ผมรู้สึกประทับใจมาก เพราะผมเห็นว่า วัดพระธรรมกายเป็นองค์กรที่ทำงานเพื่อให้โลกเกิดสันติภาพ
 
    ผมดีใจที่ประเทศไทยมีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และพระมหากษัตริย์ทรงเป็นชาวพุทธ เพราะที่ประเทศของผมยังมีสงคราม ไม่เอื้อต่อการสร้างบารมี ถ้าผมได้บวชที่นี่ ผมคงอยู่ได้ไปตลอดต่อเนื่อง เพราะวิชาที่ผมชอบที่สุดก็คือ การปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ(Meditation)ครับ และพระเดชพระคุณหลวงพ่อยังมีวัดที่ดีที่สุด นักเรียนที่ดีที่สุด ทุกคนมีความสุขที่ได้เรียนรู้ธรรมะจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อไปทั่วโลก
 
    หลังจากที่ผมได้มาร่วมโครงการแลกเปลี่ยนยุวสงฆ์โลก ณ วัดพระธรรมกายในครั้งแรกนั้น ผมก็ได้กลับมาที่วัดอีกครั้ง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกสมาธิและศึกษาพระพุทธศาสนาสายเถรวาท ซึ่งในขณะนั้น ผมบวชและศึกษาพระพุทธศาสนาแบบวัชรยาน ขณะที่ได้ศึกษาช่วงสั้นอยู่ที่วัด ก็มีพระอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นกัลยาณมิตร ชวนให้ผมเข้ามาบวชในโครงการธรรมทายาท นานาชาติ ครั้งที่4 นี้
 
    เมื่อผมกลับไปเนปาลเพื่อลาพระอาจารย์ และขอพ่อแม่ออกบวชแบบเถรวาทนั้น ผมก็ฝันเห็นสถูปสีทอง และได้ยินเสียงดังจากเบื้องบน บอกว่า “นี่เป็นเวลาของคุณ ที่ธรรมะจะสว่างไสว เป็นครั้งที่3 แล้ว” ซึ่งผมไม่เข้าใจว่า มันหมายถึงอะไร
 
ผมเองก็เคยศึกษาธรรมะมาหลายแห่งแล้ว
 
ครั้งที่1 นับถือพระสังกัจจายน์ ความเชื่อแบบเทียนเต๋าของไต้หวัน
ครั้งที่2 แบบวัชรยาน
ส่วนครั้งที่3 คือ วัดพระธรรมกาย ซึ่งผมอยากจะให้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ลงตัวสำหรับผม
 
    ก่อนจะมาที่วัดพระธรรมกาย เพื่อมาร่วมโครงการบวช ผมได้ไปหาหญิงคนทรงในกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ขอเกริ่นเรื่องที่เกี่ยวกับการทรงสักนิดครับ เพราะร่างที่มาทรงคนแรกมีชื่อว่า “วอชชิ่ง บาเจะห์” ซึ่งตามตำนานเป็นลูกของ “เชอรี ฮาราติมา” (Shree Harhtima)
 
    ในประเทศเนปาล มีตำนานเล่าว่า “เชอรี ฮาราติมา” เธอเกิดในสมัยพุทธกาล และชอบกินเด็กแรกเกิด เธอมีลูกอยู่ 5คน ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงไปโปรด ได้นำลูกคนสุดท้องของเธอใส่ในบาตร ทำให้เธอมองไม่เห็นและร้องห่มร้องไห้ตามหาลูกของตัวเอง จนมีกัลยาณมิตรแนะให้ลองไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อทูลถาม
 
พระพุทธองค์ก็ตรัสว่า “ตอนนี้เธอรู้หรือยังว่าความรู้สึกของพ่อแม่ที่ต้องสูญเสียลูกไปนั้นเป็นเช่นไร”
เธอได้สำนึกถึงความผิดพลาดที่ทำไป เธอจึงถามว่า “ทำอย่างไรจะทำให้บาปนั้นหมดไป”
พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า “ต้องรอพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปลงมา ตอนนี้เธอต้องคอยช่วยเหลือเด็กๆละแวกนี้”
 
    เมื่อเธอและลูกตายไป ก็มาเข้าร่างคน เพื่อช่วยเหลือ หรือแนะนำวิธีแก้ปัญหาให้กับผู้คน
 
    ย้อนไปเมื่อผมได้ไปหาคนทรง ผมก็เอารูปของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ, รูปของวัดพระธรรมกายที่มีคนมาร่วมพิธีมากมาย ไปด้วย ผู้ที่มาเข้าร่างคนทรง ครั้งแรกชื่อว่า “วอชชิ่ง บาเจะห์” ทันทีที่เขาเห็นผม และยังไม่ทันได้ดูรูป เขาก็พนมมือแสดงความเคารพและพูดว่า “ผม (วอชชิ่ง บาเจะห์ เป็นชาย) อยากเดินทางไปกับท่าน” (เพื่อไปวัดพระธรรมกาย)
 
    ต่อมา คุณแม่ของวอชชิ่ง บาเจะห์ ชื่อ “เชอรี ฮาราติมา” ก็มาเข้าร่างแทน แล้วเธอก็พูดว่า “ท่านต้องระวังนะ เพราะวัดพระธรรมกายมีศัตรูมาก” จากนั้นเธอก็มอบเมล็ดข้าวสีขาว, ไส้เทียน, ธูปและเงิน 200NC (อ่านว่า เอ็นซี เป็นค่าเงินของเนปาล) นอกจากนี้เธอยังถวายเมล็ดข้าวสีดำให้แด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อมอบให้กับลูกๆขุนพลกองทัพธรรม เอาไว้ป้องกันภัย ขณะปฏิบัติหน้าที่เผยแผ่ธรรมะด้วยครับ
 
    แล้วเธอก็บอกว่า เธอจะส่งลูก คือ วอชชิ่ง บาเจะห์ มาวัดพระธรรมกายกับผมด้วย ซึ่งน่าประหลาดใจว่า ในวันเดินทาง ที่นั่งผู้โดยสารบนเครื่องบิน ทุกที่เต็มหมด ยกเว้นที่นั่งข้างผม ว่างอยู่เพียงที่เดียวครับ ผมนั่งพลางฉุกคิดถึงวอชชิ่ง บาเจะห์ มาตลอดทาง
 
    ผมเกิดในครอบครัวชาวเขาหิมาลัย คุณพ่อเป็นช่างไม้ คุณแม่เป็นแม่บ้าน ตอนที่ผมอายุ 6ขวบ คุณแม่และคุณย่าทะเลาะกันบ่อยมาก เข้าตำราแม่สามีกับลูกสะใภ้ไม่มีผิด แล้วก็แยกกันอยู่ ส่วนคุณพ่อได้แยกไปทำธุรกิจโรงแรมในเมือง คุณย่าจึงอยู่คนเดียว
 
    ผมมีพี่น้องทั้งหมด 4คน ผมเป็นลูกคนที่สอง พี่น้องของผมทั้ง 3คนได้อยู่กับคุณแม่ ส่วนตัวผมเองได้อยู่กับคุณย่า ซึ่งผมคิดว่าคุณแม่ควรเคารพคุณย่า เพราะคุณย่าเป็นอุบาสิกาและประพฤติพรหมจรรย์ เธอรักษาศีลแปด จึงทำให้ผมตัดสินใจอยู่กับคุณย่าตลอดมา คุณย่าเป็นครูคนแรกที่คอยสอนผมสวดมนต์และพาไปวัด ผมจึงมีความสนใจในพระพุทธศาสนาตั้งแต่ยังเล็ก คุณย่าสอนผมให้เป็นเด็กที่ดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่ไปเที่ยวเต้นรำ หรือเล่นการพนัน
 
    ขณะที่ผมอายุ 16ปี คุณย่าของผม ป่วยเป็นมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ ท่านทุกข์ทรมานมากเป็นระยะเวลา 3ปี คุณย่านับถือเจ้าแม่กวนอิม และมักอธิษฐานว่า ขอให้โรค หรือ อุปสรรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่น จงส่งผลที่ท่านแทน แล้วท่านก็ส่งบุญที่ท่านได้ทำให้กับผู้อื่นด้วย
 
    ตอนนั้น ไม่มีใครดูแลคุณย่าเลยนอกจากผม คุณแม่ถามผมแกมบังคับว่า ผมจะไปอยู่กับท่านหรือไม่ ซึ่งถ้าผมอยู่กับคุณย่า ผมจะไม่ได้เรียน แต่ถ้าอยู่กับคุณแม่ ผมจะได้รับการศึกษาที่ดี ผมคิดว่า ผมไม่ต้องการเรียน ผมต้องการอยู่กับคุณย่า และคุณย่าก็เสียชีวิต ขณะที่ผมอายุได้ 18ปี
 
    ตอนอายุได้ 19ปี คุณแม่บังคับให้ผมแต่งงาน ผมถึงกับร้องไห้ เพราะรู้สึกว่าชีวิตครอบครัวนั้นมีแต่ความทุกข์ จึงตอบคุณแม่ไปทั้งน้ำตาว่า “ผมไม่ต้องการที่จะแต่งงาน แต่ว่าผมต้องการที่จะพบท่านดาไลลามะก่อน เพื่อศึกษาธรรมะจากท่าน” แล้วผมก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ย่ำเท้าออกจากบ้านอย่างมุ่งมั่น มุ่งตรงสู่อินเดียเพื่อหวังจะได้พบท่านดาไลลามะ
 
    ผมเดินทางไปอินเดีย ทั้งๆที่ไม่สามารถอ่านหรือเขียนได้ เพียงพูดภาษาเนปาลและฮินดีได้เท่านั้น หนึ่งปีแรกที่อินเดีย ผมได้ทำงานแผนกต้อนรับชาวต่างประเทศ ในบริษัททัวร์ที่กรุงนิวเดลี เพื่อที่จะเก็บเงินเดินทางไปพบท่านดาไลลามะ ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษและภาษาอูดู
 
    เจ็ดปีต่อมา ผมได้ทำงานในสาขาของ องค์กรเทียนอันหมีเล่อฝอเหวี่ยน ของไต้หวันในประเทศอินเดีย แล้วได้ย้ายไปทำงานในองค์กรเดียวกันที่เนปาล จากการได้ทำงานในองค์กรนี้ ทำให้ได้เรียนรู้ภาษาจีนด้วย ผมได้ช่วยงานสังคมสงเคราะห์ เรียนรู้การรับประทานอาหารมังสะวิรัติ (Vegetarian) และศึกษาเรื่องเต๋า
 
    ในปี พ.ศ.2537 อาจารย์เต๋าบอกว่า จะพาผมไปพบดาไลลามะ แต่ขณะนั้นท่านดาไลลามะกำลังไปเยือนลอนดอน พอผมไปถึงจึงได้เห็นเพียงห้องนอนของท่านเท่านั้น แต่หลังจากได้สนทนากับลูกศิษย์ของท่านดาไลลามะ และเห็นรูปปั้นของ “หมีเล่อฝอ” หรือ รูปปั้นพระที่มีรูปร่างอ้วนท้วน แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ ดูคล้ายพระสังกัจจายน์ ผมก็เกิดความศรัทธามากขึ้น หลังจากนั้นได้ทำงานในสาขาขององค์กรเทียนอันหมีเล่อฝอเหวี่ยน ที่เนปาลต่ออีก 10ปี (ในปี พ.ศ.2533 – พ.ศ.2543)
 
    เมื่อผมอายุ 27ปี คุณแม่ก็ขอให้ผมแต่งงานอีกครั้ง เพราะผมเคยให้คำสัญญาไว้ว่า จะแต่งงานเมื่ออายุ 25ปี แต่โดยประเพณีชาวพุทธของชาวหิมาลัยนั้น จะให้ลูกคนที่สอง (ซึ่งผมเป็นลูกคนที่สอง) บรรพชาเป็นสามเณรหรือสามเณรี ขณะที่อายุครบ 20ปี ผมจึงตัดสินใจบวชเป็นสามเณรก่อน และได้เรียนรู้ธรรมะ ณ มหาวิทยาลัยสงฆ์ทางตอนใต้ของอินเดีย เป็นเวลา 3ปี
 
    การบวชแบบทิเบตที่อินเดียนั้น จะเริ่มบวชเณรก่อน 3ปี จะเรียนรู้ธรรมะจากหนังสือที่มีพระอาจารย์เป็นผู้สอน ผมได้เรียนวิชาที่เกี่ยวกับการใช้ดนตรีในพิธีกรรม การร่ายรำในพิธีกรรม และการบูชาพระรัตนตรัยโดยการถวายไวน์ ซึ่งถ้าใครผ่านวิชานี้ก็สามารถไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ สามปีจากนั้นผมตั้งใจที่ปฏิบัติธรรมต่อ แต่ไม่ผ่านการสัมภาษณ์ เพราะผมไม่ชอบวิชาการประโคมดนตรี และการร่ายรำในพิธีกรรม รวมถึงการบูชาพระรัตนตรัยโดยการถวายไวน์ด้วย ผมจึงเรียนไม่ได้ดี เพราะรู้สึกขัดแย้งในใจ เวลาที่จะต้องร่ายรำในพิธีกรรม ผมถามตัวเองว่า “ทำไมต้องมาทำอย่างนี้”
 
    ขณะนี้ผมได้มาบวช ณ วัดพระธรรมกาย เพื่อที่จะเรียนรู้เรื่องการปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมะ สวดมนต์เป็นภาษาบาลี และเรียนรู้ภาษาไทย ถ้าหากผมสามารถศึกษาวิชาเหล่านี้ได้ดี ผมจึงจะสามารถไปสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้ครับ
 
    สุดท้ายนี้ ผมต้องการที่จะกราบขอบคุณพระรัตนตรัย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เป็นอย่างสูง รวมทั้งขอขอบคุณอุบาสก อุบาสิกา และทุกคนที่ได้ให้โอกาสผมได้มาบวชธรรมทายาทในครั้งนี้
 
คำถาม
 
1.ที่ผมฝันว่า ได้เห็นพระสถูปสีทอง และได้ยินเสียงดังมาจากเบื้องบนว่า “นี่เป็นเวลาของคุณ ที่ธรรมะจะสว่างไสว เป็นครั้งที่3 แล้ว” นั้น หมายความว่าอย่างไรครับ
 
2.เรื่องราวของ “เชอรี ฮาราติมา” และตำนานของเธอ เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ถ้าจริงเธอเป็นใคร ทำไมจึงรู้เรื่องราวต่างๆได้ และผมสงสัยว่า “วอชชิ่ง บาเจะห์” ได้นั่งมาพร้อมกับผมบนเครื่องบินหรือไม่ครับ
 
3.ทำไม คุณย่าของผมจึงป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ขณะนี้ท่านอยู่ที่ไหน มีสภาพเป็นอย่างไร การที่ท่านอธิษฐานว่า ขอให้โรค หรือ อุปสรรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่น ให้ส่งผลที่ท่านแทน แล้วท่านก็ส่งบุญที่ท่านได้ทำให้กับผู้อื่นนั้น เหมาะสมหรือไม่ครับ
 
4.ทำไม ผมจึงต้องถูกบังคับให้แต่งงาน แต่รอดมาได้ทั้งสองครั้งครับ
 
5.ทำไม ผมรู้สึกขัดแย้งในความรู้สึก เวลาเรียนวิชาการประโคมดนตรีในพิธีกรรม เวลาร่ายรำในพิธีกรรม และการบูชาพระรัตนตรัยโดยการถวายไวน์ และทำไมต้องมาเรียนวิชาเหล่านี้ด้วยครับ
 
6.ทำไม ผมไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่สามารถพูดได้ 5ภาษาครับ
 
7.ทำไม ผมจึงต้องประสบกับการเดินทางตลอดเวลา ต้องพลัดไปสู่สังคมความเชื่อต่างๆที่ไม่ค่อยจะตรงกับพระพุทธศาสนามามากมาย อีกทั้งไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตที่ผ่านมาเลย ผมควรจะวางแผนและปฏิบัติตัวอย่างไรต่อไปในอนาคตครับ
 
8.ทำไม ผมจึงรักชีวิตการบวชมากๆครับ ผมเคยเป็นนักบวชมาก่อนหรือไม่ ในอดีตชาติ ผมได้เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร ผมจะฝึกฝนตนเองให้เป็นพระแท้ได้อย่างไร กราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อกรุณาให้คำแนะนำผมด้วยครับ
 
9.ทำไม เรายังไม่มีศูนย์ของวัดพระธรรมกายที่ประเทศเนปาล และจะมีโอกาสเมื่อไรครับ
 
10.พระอาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตร แนะนำให้ผมบวช ในอดีตเคยเกื้อกูลกันมาอย่างไร และสร้างบารมีมาอย่างไร ทำหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม ทำไมท่านรักและสนใจทั้งด้านศิลปะและภาษาครับ
 
กราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เป็นอย่างสูงครับ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.ที่ลูกฝันว่าได้เห็นพระสถูปสีทอง และได้ยินเสียงดังมาจากเบื้อบนว่า “นี่เป็นเวลาของคุณ ที่ธรรมะจะสว่างไสว เป็นครั้งที่3 แล้ว” นั้น หมายความว่า ลูกจะได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะ ด้วยบุญที่เคยสร้างร่วมกันมาได้บันดาลให้ได้ยินเสียงดังกล่าว
  • อีกทั้งพระสถูปสีทองก็หมายถึงมหาธรรมกายเจดีย์ ที่ลูกจะได้มาเจอ ความฝันนี้เป็นบุพนิมิตบอกเหตุล่วงหน้า ถึงการมาศึกษาวิชชาธรรมกายของลูก 
 
2.เรื่องราวของ “เชอรี ฮาราติมา” และตำนานของเธอนั้น ก็เป็นแค่เรื่องราวที่สร้างขึ้นมาเพื่อสอนคนเท่านั้น
  • ดังนั้น “วอชชิ่ง บาเจะห์” ก็ไม่มีตัวตนจริง เป็นเรื่องที่คนทรงว่าไปเอง บังเอิญมาพ้องกับเรื่องที่นั่งบนเครื่องบินเท่านั้น
  • อย่าไปเอาเรื่องเอาราวเป็นจริงเป็นจังเลย
 
3.คุณย่าป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ เพราะกรรมในอดีต ได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ฆ่าสัตว์ทำอาหารและฆ่าขาย มารวมส่งผล
 
 
  • ตายแล้ว ก็ไปเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา สายวิทยาธร ชั้นดี
  • ขณะนี้กำลังนั่งชมทิพยสมบัติอยู่ในวิมานทองขนาดปานกลาง ด้วยบุญที่มีจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ที่แปรเปลี่ยนไปจากคำสอนดั้งเดิม
  • การที่ท่านอธิษฐานว่า ขอให้โรคและอุปสรรคต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่น ให้ส่งผลที่ท่านแทน แล้วท่านก็ส่งผลบุญที่ท่านได้ทำให้แก่ผู้อื่นนั้น ก็เป็นการเจริญเมตตาจิตแบบหนึ่ง แต่ยังไม่ถูกวิธี เพราะยังปนความหลงอยู่ เนื่องจากทุกคนมีกรรมเป็นของตน ใครไม่อาจไปรับแทนกันได้ แต่บุญที่อุทิศให้ผู้อื่น ผู้อื่นก็ได้แค่อนุโมทนาเท่านั้น

4.ลูกถูกบังคับให้แต่งงาน แต่รอดมาได้ 2ครั้งนั้น ก็เป็นเรื่องของประเพณีในปัจจุบัน แต่ที่รอดมาได้ เพราะบุญที่เคยบวชมาในอดีต แล้วได้อธิษฐานจิตว่า “ขอให้ได้ประพฤติพรหมจรรย์” จึงทำให้รอดมาได้ 2ครั้ง กระทั่งได้มาบวชเป็นพระในเถรวาท
 
 
5.ลูกรู้สึกขัดแย้งในความรู้สึก ในเวลาเรียนวิชาการประโคมดนตรีในพิธีกรรม เวลาร่ายรำในพิธีกรรม และการบูชาพระรัตนตรัยโดยการถวายไวน์นั้น เพราะบุญที่เคยบวชเป็นพระแบบคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บันดาลให้ตัวลูกมีดวงปัญญาและสอนตัวเองได้ จึงทำให้ไม่เชื่ออย่างงมงายในพิธีกรรมและวิชาเหล่านี้
 
  • ที่ลูกต้องมาเรียนวิชาเหล่านี้ เพราะในอดีตชาติช่วงที่ยังไม่ได้บวช ได้เคยทำบุญกับหมู่คณะ แต่กระทบกระทั่งกับบางคน จึงทำให้น้อยใจ แล้วก็จากหมู่คณะไปแสวงหาความรู้อื่นๆ พิธีกรรมและวิชาต่างๆอยู่พักหนึ่ง แต่ภายหลังก็กลับมาสร้างบารมีกับหมู่คณะ ด้วยเหตุนี้จึงมีเชื้อที่ไปศึกษาวิชาต่างๆมาก่อน ติดตัวมา 
 
6.ลูกไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่พูดได้ 5ภาษา เพราะในอดีตชาติ ชาติหนึ่ง ลูกไม่ค่อยชอบเรียน ชอบท่องเที่ยวไปศึกษายังเมืองต่างๆ และเรียนรู้ภาษาต่างๆได้ดี นิสัยนี้จึงติดตัวข้ามชาติมา ให้ลูกเป็นอย่างที่เป็นในปัจจุบัน
 

 
7.ลูกต้องประสบการเดินทางตลอดเวลา ต้องพลัดไปสู่ความเชื่อต่างๆที่ไม่ค่อยตรงกับพระพุทธศาสนาดั้งเดิมมามากมาย เพราะในอดีต ที่ลูกมีนิสัยชอบหนีออกจากบ้าน และเดินทางไปเรื่อยๆ รวมกับได้น้อยใจในหมู่คณะดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และได้ไปแสวงหาวิชาต่างๆอยู่ช่วงหนึ่ง ผังนี้ได้ติดตัวลูกมา 

  • ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตที่ผ่านมาเลย เพราะลูกไม่ได้เกิดมาเพื่อทำหน้าที่แบบชาวโลก จึงทำให้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิต ลูกเกิดมาเพื่อเป็นนักบวชเท่านั้น

 
8.ลูกรักชีวิตการบวชมาก เพราะลูกเคยบวชมาหลายชาติแล้ว โดยเฉพาะกับหมู่คณะ เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกเป็นกุลบุตรได้เดินทางแสวงหาธรรมะตามเมืองต่างๆ จนมาเจอหมู่คณะและได้ออกบวช เมื่อบวชแล้วก็ทำหน้าที่เผยแผ่จนตลอดชีวิต มีผลการปฏิบัติธรรม ได้เข้าถึงองค์พระใสๆ เอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้ 

  • ดังนั้น ชาตินี้ก็ให้ตั้งใจศึกษาเรียนรู้คำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับหมู่คณะให้ดี โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน และให้ตั้งใจบำเพ็ญสมณะธรรมให้เต็มที่ กิจวัตรและกิจกรรมก็ให้ทำด้วยความสุข และสนุกสนานกับทุกงานแห่งการสร้างบารมี สิ่งใดที่เป็นข้าศึกต่อการกุศลและพรหมจรรย์พึงห่างไกล เป็นต้น ลูกก็จะเป็นพระแท้ได้ 
 
9.ที่ยังไม่มีศูนย์ของวัดพระธรรมกายที่เนปาล เพราะรอคอยผู้มีบุญอย่างลูกนี่แหละ ที่จะได้มาศึกษาธรรมะ ปฏิบัติตามคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วฝึกตนให้เป็น “พระแท้” แล้วกลับไปบุกเบิกที่เนปาล
 
 
10.พระอาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตรแนะนำให้ลูกบวช พุทธันดรที่ผ่านมาก็เป็นกุลบุตร ออกจากตระกูลเศรษฐีมาบวชกับหมู่คณะ
  • เมื่อบวชแล้วก็ทำหน้าที่เผยแผ่จนตลอดชีวิต มีผลการปฏิบัติธรรม ได้เข้าถึงองค์พระภายใน เอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้ ลงมาสร้างบารมี 2รอบ
  • ในพุทธันดรที่ผ่านมา ก็ได้เป็นกัลยาณมิตรให้กับตัวลูกเหมือนชาตินี้
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย

  

http://goo.gl/Te5jC

กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)



พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      Case Study โรคมะเร็งลำไส้และภาวะลำไส้อุดตัน (คุณแม่ชื้น)
      Case Study โรคปอดติดเชื้อ (คุณพ่อกิตติ)
      Case Study โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (คุณพ่อวิศิษฎ์)
      Case Study โรคมะเร็งท่อไต (โยมแม่นุชชดา)
      ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 16 (ตอนจบ)
      Case Study วิบากกรรมใดทำให้ไปเป็นสัมภะเวสี (คุณพ่อหัน)
      วิบากกรรม "คนหาปลา" ตอนจบ
      Case Study โรคมะเร็งลำไส้ (อุบาสกปองสิชฌ์) ตอนที่ 2 (ตอนจบ)
      Case Study โรคมะเร็งลำไส้ (อุบาสกปองสิชฌ์) ตอนที่ 1
      Case Study โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (พระจุมพล)
      วิบากกรรมน้ำท่วมปอด (คุณแม่พยอม)
      Case Study โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โยมพ่อเกษมศักดิ์) ตอนที่ 3 (ตอนจบ)
      Case Study โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โยมพ่อเกษมศักดิ์) ตอนที่ 2




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related