โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: ทราบว่ามีคนไปถามหลวงพ่อวัดปากน้ำ ว่านายกรัฐมนตรีกับในหลวง ในอดีตชาติสร้างบุญมาต่างกันอย่างไร หลวงพ่อท่านตอบว่าอย่างไรค่ะ?
คำตอบ: พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ (พระมงคลเทพมุนี) ท่านไม่ตอบเอง ท่านให้สามเณรนั่งสมาธิ(Meditation)ไปดูการสร้างบุญในอดีตชาติของท่านทั้งสอง แล้วก็ให้สามเณรเล่าให้ฟังบุญที่ทำให้ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินสามเณรตอบชัด ไม่ลังเลเลยว่า ผู้มีบุญได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ในอดีตหลายภพหลายชาติเคยเป็นผู้ตักบาตรเป็นประจำสม่ำเสมอ ท่านตักบาตรไม่มาก แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ยอมขาด แล้วยังชวนคนอื่นด้วยบุญที่ทำให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีส่วนคนที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ภพในอดีตทำบุญบ้าง ไม่ทำบ้าง เวลาทำก็ทำคราวละมากๆ แต่ถ้านึกขี้เกียจขึ้นมาก็ไม่ทำเลย พอถึงคราวบุญส่งผล บุญที่สร้างไว้คราวละมากมาย ก็ทำให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ระยะหนึ่ง พอหมดบุญก็หมดวาระหรือตกกระป๋องไปสำหรับพระเจ้าแผ่นดิน หรือในหลวงของเราทุกพระองค์ แม้ท่านมีอำนาจในการบริหารประเทศน้อยกว่านายกรัฐมนตรี แต่ท่านทรงได้เป็นในหลวงตลอดชีวิตยังมีคนถามต่อว่า ถ้าตักบาตรอย่างสม่ำเสมอและเป็นตัวตั้งตัวตีชวนเพื่อนด้วย แต่น้อยกว่าที่ในหลวงทำในอดีตชาติ จะได้บุญอย่างไร ท่านตอบว่า จะได้เป็นหัวหน้าเผ่าเล็กๆ แต่ได้เป็นหัวหน้าและอยู่ในตำแหน่งนั้นตลอดชีวิตอย่างไรก็ดี นี้ถือว่าเป็นการตัดตอนตอบให้ตรงคำถามเท่านั้น การส่งผลของบุญมีความซับซ้อนมากกว่านี้ เพราะแต่ละคนเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน ทำบุญอย่างนี้ชาตินี้จะหวังผลอย่างนั้นในชาติถัดไปคงยาก ส่วนผสมของบุญบาปจะถูกส่วนเป๊ะๆ ส่งผลเป็นอย่างนั้นอย่างนี้มันยากจะคาดเดาได้คำถาม: เกิดมาไม่พิการ แต่มาพิการภายหลัง เพราะสาเหตุอะไรครับ?
คำตอบ: คนที่มาพิการภายหลังก็มีเหตุ ๒ อย่าง คือเหตุที่ทำให้เกิดมาเป็นคนพิการ๑. กรรมเก่าในอดีตเพิ่งตามมาทัน๒. เกิดเพราะความประมาท เป็นกรรมในปัจจุบัน เช่น กินเหล้าเมายา แล้วไปขับรถ ทำให้รถคว่ำ แข้งขาหัก หัวแตก หรือพิการ เป็นบาปในปัจจุบันทันตาเห็น เราจะไม่โมเมพูดคลุมๆ ว่าเป็นกรรมเก่าในอดีตชาติเสียทั้งหมด ถ้าโมเมคลุมๆ แล้วมีโอกาสพลาดได้คำถาม: คนที่เกิดมาเป็นเด็กปัญญาอ่อนนั้น เป็นเพราะอะไรครับ?
คำตอบ: พวกนี้เดิมเป็นขี้เมาเก่า เมื่อชาติก่อนๆ กินเหล้ามากจนขาดสติเป็นประจำ ทำอะไรเหมือนคนปัญญาอ่อน ใครที่ยังกินเหล้าอยู่นั่นน่ะ ขอให้รับทราบไว้ด้วยว่าภพต่อไปจะเป็นเหตุให้เกิดเป็นคนปัญญาอ่อนเพราะฝึกตัวเองให้ปัญญาอ่อนเสียแล้วตั้งแต่ชาตินี้เหตุที่ทำให้เกิดมาเป็นเด็กปัญญาอ่อนไม่เชื่อก็ดูเอาเอง พวกที่กินเหล้าเมาหยำเปน่ะ ปัญญาอ่อนไหม? อ่อน เพราะขาดสติสัมปชัญญะ ทำอะไรโดยไม่คิด ไม่ได้ใช้ปัญญาสุราพาไปไม่ต้องคิดเอง บ่อยเข้าก็ปัญญาอ่อน เพราะซ้อมเป็นคนปัญญาอ่อนมาหลายภพหลายชาติ มาถึงชาตินี้เลยปัญญาอ่อนจนนิ่มเสียตั้งแต่แรกเกิดทีเดียวคำถาม: ผมเกิดมาทำไมแสนจะยากจน เมื่อสมัยต้นๆ ชีวิต เคยผิดศีลข้อ ๒ ไว้มาก คืองัดแงะขโมยเงินขโมยของมีค่าของเพื่อนบ้านไปขาย ผมขโมยเพราะจนจริงๆ ไม่ใช่ขโมยโดยสันดาน ความจำเป็นมันบังคับ แต่ถึงอย่างไรก็ได้ชื่อว่าขโมย ปัจจุบันก็ยังยากจนอยู่ การทำบุญทำทานการสร้างกุศลตามที่เขาบอกบุญมายังทำอยู่เรื่อยๆ ถึงกระนั้นก็ตาม ชีวิตก็ยังฝืดเคืองอยู่ บุญไม่ส่งผลบ้างเลยหรือครับ?
คำตอบ: สำหรับเรื่องนี้ที่ถามว่าทำไมถึงยากจนนัก ขออาศัยคำตอบที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยให้ไว้กับสุภมานพ บุตรของโตเทพยพราหมณ์ซึ่งมากราบทูลถามว่า “พระพุทธเจ้าข้า ทำไมบางคนในโลกนี้เกิดมารวย บางคนจนทั้งชาติ” พระพุทธองค์ทรงตอบว่า “ใครทำทานมาดีคนนั้นก็รวย ใครไม่ให้ทานจะยากจน”คนตระหนี่ไม่ชอบให้ทานมักเกิดเป็นคนยากจนอธิบายว่าเมื่อเราให้ทาน สิ่งที่ให้ที่เป็นส่วนหยาบก็คือสิ่งของที่เราสละไป ส่วนละเอียด ก็คือเราฆ่าความตระหนี่ได้สำเร็จจนสามารถสละทรัพย์สิ่งของไปได้ ทันทีที่ฆ่าความตระหนี่ได้สำเร็จจนสามารถสละทรัพย์สิ่งของไปได้ ทันทีที่ฆ่าความตระหนี่ในใจได้สำเร็จ บุญก็ก่อเกิดขึ้นในใจเดี๋ยวนั้นเลย เป็นบุญจากการให้ทาน ชนิดตัดขาดออกจากใจบุญชนิดนี้พอเกิดขึ้นมาแล้วจะมีคุณสมบัติอยู่อย่างหนึ่ง คือ สามารถดึงดูดทรัพย์สมบัติได้ เกิดอีกกี่ภพกี่ชาติบุญนี้จะติดตัวไป ทำให้ดึงดูดทรัพย์สมบัติมาอยู่กับเราได้โดยง่ายคนที่เคยให้ทานมามาก และคิดทำทานอยู่ตลอดเวลามักเกิดมารวยคนที่ให้ทานมามาก และคิดให้ทานอยู่ตลอดเวลา พอเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก ยังไม่ทันทำอะไรเลยก็รวยแล้ว เพราะมีพ่อแม่ที่ร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติเตรียมพร้อมไว้ให้ บางคนแต่เดิมพ่อแม่ก็ไม่รวย ทันทีที่เข้ามาอยู่ในครรภ์มารดา พ่อแม่เริ่มตั้งท้อง ทั้งพ่อทั้งแม่ไม่ว่าจะหยิบจะทำอะไรก็โชคดีไปหมดพออกจากท้องแม่ โตขึ้นมาหน่อย สมบัติทุกอย่างก็มาพร้อมใช้ นี่เป็นผลของทานที่สร้างไว้ในอดีตชาติ ด้วยความตั้งใจและศรัทธาเต็มที่อย่างไรก็ตาม บางคนเมื่อเริ่มจะให้ทานไม่ตั้งใจ แต่เมื่อทำไปแล้ว ภายหลังเกิดนึกดีใจว่าเราทำไปดีแล้ว เพราะคนอื่นจะได้ประโยชน์อีกมากมาย พวกนี้ก็ได้บุญติดตัวไปเหมือนกัน แต่เป็นบุญที่ให้ผลช้า เนื่องจากทำบุญโดยไม่ศรัทธามาก่อนเพราะฉะนั้นเกิดกี่ชาติๆ ในระยะเด็กๆ ถึงวัยรุ่น ช่วงที่ยังไม่ถึงวัยกลางคนจะยากจน แต่พอเลยวัยนั้นฐานะดีขึ้น เป็นผลเนื่องมาจากการที่ดีใจที่ได้ทำบุญ ดีใจช้า บุญก็ตามมาอย่างช้าๆ กว่าจะตามทันทีก็เมื่ออายุเข้าวัยกลางคนบางคนทำบุญทีแรกดีใจที่ได้โอกาสทำบุญ แต่พอทำไปแล้วกลับนึกเสียดายภายหลัง บุญจึงส่งผลมาในลักษณะที่ว่า เมื่อยังเล็กร่ำรวย เข้าวัยกลางคนก็ยังรวยเรื่อยมา แต่พอตอนแก่ๆ อายุมากแล้วการที่นึกเสียดายในภายหลัง ความเสียดายก็เริ่มมาตัดทอนกำลังบุญเลยทำให้ยากจน อย่างนี้ก็มีดังนั้นจึงสรุปตอบว่า ที่เราจนก็เพราะการให้ทานของเราภพในอดีตมันหย่อน เพราะฉะนั้นในภพชาตินี้ก็พยายามทำทานให้เต็มที่เต็มกำลังของเรา อย่าไปนึกตระหนี่ หรือนึกเสียดายทานที่ให้ไปแล้วที่แน่ๆ คือเวรอทินนาฯ การลักขโมย อย่าไปก่อขึ้นอีก และอีกอย่างหนึ่งอย่าไปตัดลาภใคร ใครเขาจะทำบุญก็อย่าไปขัด อย่าไปค้านเขา ตรงกันข้ามเห็นใครเขาตักบาตรทำบุญ ควรรีบสนับสนุนให้กำลังใจเขา รีบไปกล่าวอนุโมทนาให้เขาปลื้มใจให้มากที่สุดที่ถามว่าทำบุญแล้วทำไมบุญไม่ส่งผลบ้าง ขอตอบว่า ส่งผลแน่แต่อาจจะช้า เหมือนที่เรามัวชักช้าในการทำบุญแต่ละครั้งนั่นแหละ
http://goo.gl/lUcFT