โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: วัดในสมัยพุทธกาล เช่น วัดเชตวันฯ หรือวัดอื่นๆ มีเมรุเผาศพหรือไม่?
คำตอบ: ไม่มี ในประเทศอินเดียเรื่องของเมรุเผาศพ ไม่ได้มีอยู่ในวัด ไม่ว่าในสมัยพุทธกาล หรือสมัยปัจจุบัน แม้ในเมืองไทยเรา ดูทางภาคเหนือเป็นต้นก็เป็นอย่างที่คุณโยมไปเห็นมานั่นแหละ แต่ก่อนนี้เขาก็ไม่ได้มีเมรุในวัดนะ เขาเผากันกลางทุ่งเมรุเผาศพต่อๆ มาเราเอาศพเข้ามาในวัด เพราะอะไรล่ะ? เพราะความกลัวผีบ้าง เพราะอยากจะให้พระปลอบประโลมใจบ้าง เลยดึงเอากิจกรรมเผาศพเข้ามาไว้ในวัด จนกระทั่งกลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ทุกวัดจะต้องมีเมรุเผาศพคำถาม: เขาว่ากันว่าในยุคพระศรีอาริย์ พวกมนุษย์จะไม่ต้องทำมาหากิน เพราะมีของให้กินให้ใช้ตามธรรมชาติเต็มไปหมด เมื่อไหร่พระศรีอาริย์จะมาเกิดเสียทีเจ้าคะ?
คำตอบ: มีบันทึกในพระไตรปิฏกว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ครั้งหนึ่งว่า นับแต่เมื่อพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ทุกๆ 100 ปี อายุขัยของมนุษย์จะลดลง 1 ปี เป็นอายุขัยโดยเฉลี่ยนะพระศรีอริยเมตไตรยเมื่อปีที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน อายุขัยโดยเฉลี่ยของมนุษย์ พ.ศ.1000 อายุขัยของมนุษย์จะเป็น 90 ปี พ.ศ. 2000 อายุขัยเฉลี่ย 80 ปี เพราะฉะนั้น พ.ศ. 2500 นี้อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์เราจึงเป็น 75 ปียุคมิคสัญญี คือคุณธรรมของมนุษย์ไม่เหลือเลยอายุขัยของมนุษย์จะลดลงเรื่อยๆ อย่างนี้ จนเหลือ 10 ปี (คำนวณได้ประมาณ พ.ศ.9000) เรียกว่า “ยุคมิคสัญญี” คือคุณธรรมของมนุษย์ไม่เหลือเลย พอเห็นหน้าก็จะฆ่ากันเหมือนนายพรานเห็นเนื้อสมัน การฆ่าฟันกันจะมีมาก จนกลิ่นศพเหม็นตลบไปทุกหัวระแหงเมื่อไรที่คนอายุขัย 10 ปี คิดได้ แล้วตั้งใจถือศีล 5 ประพฤติกุศล-กรรมบถตลอดชีวิต บุตรของคนเหล่านี้จะมีอายุขัยค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นรุ่นๆ ไป จนถึงอายุขัยเฉลี่ย 1 แสนปี แล้วค่อยๆ ลดลงมาจนมนุษย์มีอายุขัยเหลือ 8 หมื่นปี พระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 หรือพระองค์สุดท้ายของกัปนี้จึงจะมาบังเกิดเมื่อมนุษย์มีอายุขัย 8 หมื่นปี พระศรีอริยเมตไตรยจึงจะมาบังเกิดเป็นพระองค์สุดท้ายในกัปนี้เนื่องจากมีบันทึกว่ามีพระพุทธดำรัสเช่นนี้นี่เอง ที่ทำให้มีผู้พยายามคำนวณ แล้วอ้างว่าคนนั้นคนนี้เป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระศรีอริยเมตไตรย แต่หลวงพ่อว่าอย่ารอเลยนะ รีบนั่งสมาธิ(Meditation)เข้านิพพานไปก่อนดีกว่า ขืนนั่งรอ พลาดท่าพลาดทางไปทำดีทำชั่วผสมผสานกันพอดิบพอดีเป๊ะ ไปเกิดในยุคมิคสัญญีเข้าล่ะก็ลำบากตายเลย แล้วจะหาว่าหลวงพ่อไม่เตือนกันไม่ได้นะคำถาม: วัดพระธรรมกายมีการสวดศพในวัดหรือเปล่า?
คำตอบ: วัดใกล้เคียงเขารับสวดศพกันอยู่แล้ว วัดพระธรรมกายขอตัวนะ เพราะว่าจะได้มีโอกาสทำภาวนา แล้วก็เตรียมสอนเตรียมเทศน์ พอพวกเรามาวัด หลวงพ่อหลวงพี่จะได้มีความรู้เทศน์ให้ฟังได้เลย ถ้ามานั่งสวดศพ มาจัดการเกี่ยวกับเรื่องศพอยู่ เดี๋ยวจะไม่มีเวลาเตรียมการเทศน์การสอน เพราะฉะนั้นงานนี้ขอตัวนะคำถาม: เสาที่อยู่รอบโบสถ์วัดพระธรรมกายเรียกว่าเสาอะไร มีความสำคัญอย่างไร แล้วทำไมโบสถ์ของที่นี้ไม่มีใบสีมา?
คำตอบ: เสาที่อยู่รอบระเบียงโบสถ์ซึ่งมีทั้งหมด 4 เสา อยู่ตรงมุมแต่ละมุม เป็นทั้งลูกนิมิตและเขตพัทธสีมาไปด้วย เราเคยเห็นแต่ลูกนิมิตกลมๆ อยู่ใต้ดิน เนื่องจากฝังไว้ใต้ดิน จึงไม่มีใครรู้ว่ามีลูกนิมิตโบราณก็เลยต้องให้ทำใบสีมาโผล่ขึ้นมาครอบลูกนิมิตไว้อีกทีหนึ่ง แต่ของวัดพระธรรมกายไม่ต้องให้ทำใบเสมาครอบ เราไปเอาหินกลึงกลมๆ ยาวๆ มาแล้วก็ปักลงไปใต้ดิน จากพื้นโบสถ์ลึกลงไปใต้ดินประมาณเมตรครึ่ง แล้วผูกขึ้นมาเหนือพื้นอีกเมตรครึ่ง ความยาวของเสาทั้งหมด ตั้งแต่ที่เห็นข้างบนจนกระทั่งลงไปข้างล่างนั้นประมาณ 3 เมตรกว่า เป็นทั้งลูกนิมิต และเป็นทั้งใบสีมาเรียบร้อยอยู่ในตัวเสร็จถูกต้องตามพระวินัยโบสถ์วัดพระธรรมกายเพราะจริงๆ แล้วพระวินัยไม่ได้บอกเอาไว้ว่าลูกนิมิตจะต้องมีรูปต่างหน้าตาอย่างไร ใบสีมาของแต่ละแห่งก็ไม่เหมือนกัน ใบสีมาไทย ใบสีมาเขมร ใบสีมาแขกจะทำอย่างไรก็ทำไป ขอให้สังเกตเป็นเครื่องหมายได้ก็แล้วกันเพราะฉะนั้นเมื่อเราสร้างวัดในยุคปัจจุบันโดยศึกษาข้อกำหนดในพระวินัยแล้วอย่างถี่ถ้วน เราก็เลยคิดว่าลูกนิมิตควรจะเป็นอย่างไรได้บ้าง กลมๆ ยาวๆ ก็น่าจะได้ ก็เลยทำกันเป็นเสาเลย ไม่ได้เป็นรูปใบสีมาข้างบน และไม่ใช่ลูกกลมอยู่ข้างล่าง แต่ต่อเป็นแท่งเดียวกันตลอดผู้ที่มาเป็นประธานในการผูกพัทธสีมา คือสมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณกมหาเถร ป.ธ.๙) อดีตเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส ซึ่งขณะนี้ก็มรณภาพไปแล้ว พระวินัยต้องการให้เครื่องหมายแสดงขอบเขตอุโบสถหยั่งลงไปถึงดิน แล้วให้โผล่ขึ้นมาเพื่อเป็นที่สังเกตได้ เราก็ทำให้มีพร้อมใจแท่งเดียวกัน ไม่ต้องประดิษฐ์ขึ้นต่างหากเหลื่อมล้ำกันเลย ซึ่งน่าจะดีนะ
http://goo.gl/mo6yJ