โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: ทำอย่างไรผมจึงจะขจัดนิสัยวู่วาม เจ้าอารมณ์ของตนเองได้ มีคนแนะนำให้ฝึกนับ ๑ ถึง ๑๐ ก็ทำไม่ค่อยสำเร็จคะ ?
นิสัยวู่วาม เจ้าอารมณ์คำตอบ: คนที่วู่วามเจ้าอารมณ์ คือคนที่ห้ามอารมณ์ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เพราะสติมันหย่อน ใจไม่ตั้งมั่นพอ ฉะนั้นการที่จะแก้นิสัยวู่วามได้ต้องทำดังนี้๑. ฝึกสติฝึกใจให้ตั้งมั่น ด้วยการหาเวลาทำความสงบใจให้ได้ทุกคืนก่อนนอน โดยการนั่งสมาธิให้มากๆ ให้ใจสงบ และแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายให้เขามีความสุขกายสุขใจทำอย่างนี้ให้เป็นประจำ ใจจะเริ่มเย็นลง ๆ๒. หาเวลาอยู่ลำพังๆ เงียบๆ เพื่อพิจารณาโทษของความโกรธให้มากๆ ว่ามันนำความเสียหายมาให้แก่ตนเอง แก่ครอบครัวและหมู่คณะอย่างไรบ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้พิจารณาถึงความเสียหายที่เกิดจากความวู่วามของเราในอดีตที่ผ่านมา ว่าทำให้ทรัพย์สินเงินทองเสียหายไปเท่าไร แล้วเราเองต้องเสียใจ เพราะการกระทำนั้นเพียงใด คุณพ่อคุณแม่ ลูกเมีย แม้ที่สุดครูบาอาจารย์ต้องพลอยเสียใจ เสียชื่อเสียงตามเราไปด้วยขนาดไหนถ้าจะให้ดีก็ต้องพยายามคบเพื่อนที่ใจเย็นๆ จะได้ติดนิสัยใจเย็นของเขามาบ้าง หรืออย่างน้อยที่สุดเขาจะได้ช่วอยเตือนเราได้บ้างตามสมควรเมื่อทำได้ครบตามนี้แล้ว ไม่ช้าความหุนหันพลันแล่นก็จะคลายไป ส่วนที่ว่าเมื่อโกรธขึ้นมาก็ให้นับ ๑ ถึง ๑๐ ก่อน แล้วจึงปล่อยตัดสินใจอย่างนั้นค่อนข้างยาก เพราะเวลาโกรธ มันมักจะระเบิดอารมณ์วู่วามทำอะไรร้ายๆ ออกไปเสียก่อน ต้องพยายามฝึกสมาธิให้ใจสงบ มีอารมณ์เย็นสม่ำเสมอ ไม่ขึ้นๆ ลงๆ ข้อสำคัญต้องพิจารณาโทษของความโกรธให้เห็นชัดเจนเสียก่อน จึงจะฝึกเปลี่ยนนิสัยตัวเองได้ อีกอย่างขอแนะนำให้หมั่นท่องพุทธพจน์บทนี้เอาไว้ให้ขึ้นใจว่า“โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ โกธํ ฆตฺวา น โสจติโกธสฺส วิสมูลสฺส มฺธุรคฺคสฺส วตฺรภู”“บุคคลฆ่าความโกรธเสียได้ ย่อมอยู่เป็นสุขฆ่าความโกรธเสียได้ ย่อมไม่เศร้าโศก”คำถาม: การนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ จะทำให้เห็นดวงปฐมมรรค วิชชาธรรมกายได้หรือไม่ ?
การนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจคำตอบ: ได้ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าจะกำหนดลมหายใจให้เห็นดวงปฐมมรรคเล็กๆ ให้กำหนดลมเข้าออกกระทบที่สุดลมหายใจเข้าในกลางห้อง ให้รู้อยู่ที่ตรงนั้น คำภาวนาจะใช้ พุทโธ ตามเดิมก็ได้ผลเหมือนกัน ถ้าถนัดที่จะทำแบบการกำหนดลมหายใจ จะทำอย่างนั้นต่อก็ได้ เพราะในที่สุดก็จะเข้าสู่เส้นทางเดียวกัน แต่หากยังไม่ชำนาญหรือเพิ่งเริ่มฝึกขอให้เริ่มต้นกำหนดดวงแก้วไว้ในตัวที่กลางท้องเลยจะเห็นผลเร็วกว่าคำถาม: ผู้เข้าถึงธรรมกายทุกคนจะสามารถรู้วันตายของสัตว์โลกได้หรือไม่ ?
ผู้เข้าถึงธรรมกายคำตอบ: เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน คือถ้าใครหมั่นฝึกทำซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งเข้าถึงธรรมกายในตัวได้ชำนาญ ก็จะได้ฌาณทัศนะในระดับที่รู้เห็นการเกิดการตายของสัตว์โลก ที่เรียกว่าจุตูปปาตญาณ ได้ แต่ในการทำซ้ำอีก ยังมีอีกว่าตนเองมีความชำนาญในระดับไหนหลวงพ่อยากจะอธิบายความแตกต่างของความชำนาญให้เข้าใจอีกนิดหนึ่งว่า ผู้ที่ฝึกสมาธิอยู่ทุกวันนี่แหละ บางคนว่ากำหนดได้ ๆ แต่ก็แค่กำหนดได้ ใจสงบไหม ก็สงบตามส่วน แต่ว่าบางคนนอกจากสว่างของดวงแก้วในตัวคนนี้จะมีมากกว่าอีกคนหนึ่งเพราะฉะนั้น คน ๒ คน กำหนดดวงแก้วเหมือนกัน แต่ก้าวไม่เท่ากัน คนหนึ่งพอเห็นดวงแก้วแล้วเอาใจสอดเข้ากลางลึกเข้าไปเรื่อย ๆ เห็นดวงใหม่ชัดขึ้น ใสขึ้น สว่างขึ้น จนกระทั่งสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน สว่างจนกระทั่งเหมือนอย่างเอาดวงอาทิตย์เป็นพัน ๆ ดวงมาเรียงเต็มท้องฟ้าในกลางท้อง อย่างนี้คนแรกกับคนหลังก็มีการรู้การเห็นไม่เท่ากันแม้ผู้ที่เข้าถึงธรรมกายแล้วก็มีความสามารถไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน บางท่านอาจจะรู้วันตายของตัวเอง บางท่านอาจจะรู้วาระจิตผู้อื่น พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่เพราะแต่ละท่านมีความรู้ความสามารถไม่เท่ากัน เราจึงรู้จักไม่ทั้งหมดที่เรารู้จักชื่อมีเพียงประมาณ ๘๐ รูป และรูปที่เราคุ้นมากคือ พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร พระอานนท์ที่เรารู้จักท่านกันมาก ก็เพราะว่าท่านมีความสามารถมากท่านฝึกมากกว่าคนอื่น เมื่อเข้าถึงธรรมกายในตัวแล้ว ท่านยังฝึกซ้ำแล้ว ท่านยังฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้ำหนักเข้า ๆ จนกระทั่วเกิดความชำนาญ ธรรมกายของท่านมีความสว่างไสวมากกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นปัญญาของท่าน ฤทธิ์ของท่านจึงมากกว่าผู้อื่น เราก็เลยรู้จักท่าน ยิ่งกว่าท่านยังทำประโยชน์ไว้ในพระพุทธศาสนามากมายส่วนพระอรหันต์องค์อื่น เมื่อเข้าถึงธรรมกายปราบกิเลสในตัวเองหมด เป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านก็เอาแค่นั้นแหละ การรู้การเห็นของท่านก็เอาแค่ตัวรอดไปได้แม้พระอรหันต์ยังรู้เห็นไม่เท่ากันเลย ฉะนั้นผู้ที่ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ เพิ่งเข้าถึงธรรมกายใหม่ ๆ ก็รู้เห็นไม่เท่ากันแน่นอน
http://goo.gl/ishS6