โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำตอบ: ต่างกันมาก สมมุตินาย ก. มีลักษณะนิสัยชอบอนุโมทนาบุญ เวลาเห็นคนเขาทำความดี แกชอบเข้าไปพูดแสดงความชื่นชม ไปอนุโมทนาบุญด้วย เห็นคนกำลังตักบาตร แกก็ว่า “สาธุ...ดีแล้ว ขออนุโมทนาบุญด้วย”สาธุ...ดีแล้ว ขออนุโมทนาบุญด้วยพอรู้ว่าใครเขารักษาศีล ก็รีบเข้าไปให้กำลังใจ เห็นคนไปวัด ไปฟังเทศน์ ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไปหา “ดีจังเลย ว่างๆ ฉันจะไปด้วย” นาย ก. มีนิสัยอย่างนี้ชอบทำอย่างนี้เป็นปกติส่วนนาย ข. ไม่เป็นอย่างนั้น เวลาเห็นใครทำความดี แกทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำเฉยเสีย แต่พอเห็นใครทำบาป แกกลับไปแสดงอาการชื่นชม“แหม..อย่างนี้ซิถึงจะสะใจ ใจถึงดีเหลือเกินลูกพี่” นี่คือการอนุโมทนาบาป นาย ค. กลับเป็นอีกอย่าง เวลาเห็นใครทำบุญ ก็ไม่ว่าอะไร “เอ็งจะทำก็ทำ ข้าไม่เกี่ยว ข้าเฉยๆ” พอเห็นใครทำบาป “เอ็งจะทำก็ทำ ข้าไม่เกี่ยว” วันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่นอนกลิ้งสมมุติว่าคน 3 คนนี้เกิดไปทำความผิดเหมือนกันอย่างหนึ่ง เช่น ไปกางเต็นท์ขายของทับที่คนอื่น พอรู้ตัวว่าผิด ก็รีบไปขอโทษ ก็ไปเหมือนๆ กันนี่แหละ แต่ผลออกมาไม่เหมือนกันหรอกนะนาย ก. ซึ่งคุ้นกับการอนุโมทนาบุญ ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นคนมีนิสัยอย่างไร พอไปทำผิดเข้า แกรีบมายกมือไหว้เลย “ขอโทษเถอะ ไม่รู้จริงๆ” เจ้าของที่เขาก็บอกว่า ไม่เป็นไร ทีหลังระวังหน่อย อย่าทำอีกก็จบเรื่องกันไปสำหรับ นาย ก.ส่วนนาย ค. เมื่อทำผิดก็ไปขอโทษ “แหม..ผมไม่รู้จริงๆ ถึงได้ทำผิดเข้า”เจ้าของที่หันมาจ้องตา “ไม่รู้หรือแกล้ง?” เสียงชักจะเอาเรื่องเหมือนกัน แต่เรื่องก็จบแค่นั้นพอถึงคราว นาย ข. นักอนุโมทนาบาป พอรู้ตัวว่าผิด ก็ไปขอโทษ “ผมไม่รู้จริงๆ เลย ลูกพี่” พูดไม่ทันขาดคำ เขาตวาดใส่ทันที “หนอยแน่ะ ไอ้ตัวดี” ตวาดไม่ตวาดเปล่า แถมกำปั้นยันเปรี้ยงเข้าให้ เพราะความที่นาย ข. อนุโมทนาบาปไว้มาก ผลมันจึงออกมาในรูปนี้ นี่เป็นส่วนหยาบๆ ที่เห็นเป็นรูปธรรมถ้าเป็นส่วนละเอียด กล่าวถึงสภาพของใจ ก็อธิบายว่า ถ้าใจของเราแต่เดิมใสเหมือนพลาสติก ทันทีที่อนุโมทนาบุญ ใจจะใสขึ้น ใสเหมือนกระจกเลย ถ้าเดิมใจใสเหมือนกระจก พออนุโมทนาบุญเสร็จ ใจจะยิ่งใสขึ้น ใสเป็นเพชรเลยทีเดียวถ้าเราชอบอนุโมทนาบาปตรงกันข้าม ถ้าอนุโมทนาบาป จากเดิมที่ใจใสเหมือนพลาสติก พอไปอนุโมทนาบาปเข้า “เออ...ดี สมน้ำหน้ามัน” คิดเสร็จ ใจก็ขุ่นหมองคล้ำลงไปทันทีเลย จากเดิมเป็นพลาสติก ก็กลายเป็นพลาสติกเก่าๆ ที่อยู่ในกองขยะ นึกออกไหม ถ้าเดิมใจใสเป็นเพชร พออนุโมทนาบาปปั๊บ ใจก็ขุ่นหมอง คร่ำคร่าเหมือนกับพลาสติกที่เขาโละทิ้งเพราะฉะนั้นการอนุโมทนาบาปไม่ดี อย่าทำ ถ้าอนุโมทนาบุญละก็ดี ทำไปเลยลูกเอ๊ยถ้าเราเป็นคนที่ชอบอนุโมทนาบุญ เราจะได้อานิสงส์ติดตัวทันที คือ ถึงคราวจะทำความดีอะไรก็ตาม ทันทีที่ประกาศตูมออกไปว่าจะทำโน่นทำนี่ จะมีคนเชียร์ลั่นเลยทีนี่ถ้าเราชอบอนุโมทนาบาป ผลที่จะตามติดตัว คือถึงคราวเราจะทำความดีเรื่องอะไร มักจะมีคนขัดขวางเรื่อยไป แต่พอเริ่มจะทำความชั่ว คนชั่วมันรีบเชียร์ส่ง “เอาเลยลูกพี่” พอได้ลูกยุเข้าหน่อย คราวนี้แหละได้เป็นไอ้ชั่วหัวตำดินเลยละ เพราะไม่มีใครห้าม ไม่มีใครขัดขวางแล้ว
http://goo.gl/ZemFt