ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2553 ช่วงที่ 3.1ธุดงค์ธรรมชัยกระหึ่มทัพธรรมจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดชุมพร จังหวัดปราจีนบุรีบรรยากาศการเดินธุดงค์ของศูนย์อบรมวัดสังข์ทองวนาราม อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พระธรรมทายาทออกเดินธุดงค์ไปวัดทิพโสต เป็นระยะทางประมาณยี่สิบกิโลเมตร เมื่อผ่านดงไร่อ้อย ชาวไร่ต่างพร้อมใจหยุดการเก็บเกี่ยวผลผลิตชั่วคราว มานั่งพนมมือหมอบกราบ ไหว้พระธุดงค์ที่เดินผ่านไปด้วยความศรัทธาเมื่อมาถึงวัดทิพโสต เป็นช่วงที่ทางวัดกำลังเตรียมงานบุญผะเหวด(พระเวส)ซึ่งเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของวัดทางภาคอีสาน เจ้าอาวาสถึงกับเลื่อนเวลาจัดงานให้เร็วขึ้น เพื่อที่พระธุดงค์จะได้อยู่เป็นเนื้อนาบุญให้ญาติโยม ท่านบอกว่า การที่มีเนื้อนาบุญมาเยอะขนาดนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก มีพระธุดงค์มาครั้งเดียวเหมือนกับได้นิมนต์พระมาทั่วทั้งอำเภอเลย บรรยากาศงานบุญในปีนี้จึงดูคึกคักกว่าทุกปี มีชาวบ้านมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เมื่อพระธุดงค์ได้จาริกมายังวัดป่าอรัญญิการาม วัดป่าแห่งนี้ไม่ใช่วัดป่าธรรมดา แต่ เป็นทั้งวัด ทั้งป่าช้าของหมู่บ้านถึงสี่หมู่บ้านในละแวกนั้น บริเวณที่ปักกลดก็อยู่ท่ามกลางหลุมฝังศพ บางหลุมมีป้ายชื่อเจ้าของหลุมปรากฏเด่นอยู่ เมื่อเปิดเต็นท์ออกมาก็ได้เจริญมรณานุสติในทันที แต่ไม่ได้สร้างความหวั่นไหวให้กับคณะพระธุดงค์ กลับยิ่งทำให้บำเพ็ญเพียรเจริญสมาธิ(Meditation)แผ่เมตตามากยิ่งขึ้น พระธุดงค์เปิดเต็นท์ออกมาก็ได้เจริญมรณานุสติทันทีคณะพระธุดงค์ได้ช่วยกันพัฒนาวัด ด้วยความแข็งขันและเบิกบานอยู่ในบุญ หลวงพ่อท่านเจ้าอาวาส ได้ขอให้ทางคณะพระธุดงค์งดออกเดินบิณฑบาตนอกวัด แต่ให้มารับบิณฑบาตภายในวัดแทน ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้ดึงชาวบ้านให้เข้ามาในวัด ผลปรากฏว่า มีชาวบ้านมาร่วมถวายสังฆทานและใส่บาตรเป็นจำนวนมากจนล้นศาลา ท่านเจ้าอาวาสก็ได้ใช้โอกาสอันดีนี้ เชิญชวนบอกบุญญาติโยมให้มาช่วยกันสร้างศาลาหลังใหม่ให้เสร็จสมบูรณ์ชาวบ้านมาทำบุญที่วัดกันจนล้นมานอกศาลาบรรยากาศการเดินธุดงค์ของพระธรรมทายาท ศูนย์อบรมวัดดอนทรายแก้ว จังหวัดชุมพร ไปที่วัดพลับพลา ร.5_เป็นระยะทาง 16กิโลเมตร เมื่อเดินธุดงค์มาได้ครึ่งทางก็แวะฉันเพลที่วัดบางคอย ท่านเจ้าอาวาส พระอธิการเสน่ห์ จิตฺติโสภโณ ท่านได้เมตตาต้อนรับคณะพระธุดงค์ในพระอุโบสถ และยังได้เล่าประสบการณ์การเดินธุดงค์ตามป่าตามเขาของท่านตลอด 18พรรษาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเสือ ช้าง สัตว์ร้ายในป่าหรือแม้กระทั่ง ผีสาง นางไม้ ท่านก็ได้เจอมาหมดแล้วเส้นทางเดินธุดงค์เลียบชายฝั่งจากวัดดอนทรายแก้วไปวัดพลับพลา ร.5พระธุดงค์จึงตื่นเต้นพูดคุยกันว่า การมาเดินธุดงค์ครั้งนี้ จะเจอกับอะไรบ้าง แต่ที่ต้องเจอจะๆแน่ๆ ตลอดทางก็คือ บอดี้การ์ดสี่ขา ชื่อว่า เจ้าหมี ที่เป็นหมาอดทน เพราะมันคอยเดินตามอารักขาพระธุดงค์เป็นระยะทาง 16กิโลเมตรจากวัดดอนทรายแก้วจนถึงวัดพลับพลา ร.5 เลยเจ้าหมี หมาอดทน สุดยอดบอดี้การ์ด 4 ขาที่เดินตามอารักขาพระธุดงค์ตลอด 16 กิโลเมตรเมื่อเดินธุดงค์ไปถึงวัดพลับพลา ร.5_ท่านเจ้าอาวาส พระหนูเรน มหาปุญฺโญ ท่านก็เมตตามาก แม้ทราบข่าวล่วงหน้าว่าพระธุดงค์จะมาแค่เพียงหนึ่งวัน แต่ท่านและพระลูกวัดก็ลงมือช่วยกันทำความสะอาดห้องน้ำ ล้างอ่างเก็บน้ำ เติมน้ำไว้รอท่าทันที พระธุดงค์ไปถึงก็ไม่นิ่งดูดาย รีบพัฒนาวัด ถางหญ้า ปัด กวาด เช็ด ถู จนวัดสว่างไสว ไม่ให้เวลาผ่านไปเปล่าโดยไม่ได้บุญเพิ่มศรัทธาญาติโยมที่นำภัตตาหารพร้อมพรั่งมารอถวายพระธุดงค์รุ่งขึ้นอีกวัน ก็เป็นการเดินธุดงค์วัดใจกันจริงๆ เพราะก่อนถึงวัดเขาใหญ่พัฒนา อำเภอสวี ต้องผ่านเส้นทางที่สุดแสนทรหด ทั้งขึ้นเขาลงเขา บนถนนลูกรังที่คดเคี้ยวและยังต้องขึ้นเนินที่มีความลาดชันถึง 40องศา ยาวเกือบร้อยเมตรอีกสองเนิน งานนี้จึงเป็นบททดสอบกำลังกายกำลังใจพระธุดงค์ทุกรูป แต่ด้วยความมุมานะใจสู้ ท่านจึงผ่านประสบการณ์ที่น่าปลื้มลืมไม่ลง คงไม่ลืม ปลื้มทุกครั้งที่ระลึกถึงพอถึงวัดเขาใหญ่พัฒนา พระธรรมทายาทถึงกับลืมเหนื่อยกันไปเลย ทั้งๆที่หายใจกันแทบไม่ทัน เพราะมีญาติโยมมารอรับคับคั่งมากกว่า 200คน เพื่อล้างเท้าเช็ดเท้าพระธุดงค์ นำทีมโดย อาจารย์มั่น โสภาสาย ผู้นำบุญในพื้นที่ หลังเช็ดเท้าก็นิมนต์พระธุดงค์ไปยังศาลาที่พร้อมพรั่งด้วยภัตตาหารเพลที่เตรียมรอถวาย แต่หลายรูปกลับฉันกันได้น้อย เพราะอิ่มอกอิ่มใจกับศรัทธาญาติโยม บางรูปบอกว่า รู้สึกตาลายกับภัตตาหารมากมายอลังการ จนไม่รู้ว่าจะฉันอะไรดี หลวงปู่ชื่น (องค์ที่ 2) อายุ 91 ปีออกเดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าตลอดเส้นทางส่วนที่จังหวัดปราจีนบุรี ธรรมทายาทที่ศูนย์การศึกษาเขาแก้วเสด็จ อำเภอกบินทร์บุรี ออกเดินธุดงค์รวมระยะทางกว่า 30กิโลเมตร พระธรรมทายาท สว.(สูงวัย)ประจำรุ่น คือ หลวงปู่ชื่น อายุ 91ปี ที่มีสโลแกนประจำตัวว่า ถ้าหากใจของปู่ยังสู้ อายุมันก็ไม่มีความหมาย และในการเดินธุดงค์ครั้งนี้ แม้พระลูกพระหลานจะเป็นห่วง บอกว่า หลวงปู่ นั่งรถไปก็ได้ ท่านก็ยืนยันว่า นักมวยขึ้นเวทีแล้วต้องชก ท่านได้ร่วมขบวนเดินธุดงค์ด้วยหัวใจเปี่ยมบุญเปี่ยมกุศลเต็มที่ขบวนพระธุดงค์ยาวสุดสายตาสร้างความปลื้มปีติให้แก่ญาติโยมที่พบเห็นเมื่อเดินธุดงค์ไปถึงวัดหนองโดน ก็ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากท่านเจ้าอาวาสและญาติโยม หลังสวดมนต์ทำวัตรเย็น หลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านได้เมตตาให้โอวาทเรื่องการวางตัวของพระภิกษุให้ญาติโยมศรัทธา พอถึงช่วงเช้าก็แบ่งสายบิณฑบาตเป็นสองสาย โดยท่านเจ้าอาวาสท่านออกนำบิณฑบาตด้วย ตลอดสองข้างทางมีชาวบ้านมาดักรอตักบาตรมากมาย จนต้องเอารถมาขนอาหารตักบาตรได้ถึงสี่คันรถปิกอัพทั้งเด็กน้อย ผู้เฒ่าผู้แก่ พากันมาใส่บาตรพระธุดงค์เมื่อเดินธุดงค์ต่อไปที่วัดสมศรีราษฎร์ ระหว่างทางก็มีชาวบ้าน พอเห็นพระธุดงค์ก็นั่งลงพนมมือ พร้อมกับน้ำตานองหน้า อันเกิดจากความปลื้มใจที่ไม่เคยเห็นพระธุดงค์เยอะขนาดนี้มาก่อนและในวันสุดท้ายของการเดินธุดงค์กลับมาที่เขาแก้วเสด็จ เมื่อพระธุดงค์มาถึง บรรดาเด็กดีวีสตาร์โรงเรียนวัดวัฒนารังษี อำเภอกบินทร์บุรี เกือบร้อยคน นำโดย คุณครูวิไลวรรณ์ วิริยรัตน์คุรุ หนึ่งในสมาชิกชมรมครูดีวีสตาร์ จังหวัดปราจีนบุรี ได้มารอต้อนรับพระธุดงค์ เด็กดีวีสตาร์โรงเรียนวัดวัฒนารังษี บรรจงเช็ดเท้าพระธุดงค์ก้าวเท้าแรกของพระคุณเจ้า เด็กชายตัวน้อยก้มลงกราบอย่างนอบน้อม แล้วบรรจงล้างเท้าท่านด้วยสองมือน้อยๆ ก้าวต่อไปก็จะพบเด็กชายประคองผ้าเพื่อเช็ดเท้าท่านอีก และก้าวต่อไปก็จะมีดอกดาวเรืองสว่างไสวที่เทพธิดาตัวน้อยโปรยปรายเต็มทางเดิน นับเป็นภาพที่สร้างความปลาบปลื้มใจ ทั้งพระธรรมทายาทก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ผู้ใหญ่ใจดีก็ปลื้มใจ เด็กๆต่างให้สัญญาใจว่า จะช่วยฟื้นฟูศีลธรรมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวตลอดไป
http://goo.gl/e87Be