ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2553 ช่วงที่ 1โครงการบวชพระแสนรูป รุ่นเข้าพรรษาทั่วไทยตอน เสียดาย...คนตายไม่ได้บวชจักรนรินทร์ หงษ์ทองกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับหลวงพ่อครับ จดหมายน้อยที่ผมส่งถึงหลวงพ่อฉบับนี้ ไม่อาจเรียกเสียงหัวเราะจากใครได้เหมือนฉบับอื่นๆ เพราะเรื่องมันเศร้าครับ แต่ที่ผมส่งมา เพราะอยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของการบวช ก่อนที่จะสูญเสียโอกาสที่ตัวเองได้รับไป พ่อกับแม่ของผม เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ช่วยกันขายผักอยู่ที่ตลาด ขายก็ไม่ดี บางวันก็ขาดทุน ครอบครัวของเราต้องลำบาก เพราะไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย แต่สิ่งเดียวที่พ่อกับแม่ภูมิใจที่สุด คือ การมีลูกชายที่เป็นแมนแท้ๆถึงสองคน คือ ผม...จักรนรินทร์ หงษ์ทอง กับพี่ชายของผม...จักรพล หงษ์ทอง แต่ตอนนี้พ่อกับแม่เหลือผมอยู่คนเดียวครับ เพราะในช่วงที่พี่ชายของผมเรียนจบ ม.6_เขาได้ไปหางานทำที่จังหวัดชลบุรี เพิ่งเริ่มทำได้ 2-3เดือน เขาก็คิดถึงพ่อกับแม่ พอวันหยุดเขาจึงติดรถปิกอัพของเพื่อน เพื่อกลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่จังหวัดสระแก้ว ในรถนั่งมากันหกคน โดยพี่ชายของผมนั่งกระบะท้าย ซึ่งระหว่างที่รถกำลังแล่นไป... ทันใดนั้น...ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น คือ คนขับไม่ทันเห็นรถไฟที่วิ่งออกมาจากทางโค้ง จึงขับรถพุ่งเข้าชนด้านข้างของขบวนรถไฟอย่างแรง จนหน้ารถพังยับเยิน แหลกเละ ทำให้พี่ชายของผมถูกเหวี่ยงกระเด็นออกนอกรถ ร่างกระแทกพื้นอย่างแรง เลือดทะลักออกจากร่างไหลอาบทาถนน ตายคาที่ในที่เกิดเหตุทันที พอพ่อกับแม่ทราบ แม่แทบขาดใจลงตรงนั้น เหมือนโดนกระชากหัวใจออกจากอก เรื่องนี้รุนแรงเกินกว่าที่แม่และคนในครอบครัวจะรับได้ในทันที ไม่มีใครในครอบครัวของเราคาดคิดเลยว่า พี่ชายของผมจะจากไปอย่างกะทันหันด้วยสาเหตุนี้ ช่างรวดเร็วและช่างรวดร้าวเกินกว่าจะทำใจ ความโศกเศร้าอาดูร มันจิกกินความรู้สึกของคนในครอบครัวของเราทุกคน มันช่างเป็นช่วงชีวิตที่ประดุจคืนเดือนมืดสนิท เหมือนคืนวันที่ขอบฟ้าร้าว แยกผืนดินให้จากกันชั่วนิจนิรันดร์ แม้การตายของพี่ชายของผม จะผ่านไปนานถึงสองปีห้าเดือนแล้ว แต่ความคิดถึงลูกชายของพ่อและแม่ ก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย ยังคงกึกก้องอึงอลในใจตลอดเวลา แม้อนาคตของพี่ชายของผมจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่แม่และพ่อยังมีภาพอดีตของพี่ชายของผม ที่ถูกรื้อฟื้นในใจ ภาพแล้วภาพเล่า ไม่ว่าแม่จะดูรูปถ่าย หรือเห็นอะไรของพี่ชาย ก็ทำให้น้ำตาไหลรินออกมาได้ตลอดเวลา ความทุกข์มันสุมอยู่ในอกอย่างสับสนเหมือนคนบ้าที่ไม่กล้าแสดงออก เพราะพี่ชายของผมรักและผูกพันกับแม่มากที่สุด เขาเคยบอกพ่อและแม่บ่อยๆเสมอๆว่า อยากบวชพระให้พ่อกับแม่ เพราะเป็นบุญสูงสุดที่ลูกชายเท่านั้น จะทำให้พ่อกับแม่ได้ หลวงพ่อครับ…พี่ชายของผมตายตอนเขาอายุครบบวช คือ ยี่สิบปีพอดีครับ ซึ่งจริงๆแล้ว ถ้าเขาบวชเร็วกว่านั้นอีกสักนิด รถปิกอัพแล่นช้ากว่านี้อีกสักหน่อย เขาอาจจะไม่ตายก็ได้ครับ ส่วนตัวผมเองเพิ่งจะเรียนจบ ม.6_หมาดๆ อายุได้ 21ปีครับ ครั้งนี้ พอผมเรียนจบปุ๊บ พ่อกับแม่ก็รีบบอกผมว่า “ลูกจ๊ะ…ยังไงบวชพระให้พ่อกับแม่ก่อนจะทำงานนะลูกนะ ให้บวชเป็นพระพี่เลี้ยงของวัดพระธรรมกายงวดนี้เลย”_เพราะพ่อและแม่ของผมต้องรีบชิงช่วง คือ ไม่อยากจะให้เรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับชีวิตอีกครั้ง ซึ่งผมเองก็ตั้งใจจะบวชพระให้พ่อแม่และพี่ชายอยู่แล้ว ผมตื่นเต้นกับการบวชครั้งนี้เหลือเกินครับ อยากจะขึ้นทางด่วนสายพิเศษสุดไปบวชเสียแต่ตอนนี้เลย เพราะชีวิตของคนเรามันไม่แน่นนอน ตอนนี้พ่อกับแม่เหลือลูกชายอยู่เพียงคนเดียว ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะปลุกให้พี่ชายฟื้นขึ้นและบวชให้พ่อกับแม่ชื่นใจพร้อมกัน แต่ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ ผมก็อยากชวนทุกคนมาบวชพระพี่เลี้ยง เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่ และเพื่อสถาปนาพระแสนรูปรุ่นเข้าพรรษาในครั้งนี้ สุดท้ายนี้ ผมอยากบอกแมนแมนทุกคนว่า จงใช้โอกาสแห่งความเป็นชาย ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ใช้นะครับ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงจักรนรินทร์ หงษ์ทองชม Video Scoop เสียดาย...คนตายไม่ได้บวช
http://goo.gl/AcQNq