ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2553ตอน ปลดหนี้ห้าสิบกว่าล้าน...ด้วยบุญทอดกฐินพลิกชีวิต..ด้วยบุญทอดกฐิน ตอน ปลดหนี้ห้าสิบกว่าล้าน...ด้วยบุญทอดกฐินเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากัลยาณมิตรทิชา-กัลยาณมิตรวิฑูรย์ เลิศยิ่งยศกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะลูกชื่อ ทิชา ส่วนสามีของลูกชื่อ วิฑูรย์ เลิศยิ่งยศ ปัจจุบันเป็นเจ้าของโรงกลึง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ราชสีมารวมช่าง แห่งจังหวัดนครราชสีมา เจ้าค่ะ เดิมทีเดียวลูกไม่ได้เป็นเจ้าของโรงกลึงหรอกค่ะ เพราะโรงกลึงนี้มีหุ้นส่วนถึงสามรายด้วยกัน ซึ่งรายได้ก็ไม่มากมายอะไร แถมมีแต่ปัญหาตามมาสารพัด ลูกต้องดำเนินชีวิตจำเจอยู่อย่างนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง น้องสาวมาหาลูกที่บ้าน พร้อมกับนำผ้าไตรมาชวนลูกทอดกฐินปี พ.ศ.2544_ลูกจึงถามเธอว่า “จะให้ทำเท่าไหร่”_เธอก็ตอบลูกว่า “หนึ่งแสนบาท”_พอลูกฟังดังนั้น ก็ตกใจ...ลมจะใส่เลยค่ะ เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยทำบุญอะไรมากถึงขนาดนี้ อีกทั้งวัดที่จะให้ทำบุญก็ยังไม่เคยไปเลย ในระหว่างที่ลูกกำลังอึ้ง มึนๆ งงๆ น้องสาวก็ใช้คำพูดที่โดนใจลูกสุดๆว่า “รักพี่นะ...ที่เอาบุญมาให้ก็เพราะรัก”_พอลูกฟังดังนั้น จากใจที่แข็งๆก็หลอมละลาย เผลอตกปากรับคำ ตอบตกลงไป จากนั้น น้องสาวของลูกก็บอกว่า...วันที่ 27-สิงหาคม วันธรรมชัย จะมารับลูกให้ไปถวายปัจจัยด้วยตนเอง พอลูกได้ฟังดังนั้น ก็ปฏิเสธทันควันว่า ไม่ไป ยอมทำบุญแล้วยังต้องไปอีกหรือ แต่น้องสาวกลับบอกว่า “เงินมากขนาดนี้...ต้องไปถวายเอง”_ณ ตอนนั้น ลูกก็ไม่รู้จะทำอย่างไรค่ะ จึงต้องจำใจไป แต่เมื่อวันที่ลูกไปถึงวัดเท่านั้น...ลูกขนลุกซู่ทั้งตัว เพราะเกิดมาก็ไม่เคยพบเคยเห็น ผู้คนถือถุงทอง รอต่อคิวทำบุญกันหนาแน่นขนาดนี้ แถมต่างคนต่างเข้าแถวด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้นดีใจสุดๆ จนลูกรู้สึกอึ้ง แต่พออึ้งไปอึ้งมา...ก็เริ่มเข้าใจ เกิดความปีติภูมิใจที่เรามีโอกาสได้ทำบุญมากเหมือนคนเหล่านี้ และพอถวายเสร็จ ลูกก็เกิดอาการปลื้มจนกินไม่ได้นอนไม่หลับไปสามวันสามคืน จนรู้สึกอยากจะบอกรักน้องสาวว่า...รักน้องสาวสุดๆบุญส่งผลให้โรงกลึงของลูกขยายเพิ่มเป็น 6 ห้องค่ะแต่เมื่อข่าวการทำบุญใหญ่ของลูกเริ่มแพร่สะพัดออกไป ก็มีแต่คนมาพูดเข้าหูว่า “อย่าเข้าวัดนี้นะ ระวังจะหมดตัว เข้าวัดนี้แล้วต้องทำบุญทีละมากๆ”_ซึ่งลูกก็ได้แต่ตะโกนเถียงเขาในใจว่า “แล้วจะรวยให้ดู”_จนกระทั่งปี พ.ศ.2547_กิจการในฐานะหุ้นส่วนกลับมีปัญหาหนักขึ้น ลูกและสามีจึงคิดกันว่า จะซื้อกิจการโรงกลึงจากหุ้นส่วนทุกคน รวบมาเป็นของตัวเอง จากนั้นจึงตัดสินใจไปกู้ธนาคาร มากถึง 35-ล้านบาท รวมทั้งต้องรับใช้หนี้ของกิจการ ซึ่งรวมเงินกู้แล้วเป็นจำนวนห้าสิบกว่าล้านบาท หลวงพ่อคะ...ตอนนั้นลูกรู้สึกหวั่นใจมากค่ะ เพราะอยู่ดีไม่ว่าดี ลูกก็มีหนี้ท่วมหัว พุ่งพรวดไปที่ห้าสิบกว่าล้าน ภายในชั่วพริบตาพอถึงช่วงงานบุญทอดกฐินปี พ.ศ.2547_ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เพิ่งมีหนี้ ลูกก็คิดว่าเป็นไงเป็นกัน งวดนี้จะตัดสินใจทำบุญใหญ่สุดๆ สวนกระแส โดยการปิดบัญชีทั้งหมดทำบุญทอดกฐินหนึ่งเอ็มแรกของชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น ลูกยังทำบุญบูชาธรรมคุณยายอาจารย์อีกหนึ่งแสนบาท และเท่านั้นยังไม่พอนะคะ ลูกยังทุ่มสร้างพระธรรมกายประจำตัวอีก 100-องค์ ทำบุญจนบางคนบอกว่า ลูกโดนล้างสมองหรือบ้าไปแล้ว แต่ลูกกลับคิดว่า ยิ่งเจอวิกฤตของชีวิตหนักเท่าไร ต้องเอาบุญที่ใหญ่ที่สุด ช่วยกู้วิกฤตมากขึ้นเท่านั้น จะให้ทำบุญทีละ 100-บาท 200-บาท ตามกำลังเรื่อยๆเฉื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่บุญในตัวของลูกจะมากพอที่จะเอามากู้วิกฤตหนี้สินที่ท่วมท้นขนาดนั้นได้ ลูกต้องขยายโรงกลึงจนกว้างขนาดนี้ เพราะงานเข้ามากจนรวยค่ะหลังจากทำบุญทอดกฐินแล้ว จากเดิมที่สภาพคล่องของกิจการเหมือนสายน้ำที่ไหลอย่างเอื่อยๆ อยู่ๆก็เหมือนเขื่อนแตก ฝายพัง น้ำทะลักล้นโครมออกมาเลยค่ะ เพราะลูกค้าไม่รู้มาจากไหน เอาเครื่องยนต์มาให้ซ่อมเยอะแยะไปหมด แถมลูกค้าที่มา ก็ไม่ใช่เฉพาะลูกค้าจากโคราชเท่านั้นนะคะ แต่กลับเป็นลูกค้าจากทั่วสารทิศ ตามภาคต่างๆของประเทศ ซึ่งต่างโทรศัพท์เข้ามาถามเส้นทางว่า โรงกลึงของลูกอยู่ตรงไหน ต้องการเอาเครื่องยนต์มาให้ลูกซ่อม บางคนอยู่ไกลถึงภาคใต้ แต่ก็ไม่ยอมซ่อมที่ภาคใต้ค่ะ ขนเครื่องยนต์นำมาให้ซ่อมถึงภาคอีสาน หนำซ้ำยังระบุเฉพาะว่า...จะซ่อมที่ร้านของลูกเท่านั้น ทั้งๆที่โรงกลึงทั่วเมืองโคราชมีเยอะมากๆ ยิ่งไปกว่านั้น มีคนโทรศัพท์มาถามทางมาร้านของลูก จนลูกงงไปหมดเลยค่ะว่า ลูกค้าเหล่านั้นรู้จักร้านของลูกกันได้อย่างไร ทั้งๆที่ลูกก็ไม่เคยลงโฆษณาที่ไหน ไม่เคยมีเว็บไซต์อะไรทั้งนั้น ทำเอาตั้งแต่นั้นมา รายได้ของลูกสูงพุ่งกระฉูด จากเดิมที่มีรายรับเดือนละไม่กี่แสนบาท กลายเป็นมีรายรับมากมาย จนมีเงินใช้หนี้ธนาคารได้ถึงเดือนละล้านกว่าถึงสองล้านบาทงานเข้ามาก ลูกน้องไม่ว่างเลยสักคนค่ะหลวงพ่อคะ หลังจากทำบุญกฐินปีนั้นไปแล้ว ลูกก็ติดใจค่ะ จึงทำบุญทอดกฐินแบบปิดบัญชีมาทุกปี อีกทั้งยังมีรายได้เข้ามา ทำให้ปิดบัญชีทำบุญกฐินมากกว่าหนึ่งเอ็มทุกปี และมากขึ้นจนมีเงินทำบุญโมดุลได้ถึงห้าเอ็ม จากการที่ปิดบัญชีแบบนี้นี่เอง ทำให้รายได้ทะลักเข้าร้านอย่างเหลือเชื่อ จนมีเงินใช้หนี้ห้าสิบกว่าล้านบาท ได้หมดเกลี้ยงภายในเวลาสามปีกว่าเท่านั้น จนมาถึงกฐินปีล่าสุดที่ทำไป คือ ปี พ.ศ.2552_และกฐินปี พ.ศ.2553_ที่กำลังจะมาถึง และบุญสร้างอาคาร 100-ปีคุณยายอาจารย์ ลูกมีเงินทำบุญรวมสองปี มากถึงสิบสามเอ็มแล้วค่ะ แต่หลวงพ่อคะ...ลูกยังไม่จุใจ เพราะอยากทำให้ครบสิบห้าเอ็ม แต่เงินในบัญชีก็หมดแล้ว ลูกจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานในวันครูธรรมกาย ที่ผ่านมา (วันที่อัญเชิญรูปหล่อทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ)_แล้วรักษาใจให้ใส เพื่อให้พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯเชื่อมสายสมบัติให้ ซึ่งพอกลับไปถึงบ้าน ธนาคารก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า ให้ไปรับเงินคืนสองเอ็มที่เคยซื้อหุ้นกู้ไว้ พอลูกฟังดังนั้นก็ดีใจสุดๆ เพราะกำหนดที่ลูกจะต้องได้เงินคืนจากหุ้นนี้ คือ อีกสามปีข้างหน้า แต่อยู่ๆธนาคารกลับให้มาในตอนนี้ ทำให้ลูกสามารถทอดกฐินครบสิบห้าเอ็ม ตามที่ตั้งใจไว้ได้อย่างเหลือเชื่อหลวงพ่อคะ...ชีวิตของลูกมันช่างอัศจรรย์เหลือเกิน จากที่มีแต่คนต่อว่าลูกเสมอว่า เข้าวัดพระธรรมกายแล้วจะถูกหลอกจนหมดตัว แต่ลูกว่า...ถ้าหลอกแล้วรวยขนาดนี้ ลูกก็ยอมค่ะ เพราะจากเดิมก่อนเข้าวัด ลูกเป็นเพียงหุ้นส่วนระดับจิ๊บๆคนหนึ่ง ลูกน้องก็มีแค่สิบคน แต่ปัจจุบันมีโรงกลึงขนาดใหญ่เป็นของตัวเองแบบเต็มๆ มีลูกน้องเพิ่มขึ้นถึงสามสิบคน มีงานเข้าจนต้องขยายห้องจากเดิมสองห้อง เพิ่มเป็นหกห้อง สามารถปลดหนี้ห้าสิบกว่าล้านได้ ภายในเวลาสามปีกว่าๆ มีเงินทำบุญมากอย่างที่ตัวเองปรารถนาค่ะ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงทิชา เลิศยิ่งยศสนใจรายละเอียด อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์ คลิกที่นี่
http://goo.gl/r0ygW