Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2553ตอน แค่ประเดิมทำบุญ ก็รวยแรงแล้วเจ้าค่ะพลิกชีวิต..ด้วยบุญทอดกฐิน ตอน แค่ประเดิมทำบุญ ก็รวยแรงแล้วเจ้าค่ะเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากัลยาณมิตรละเอียด สุวรรณรัตน์ลูกชื่อ ละเอียด สุวรรณรัตน์ เปิดอู่ซ่อมรถ เช็คปั๊มหัวฉีดเครื่องยนต์ดีเซลทุกชนิด ชื่อ ช.รวมช่างดีเซล เจ้าค่ะ หลวงพ่อคะ...ลูกว่าทอดกฐินปีนี้ แรงสมคำร่ำลือจริงๆค่ะ เพราะลูกเข้าวัดมานานสิบกว่าปี ก็ยังไม่เคยเจออานุภาพบุญกฐินของปีใดแรงเท่าปีนี้เลยจริงๆค่ะ หรือ ปีนี้...จะเป็นปีแห่งการรวมคนล้าน บวชอุบาสิกาแก้วล้าน บวชพระล้าน เดินธุดงค์ล้าน ตักบาตรล้าน และที่สำคัญผู้ที่เข้าวัดกำลังจะรวยขึ้นเป็นล้านๆ ก็ไม่ทราบ จึงทำให้บุญทอดกฐินในปีนี้แรงเกินล้านเปอร์เซ็นต์ จนลูกต้องขอเขียนมาร่วมแชร์ความแรงเต็มขั้นด้วยคนค่ะเดิมลูกเป็นคนต่อต้านวัดมากค่ะ ถึงขนาดหลวงน้าแท้ๆของลูก คือ พระสุธรรม สิริสุโข เจ้าอาวาสวัดกิ่วลม จังหวัดเชียงใหม่ ท่านพยายามทำหน้าที่กัลยาณมิตร หว่านล้อมทุกวิถีทาง เพื่อชวนลูกเข้าวัดพระธรรมกาย และชวนลูกทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2538_โดยท่านใช้ความพยายามสุดๆ ชวนลูกมาถึงสี่ปี จนกระทั่ง ปี พ.ศ.2541_ลูกถึงได้ยอมสร้างพระธรรมกายประจำตัวหนึ่งองค์ค่ะ ซึ่งพอสร้างไปแล้วก็ยังไม่ได้เข้าใจอะไรเกี่ยวกับวัดเลย จนกระทั่ง ได้มาเห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้วกับตาตัวเองจะๆ คือ อยู่ๆดวงอาทิตย์ก็ซูมเข้าซูมออกอยู่บนท้องฟ้า ทำให้คนนับแสนตกตะลึง ซึ่งยังไม่พอแค่นั้นค่ะ พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯได้ปาฏิหาริย์กายขยายใหญ่อยู่บนน่านฟ้า ซึ่งดวงอาทิตย์ก็ไปอยู่กลางท้องของท่าน และทันใดนั้นเองค่ะ ดวงตาอันเป็นมงคลของลูก ก็เกิดปฏิกิริยากับภาพที่เห็นตรงหน้า จนลุกวาวระยิบระยับ อย่างกับใส่บิ๊กอายสไตล์เกาหลี จากนั้น ก็ตกตะลึงขนลุกซู่ไปทั้งตัว เพราะเห็นปาฏิหาริย์ด้วยตาเนื้อขนาดนั้น จากไม่เชื่อ...ก็ต้องเชื่อค่ะ อีกทั้ง เมื่อกลับไปบ้าน ลูกก็ฝันถึงแต่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯอีก ทำให้ลูกเกิดอยากสืบค้น ศึกษาประวัติและมโนปณิธานของท่าน ลูกอยากรู้ว่าท่านเป็นใคร ทำไมท่านถึงมีอานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ถึงปานนี้ จากนั้น ลูกก็ไปศึกษาหาอ่านเรื่องราวของท่าน จนมาพบเรื่องราวของท่านในทำนองที่ว่า จะขอเข้านิพพานเป็นคนสุดท้าย พออ่านถึงตรงนี้ น้ำตาลูกมันไหลพรั่งพรู...ร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกตื้นตันใจ และเกิดความคิดว่า “หลวงปู่ค่ะ...ลูกจะเป็นคนหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยหลวงปู่ทำสิ่งนี้เองค่ะ” 
กลุ่มจันทร์สว่างกลางเสาธงจากนั้น ลูกก็เริ่มเปิดใจกับวัดพระธรรมกาย เริ่มรู้ว่าที่วัดชวนทำบุญเยอะ ก็เพราะจะนำเงินมาใช้ในงานพระศาสนาในระดับโลก และหลังจากนั้นลูกก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำบุญมาโดยตลอด และพัฒนาตัวจนกระทั่งกลายมาเป็นหนึ่งในผู้นำรถของอำเภอบางเสาธง จังหวัดสุมทรปราการ ที่นำคนมาวัดในวันอาทิตย์ต้นเดือนได้ประมาณ 120-คน และทุกวันอาทิตย์ธรรมดาราว 50-คนเจ้าค่ะ กลุ่มของเรามีชื่อกลุ่มว่า กลุ่มจันทร์สว่างกลางเสาธง
อู่ซ่อมรถของลูก ที่มีคนแห่กันมาซ่อมมากเกือบ 60 คันต่อเดือนหลังจากประเดิมทำบุญกฐินปี 53 ไปค่ะหลวงพ่อคะ...ตอนนี้ ลูกทำหน้าที่ผู้นำบุญ จนกลายมาเป็นอาชีพหลักไปแล้วค่ะ ส่วนอาชีพเสริมของลูก คือ เปิดอู่ซ่อมรถค่ะ แต่เนื่องจากเป็นอาชีพเสริม รายได้จึงไม่ค่อยดี ทำให้นานๆที คือ 2-3-วัน ถึงจะมีรถเสีย...เลี้ยวเข้าอู่มาให้ซ่อม และแต่ละคันที่มาให้ซ่อม ก็ไม่ได้เสียอะไรมาก ทำให้ลูกมีรายได้แค่ 2,000-กว่าบาทต่อคันเท่านั้น และยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ รายได้ก็เอื่อยๆเฉื่อยๆ ต้องนั่งเฉยๆจนปวดเมื่อยไปหมดเลยค่ะ จนตอนหลัง ลูกได้มาฟังสัมมนา วันที่ 27-สิงหาคม พ.ศ.2553_ที่ผ่านมา พอกลับไป ก็เกิดตื่นเต้นมีความสุขผิดปกติ เพราะอยากจะทำบุญใหญ่ จึงรีบไปรวบรวมทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีอยู่หนึ่งหมื่นบาท และจากนั้นอีกสองวัน ก็รีบนำเงินมาประเดิมถวายทำบุญทอดกฐินทันทีค่ะโดยตั้งจิตอธิษฐานขอให้มีเงินถุงเงินถัง มีสตางค์มาทำบุญทอดกฐินได้มากเป็นอัศจรรย์ อีกทั้งยังขอให้สามารถเปิดบ้านของตัวเองเป็นบ้านกัลยาณมิตรได้สำเร็จด้วยลูกทุ่มทำบุญทอดกฐินทุกปีอย่างสุดๆ ปีนี้ก็ทุ่มทำสุดๆ ไม่แพ้กันค่ะตั้งแต่ลูกประเดิมทำบุญทอดกฐินไป เกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทราบค่ะ คือ มีแต่คนเอารถเสียมาให้ซ่อมเพิ่มขึ้น คือ จากเดิมที่ 2-3-วัน มีมาให้ซ่อมแค่คันเดียว แต่ตอนนี้แย่งกันเข้าอู่ 2-3-คันต่อวัน ซึ่งวันสองวันแรกลูกก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ แต่พอลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่เว้นวรรคเป็นเดือนแบบนี้ ลูกมั่นใจเลยค่ะว่า เป็นอานุภาพบุญกฐินแน่นอน เพราะตั้งแต่ลูกเปิดอู่ซ่อมรถมานานถึง 14-ปี จะมีรถมาให้ซ่อมที่อู่ มากที่สุดต่อเดือนก็ 30-คันเท่านั้น แต่เดือนนี้ รถเข้ามาให้ซ่อมปาเข้าไปจะ 60-คันแล้วค่ะ คือ เพิ่มพรวดพราดขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว แล้วแต่ละคันที่มาซ่อม ก็อาการหนักๆ ที่มีมูลค่าราคาซ่อมตกเป็นหมื่น ทำให้ร้านของลูกมีรายได้เข้าทับทวี จนทำให้ปีนี้...ลูกมีเงินทำบุญกฐินเพิ่มขึ้น ทั้งที่ทำเองและก็ชวนคนอื่นทำ ซึ่งถวายไปแล้วเกือบ 2-S_แล้วค่ะอีกทั้ง โชคดีไปกว่านั้นนะคะ คือ ลูกลองเปิดบ้านกัลยาณมิตรเป็นครั้งแรกตามที่ได้อธิษฐานขอไว้ จากเดิมก็หวั่นๆ กลัวจะไม่มีคนมานั่งสมาธิ(Meditation) แต่ที่ไหนได้ วันแรกที่ลูกเปิดบ้าน มีคนมามากถึง 30-คนค่ะ โดยที่เป็นคนใหม่ถึง 15-คน ทำให้ลูกประทับใจมากค่ะ ที่ความฝันของลูก ในการที่จะเอาบ้านตัวเองเป็นแสงสว่างน้อยๆให้กับอำเภอบางเสาธง ได้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ค่ะ สุดท้ายนี้ ลูกขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่มีดีเอ็มซี ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำให้ลูกมีวันนี้ค่ะ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงละเอียด สุวรรณรัตน์
http://goo.gl/TPAmt
พิมพ์บทความนี้
