ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2553ตอน ราวกับเจอเทวดาเดินดินตอน ราวกับเจอเทวดาเดินดินเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากัลยาณมิตรอุทัย คูตระกูลกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงกระผม อุทัย คูตระกูล ผู้นำบุญกลุ่มประตูน้ำ ขอรายงานตัวครับ หลวงพ่อครับ...ผมอยากเป็นประธานกองกฐินหนึ่งเอ็มปีนี้ครับ จึงเร่งผลิตสตางค์อย่างด่วนพิเศษ แล้วรีบทยอยทำบุญอาทิตย์ละหนึ่งหมื่น จนถวายไปแล้วอย่างสุดกำลังสุดๆ...รวมห้าเอสครับ แต่ปัญหาของผมมันอยู่ที่ว่า สัญญาเช่าร้านขายเสื้อผ้าที่แพลตตินั่มแฟชั่นมอลล์ ประตูน้ำ ของผมกำลังจะหมดลงครับ และเจ้าของร้านจะให้ผมขนของออกจากร้านให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 7-ตุลาคม พ.ศ.2553-ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ทำเลในการทำมาหากิน เพื่อหาเงินมาทำบุญของผมกำลังจะรุ่งริ่ง...ร่วงแบบหลุดลุ่ยครับ ทำให้ผมเข้าสู่ภาวะกดดันมากๆ ทั้งๆที่พยายามทุกวิถีทาง ขอร้องเจ้าของร้านหลายต่อหลายครั้ง เขาก็ไม่ยอมให้อยู่ต่อครับ เพราะเขาเอาร้านนี้ให้คนอื่นเช่าต่อจากผมไปแล้ว ผมจึงเหลือทางเลือกสุดท้าย คือ ไปหาทำเลในการเปิดร้านใหม่ ซึ่งที่ใหม่ทำเลแย่มากครับ ไม่ค่อยมีลูกค้ามาเดิน หากผมยอมย้ายไป นั่นก็หมายความว่า เสื้อผ้าของผมก็จะขายไม่ค่อยได้ รายได้จะตกฮวบ จนไม่มีสตางค์มาทำบุญกฐินให้ครบหนึ่งเอ็มแน่ๆ แถมร้านที่จะไปเช่าใหม่นั้น ไม่ยอมให้ผมติดป้ายชื่อร้านด้วยครับ แปลกไหมครับ และซ้ำร้ายไปกว่านั้น เขาก็ไม่ยอมทำสัญญาเช่าที่เป็นลายลักษณ์อักษรอะไรเลย...ยิ่งแปลกหนักเข้าไปอีก อย่างนี้ถ้าผมยอมจ่ายเงินค่าเช่าเจ็ดหมื่นบาทต่อเดือนให้เขาไป แล้ววันเลวคืนร้าย...ถ้าเขาจะมาไล่ผมออกกลางคัน ผมก็แย่แน่ๆครับ หน้าร้านและในร้านขายเสื้อผ้าของผมและหุ้นส่วนครับหลวงพ่อครับ ผมขอเรียนตามตรงว่า ตอนนั้นผมกลุ้มใจสุดๆ เพราะผมอยากจะอยู่ร้านเก่ามากๆ เพราะทำเลมันดีจริงๆ ประกอบกับช่วงที่ผมกังวลใจเรื่องร้านนั้น ก็ตรงกับช่วงที่ผมต้องรวมพลชาวประตูน้ำทั้งหมดมาจัดสัมมนากฐินครับ ปัญหาเรื่องร้านเป็นเรื่องที่ผมกังวลใจจนเกือบจะทำให้ผมถอดใจไม่จัดสัมมนา เพราะงานสัมมนาจัดขึ้นในวันที่ 8-ตุลาคม แต่ผมต้องย้ายของออกจากร้านให้เสร็จสรรพภายในวันที่ 7-ตุลาคม ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ ผมคงจะหมดกะจิตกะใจไปตามคนมาสัมมนาแน่ๆ แถมยังต้องมาย้ายร้านก่อนวันสัมมนาเพียงวันเดียว ผมคิดไม่ตก สู้กับใจตัวเองสุดๆ จนสุดท้าย...ฝ่ายบุญชนะครับ เพราะผมบอกกับตัวเองว่า ร้านจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน เอาบุญรวมพลให้คนมาสัมมนาวันที่ 8 ก่อน(ซ้าย) ทำเลร้านใหม่ ที่แทบไม่มีคนเดินเลย(ขวา) ทำเลร้านเก่า ที่มีผู้คนพลุกพล่านตลอดเวลาเมื่อตัดใจแล้ว ก็ลุยตามคนเต็มที่เลยครับ จนเย็นวันที่ 7-ผมก็รีบกลับมาที่ร้าน เพื่อย้ายร้านให้เสร็จๆ แล้วจะได้เตรียมงานสัมมนาต่อ ซึ่งเสี้ยววินาทีที่ผมกำลังย้ายราวแขวนผ้า อยู่ๆก็มีชายหนุ่มรูปงาม หน้าตากระจ่างใส ตัวสว่าง ใส่ชุดขาวๆ เดินเข้ามาถามหุ้นส่วนของผมที่ร้านว่า “ทำไมถึงย้ายออกล่ะครับ แถวนี้ขายไม่ดีหรือ”หุ้นส่วนของผมก็บอกว่าขายดีสุดๆ แต่ดันหมดสัญญาเช่า แล้วเจ้าของร้านก็ให้คนอื่นเช่าต่อเสียแล้ว ชายรูปงามคนนั้นก็บอกว่า “เห็นที่ชั้นใต้ดินเขาติดป้ายให้เช่าร้านนี้อยู่ เดี๋ยวผมวิ่งลงไปชั้นใต้ดินไปตามคนติดป้ายมาให้”-พอทุกคนมาเจอกันปุ๊บ ชายหนุ่มรูปงามใส่ชุดขาวๆก็ตำหนิคนเช่าใหม่ซึ่งติดป้ายให้เช่าร้านว่า “คุณเอาร้านมาให้เช่าต่อ ทำไมคุณไม่ให้เจ้าเดิมเขาอยู่ต่อล่ะ”-แล้วชายหนุ่มรูปงามคนนั้นก็หันขวับราวกับเป็นพระเอก แล้วถามผมว่า “แล้วตกลงคุณจะเช่าต่อไหม”-ผมกับเพื่อนก็ตอบตกลงทันทีเลยครับ สุดท้ายเป็นอันว่า ผมได้อยู่ต่อที่นี่เป็นอัศจรรย์ โดยเช่าร้านต่อจากผู้เช่าใหม่อีกทอดหนึ่ง จากนั้น ชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นก็ยิ้มให้ผมและเพื่อนด้วยอาการที่สบายใจ และเดินขึ้นบันไดเลื่อน หายไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่เคยมีใครเห็นชายรูปงามชุดขาวๆนี้อีกเลย จากเหตุการณ์นี้ จึงทำให้ผมคิดว่า ชายคนนี้คือใคร ทำไมเขาต้องกระวีกระวาดช่วยผมขนาดนั้น ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และผมก็ไม่เคยเห็นเขาแถวนี้มาก่อนเลย แถมยังรูปงาม ผิวสว่าง แต่งชุดขาวๆด้วย พอคิดอย่างนี้...ขนก็ลุกซู่เลยครับ เพราะมันทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า เขา คือ เทวดาหรือเปล่า จนผมอยากจะร้องว่า “ไอ้หยา..ราวกับเจอเทวดาเดินดิน” จากนั้น ผมก็ปลอดกังวลเรื่องร้านเป็นปลิดทิ้งเลยครับ ทำให้ผมรวมพลคนมาสัมมนาได้ถึง 170-คน และต่างปวารณากันไปที่แปดแผ่นทอง 11-กอง 100-กว่าตารางเมตร ซึ่งจัดว่าประสบความสำเร็จ หลวงพ่อครับ...ตอนนี้ แม้ค่าเช่าร้านเดิมของผมจะแพงขึ้นเท่าตัว เพราะต้องเช่าต่อจากผู้เช่าใหม่อีกทอดหนึ่ง แต่ยอดขายของผมก็พุ่งกระฉูดมากขึ้นกว่าห้าร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ และด้วยความที่ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ทำเองสุดๆและทำหน้าที่อย่างสุดขีด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31-ตุลาคม ที่ผ่านมา ผมชิตังเมปิดกองของตัวเอง และรวมพลคนประตูน้ำพากันมาปิดกองไปหลายกอง สำเร็จเป็นอัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อครับ ซึ่งตอนนี้...เหลืออีกไม่กี่วัน ก็จะถึงวันทอดกฐินแล้วครับ ผมอยากให้ลูกหลานยายทุกท่าน เอาชีวิตเป็นเดิมพันสร้างผังสำเร็จให้ตัวเองนะครับ ซึ่งหากเราชนะชาตินี้ เราจะชนะทุกชาติครับ ป.ล. หลวงพ่อครับ ตั้งแต่ผมมาเจอหลวงพ่อแล้ว ผมไม่เคยรักใครเท่าหลวงพ่อเลยครับ ขอให้หลวงพ่อแข็งแรงนะครับ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงกัลยาณมิตรอุทัย คูตระกูล
http://goo.gl/HorMi