ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554
ชัยชนะในโค้งสุดท้าย
เกาะติดสถานการณ์ชวนบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนตอน ชัยชนะในโค้งสุดท้ายเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา กระแสการชวนบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนโค้งสุดท้าย ยังคงสนุกสนานบุญบันเทิง แม้แต่ยอดกัลยาณมิตรตัวน้อยๆอย่าง น้องจ๋า ด.ญ.กัลยรัตน์ สังข์ทอง อายุแปดขวบ ที่ถึงจะตัวจิ๋วแต่ก็แจ๋วอย่าบอกใคร เพราะไม่ว่าจะงานบุญไหนๆ น้องจ๋าก็ชูสองนิ้ว พร้อมสู้เคียงคู่คุณครูไม่ใหญ่ เป็นเด็กเก่งและดี แถมยังควบตำแหน่งประธานกฐินสัมฤทธิ์เด็กดีวีสตาร์ถึงสองปีซ้อน ตอนนี้น้องจ๋าก็อินเทรนด์ตามติดกระแสบุญสุดๆ ด้วยการทำหน้าที่ชวนบวชอุบาสิกาแก้วน้องจ๋า ด.ญ.กัลยรัตน์ สังข์ทอง (ซ้าย)ล่าสุด น้องจ๋าได้ไปกราบขออนุญาตพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูสุธรรมานุศาสก์ เจ้าคณะเขตทวีวัฒนา เจ้าอาวาสวัดปุรณาวาส กรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดเป็นศูนย์อบรมอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่นที่สี่ ซึ่งท่านเจ้าอาวาสก็เมตตาอนุญาตในทันที งานนี้น้องจ๋าปีติสุดๆ โดยทุกวันหยุดและทุกวันหลังเลิกเรียน น้องจ๋าจะตะลุยชวนบวชอย่างสนุกสนานบุญบันเทิง ซึ่งนอกจากจะไปชวนบวชตามบ้านต่างๆแล้ว น้องจ๋ายังไปชวนบวชที่ตลาดและถนนคนเดิน พ่อค้าแม่ค้าชอบน้องจ๋ากันมากๆ ต่างบอกว่า “ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นเด็กตัวเล็กๆออกมาพูดจ้อยๆ ชวนผู้ใหญ่ให้ไปบวช มาเอาบุญด้วยกัน”-ลุงป้าน้าอายังเอ่ยปากขอโบร์ชัวร์ชวนบวชจากน้องจ๋า เพื่อเอาไปแจกให้ลูกค้าที่มาซื้อของอีกด้วยน้องจ๋าทำหน้าที่ชวนบวชอุบาสิกาแก้วในตลาด ทุกวันหลังเลิกเรียนเคล็ดลับในการชวนบวชของน้องจ๋า คือ เริ่มต้นให้ชวนคุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา เปิดบ้านกัลยาณมิตร แล้วจึงชักชวนคนที่มาสวดมนต์นั่งสมาธิ(Meditation) บวชอุบาสิกาแก้ว ซึ่งน้องจ๋าบอกว่าวิธีนี้ได้ผลดีทีเดียว จากการทำหน้าที่อย่างสุดกำลัง ทำให้ผู้ใหญ่ใจดีวีรสตรีทั้งหลาย กรอกใบสมัครบวชอุบาสิกาแก้ว ทะลุหลักร้อยไปแล้วอย่างง่ายดาย และน้องจ๋ายังสามารถชวนคนเปิดบ้านกัลยาณมิตรได้มากถึงแปดหลัง แถมยังเป็นต้นบุญต้นแบบ เป็นผู้นำสวดมนต์ทำวัตรเย็น โชว์น้ำเสียงใสๆด้วยตนเองอีกด้วย ส่วนวันไหนถ้ามีพระอาจารย์มา น้องจ๋าก็จะทำหน้าที่เป็นมัคนายกตัวน้อยๆแทน เป็นที่ติดอกติดใจของผู้ใหญ่ใจดีทุกคน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “น้องจ๋าเก่งจริงๆ สวดมนต์คล่องและชัดยิ่งกว่าป้าๆอีก ฟังเสียงน้องจ๋านำสวดมนต์ทีไร มันปลื้มจนน้ำตาไหล อยากให้น้องจ๋านำสวดมนต์ทุกวันเลยค่ะ”บ้านนี้ก็มีคนมาสวดมนต์กันเยอะเลยค่ะน้องจ๋าทำหน้าที่นำสวดมนต์ได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นที่ชื่นชมของผู้ใหญ่ใจดีเมื่อมีการสวดมนต์ทำวัตรเย็นบ่อยๆ หลายๆบ้านก็เกิดปรากฏการณ์ คนดีล้นบ้าน คือ คนดีไม่มีที่อยู่ ทำให้น้องจ๋าเกิดความคิด คิดการดี พลิกลานเต้นแอโรบิค มาเป็นลานธรรม ดังนั้น หลังจากจบกิจกรรมการเต้นแอโรบิค ก็จะมีผู้ใหญ่ใจดีมาสวดมนต์ทำวัตรเย็นเป็นประจำ กว่าห้าสิบคน จากการเปิดบ้านกัลยาณมิตร ทำให้หลายๆครอบครัวมีการเปลี่ยนแปลง น้องจ๋าเล่าว่า “หนูไปสวดมนต์ที่บ้านลุงปุ๊กับป้าเขียว หนูประทับใจมาก มีคนมาสวดมนต์เยอะมากเลยค่ะ ก่อนหน้านี้บ้านลุงปุ๊กับป้าเขียวไม่มีความสุขเลย ลุงปุ๊เปลี่ยนไปมากจริงๆ เมื่อก่อนถ้าป้าเขียวไปวัดพระธรรมกายก็จะโดนลุงปุ๊ดุ แต่ตอนนี้ลุงปุ๊เป็นคนพาป้าเขียวไปวัดเองค่ะ แล้วลุงปุ๊ยังทำอาหารเลี้ยงคนที่มาสวดมนต์ที่บ้านอีกด้วยนะคะ”น้องจ๋ามาสวดมนต์ที่บ้านลุงปุ๊กับป้าเขียว คนเยอะมากๆเลยค่ะครอบครัวลุงปุ๊กับป้าเขียว สวยหล่อกันทั้งบ้านเลยค่ะส่วนบรรยากาศการทำหน้าที่ชวนบวชของจังหวัดฉะเชิงเทรา ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ก็แสนจะคึกคัก ยอดผู้สมัครที่อำเภอพนมสารคาม มียอดผู้สมัครที่ยืนยันมาแล้วถึงสามร้อยคน ส่วนที่อำเภอแปลงยาว มียอดผู้สมัครมากถึงสองร้อยคน รวมห้าร้อยกว่าคนแล้ว ที่ยอดพุ่งพรวดทะยานไม่หยุด ก็เพราะทุกคนทำหน้าที่อย่างแน่วแน่ และให้กำลังใจกันสุดๆอาจารย์แววรัตน์ ครองสกุล ครูผู้ทำหน้าที่ผู้นำบุญมาแล้วเกือบสิบปี เล่าว่า เสียงตอบรับการชวนบวชที่นี่ดีสุดๆ เพราะการบวชครั้งก่อน อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทุกคนต่างมีความประทับใจจนอยากให้หลวงพ่อจัดบวชบ่อยๆ พองานนี้...จึงได้บอกกันปากต่อปาก อีกทั้งยังมีอดีตธรรมทายาทและอดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนถึงยี่สิบกว่าคน ที่ขอลาภารกิจทางโลก อุทิศชีวิตเพื่อการทำหน้าที่ออกชวนคนบวชอย่างเต็มที่เต็มกำลังตั้งแต่เช้าจรดค่ำ อดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนและอดีตธรรมทายาทที่สละเวลามาทำหน้าที่กัลยาณมิตรอย่างเต็มเวลาตัวอย่างเช่น อดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน สำราญ สุขยา มีอาชีพเลี้ยงโค อดีตเธอเป็นภรรยาใจร้อน ขี้หงุดหงิด เมื่อมาบวชแล้วก็เปลี่ยนเป็นคนละคน คือ สงบขึ้นอย่างมาก และขยันในการทำหน้าที่ผู้นำบุญ จนสามีตะลึง จึงประกาศปลดแอกขายโคยี่สิบตัวที่เธอดูแลอยู่จนหมด เพื่อเปลี่ยนอาชีพให้เธอเป็นผู้นำบุญดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างเต็มเวลา(จากซ้าย) อ.แววรัตน์ ครองสกุล และ กัลฯสำราญ สุขยาส่วนอดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ศิริรัตน์ ยะหัตตะ ก่อนบวชสามีเป็นอัมพฤกษ์มาแรมปี หลังบวชก็ลุยทำหน้าที่ชวนคนบวชทุกวัน แล้วอธิษฐานให้บุญนี้ช่วยให้สามีหาย แล้วอยู่ๆสามีก็มีอาการดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ คือ พยุงตัวขึ้นและก้าวเดินได้อย่างอัศจรรย์กัลฯศิริรัตน์ ยะหัตตะ (คนซ้าย)ตอนนี้สามีเดินได้ ด้วยบุญบวชและบุญที่ได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรค่ะมากันที่อดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ฐนิตนันท์ ประสงค์บุญมา อายุ 39-ปี อดีตแคชเชียร์ผับ คนกลางคืน ที่ผิดศีลห้าได้ทุกข้อโดยไม่รู้ว่าเป็นบาป และปฏิเสธการมาวัดพระธรรมกายนานถึงสิบปี แต่บุญบันดาลให้ได้มาบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่นแสนแรก พอจบการอบรมก็ขอเลือกเดินในเส้นทางสู่สวรรค์ หันหลังให้ชีวิตที่มืดมน ขออุทิศชีวิตนี้เพื่อช่วยงานพระพุทธศาสนา แบบสุดๆ ทำหน้าที่อย่างเต็มพลังทั้งกายและใจ ลุยไม่หยุดสักวินาทีเดียว เธอทำหน้าที่แบบเต็มเวลาชนิดที่ว่าค่ำไหนนอนนั่น จนตอนนี้ชวนคนได้ถึงหกสิบคนแล้วกัลฯฐนิตนันท์ ประสงค์บุญมาอดีตคนกลางคืน ปัจจุบันสุดยอดผู้นำบุญค่ะอดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน โสพิส เนตรประสิทธิ์ ครูสอนนวดแผนโบราณ ที่เห็นความสำคัญของการรักษาพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่กับแผ่นดินไทย ขอวางมือจากการสอน ออกตามหาผู้มีบุญ มาบวชอย่างเต็มกำลัง เจอคนที่ไม่ชอบวัดก็แก้ต่างให้กับวัด จนได้คนสมัครบวชมาอย่างล้นหลาม แถมยังคอยให้กำลังใจ จุดไฟให้เพื่อนๆอดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทั้งหลายว่า “วันนี้ทำหน้าที่เต็มที่กันหรือยังคะ”-ขอให้ทุกคนลุกออกมาทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ออกมาชวนคนบวชให้ได้ทุกวัน เราจะได้ชิตังเมไปด้วยกัน************************รับชมวีดีโอ การทำหน้าที่ชวนบวช ฉะเชิงเทรา ร้อยเอ็ดรับชมคลิปวิดีโอชวนบวช จ.ฉะเชิงเทรา ร้อยเอ็ด    
http://goo.gl/GWPkj