Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2554จบปริญญาตรีต่อปริญญาเอกได้อย่างน่าอัศจรรย์
อานุภาพสร้างพระธรรมกายประจำตัวตอน จบปริญญาตรีต่อปริญญาเอกได้อย่างน่าอัศจรรย์เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับผมชื่อ เกียรติภูมิ รอดพันธ์ อายุ 27 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับสอง จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาเอกอยู่ที่ University of Otago เมืองดันนีดิน ประเทศนิวซีแลนด์ครับ ผมมีโอกาสมาร่วมงานบุญใหญ่ของวัดเป็นครั้งแรก ตอนงานกฐินพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ปี พ.ศ.2551 ครับ และได้ทราบข่าวการสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว พอทราบข่าวปุ๊บผมก็ตัดสินใจปั๊บ สร้างองค์พระสององค์ทันทีเลยครับ กัลฯเกียรติภูมิ รอดพันธ์จนกระทั่ง ผมได้รับทุนเพื่อมาศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อเดินทางมาถึง ผมก็ต้องพบกับเรื่องอัศจรรย์ใจสุดๆครับ เมื่อได้ทราบว่าที่พักของผมนั้น สุดแสนจะอยู่ใกล้กับวัดพระธรรมกายดันนีดินมาก เดินสบายๆไปแค่ 15 นาทีก็ถึงแล้วครับ ด้วยระยะทางอันใกล้นี้ จึงทำให้ผมได้มีโอกาสมาสั่งสมบุญที่วัดอยู่เป็นประจำในช่วงสองเดือนแรกที่ผมเข้าเรียนปริญญาโทนั้น ผมเรียนหนักและเครียดมากครับ เพราะตอนนั้นภาษาอังกฤษของผมยังไม่ดี เรียกว่าอยู่ในระดับงูๆปลาๆ ยังพูดถูกๆผิดๆอยู่เลยครับ แถมทั้งวันก็ต้องมานั่งเรียนวิชาต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ กลับมาบ้านแทนที่จะได้พัก ก็ต้องมาอ่านทบทวนเนื้อหาที่เรียนมาทั้งหมดอีก ยิ่งอ่านก็ยิ่งเครียด เพราะไม่รู้เรื่องเลย ตอนนั้นผมบอกกับตัวเองว่า “ตายแล้วเรา...ถ้าขืนเรียนแล้วเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆมีหวังไม่รอดแน่ๆ” คิดไปคิดมา ไอเดียของผมก็พุ่งกระฉูด คิดขึ้นได้ว่า “เอ...สงสัยงานนี้ต้องใช้บุญช่วยเสียแล้ว” ผมจึงไม่รอช้า รีบเตรียมปัจจัยใส่ซอง ตั้งใจว่าจะไปทำบุญที่วัด แต่ระหว่างเดินไป ก็ได้เจอพระอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเสียก่อน ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปคุกเข่าถวายปัจจัยสร้างองค์พระเพิ่มอีกสี่องค์กับท่าน กลางมหาวิทยาลัย ตอนนั้นทันทีเลยครับ และแล้ว...สิ่งอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นกับผมอย่างจัง กล่าวคือ หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผมได้มีโอกาสคุยกับหัวหน้าภาคเคมีของมหาวิทยาลัย ซึ่งท่านได้เสนอแนวการเรียนให้กับผมว่า “คุณสามารถมาทำงานวิจัยในห้องทดลองเพียงอย่างเดียวได้นะ ไม่ต้องไปนั่งเรียนในห้องให้ปวดหัวหรอก” เมื่อได้ยินแบบนี้ ผมก็ยิ้มหวานวาดวิมานกลางอากาศเลยครับ แต่แล้ววิมานก็ต้องล่มสลาย เมื่อได้ยินประโยคต่อไปที่ว่า “แต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่า ต้องเป็นนักศึกษาปริญญาเอกเท่านั้น ถึงจะเรียนแบบนั้นได้” ได้ยินแบบนี้ผมผิดหวังมากเลยครับ เพราะคิดว่า “โธ่...ตัวเราจบแค่ปริญญาตรีจากเมืองไทย แถมยังกำลังเรียนปริญญาโทอยู่ ดูท่าทีก็ว่าจะไม่รอดแน่ๆ แล้วจะให้กระโดดข้ามมาเรียนปริญญาเอกเลยหรือ มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ” แต่ผมก็ไม่ท้อนะครับ ผมมานั่งคิดดูว่า “เราเป็นลูกพ่อ...ท้อไม่เป็นอยู่แล้ว เราต้องสู้ สู้ด้วยบุญนี่แหละ มันน่าจะได้นะ” ผมจึงเริ่มปฏิบัติภารกิจพิชิตเป้าหมายให้สำเร็จทันที ด้วยการไปที่วัดพระธรรมกายดันนีดินโดยด่วน แล้วนั่งสมาธิ(Meditation)ตามเสียงของหลวงพ่อไปเรื่อยๆ ใจก็นึกถึงแต่บุญสร้างองค์พระอย่างเดียว ผมนั่งสมาธิไปเรื่อยๆประมาณสามชั่วโมง พร้อมกับอธิษฐานว่า “ขอให้ผมได้กระโดดไปเรียนปริญญาเอกได้อย่างอัศจรรย์” น่าประหลาดใจจริงๆครับ เพราะจู่ๆหัวหน้าภาคเคมีก็ส่งอีเมล์มานัดขอพบผม เล่นเอาผมถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก คิดว่า “โอ...อะไรจะเห็นผลแห่งบุญรวดเร็วขนาดนี้ และเพื่อความไม่ประมาท ในวันนัดหมายนั้น ผมก็ทำตามหลักวิชชาที่ได้รู้มาทันที คือ รีบตื่นแต่เช้าเพื่อสวดมนต์ นั่งสมาธิ พร้อมกับขอพรจากองค์พระธรรมกายประจำตัวว่า “ขอให้วันนี้ผมได้รับข่าวดี ให้สามารถเข้าเรียนต่อระดับปริญญาเอกได้ด้วย เทอญ” และเมื่อผมไปพบหัวหน้าภาคเคมี ประโยคแรกที่ท่านพูดก็คือ “อาจารย์ได้ปรึกษากับคณาจารย์ในภาคเคมีแล้ว ทุกคนมีความเห็นว่าคุณเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาก สามารถที่จะข้ามไปเรียนในระดับปริญญาเอกได้เลย โดยไม่ต้องเข้าเรียนระดับปริญญาโท ซึ่งตอนนี้เหลือแค่ว่าคุณอาจจะต้องเตรียมตัวนำเสนอผลงานการวิจัยที่คุณเคยทำมา ให้กับทางมหาวิทยาลัยเท่านั้น และให้รอคำสั่งอนุมัติอย่างเป็นทางการจากมหาวิทยาลัย คุณก็สามารถเข้าเรียนได้เลย” โอ...อะไรกันนี่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อจริงๆครับว่า มันคือเรื่องจริง ตอนนั้นผมดีใจมากครับ ก็จะไม่ให้ผมดีใจได้อย่างไร เพราะผมเป็นแค่เด็กเพิ่งจบปริญญาตรีคนหนึ่ง ที่ยังพูดภาษาอังกฤษผิดๆถูกๆ แต่กลับได้เลื่อนขั้นไปเรียนถึงระดับปริญญาเอกได้ โดยไม่ต้องเรียนปริญญาโท ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ถ้าไม่เรียกว่า อานุภาพบุญจากการสร้างองค์พระ ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะครับ และเมื่อผมนำเสนอผลงานการวิจัย ทุกอย่างก็ผ่าน ทางมหาวิทยาลัยตอบตกลง รับผมเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกอย่างเป็นทางการ โดยที่ผมไม่ต้องไปนั่งเรียนในระดับปริญญาโทให้เสียเวลาเลยครับ เห็นไหมครับว่า บุญจากการสร้างองค์พระนั้นสุดยอดจริงๆ เพราะไม่ว่าเราจะคิดหวังสิ่งใดก็สมปรารถนาทุกอย่าง แม้แต่สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ก็ยังสำเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผมจึงไม่รอช้า เร่งรีบสร้างบุญใหญ่นี้อย่างเต็มที่เต็มกำลังและต่อเนื่อง จนตอนนี้ผมสร้างองค์พระไปแล้วกว่า 35 องค์ครับ สุดท้ายนี้ ผมอยากจะกราบขอพรจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ขอให้ผมเรียนประสบความสำเร็จอย่างเป็นอัศจรรย์ นำใบปริญญาเอกกลับไปถวายหลวงพ่อได้เร็วๆนะครับ ผมจะขอเป็นกำลังหนึ่งในการช่วยหลวงพ่อเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลกครับ และผมก็อยากจะฝากถึงลูกพระธัมฯทั่วโลกที่ตั้งใจจะปิดองค์พระให้ได้ 67 องค์ว่า ไม่มีอะไรที่ลูกพระธัมฯพันธุ์สวนกระแสอย่างพวกเราจะทำไม่ได้ ผมขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยทุกคนนะครับ อย่าลืมว่าเรามีนัดกันในวันวิสาขบูชานี้ ชวนพี่น้องและคนที่เรารักมาเอาบุญใหญ่กันเยอะๆนะครับ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงกัลฯเกียรติภูมิ รอดพันธ์สนใจสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวให้ตนเองและคนที่คุณรัก อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่ (คลิก)ต่อเวลาสร้างองค์พระ...ฉลองชัย ชิตัง เม
รับชมคลิปวิดีโอต่อเวลาสร้างองค์พระ...ฉลองชัย ชิตัง เม 
http://goo.gl/g7MQa
พิมพ์บทความนี้
