ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2554กู้วิกฤตน้ำท่วมอำเภอคลองหลวงกู้วิกฤตน้ำท่วมอำเภอคลองหลวงพลังลูกพระธัมฯ พันธุ์มหัศจรรย์กู้วิกฤตน้ำท่วมอำเภอคลองหลวงเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาแม้ขณะนี้ ระดับน้ำที่โอบรอบอำเภอคลองหลวงจะกำลังไต่ระดับเพิ่มสูงขึ้นแบบวินาทีต่อวินาที แต่ก็ไม่อาจสั่นคลอนพลังใจของลูกพระธัมฯให้ถดถอยหรือหวั่นไหวได้เลย ยิ่งกระแสน้ำไหลบ่ามามากเท่าไหร่ บรรดาลูกพระธัมฯทั้งหลายต่างยิ่งพากันมุ่งตรงสู่วัดพระธรรมกาย อำเภอคลองหลวง มากขึ้นเท่านั้น ในวินาทีนี้ไม่มีใครยอมอยู่เฉยๆ ขนาดบางคนบ้านของตนถูกน้ำท่วมไปแล้ว ก็ยังอดรนทนไม่ไหว ยอมวางทุกสิ่ง ทิ้งบ้าน ทะยานเข้าวัด เพื่อมาช่วยกันปกป้องรักษาวัด และช่วยพี่น้องชาวคลองหลวงไม่ให้ถูกน้ำท่วมณ เวลานี้ ลูกพระธัมฯทั้งภาคนครหลวง 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, ภาคภูธรทั้งภาคเหนือ, ภาคใต้, ภาคอีสาน, ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก รวมแล้วหลายพันชีวิต ได้กระจายไปตามจุดต่างๆ ทั้งในวัดและนอกวัด ช่วยกันบรรจุและลำเลียงกระสอบทราย เพื่อนำไปเสริมแนวคันดินกั้นน้ำกันตลอดทั้งวันทั้งคืน แม้แดดจะแผดเผา หรือสายฝนจะกระหน่ำจนเปียกแฉะอย่างไรก็ไม่มีใครยอมถอย ยังคงร่วมแรงร่วมใจกันบรรจุกระสอบทราย จนภูเขาทรายหดหายไปในพริบตา ตัวอย่างเช่น จุดบรรจุกระสอบทรายหน้าโบสถ์วัดพระธรรมกาย ได้ทำสถิติการบรรจุกระสอบทรายได้อย่างรวดเร็ว กล่าวคือ สามารถบรรจุทรายปริมาณ 8 คันรถพ่วง 6 ล้อ ใส่กระสอบพร้อมใช้งาน ได้หมดเกลี้ยงภายในวันเดียวเท่านั้น ลูกพระธัมฯ พันธุ์สู้ไม่ถอย ณ จุดบรรจุกระสอบทรายหน้าโบสถ์ วัดพระธรรมกายจุดบรรจุกระสอบทรายสะพานแสงตะวัน“พวกเราจะสู้จนกว่าน้ำจะลด”จุดบรรจุกระสอบทรายปทุมเจดีย์จุดบรรจุกระสอบทรายอาคารแจ่มจันทร์ตัวแทนลูกพระธัมฯท่านหนึ่งเล่าว่า “พี่มาช่วยบรรจุระสอบทรายได้ 4 วันแล้วค่ะ กว่าจะกลับถึงบ้านก็ตีห้า พอตอนเก้าโมงเช้าก็ออกมาที่วัดอีก ได้นอนแค่วันละ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ แต่ไม่เหนื่อยเลย เกิดมาก็ไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ และเพื่อนๆลูกพระธัมฯที่มาช่วยกัน ก็มีทั้งคนในระดับเจ้าของกิจการ ระดับผู้จัดการบริษัทหลายๆบริษัท เช่น ผู้จัดการบริษัทขนมปังโกลด์เบรด ก็ยกทีมกันมาบรรจุกระสอบทรายตั้งสิบคนค่ะ สำนักพิมพ์เอ็มไอเอส (MIS) ก็พาพนักงานในบริษัทมาช่วยอีก 30 กว่าคน อีกทั้งบางท่านที่ปกติอยู่บ้านเป็นคุณนาย แทบไม่ต้องทำอะไรเองเลย แต่ก็ยอมทิ้งความสบาย มาจับพลั่ว ตักทราย และแบกถุงทรายด้วยตนเอง ซึ่งทรายแต่ละกระสอบที่ต้องแบกส่งต่อๆกัน หนักประมาณ 12-20 กิโลกรัมค่ะ พี่เห็นหลายท่านทำกันจนมือแตก เจ็บมือ เจ็บแขน ปวดหลังไปหมด แต่พอมองเห็นแนวกระสอบทรายที่พวกเราได้ช่วยกันทำ เรียงรายปกป้องวัด ปกป้องอำเภอคลองหลวง และพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ให้รอดพ้นจากภัยน้ำท่วม ทำให้พวกเรามีความสุขมากๆเลยค่ะ พี่อยากให้ลูกพระธัมฯทุกคนสู้ๆ ถ้าเราทำ เราก็จะชนะ ถึงเหนื่อยแค่ไหนเราก็ไม่รู้สึกว่าเราจะแพ้ค่ะ” จุดบรรจุกระสอบทราย บริเวณวงเวียน ป้อม 6ณ คลองระพีพัฒน์ “พวกเรายืนยันที่จะช่วยกันยันกระแสน้ำ ตลอด 24 ชั่วโมง”ในขณะนี้ พระธรรมทายาทในโครงการหนึ่งแสนรูปทั่วไทย รุ่นเข้าพรรษา จากศูนย์อบรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้มาประจำการอยู่ที่วัดพระธรรมกายแล้วเช่นกัน โดยหลังจากที่ได้เดินธุดงค์ธรรมชัย ไปพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่งสำเร็จลุล่วงด้วยดีแล้ว พระธรรมทายาทกว่า 40 รูป ต่างไม่ยอมหยุดพัก ขอออกเดินทางมาพิทักษ์รักษาวัด และกอบกู้วิกฤตน้ำท่วมที่อำเภอคลองหลวงในทันที โดยได้มาสมทบกับตัวแทนคณะสงฆ์จากอีกหลายๆจังหวัด และพระธรรมทายาทจากอีกหลายๆศูนย์อบรม เพื่อช่วยกอบกู้สถานการณ์น้ำให้ดีขึ้น พระภิกษุ สามเณร ก็มาร่วมด้วช่วยกันอย่างสุดกำลังพระภิกษุ สามเณร พร้อมปกป้องทุกคนให้พ้นจากมวลน้ำจำนวนมหาศาลท่านพระครูประโชติ พรหมวรคุณ เจ้าคณะตำบลวังตะเคียน-ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า “พออาตมาทราบข่าว ก็ช่วยประชาสัมพันธ์ออกรายการวิทยุ FM. 103.75 MHz ในทันที แล้วยังโทรศัพท์ไปนิมนต์พระสงฆ์และญาติโยมที่รู้จักให้มาช่วยกันอีกด้วย พอมาถึงแล้วได้เห็นญาติโยมของวัดพระธรรมกายช่วยกันอย่างแข็งขัน รู้สึกปลื้มจริงๆ นี่แหละเขาถึงบอกว่า แม้กายจะเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นเทวดา อาตมาขอชื่นชมอนุโมทานาบุญกับทุกคนด้วย และขอฝากถ้อยคำไปถึงหลวงพ่อธัมมชโยว่า “หลวงพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทุกอย่างต้องเรียบร้อย เดี๋ยวกระผมจะไปตามคนให้มาช่วยกันอีกเยอะๆครับ”ครั้งนี้ ขอสู้เพื่อปกป้องพระศาสนา และพี่น้องประชาชนพลังของกองทัพธรรม ไม่มีวันหยุดพักจนถึง ณ วันนี้ เป็นเวลาหลายคืนแล้ว ที่ทีมงานกองทัพธรรม ร่วมแรงร่วมใจกันบรรจุกระสอบทราย แบกกระสอบทราย จนถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง และโต้รุ่ง ซึ่งพระภิกษุ, สามเณร ทุกรูปต่างบอกว่า “งานนี้ขอลุยแหลก แล้วโลกจะได้รู้ว่า มวลน้ำมหาศาล จะต้องแพ้พลังน้ำใจคน”
http://goo.gl/n7zik