ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2555
ปรโลกนิวส์ ตอน คุณพ่อโอปิก ตอนที่ 7
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
เมื่อออกบวชเป็นพระภิกษุก็ตั้งใจฝึกตนทนหิวบำเพ็ญตบะเป็นพระแท้อีกทั้งยังตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเป็นอย่างดี
คำตอบข้อ 1.58 เมื่อตัวลูกในภพชาตินั้น ได้ออกบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ตัวลูกก็ตั้งใจฝึกตนทนหิวบำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้ อีกทั้งยังตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเป็นอย่างดี ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้นผลการปฏิบัติธรรมของตัวลูก ก็ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะเวลาที่ตัวลูกนั่งธรรมะ ตัวลูกจะติดฟุ้งไปในเรื่องราวที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความรับผิดชอบในตอนที่ตัวลูกเป็นทหาร เรื่องราวตอนที่ตัวลูกออกไปรบแล้วก็ได้ฆ่าข้าศึกตาย รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องของคนรักหรือแม่หญิงแสนสวยที่ตัวลูกได้ไปบังคับขืนใจเธอ เป็นต้นภาพเรื่องราวเก่าๆ มันยังคงติดตามมาปรากฏฉายให้ตัวลูกเห็นอยู่เป็นประจำ
คำตอบข้อ 1.59 ซึ่งภาพเรื่องราวเหล่านี้ก็เป็นภาพเรื่องราวเก่าๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ตัวลูกจะบวช ถึงแม้ตัวลูกจะบวชแล้วแต่ภาพเรื่องราวเหล่านี้มันก็ไม่ได้หายไปไหน และมันก็ยังคงติดตามมาปรากฏฉายให้ตัวลูกเห็นอยู่เป็นประจำ ทั้งๆ ที่ตัวลูกก็ไม่ได้อยากให้มันมาแต่มันก็มาเองโดยที่ตัวลูกไม่ได้เชิญ ซึ่งในบางครั้งตัวลูกก็เกิดอาการมีส่วนร่วมไปกับความฟุ้งเหล่านั้นด้วย แต่ทันทีที่ตัวลูกรู้ตัวว่า “ตัวเองเผลอไปคิดต่อเติมเสริมความฟุ้งที่มันเกิดขึ้นมา” ด้วยความที่ตัวลูกเป็นคนมีอัธยาศัยตั้งใจจริง คือถ้าหากทำอะไรแล้ว ก็จะตั้งใจทำอย่างเต็มที่แบบสุดๆนี้เอง จึงทำให้ตัวลูกอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดกับความฟุ้งที่เข้ามารบกวนใจของตัวลูก
ความฟุ้งซ่านทำให้เกิดความกังวลใจห่วงโน้นห่วงนี่อีกด้วย
คำตอบข้อ 1.60 ไม่ใช่เพียงเท่านั้นความฟุ้งซ่านเหล่านี้ ยังทำให้ตัวลูก เกิดความกังวลใจและห่วงโน้นห่วงนี่อีกด้วย เช่น ห่วงกังวลกลัวว่าคนรักหรือแม่หญิงแสนสวยจะลำบาก หรือห่วงกังวลกลัวว่าแม่หญิงแสนสวยจะไม่มีใครดูแล เป็นต้นซึ่งความฟุ้งและห่วงกังวลเหล่านี้ก็ได้เข้ามารบกวนจิตใจของตัวลูกอยู่เป็นประจำ จนเป็นผลทำให้ใจของตัวลูกไม่สามารถที่จะหยุดนิ่งได้อย่างเต็มที่
นายทหารรุ่นน้องเมื่อออกบวชเป็นพระภิกษุก็ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน
คำตอบข้อ 1.61 ส่วนนายทหารรุ่นน้องเมื่อออกบวชเป็นพระภิกษุแล้ว เธอก็ตั้งใจฝึกตนทนหิวบำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้ และก็ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน ส่วนผลการปฏิบัติธรรมของเธอในช่วงแรกๆ นั้นเธอจะติดตรงที่มีความลังเลสงสัยและมีคำถามเกิดขึ้นในใจอยู่ตลอดเวลา เช่น นั่งแล้วจะเห็นธรรมะกับเขาบ้างไหม คนอย่างเราจะมีบุญพอที่จะเห็นธรรมะหรือเปล่า ถ้านั่งเห็นธรรมะแล้วจะเป็นยังไงหรือทำยังไงถึงจะเห็นธรรมะ เป็นต้น ซึ่งความลังเลสงสัยเหล่านี้ก็ได้กลายมาเป็นความกังวลใจในการปฏิบัติธรรมของนายทหารรุ่นน้องมาโดยตลอด
ตัวลูกและนายทหารรุ่นน้องก็มีโอกาสได้รับฟังโอวาทเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมของพระเถระผู้สืบทอดวิชชาธรรมกาย
คำตอบข้อ 1.62 แต่ในเวลาต่อมาตัวลูกและนายทหารรุ่นน้องก็มีโอกาสได้รับฟังโอวาทเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมของพระเถระ ผู้สืบทอดวิชชาธรรมกายต่อจากพระมหาเถระหรือคุณยายอาจารย์ของเรา ซึ่งก็มีโอวาทส่วนที่โดนใจตัวลูกแบบสุดๆ โดยโอวาทส่วนนี้ก็มีใจความในทำนองที่ว่า “ ถ้ามีความฟุ้งหยาบๆ หรือความฟุ้งที่ทำให้เกิดความรำคาญใจหรือความทุกข์ใจ เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ก็ให้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสบายๆ หรือเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วก็ให้เลือกดูภาพที่ทำให้ใจบริสุทธิ์ใจสูงส่ง ซึ่งถ้าเป็นในภพปัจจุบันนี้ก็ เช่น ภาพองค์พระ หรือภาพดวงแก้ว เป็นต้นเมื่อใจเกิดความสบายหายฟุ้งแล้วก็ให้ค่อยๆ หรี่ตาลงมาอย่างเบาๆ แล้วก็วางใจนิ่งๆ นุ่มๆ ไปเรื่อยๆ
คำตอบข้อ 1.63 และเมื่อใจเกิดความสบายหายฟุ้งแล้วก็ให้ค่อยๆ หรี่ตาลงมาอย่างเบาๆ แล้วก็วางใจนิ่งๆ นุ่มๆ ไปเรื่อยๆ อย่าไปโมโหหรือรำคาญตัวเองที่ทำแล้วไม่ได้ดั่งใจ ให้เริ่มต้นใหม่ด้วยใจที่สบายๆ ถ้าหากวางใจได้อย่างนี้ใจก็จะละเอียดนุ่มนวลขึ้นเรื่อยๆ แล้วความฟุ้งหยาบๆ ที่ทำให้เกิดความรำคาญใจก็จะค่อยๆ ลดน้อยลงไปแล้วก็หมดไปในที่สุด เมื่อไหร่ก็ตามที่ใจเริ่มนิ่งและเข้าที่มากขึ้นแล้วถ้าหากในตอนนั้นมีความฟุ้งละเอียด แม้จะเป็นเรื่องการทำบุญสร้างกุศลปรากฏแทรกเกิดขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้ไปนึกถึง ก็ให้วางใจนิ่งๆ ที่ศูนย์กลางกายอย่างสบายๆ โดยที่ไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น ”
เวลานั่งสมาธิ สิ่งที่ควรทำก็คือให้เราปล่อยวางเรื่องราวทุกๆ อย่างและให้เราคิดว่าเรากำลังนั่งสมาธิเพื่อตัวของเราเอง
คำตอบข้อ 1.64 ส่วนโอวาทที่โดนใจนายทหารรุ่นน้องก็คือโอวาทเกี่ยวกับวิธีการแก้ความลังเลสงสัยในระหว่างปฏิบัติธรรม ซึ่งโอวาทส่วนนี้ก็มีใจความในทำนองที่ว่า “ เวลานั่งสมาธิ สิ่งที่ควรทำก็คือให้เราปล่อยวางเรื่องราวทุกๆ อย่าง และให้เราคิดว่าเรากำลังนั่งสมาธิเพื่อตัวของเราเอง อีกทั้ง เราก็ไม่ได้นั่งแข่งกับใคร ดังนั้น ก็ให้ปรับกายและใจให้สบายๆ เอาความสุขและความสบายเป็นหลัก อย่าไปคาดหวังว่าเราจะได้เห็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ หรืออย่าไปกังวลใจเรื่องของการเห็นภาพภายใน เพราะภาพที่จะเกิดขึ้นให้เห็นภายในนั้น จะเกิดขึ้นมาเองบนพื้นฐานของใจที่กำลังเป็นสุข”
ตัวลูกทั้งสองก็ได้ตั้งใจนั่งสมาธิตามคำแนะนำของพระเถระทุกประการ
คำตอบข้อ 1.65 เมื่อตัวลูกและนายทหารรุ่นน้องได้รับฟังโอวาทเกี่ยวกับอุปสรรคและวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องการปฏิบัติธรรมจากพระเถระแล้ว ตัวลูกทั้งสองก็ได้ตั้งใจนั่งสมาธิตามคำแนะนำของพระเถระทุกประการ และเมื่อตัวลูกทั้งสองได้หมั่นฝึกใจให้หยุดให้นิ่งอยู่เป็นประจำ อุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติธรรมของตัวลูกทั้งสอง ก็ค่อยๆ หมดไป ซึ่งก็เป็นผลทำให้ การปฏิบัติธรรมของตัวลูกทั้งสองดีขึ้นไปตามลำดับแล้วในที่สุดตัวลูกและนายทหารรุ่นน้องก็สามารถเข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายที่ชัดใสสว่างได้นั่นเองความสุขที่แท้จริงภายในอันเกิดจากใจที่หยุดที่นิ่งเป็นความสุขที่ยากจะบรรยายพรรณนาหรือเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
คำตอบข้อ 1.66 หลังจากที่ตัวลูกและนายทหารรุ่นน้องได้เข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายแล้ว ตัวลูกทั้งสองก็รู้สึกหวงแหนดวงธรรมภายในกลางกายมาก และไม่อยากให้หายไปเลย ที่ตัวลูกทั้งสองรู้สึกเช่นนี้นั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะตัวลูกทั้งสองได้พบกับความสุขที่แท้จริงภายในอันเกิดจากใจที่หยุดที่นิ่ง ซึ่งความสุขนี้เป็นความสุขที่ยิ่งกว่าทุกๆ ความสุขที่ตัวลูกทั้งสองได้เคยพบเคยเจอมาและเคยคิดว่ามันเป็นความสุขในชีวิต เพราะความสุขนี้เป็นความสุขที่ยากจะบรรยายพรรณนา หรือเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ซึ่งผู้ที่ได้เข้าถึงธรรมเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าใจและสัมผัสได้ถึงความสุขนี้เปรียบเหมือนคนที่ไม่เคยรับประทานน้ำผึ้ง แม้เขาจะเคยได้ยินได้ฟังมาว่า “ น้ำผึ้งมีกลิ่นหอมและมีรสชาติที่หวานมากๆ ” แต่ถึงกระนั้นเขาก็คงจะจินตนาการไม่ออกว่า “ น้ำผึ้งหอมและหวานอย่างไร ” ซึ่งถ้าหากจะให้รู้และเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนก็จะต้องลองลิ้มชิมรสน้ำผึ้งนั้นด้วยตัวเอง
ความสุขที่แท้จริงที่เกิดจากสภาวะใจที่หยุดนิ่งซึ่งความสุขที่แท้จริงภายในนี้เป็นความสุขที่ไม่ได้เจือปนด้วยความทุกข์เลย
คำตอบข้อ 1.67 แต่ถ้าหากเราจะใช้ความพยายามบรรยายความสุขที่แท้จริงภายในออกมาด้วยคำพูดแล้ว ก็คงจะได้ใจความในทำนองดังต่อไปนี้ คือ เมื่อเราได้เข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายแล้ว เราจะสัมผัสได้ถึงความสุขที่แท้จริงที่เกิดจากสภาวะใจที่หยุดนิ่งซึ่งความสุขที่แท้จริงภายในนี้ เป็นความสุขที่ไม่ได้เจือปนด้วยความทุกข์เลย อีกทั้งยังเป็นความสุขที่มาพร้อมกับความบริสุทธิ์อีกด้วย ซึ่งกระแสธารแห่งความสุขนี้จะเข้าไปหล่อเลี้ยงใจให้มีแต่ผ่องใส สว่างไสว แช่มชื่น เบิกบาน ชุ่มเย็น สงบแบบลึกๆ และมีปีติแผ่ซ่านหล่อเลี้ยงใจอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เราเกิดความรู้สึกที่ไม่อยากได้อะไรเลยและอยากที่จะอยู่กับอารมณ์นี้ไปนานๆความสุขเหล่านั้นมันก็เทียบไม่ได้เลยกับความสุขที่เกิดจากการเข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกาย
คำตอบข้อ 1.68 ซึ่งถ้าหากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างง่ายๆ ก็คล้ายๆ กับในยามที่เรากำลังเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงานที่เราได้ตรากตรำและทุ่มเททำมาตลอดทั้งวันแล้วเราก็ได้มาทำในสิ่งที่เราชอบที่ทำให้เราเกิดความสบาย ผ่อนคลาย และหายเมื่อยล้าได้ เช่น นั่งแช่ในน้ำอุ่นๆ อาบน้ำเย็นๆ หรือนั่งพักผ่อนอยู่ริมระเบียงผ่อนคลายสบายๆ เป็นต้น แต่ความสุขเหล่านั้นมันก็เทียบไม่ได้เลยกับความสุขที่เกิดจากการเข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกาย ซึ่งความสุขที่เกิดจากการเข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายนี้ จะเป็นสภาวะที่ใจของเราได้หลุดจากความทุกข์และพ้นจากความไม่สบายกายไม่สบายใจ และเมื่อความทุกข์ทั้งหลายได้มลายหายไปจากใจของเราแล้ว ใจของเราก็จะเกิดความโล่งโปร่งเบาสบาย ชุ่มฉ่ำและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ละเอียดอ่อน นุ่มนวลและสะอาดบริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้นไป โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ทำใจหยุดนิ่งเฉยๆ ไปเรื่อยๆ เท่านั้นเองทั้งกายและใจของเราก็จะถูกหล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับความสุขภายในอย่างเป็นธรรมชาติ
คำตอบข้อ 1.69 และเมื่อกระแสธารแห่งความสุขที่แท้จริงภายในได้แผ่ขยายเอิบอาบจนเต็มเปี่ยมอยู่ภายในใจของเราแล้วกระแสธารแห่งความสุขนี้ก็จะค่อยๆ เอ่อล้น แผ่ขยาย ซึมซาบและเชื่อมโยงมาถึงระบบประสาทกล้ามเนื้อของกายหยาบแล้วในที่สุด ทั้งกายและใจของเราก็จะถูกหล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับความสุขภายในอย่างเป็นธรรมชาติ
ความสุขจากการเข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายนี้เป็นเหมือนเกราะแก้วป้องกันเรื่องที่ไม่ดีและความทุกข์ทั้งหลายไม่ให้มากระเทือนใจของลูกได้เลย
คำตอบข้อ 1.70 และเมื่อกายกับใจเต็มเปี่ยมและอัดแน่นไปด้วยความสุขแล้ว ความขุ่นข้องหมองใจและความเศร้าหมองทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความคับแค้นใจ ความเศร้าโศกเสียใจ หรือความฟุ้งซ่านรำคาญใจ เป็นต้น ก็จะไม่สามารถเข้ามารบกวนใจได้เลยแม้แต่น้อย อีกทั้ง ความทุกข์ที่เคยมีอยู่ในใจก็จะพลันมลายไปจนหมด หรือถึงแม้จะมีเรื่องไม่ดีเข้ามากระทบใจของตัวลูกทั้งสองแต่เรื่องไม่ดีเหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะทำให้ใจของลูกทั้งสองกระเทือนได้ หรือพูดง่ายๆ ว่าความสุขจากการเข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายนี้จะเป็นเหมือนเกราะแก้วป้องกันเรื่องที่ไม่ดีและความทุกข์ทั้งหลายไม่ให้มากระเทือนใจของลูกได้เลย หรืออาจเรียกได้ว่ากระทบแต่ไม่กระเทือนนั่นเอง
ความสุขในตอนที่งยังไม่บวชนั้น มันเทียบไม่ได้เลยกับความสุขที่ได้เข้าถึงในตอนนี้
คำตอบข้อ 1.71 และเมื่อตัวลูกและนายทหารรุ่นน้องได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริงภายในที่เกิดจากใจหยุดนิ่งแล้วก็ทำให้ตัวลูกรู้และเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ความรู้สึกที่คิดว่า “สุขหรือเป็นความสุข” ในตอนที่ตัวลูกทั้งสองยังไม่บวชนั้น มันเทียบไม่ได้เลยกับความสุขที่ตัวลูกได้เข้าถึงในตอนนี้ คือในตอนที่ตัวลูกทั้งสองยังเป็นวัยรุ่น ตัวลูกทั้งสองก็ได้แต่เที่ยวเตร่เฮฮาหาความสุขสนุกสนานไปวันๆ แบบชาวโลกทั่วๆ ไป แต่ความสุขสนุกสนานเหล่านั้นมันก็เทียบไม่ได้กับความสุขที่ละมุนละไมอันเกิดจากใจหยุดนิ่งนี้เลยความมีอำนาจก็ยังเทียบไม่ได้กับเศษเสี้ยวธุลีของความสุขที่แท้จริงภายใน
คำตอบข้อ 1.72 และเมื่อตัวลูกในภพชาตินั้น ได้มาสมัครรับราชการเป็นทหารตัวลูกก็ได้เป็นครูฝึกทหารที่ดูแลทหารใหม่ แล้วตัวลูกก็ได้ขยับตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้เป็นถึงหัวหน้ากองร้อยที่มีอำนาจปกครองดูแลเหล่าทหารมากมาย แต่ความมีอำนาจนั้นมันก็ยังเทียบไม่ได้กับเศษเสี้ยวธุลีของความสุขที่แท้จริงภายใน เพราะแม้ตัวลูกจะมีอำนาจดูแลสั่งการเหล่าทหารมากมาย แต่อำนาจเหล่านั้นก็มีความทุกข์แอบซ่อนและเจือปนอยู่ ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะผู้ที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาแต่ละคนก็ล้วนมีปัญหาของตัวเองแม้ตัวลูกจะมีอำนาจแต่อำนาจที่ตัวลูกมีก็ไม่อาจจะแก้ไขปัญหาของผู้ที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาแต่ละคนได้
คำตอบข้อ 1.73 และเมื่อตัวลูกต้องมาดูแลบริหารจัดการผู้คนที่เต็มไปด้วยปัญหาเหล่านั้น ตัวลูกจึงต้องมีกรอบให้กับพวกเขา แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่วายที่จะออกนอกกรอบ ซึ่งก็เลยทำให้ตัวลูกเกิดอาการปวดหัว ตัวร้อน ปวดท้อง ปวดไส้ ดังนั้น แม้ตัวลูกจะมีอำนาจ แต่อำนาจที่ตัวลูกมีก็ไม่อาจจะแก้ไขปัญหาของผู้ที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาแต่ละคนได้ อีกทั้ง การมีอำนาจยังทำให้เกิดความหวงแหน และอยากที่จะรักษามันเอาไว้ ซึ่งก็ทำให้เกิดความกลัวต่างๆ นานา เช่น กลัวว่าจะสูญเสียอำนาจ กลัวว่าตำแหน่งของตัวเองจะหลุดลอยไป หรือกลัวว่าจะไม่มีคนรักเคารพยกย่อง เป็นต้น
ความรู้สึกที่ตัวลูกได้รับนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ความเพลินช่วงสั้นๆประเดี๋ยวประด๋าวเหมือนไก่กระพือปีก สุนัขแทะกระดูก
คำตอบข้อ 1.74 และถึงแม้ว่าตัวลูกในภพชาตินั้น จะได้ครอบครองคนรักหรือหญิงสาวแสนสวยของตัวลูกเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่ความรู้สึกที่ตัวลูกได้รับนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ความเพลินช่วงสั้นๆ ประเดี๋ยวประด๋าวเหมือนไก่กระพือปีก คือเป็นความเพลินที่ทำให้ลืมทุกข์ไปชั่วคราว แต่หลังจากนั้นก็กลับมาทุกข์เหมือนเดิมหรือทุกข์ยิ่งกว่าเดิม ไม่อาจที่จะเรียกว่าเป็นความสุขได้ ซึ่งก็คล้ายๆ กับสุนัขแทะกระดูกที่ดูเหมือนจะอิ่มและอร่อย แต่มันก็ไม่อิ่มไม่อร่อย แถมฟันก็ยังสึกดีไม่ดีก็เผลอกัดลิ้นตัวเองอีกด้วย
ความพร่องของชีวิตเกิดความไม่เพียงพอ และต้องแสวงหาอยู่เรื่อยไป
คำตอบข้อ 1.75 หรือแม้ว่านายทหารรุ่นน้อง จะสามารถสลับสับเปลี่ยนหญิงสาวมาครอบครองได้หลายคน คือไม่ได้เจ้าชู้แต่เจอใครก็รักหมด และเมื่อเบื่อคนหนึ่งก็ไปหาอีกคนหนึ่ง แต่ในความรู้สึกลึกๆ ของนายทหารรุ่นน้องของตัวลูกนั้นเขาก็มีความรู้สึกหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ กลัวเธอจะไปมีอื่นบ้าง หรือกลัวเธอจะไปมีใครบ้างคือเกิดความกลัวสารพัดอย่าง และมันก็ไม่ได้ในสิ่งที่เราอยากจะได้คือพูดง่ายๆ ว่า สิ่งใดที่เราคิดว่าจะได้มันก็ไม่ได้ แต่มันกลับได้ในสิ่งที่ไม่คิด หรือคิดว่าการมีคนรักจะให้ความสุขเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือให้ความเต็มเปี่ยมของชีวิต แต่กลายเป็นว่าให้ความพร่องของชีวิตเกิดความไม่เพียงพอ และต้องแสวงหาอยู่เรื่อยไป ”ดวงธรรมภายในที่มาพร้อมกับความสุขที่แท้จริงเป็นความสุขที่แตกต่างจากความเพลินในตอนก่อนบวชอย่างลิบลับ
คำตอบข้อ 1.76 ซึ่งตัวลูกและนายทหารรุ่นน้องก็สรุปได้ว่า“ ความรู้สึกที่นึกว่า “สุขหรือเป็นความสุข” ในตอนก่อนบวชนั้น แท้ที่จริงแล้วมันก็เป็นเพียงแค่ความเพลิดเพลินที่มาพร้อมกับความเพลียละเหี่ยใจเท่านั้นเอง แต่เมื่อตัวลูกทั้งสองได้มาบวช ได้มาฝึกฝนอบรมตนเอง และได้มาปฏิบัติธรรมแล้ว ตัวลูกทั้งสองก็ได้เข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายที่มาพร้อมกับความสุขที่แท้จริงซึ่งเป็นความสุขที่ละมุนละไม และเป็นความสุขที่แตกต่างจากความเพลินในตอนก่อนบวชอย่างลิบลับ”ทั้งสองได้หมั่นประคองรักษาดวงธรรมภายในกลางกายเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
คำตอบข้อ 1.77 เมื่อตัวลูกทั้งสองได้รู้และเห็นถึงความแตกต่างระหว่างความสุขแท้และสุขเทียมเช่นนั้นตัวลูกทั้งสองจึงรู้สึกรักและหวงแหนดวงธรรมภายในกลางกายที่ตัวลูกทั้งสองได้เข้าถึงนี้มากๆ หรือพูดง่ายๆ ว่าฉันทะหรือความรักสมัครใจอยากที่จะรักษาดวงธรรมภายในกลางกายยิ่งกว่าชีวิตของตนเองก็เกิดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ และทันทีที่ฉันทะซึ่งเป็นหัวขบวนเกิดขึ้นมาแล้ว วิริยะ ความเพียร จิตตะ ความจดจ่อ และวิมังสา ความสังเกต ก็จะเกิดขึ้นตามมาด้วย และเมื่ออิทธิบาท 4 เกิดขึ้นมาแล้ว ความรู้สึกที่ไม่อยากจะปฏิบัติธรรม หรือความรู้สึกเซ็ง เครียด เบื่อ กลุ้ม เป็นต้น ก็จะไม่เกิดขึ้นเลย เพราะใจจะมีแต่ความรักและอยากจะปฏิบัติธรรมอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เองตัวลูกทั้งสองจึงได้หมั่นประคองรักษาดวงธรรมภายในกลางกายเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
เมื่อบุคคลรอบข้างเพียงแค่ได้เห็นตัวลูกทั้งสอง พวกเขาเหล่านั้นก็สัมผัสได้ถึงความสุขใจที่เกิดขึ้นจากภายในของตัวลูกทั้งสอง
คำตอบข้อ 1.78 และด้วยความที่ตัวลูกทั้งสองได้หมั่นประคองรักษาดวงธรรมภายในกลางกายเอาไว้อยู่ตลอดเวลานี้เอง จึงทำให้ใจของตัวลูกทั้งสองสามารถเคลื่อนเข้าไปสู่ภายในได้ แล้วความสุขใจก็ได้เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนความปลื้มปีติภายในได้เอ่อล้นเอิบอาบมาถึงระบบประสาท กล้ามเนื้อ และกายหยาบของตัวลูกทั้งสอง แล้วก็ได้แผ่ขยายไปในบรรยากาศ จนกระทั่งไปถึงบุคคลรอบข้าง และเมื่อบุคคลรอบข้างเพียงแค่ได้เห็นตัวลูกทั้งสอง พวกเขาเหล่านั้นก็สัมผัสได้ถึงความสุขใจที่เกิดขึ้นจากภายในของตัวลูกทั้งสอง
เมื่อบุคคลรอบข้างได้รับกระแสแห่งความสุขใจจากตัวลูกทั้งสองพวกเขาก็อยากที่จะเข้ามาอยู่ใกล้ๆ กับตัวลูกทั้งสอง
คำตอบข้อ 1.79 และเมื่อบุคคลรอบข้างได้รับกระแสแห่งความสุขใจจากตัวลูกทั้งสองเช่นนี้ พวกเขาก็อยากที่จะเข้ามาอยู่ใกล้ๆ กับตัวลูกทั้งสอง เพราะเมื่ออยู่ใกล้ๆ แล้วพวกเขาจะรู้สึกสุขใจ อุ่นใจ และสบายใจอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูกซึ่งก็คล้ายๆ กับดอกไม้ที่ไม่เคยเรียกร้องให้หมู่ผึ้งบินเข้ามาหาดอกไม้เลย แต่เมื่อน้ำเลี้ยงดอกไม้หล่อเลี้ยงดอกไม้ได้อย่างพอเหมาะพอดีจนทำให้ดอกไม้นั้นเกิดความสวยสดงดงาม แม้ดอกไม้นั้นจะอยู่เฉยๆ และไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตามแต่ดอกไม้นั้นก็สามารถที่จะดึงดูดทั้งคนและหมู่แมลงให้เข้ามาหาได้อย่างเป็นอัศจรรย์กายภายนอกทำหน้าที่รับบุญแต่ใจภายในก็ประคองดวงธรรมเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
คำตอบข้อ 1.80 และถึงแม้ว่าตัวลูกทั้งสองจะมีภารกิจงานพระศาสนาที่หมู่คณะได้มอบหมายให้ก็ตาม แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการรักษาธรรมะของตัวลูกทั้งสองเลย คือกายภายนอกก็ทำหน้าที่รับบุญไป แต่ใจภายในก็ประคองดวงธรรมเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
ตัวลูกทั้งสองจึงได้ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียวในดวงธรรมภายในกลางกาย
คำตอบข้อ 1.81 และด้วยความรู้สึกหวงแหนภายในมากกว่าภายนอกนี้เองตัวลูกทั้งสองจึงได้ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียวในดวงธรรมภายในกลางกาย โดยไม่ได้ทำอะไรเลยนอกเหนือจากนี้ จนกระทั่งในที่สุด วันแห่งความสมปรารถนาก็ได้เกิดขึ้นกับตัวลูกทั้งสอง คือการได้บรรลุธรรมเข้าถึงพระธรรมกายภายในที่มาพร้อมกับความสุขอันไม่มีประมาณนั่นเอง เมื่อตัวลูกทั้งสองได้เข้าถึงพระธรรมกายภายในแล้ว ตัวลูกทั้งสองก็รู้สึกว่า “ พระธรรมกายภายในเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและประเสริฐที่สุด ” แล้วความรู้สึกมหากรุณาปรารถนาอยากจะให้ทุกคนเข้าถึงความสุขเช่นนี้ก็ได้เกิดขึ้นมาพร้อมกับการเห็นและเข้าถึงพระธรรมกายภายใน ซึ่งความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และเกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะเป็นความรู้สึกที่อยากให้คนอื่นเขามีความสุขเช่นนี้บ้าง เขาจะได้พ้นจากสภาวะที่เขาเป็นอยู่ซึ่งก็มีแต่เรื่องเดิมๆตัวลูกทั้งสองก็ได้เดินทางกลับสู่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ได้อย่างสง่างาม
คำตอบข้อ 1.82 เมื่อความรู้สึกมหากรุณานี้เกิดขึ้นตัวลูกทั้งสองจึงอยากที่จะทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะให้กับทุกๆ คนบนโลกใบนี้ ดังนั้น ตัวลูกทั้งสอง ในภพชาตินั้น จึงได้ตั้งใจทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะด้วยความสุขสดชื่น เบิกบานใจและสมัคร ไปจนกระทั่งตัวลูกทั้งสองหมดอายุขัย ซึ่งก็ทำให้มหาชนทั้งหลายได้เข้าถึงธรรมะภายในกันอย่างมากมาย และเมื่อตัวลูกทั้งสองหมดอายุขัยแล้วด้วยความรู้สึกปลื้มปีติใจในบุญที่ตัวลูกทั้งสองได้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ธรรมะหรือเป็นผู้ให้แสงสว่างแก่มวลมนุษยชาติอย่างมากมายนี้เอง จึงทำให้ใจของตัวลูกทั้งสองผ่องใสสว่างไสวและปลื้มปีติใจว่า “ ตัวเราได้ใช้กายหยาบนี้สร้างบารมีอย่างคุ้มค่า”แล้วตัวลูกทั้งสองก็ได้เดินทางกลับสู่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ได้อย่างสง่างามและปลื้มปีติใจไปตลอดเส้นทาง คือ ตั้งแต่ก่อนออกจากกายหยาบจนกระทั่งไปถึงดุสิตบุรีเทวโลกนั่นเอง
ส่วนว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นเช่นไร จะน่าติดตามขนาดไหน เราก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อในตอนต่อไป
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/bzsDz