Mobile Versionกราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
กระผมพระธรรมทายาท วุฒิพงษ์ สีลคุตฺโต อายุ 31 ปี ว่าที่พระพี่เลี้ยงโครงการ 1 แสนรูป รุ่นเข้าพรรษาที่ใกล้จะถึงนี้ครับ
พระธรรมทายาท วุฒิพงษ์ สีลคุตฺโต
ว่าที่พระพี่เลี้ยงผู้เป็นแสงสว่างของชาวโลก
การบวชครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิตของผมแล้วครับ คือย้อนไปเมื่อตอนเป็นเด็ก ผมเคยบวชเป็นสามเณรอยู่ 1 เดือน, พออายุ 20 ปี ก็ได้บวชเป็นพระอีก 3 เดือน ตอนนั้นผมมีความสุขกับการบวช แต่ก็ต้องจำใจลาสิกขา เพราะเป็นห่วงโยมแม่ แต่ผมก็คิดเอาไว้ว่าสักวันเราจะต้องกลับมาบวชอีกให้ได้ คิดไปคิดมา ก็ไม่ได้บวชสักทีเลยครับ เพราะมัวยุ่งอยู่กับการทำงาน แต่ถึงจะยังไม่ได้บวช ผมก็ยังรักษาศีล 5 เป็นปกติ เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ และนั่งสมาธิ(Meditation)ทุกวัน วันละ 3 รอบอีกด้วยครับ แต่หลวงพ่อครับ ผมก็ยังรู้สึกว่าชีวิตของผมยังดีไม่พอ บางทีอยากไปทำบุญที่วัด ก็หยุดงานไปไม่ได้ แล้วการใช้ชีวิตทางโลกแม้จะสมบูรณ์อย่างไรก็ยังมีทุกข์อยู่ดีครับ
วันหนึ่งผมนั่งรถไฟไปต่างจังหวัด ก็บังเอิญมองไปเห็นป้ายชวนบวชโครงการ 1 แสนรูป ในแว๊บนั้น ผมก็รู้ทันทีว่าเราต้องบวช จึงจดเบอร์โทรศัพท์ และโทรไปสมัครบวชครับ
โครงการของหลวงพ่อนี้ดีมากๆ เป็นการบวชที่แท้จริง ต่างจากสมัยก่อนที่ผมเคยบวช เพราะบวชคราวนี้ผมได้ความรู้เยอะมาก มีหลักในการปฏิบัติตัว เพราะมีครูบาอาจารย์คอยสั่งสอน และที่สำคัญผมได้รู้จักวิธีการนั่งสมาธิที่ถูกต้องตามหลักวิชชาด้วยครับ
ภาพวาดจากประสบการณ์ภายในของ
พระธรรมทายาท วุฒิพงษ์ สีลคุตฺโต
แม้ผมจะเคยฝึกนั่งสมาธิมาอย่างสม่ำเสมอ แต่พอมาเจอคำสอนของหลวงพ่อ ผมก็ทิ้งวิธีการฝึกแบบเก่าๆ และหันมาฝึกนั่งตามแบบที่หลวงพ่อสอน โดยขยันนั่งทั้งในรอบและนอกรอบ มีเวลาเมื่อไหร่เป็นต้องนั่งสมาธิครับ ในช่วงแรกๆผมยังนึกถึงดวงแก้วไม่ออก ผมก็นั่งภาวนาไปแบบมืดๆมัวๆ ไม่คิดอะไร จนวันหนึ่ง ผมก็ค่อยๆเห็นดวงแก้วใสๆ แต่แป๊บเดียวก็มัวอีก พอวันต่อมานั่งอีก ดวงแก้วก็ค่อยๆใสขึ้น ชัดขึ้น คราวนี้นึกทีไรเป็นเห็นได้ในศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ทันทีเลยครับ ตอนแรกผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เห็น แต่พอผมได้ฟังหลวงพ่อเล่าเรื่องผลการปฏิบัติธรรมของพระธรรมทายาทรูปอื่นๆ ที่มีประสบการณ์แบบเดียวกัน ก็ทำให้ผมเข้าใจและมั่นใจในการนั่งมากขึ้นครับ แล้วผมก็ได้ยินหลวงพ่อสอนว่าให้หลับตานิ่งๆเฉยๆ ไม่ต้องคิดอะไร ผมก็เลยลองทำตาม โดยทดลองไม่นึกถึงดวงแก้วครับ พอทำใจนิ่งๆไม่นาน ก็รู้สึกเหมือนเราไม่มีร่างกาย ลมหายใจเบามาก เบาจนรู้สึกแทบจะไม่หายใจ ตอนนั้นผมปล่อยวางทุกอย่าง เหมือนตัวของเรากลายเป็นอากาศ ผมรู้สึกว่าใจของผมนั้น นิ่งกว่าที่เคยนิ่งมา แล้วก็เหมือนมีแรงดึงดูด ทำให้วูบไป แล้วผมก็เห็นควันขาวๆ เข้ามาปกคลุม กลืนตัวผมไปหมดเลย คราวนี้พอจะนึกถึงดวงแก้วก็มองไม่เห็นแล้วครับ เห็นแต่ควันขาวๆฟุ้งอยู่รอบตัว ทำให้ตกใจก็เลยลืมตาครับ พอวันต่อมานั่งอีก ใจก็นิ่งได้เองเป็นอัตโนมัติ พอปล่อยวางแล้ว ผมก็เห็นควันขาวๆกลืนตัวผมไว้แบบเดิม แต่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดึงให้เรารู้สึกสบายมากขึ้นกว่าเดิม แล้วควันขาวๆที่ฟุ้งอยู่ก็เริ่มมีรูปร่าง เริ่มเห็นเป็นนิ้วมือ เห็นเป็นแขน เป็นขา มีหน้ามีตาเหมือนองค์พระ พอทำใจปล่อยวางไปเรื่อยๆ องค์พระที่คลุมตัวผมอยู่ก็ค่อยๆใสขึ้นๆ บนเศียรของท่านมีรูปดอกบัวตูมด้วยครับ พอมองนิ่งๆ ภาพองค์พระก็ชัดมาก ใสมาก ใสละเอียดยิ่งกว่าละอองน้ำซะอีก แล้วก็มีความเย็นเกิดขึ้นที่ตัวผมด้วย พอลืมตาแล้ว ผมรู้สึกว่ามีองค์พระคลุมตัวผมอยู่ตลอดเวลา เป็นความรู้สึกที่ชัดเจน จนหลายครั้งผมต้องเอามือขึ้นจับศีรษะ เพราะเหมือนมีอะไรคลุมอยู่ครับ แล้วถ้าทำใจนิ่งๆก็จะเห็นองค์พระนั่งอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ด้วยครับ เวลาเอาใจไปไว้กับองค์พระ ผมจะรู้สึกเย็นตัว สบายตัว แล้วใจก็จะนิ่งๆ มีความสุขมากครับ
พระธรรมทายาท วุฒิพงษ์ สีลคุตฺโต ในท่า Peace Position
ผมอยากบอกชายแมนแมนทุกคน ว่าเราเกิดมาเป็นลูกผู้ชายมีหน้าที่ที่แท้จริงติดตัวมา คือการบวชเพื่อสร้างบุญสร้างบารมี แล้วการบวชในโครงการ 1 แสนรูปนี้ เป็นการบวชเพื่อการเป็นพระแท้ เป็นการสร้างความสมบูรณ์ให้กับชีวิตครับ เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องบวชให้ได้อย่างน้อย 1 พรรษานะครับ สุดท้ายนี้ ผมอยากบอกหลวงพ่อเป็นบทกลอนว่า
จะร่วมแรง ร่วมใจ ตั้งใจฝึก
จะไม่สึก หนีไป ให้หน่ายหนี
ถึงแม้ชีพ นี้มลาย คลายชีวี
ดุสิตบุรี คือที่พัก ประจักษ์เอย
ผมจะขอบวชสร้างบุญสร้างบารมีกับหลวงพ่อแบบวันต่อวัน หลวงพ่อจะให้ผมทำอะไร ถ้าผมทำได้ ผมจะทุ่มทำให้ทุกอย่าง แบบไม่เกี่ยงในทุกภารกิจครับ
http://goo.gl/NBYCg
พิมพ์บทความนี้
