ปรากฏการณ์ปลื้มล้นใจ...กลางเมืองสุพรรณบุรีภาพการเดินธุดงค์ธรรมชัย ผ่าใจกลางเมืองสุพรรณบุรี ของพุทธบุตรทหารกล้าแห่งกองทัพธรรม จากโครงการอุปสมบทหมู่ ระดับอุดมศึกษารุ่นที่ 40 (โครงการ 2) กว่า 200 รูป เป็นปรากฏการณ์เขย่าเมือง ทำให้ชาวบ้านเกิดอาการบุญโกลาหล พากันออกมาต้อนรับคณะพระธุดงค์อย่างล้นหลาม ซึ่งคณะพระธุดงค์ได้เริ่มต้นก้าวแรก วันแรก ด้วยระยะทาง 10 กิโลเมตร จากวัดมเหยงคณ์ มุ่งหน้าไปยังวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ซึ่งเป็นวัดของพระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี หรือ หลวงพ่อสอิ้งของพวกเราและเป็นพระอุปัชฌาย์ของคณะพระธุดงค์ด้วย เมื่อคณะพระธุดงค์ก้าวเข้าไปในวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากญาติโยม ที่ตื่นตัวตื่นใจพากันออกมาคอยต้อนรับ พร้อมคำถามว่า นี่คือพระธุดงค์ หรือ สามเณรธุดงค์กันแน่ ทำไมถึงได้ละอ่อนดูอ่อนเยาว์ขนาดนี้ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่ไม่เคยจางไปจากดวงใจในช่วงค่ำคณะพระธุดงค์ ได้นำชาวบ้านปฏิบัติธรรม และจุดโคมลอยถวายเป็นพุทธบูชา โดยมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อสอิ้งเมตตามาเป็นหลักเป็นประธานพระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีจุดโคมประทีปถวายเป็นพุทธบูชาด้วยความปลื้ม…ซึ่งเช้าวันที่ 2 ของการเดินธุดงค์ธรรมชัย เป็นวันที่เต็มไปด้วยแรงใจฮึกเหิม เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อสอิ้ง เมตตาเล่าเรื่องราวในวันวานที่แสนปลื้ม ที่ท่านได้ก้าวต่อก้าวเดินธุดงค์จากสุพรรณบุรีไปถึงเชียงใหม่ ทำให้พระลูกพระหลานต่างก็อยากเดินตามรอยท่าน แถมท่านยังให้โอวาทโดนใจว่า “โยมให้เราอิ่มท้อง เราก็ต้องทำให้โยมอิ่มใจ ลองนึกถึงถ้าเราเป็นโยม เราจะเลื่อมใสพระแบบไหน พระที่มีกิริยาเรียบร้อย นี่ อุชุปฏิปันโน” แล้วก่อนที่คณะพระธุดงค์จะเคลื่อนทัพ ท่านยังกล่าวแบบอมยิ้มอีกว่า“เป็นเรื่องประหลาดมหัศจรรย์ ที่คนรุ่นหนุ่ม รุ่นเยาว์ เดินทางด้วยเท้า เดินย่ำเท้าเป็นระยะทาง 16 กิโล ถ้ามีใครมาจ้าง สี่ซ้าห้าร้อย หรือ พันหนึ่ง ให้เดิน 16 กิโล เรายังคิดเลยว่าจะเอาดีไม่เอาดี นอกจากนี้ ถ้าไม่มีไฟ้ท์บังคับ ก็ไม่แน่ว่าจะเดินได้มั๊ย เพราะฉะนั้นการเดินนะมันยาก ต้องประทับใจไปชั่วชีวิต” แล้วเมื่อถึงเวลาสว่าง พระอาทิตย์ก็แผดแสงอย่างเต็มที่ร้อนแรงยิ่งกว่าแสงสปอตไลท์ แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอิ้ง ของพวกเรา ก็ยังคงก้าวต่อก้าวอย่างองอาจ นำพระลูกพระหลานเดินธุดงค์ธรรมชัยเป็นปฐมเริ่ม ทำให้คณะพระธุดงค์มีแรงบันดาลใจ ที่จะมุ่งหน้าไปฟื้นคืนศรัทธาของญาติโยม ณ จุดหมายปลายทาง คือ วัดสกุณปักษีพระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีนำทัพพระลูกพระหลาน เดินธุดงค์ธรรมชัยเป็นปฐมเริ่มเด็กๆชุมชนวัดสกุณปักษี ก้มกราบคณะพระธุดงค์ด้วยดวงใจที่เลื่อมใสศรัทธาวัดสกุณปักษี เป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของญาติโยมละแวกนั้น เดิมทีมีหลวงพ่อพระครูสุวรรณวชิรธรรม(หรือหลวงพ่อบุญเชียร) เป็นเจ้าอาวาส โดยก่อนหน้านี้หลวงพ่อท่านได้เตรียมซองบอกบุญไว้ถึงหนึ่งหมื่นซอง เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของการสร้างวัด แต่ความตายไม่มีนิมิตหมาย ท่านได้มรณะภาพไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555 เมื่อขาดผู้นำ ขาดต้นบุญต้นแบบ วัดที่เคยรุ่งเรือง มีพระมีสามเณร มีญาติโยมเต็มวัด ก็กลับกลายเป็นเงียบเหงา เสียงสวดมนต์ที่เคยดังกระหึ่ม ก็ไม่ดังเหมือนเดิม ญาติโยมก็พากันหายหน้าไปจากวัดดังนั้นการเดินทางมาของคณะพระธุดงค์ธรรมชัย จึงมาเพื่อฟื้นคืนศรัทธาพระพุทธศาสนาในชุมชน ให้กลับมามั่นคง และยังได้ร่วมกันสวดพระอภิธรรม เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ต่อหลวงพ่อพระครูสุวรรณวชิรธรรมหรือหลวงพ่อบุญเชียร ผู้มีคุณูปการต่อวัดพระธรรมกาย ด้วยความเคารพอีกด้วย จนชาวบ้านพากันพูดว่าไม่เคยได้ยินการสวดพระอภิธรรมที่ไหน ไพเราะจับใจอย่างนี้มาก่อนเลย ปลื้มแทนหลวงพ่อบุญเชียรพระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรม พระครูสุวรรณวชิรธรรม(หลวงพ่อบุญเชียร)คณะพระธุดงค์และชาวบ้านชุมชนวัดสกุณปักษี ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมด้วยความเคารพในพระครูสุวรรณวชิรธรรม(หลวงพ่อบุญเชียร)แล้วชุมชนวัดสกุณปักษี ก็กลับมาชุ่มฉ่ำในบุญอีกครั้ง เมื่อคณะพระธุดงค์ออกบิณฑบาต ซึ่งชาวบ้านอะเลิร์ทถึงขีดสุด พากันออกมารอใส่บาตรเยอะมาก บางบ้านออกมายืนรอพระตั้งแต่ตีห้า ชาวบ้านบอกว่า “รอวันนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว” แล้วด้วยความศรัทธาล้นใจ ทำให้คณะพระธุดงค์เดินบิณฑบาตตั้งแต่ 6 โมงเช้า กว่าจะรับบิณฑบาตได้หมด ก็ปาเข้าไปถึง 10 โมง ไม่เพียงเท่านั้น ชาวบ้านยังตามมาถวายภัตตาหารถึงที่วัดอีก จนภัตตาหารไม่มีที่จะวาง ต้องต่อโต๊ะเพิ่ม ยาวอีกหลายเมตรเลยทีเดียวภัตตาหารที่ล้นเหลือ จากความศรัทธาล้นใจวันที่ชาวบ้านในชุมชนวัดสกุณปักษี...รอคอยเมื่อคณะพระธุดงค์เริ่มพัฒนาวัด ชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็พากันมาช่วยพัฒนาอย่างคึกคัก โดยทั้งปัด ทั้งกวาด ทำจนสะอาดไปทุกซอกทุกมุม และยังช่วยกันทาสีรั้วโบสถ์จนสวยเหมือนใหม่อีกด้วย พอถึงตอนเย็น ศาลาวัดก็แทบแตก เพราะชาวบ้านชวนกันมาสวดมนต์ทำวัตรเย็นกับคณะพระธุงค์เยอะมาก จนต้องขยายพื้นที่ออกไปนั่งสวดมนต์นอกศาลา ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วชาวบ้านวัดสกุณปักษีนั้นรักพระพุทธศาสนา แต่ขาดผู้นำคณะพระธุดงค์ต้นแบบนักพัฒนาระดับโลกเมื่อมีพระธุดงค์เป็นผู้นำ ชาวบ้านก็พร้อมทำตามซึ่งในพิธีเวียนเทียน จุดโคมประทีปถวายเป็นพุทธบูชา มีชาวบ้านมาร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน มองไปทางไหนก็ปลื้ม จนผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานบอกว่า การฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี ที่วัดสกุณปักษี ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ ชาวบ้านต่างก็กล่าวถึงหลวงพ่อบุญเชียรว่าถ้าวันนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านคงจะมีความสุขมาก ท่านคงจะยิ้มไม่หุบ เพราะท่านชอบให้มีพระ มีเณรอยู่ในวัดเยอะๆ ชอบให้ชาวบ้านเข้าวัดเยอะๆชาวบ้านกว่า 1,000 คน พร้อมใจเวียนเทียนรอบอุโบสถวัดสกุณปักษีวัดสกุณปักษี จะกลับมารุ่งเรืองสว่างไสว ด้วยแสงแห่งธรรมด้วยแรงบันดาลใจจากพระธุดงค์ ทำให้ชาวบ้านตื่นตัวตั้งใจจะรวมกลุ่มมาช่วยกันทำความสะอาดวัด และสวดมนต์ทำวัตรเย็นทุกวันเสาร์ โดยจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนนี้(วันเสาร์หน้า) เป็นนิมิตหมายว่าวัดสกุณปักษี ต้องกลับมารุ่งเรืองสว่างไสวอีกครั้งอย่างแน่นอน
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-13805.png)
http://goo.gl/AB8bQ