Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
อานุภาพหล่อทองพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
ลูกชื่อ อริสรา แซ่เลี่ยว หรือ หลิ่น ค่ะ ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัท ลีชิน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในระดับต้นๆ ของวงการชุดว่ายน้ำชั้นนำยี่ห้อ B-Surf ที่มีขายทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัท เอเอ็มเท็กซ์ไทล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทขายผ้าน้องใหม่ที่กำลังโตเร็วอย่างเหลือเชื่อค่ะ
กัลฯ อริสรา แซ่เลี่ยว เจ้าของบริษัท ลีชิน จำกัด
หลวงพ่อคะ..บ้านของลูกทำธุรกิจกงสีค่ะ คือ ญาติพี่น้องช่วยกันทำ แต่พอทำไปทำมา..ไม่รู้อีท่าไหน อยู่ๆ ก็ติดหนี้มากถึง 8 ล้านบาท จนทำให้พี่ชายของลูกชิงฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ แต่เขาหนีไม่พ้นหรอกค่ะ เพราะมีคนช่วยไว้..เขาเลยไม่ตาย จากเหตุการณ์นี้เอง...ทำให้ทุกคนในครอบครัวลงมติกันว่า ให้เอาน้องชายที่ชื่อ เกรียงศักดิ์ มาเป็นผู้บริหารงานแทน โดยให้เขาทำยังไงก็ได้ แต่ต้องปลดหนี้ให้ได้ทั้งหมด ซึ่งหลักการบริหารงานของน้องชายคนนี้จะผิดแผกแตกต่างจากทุกคนในครอบครัวอย่างสิ้นเชิงค่ะ คือ เขาชอบทำแต่บุญ อีกทั้งยังทำทีละมากๆ ทั้งๆ ที่บ้านยังติดหนี้อยู่ แถมยังแอบเอาเงินออกไปทำบุญเป็นเอ็มๆ ได้อย่างแนบเนียน โดยที่คนในบ้านไม่รู้เลย แต่ด้วยเหตุนี้เองค่ะ..จึงทำให้เรามีออร์เดอร์เข้าแบบทะลักทะลวง จนกระทั่งมีเงินเคลียร์หนี้สินได้จนหมดสิ้น ทั้งๆที่ไม่น่าเป็นไปได้เลย เพราะธุรกิจนี้..คนทั้งครอบครัวรวมกันช่วยกันทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ก็ยังไม่เคยรุ่งเท่าในช่วงที่น้องชายคนนี้เข้ามาเป็นเถ้าแก่เลย เพราะเขาสามารถทำให้ครอบครัวเรามีเงินสดซื้อบ้านหลังใหญ่ราคา 10 ล้านบาท ซื้อรถราคาหลายล้านได้หลายคัน ซื้อที่ดิน ซื้อร้านที่ประตูน้ำ 2 ร้าน รวมมูลค่ามากถึง 35 ล้านบาท อีกทั้งยังซื้อตึกมูลค่า 8 ล้านบาท ซึ่งทำเป็นโรงงานตัดเย็บในปัจจุบัน และที่สำคัญที่สุด คือ เขาสามารถเป็นประธานกองกฐินได้ทุกปี และเป็นประธานกอง 10 M ได้ถึง 2 ครั้ง...
หลวงพ่อคะ..ในจังหวะชีวิตที่คนในครอบครัวเรากำลังอะเลิร์ทเบิกบานในความรุ่งเรืองในการบริหารงานของน้องชายอยู่นี่เองค่ะ จู่ๆ ก็เกิดฟ้าผ่าขึ้นที่กลางหัวใจลูก เพราะน้องชายได้ตัดสินใจยกบริษัทและโรงงานทั้งหมดให้แก่ลูกค่ะ เพราะเขาจะไปบวชแบบถาวร โดยเขาคิดว่า ได้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้ครอบครัวไว้หมดแล้ว ถึงเวลาที่เขาจะทำพระนิพพานให้แจ้งเพื่อตัวเองสักที
พระเกรียงศักดิ์ ปโมฑิโต (พระน้องชาย)
จากเหตุการณ์นี้เอง..ทำให้ลูกเครียดและหนักใจมากค่ะ เพราะกลัวว่าเมื่อลูกมาบริหารแล้ว บริษัทจะไปไม่รอด ซึ่งก็จริงๆค่ะ พอลูกมาทำ ปรากฏว่าเจอแต่ปัญหารุมเร้ารอบด้านหนำซ้ำธุรกิจก็ไม่มีสภาพคล่องเหมือนสมัยที่น้องชายทำเลย และเมื่อเป็นดังนี้ ลูกก็ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ..จึงตัดสินใจลอกเลียนแบบน้องชายซะเลย คือ หันหน้าเข้าวัด มาศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง นั่งสมาธิ(Meditation)สวดมนต์ จนกระทั่งถึงช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2555 ลูกได้ทราบข่าวการหล่อหลวงปู่ด้วยทองคำองค์ที่ 6 จากนั้นก็ไม่รอช้าค่ะ รีบตัดสินใจทำบุญแบบจัดหนักเหมือนน้องชาย คือ ทุ่มทำอย่างสุดกำลัง ด้วยทองคำมูลค่า 44 บาททันที เท่ากับจำนวนอายุลูกในตอนนั้น ซึ่งรวมเป็นมูลค่าถึง 1.1 M เรียกได้ว่า เป็นการทำบุญอย่างสุดกำลังครั้งแรกในชีวิตของลูกเลยค่ะ และหลังจากนั้นไม่นาน อยู่ๆ ก็มีลูกค้ามาบอกว่า จะเหมาสินค้าที่ค้าง
สต็อกล็อตเก่าของลูกทั้งหมด แถมยังสั่งออร์เดอร์เพิ่มแบบทะลักทะลวง ทั้งๆ ที่ปกติแล้วช่วงนี้ของทุกปี จะเป็นช่วงที่ไม่มีงานเข้าเลย จากเหตุการณ์นี้เอง..ทำให้ลูกมีเงินสดมอบเป็นของขวัญให้แม่ถึง 5 แสนบาท มีเงินซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านใหม่อีก 5 ล้านบาท มีเงินหุ้นกับน้องสาวเปิดบริษัทใหม่อีก 1 แห่งที่ 1 ล้านบาท ซึ่งเปิดแล้วก็กำไรดีอย่างคาดไม่ถึง เพราะได้ทุนคืนภายใน 6 เดือน และมากไปกว่านั้น..ลูกยังมีเงินไปถอยรถป้ายแดงคันใหม่ให้คุณแม่ราคา 2.2 ล้านบาท และล่าสุดมีเงินมาทำบุญหล่อทองหลวงปู่องค์ที่ 7 ซึ่งลูกพาคนทั้งครอบครัวมาทำบุญปิดกองไปเรียบร้อยแล้วถึง 1.5 M ค่ะ
หลวงพ่อคะ..เรื่องนี้สอนให้ลูกรู้ว่า..1)..รู้งี้ลูกเลียนแบบน้องชายไปตั้งนานแล้วค่ะ 2) ..หากเราเป็นเจ้าของกิจการโดยไม่ทำบุญใหญ่ๆ ไว้ เราอาจกลับไปเจ๊งเหมือนเก่าอย่างที่ลูกเคยบริหารร่วมกับพี่ชาย ตั้งแต่ลูกเปลี่ยนตัวเองหันมาทำบุญอย่างสุดกำลัง ตั้งใจหล่อหลวงปู่ และเป็นประธานกองกฐินทุกปี ทำให้ชีวิตลูกพลิกเลยค่ะ คือ มีกำลังบุญพอที่จะอุ้มพาบริษัทให้รอดพ้นและได้กำไรมากกว่าที่เราคาดคิดไว้มาก
สุดท้ายนี้ ลูกอยากจะบอกว่า บุญจากการหล่อหลวงปู่เป็นบุญใหญ่แห่งโลกเลยค่ะ ถ้ามนุษย์คนใดในโลกเกิดมาในช่วงนี้ แล้วพลาดการทำบุญใหญ่ขนาดนี้ไป ถือว่าน่าเสียดายที่สุดเลยค่ะ ดังนั้น..ให้รีบมาเอาบุญนี้กัน เพื่อเติมบุญใหญ่ให้กับตัวเองกันนะคะ
http://goo.gl/jBmmC
พิมพ์บทความนี้
