ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557
เล่าเรื่องคุณยาย
ตอน ลูกกระสุนที่ว่าแน่ ก็ยังแพ้อานุภาพคุณยายเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
กระผม..พระพินิจ จารุปุณฺโณ พรรษา 26 ปัจจุบันรับบุญตำแหน่งหัวหน้าภาคเหนือ กองแก้วภูธรภาคเหนือ สำนักกัลยาณมิตรสากล วัดพระธรรมกายครับ
พระพินิจ จารุปุณฺโณ
หลวงพ่อครับ ย้อนไปในสมัยที่กระผมยังวัยละอ่อน ขณะนั้นน่าจะประมาณพรรษา 5 ครับ ตอนนั้นกระผมและคณะญาติโยม ได้มีโอกาสเดินทางไปที่ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้า ระหว่างชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (พม่า) ครับ เมื่อเดินทางไปถึง ก็ทำเอากระผมถึงกับต้องผงะ เพราะสิ่งที่เห็น คือ กลุ่มทหารประเทศเพื่อนบ้าน (พม่า) ที่แต่งองค์ทรงเครื่องครบครัน กำลังยืนถือปืนด้ามเบ้อเริ่ม ประจำการอยู่บริเวณชายแดน หนำซ้ำสายตาทุกคู่ต่างมองมาทางกลุ่มของพวกกระผม เพราะทหารเข้าใจผิดว่า พวกกระผมจะรุกล้ำชายแดนเข้าไปในฝั่งประเทศเขา ซึ่งวินาทีนั้น กระผมขอบอกตรงๆ ครับว่า..กระผมรู้สึกเสียวว้าบ…. ใจคอเริ่มไม่ค่อยดี ดูทีท่าว่าจะไม่รอดๆดังนั้นกระผมจึงรวบรวมสติ และเรียกญาติโยมทุกคนให้รีบกลับไปที่รถโดยด่วน และระหว่างที่เดินกลับ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้นครับ คือ พวกกระผมได้เจอกับกลุ่มทหารประเทศเพื่อนบ้านอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นต่างบอกว่า ทหารกลุ่มนี้มักเข้ามาดื่มเหล้าที่ฝั่งชายแดนประเทศไทย พอเมาได้ที่ ก็ชอบโหวกเหวกโวยวาย ใช้กำลังบังคับเอาทรัพย์สินเงินทองของคนไทย ที่ผ่านไปผ่านมาตามชายแดน และเมื่อทหารกลุ่มนี้ ได้เจอกับพวกกระผม พวกทหารก็ยกปืนขึ้น จ้องหน้าและพูดดังๆว่า เถาะป่ายๆๆ (ถอยไปๆ) ตอนนั้นกระผมคิดว่า ถ้าเรายอมทำตามที่ทหารสั่ง คือ เดินถอยไป ก็จะเท่ากับว่า..ได้รุกล้ำข้ามดินแดนไปฝั่งชายแดนประเทศของเขาในทันที ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น..พวกกระผมก็เสร็จกันนะสิครับดังนั้น…ทุกคนจึงพยายามอธิบายและขอร้องพวกทหารต่างๆนานา เราอุตส่าห์พูดด้วยแต่เขาก็ไม่พูดด้วย แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง ทหารกลุ่มนั้น ก็ยังยกปืนขึ้นขู่และพูดแต่คำว่า เถาะป่ายๆ (ถอยไปๆ) จนสถานการณ์เริ่มรุนแรงและตึงเครียด เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง เนื่องจากคุยกันคนละภาษา ซึ่งดูแล้ว..ไม่มีวี่แววว่าจะเคลียร์กันได้ลงตัวเลยครับ ด้วยเหตุนี้..กระผมจึงรู้สึกกลัว จนขนลุกไปทั้งตัวเลยครับ อีกทั้งขาทั้งสองข้างยังสั่น แต่ ณ ช่วงจังหวะนั้น…ก็ไม่รู้มีอะไรมาดลใจให้กระผมคิดถึงคุณยายขึ้นมา และทันใดนั้น..กระผมจึงรีบเอามือเข้าไปจับล็อกเกตคุณยายที่พกติดตัวมาด้วย ตรงกระเป๋าอังสะ และอธิษฐานบอกคุณยายทันทีว่า “คุณยายครับ ช่วยพระด้วย” งานนี้ท่าจะไม่รอดแล้วครับคุณยายล็อกเกตคุณยาย ที่พกติดตัวไปด้วย
หลวงพ่อครับ และสิ่งปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้นกับกระผมจริงๆ เพราะตาเนื้อทั้งสองข้างของกระผม เห็นคุณยายมาปรากฏกาย ในท่านั่งสมาธิ(Meditation)เหมือนในล็อกเกตเป๊ะเลยครับ จากนั้นภาพคุณยายค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นๆ จนคลุมพวกกระผมทุกคน และวินาทีนั้น หูกระผมก็ได้ยินเสียงดัง “แก๊กๆ” เมื่อหันไปดู ก็เห็นทหารกลุ่มที่อยู่ข้างหลังพวกผม กำลังยิงปืนโดยเล็งปลายกระบอกมาทางกลุ่มพวกกระผมอย่างไม่ยั้ง แต่ก็น่าแปลก เพราะไม่ว่าทหารกลุ่มนั้นจะยิงเท่าไร ลูกกระสุนก็ไม่มีอารมณ์ออก คือ ยิงลงดินก็แล้ว ยิงขึ้นฟ้าก็แล้ว กระสุนปืนก็ไม่ยอมออกเลยครับ เห็นอย่างนั้นแล้ว พูดได้แต่เพียงคำเดียวจริงๆ ครับว่า..มหัศจรรย์เหลือเกิน เล่นเอาทหารเหล่านั้นงงเป็นไก่ตาแตก หายเมากันไปเลย คงคิดว่าพระหนุ่มอย่างกระผม ต้องมีวิชาคงกระพัน หรือไม่..ก็คงมีของขลังกันกระสุนได้ครับ
หลวงพ่อครับ…ช่วงเวลาที่ความตายอยู่ตรงหน้า กระผมเห็นคุณยาย ซ้อนคลุมพวกกระผมตลอดเวลาเลยครับ และด้วยความมั่นใจในบารมีธรรมของครูบาอาจารย์ กระผมจึงรวบรวมความกล้าหาญของตัวเองที่มีอยู่ทั้งหมดตัดสินใจเดินไปคุยกับทหารกลุ่นนั้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งรอบนี้…แปลกมากครับ…คือ คุยกันรู้เรื่อง ทั้งๆที่กระผมก็พูดภาษาไทย ยกไม้ยกมือ ชี้โบ้ชี้เบ้เหมือนเดิม แต่ทหารกลุ่มนั้นกลับเออ..ออ..ทำเป็นรู้เรื่อง และยอมปล่อยให้พวกกระผมกลับไปที่รถได้อย่างง่ายดายครับ
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้กระผมซาบซึ้งในความเมตตาของคุณยายเหลือเกินครับ ที่ท่านเมตตาคุ้มครองรักษาลูกหลานของท่าน ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน บารมีธรรมของคุณยาย ก็ยังคงตามคุ้มครองรักษาไม่ห่าง ซึ่งกระผม ขอคอนเฟิร์มเลยว่า ลูกกระสุนที่ว่าแน่ ก็ยังแพ้อานุภาพคุณยายจริงๆครับ ดังนั้นบุญหล่อทองคุณยายในครั้งนี้ กระผมจะทุ่มให้สุดชีวิต เพื่อจะได้เชื่อมสายบุญกับคุณยายไปจนถึงที่สุดแห่งธรรม และกระผมก็ขอเชิญชวนให้ทุกคนมาเอาบุญกับคุณยายกันเยอะๆ นะครับ...เพื่อที่จะได้เชื่อมสายบุญกับท่าน แล้วจะได้มีบุญตามติดยายครับ
รับชมคลิปวิดีโอเพลง ชวนกันมาหล่อทองคุณยาย  
http://goo.gl/YkraSu