Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557
เล่าเรื่องคุณยาย
ตอน...เด็กในท้องรอด..เพราะบารมีคุณยายเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
ลูกชื่อ กิตติพร คำนึงเกียรติวงศ์ เป็นผู้นำบุญจังหวัดกรุงเทพนี่เองค่ะ
กัลฯ กิตติพร คำนึงเกียรติวงศ์
หลวงพ่อคะ..วันนี้ลูกมีเรื่องราวเกี่ยวกับคุณยายมาเล่าให้ฟังค่ะ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ พ.ศ.2537 เป็นช่วงที่ลูกตั้งท้องค่ะ ทำให้ลูกและสามีดีใจมากที่เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน แต่พอท้องได้ 2 เดือน ลูกก็มาฝากท้องที่โรงพยาบาล แล้วหมอก็ทำการตรวจเลือด แต่ผลออกมาหมอบอกว่า..ให้ลูกมาตรวจเลือดใหม่อีกครั้ง ซึ่งลูกก็สงสัยค่ะว่า..ค่าตรวจเลือดตั้งแพง ทำไมต้องมาตรวจใหม่อีกด้วยเหตุนี้..หมอจึงยอมบอกลูกว่า..ลูกอาจจะเป็นหัดเยอรมัน จากนั้นหมอจึงขอตรวจเลือดลูกใหม่ในวันนั้นเลย เพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง และให้มาฟังผลสัปดาห์ถัดไป จนสุดท้ายหมอก็สรุปอย่างแน่นอนว่า..ผลเลือดของลูก เป็นหัดเยอรมันทั้ง 2 ครั้งค่ะ และหมอยังบอกต่ออีกว่า..ถ้าแม่เป็นหัดเยอรมัน ลูกในท้องอาจจะตาบอด หูหนวก หัวใจพิการได้ ด้วยเหตุนี้หมอจึงแนะนำให้ลูกทำแท้ง..!!! พอฟังดังนั้น..ลูกก็รู้สึกสะเทือนใจมาก จึงรีบจูงมือสามีออกมาจากห้องหมอ เพราะรู้สึกทำใจไม่ได้จากนั้นลูกจึงไปปรึกษาพี่สาวที่เป็นอุบาสิกาอยู่ในวัด เขาบอกว่า..ให้ไปกราบขอบารมีคุณยาย ให้สร้างพระให้เด็กในท้อง แล้วให้นำปัจจัยไปถวายกับมือคุณยาย ซึ่งลูกก็ปฏิบัติตามค่ะ แต่ตอนไปกราบท่านน่ะสิค่ะ พอถึงคิวลูก ขณะที่ลูกอยู่ตรงหน้าคุณยาย ลูกเป็นอะไรไม่ทราบค่ะ เพราะตื่นเต้นจนลมมาจุกอยู่ที่คอหอยจนพูดอะไรไม่ออก แต่พอคุณยายท่านเห็นลูกพูดไม่ออก ท่านจึงต้องพูดขึ้นมาก่อนว่า “ลูกในท้องคุณ..เป็นคนมีบุญนะ บุญพ่อกับแม่ไม่พอจะรองรับเขาหรอก ต้องถวายให้เป็นลูกยาย” หลวงพ่อคะ...ตอนนั้นลูกทึ่งในความทรงอภิญญาของคุณยายจริงๆ ค่ะ เพราะลูกตั้งท้องแค่ 2 เดือน ท้องก็ยังแฟบอยู่เลยค่ะ คือ ต่อให้ดูยังไงๆ..ก็ไม่เหมือนคนท้อง แต่คุณยายท่านรู้ได้ไงค่ะว่าลูกตั้งท้อง อีกทั้งยังรู้ต่อด้วยว่า..จะมากราบท่านเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครบอกท่านเลยสักนิด และหลังจากที่ได้กราบคุณยายแล้ว ก็มีหมอที่เป็นผู้นำบุญของวัดแนะนำว่า ให้ลูกย้ายโรงพยาบาลไปตรวจเลือดใหม่ ซึ่งปรากฏว่าอัศจรรย์มากๆ ค่ะ เพราะผลเลือดออกมากลับเป็นปกติทุกอย่าง จากนั้นลูกก็หมั่นทำบุญ สวดมนต์นั่งสมาธิ(Meditation)ถือศีล 5 จนกระทั่งมีเหตุดีๆ เกิดขึ้นตามมา เช่น ทางหัวหน้างานของลูกให้ลูกทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์ ทั้งๆ ที่แต่เดิมต้องทำ 5 วัน และที่ดีไปกว่านั้นคือ หัวหน้าของลูกอนุญาตให้ลูกย้ายแผนกไปยังแผนกที่ทำงานเบาๆ ได้ แต่เงินเดือนยังเท่าเดิมทุกอย่าง ซึ่งทำให้ลูกได้พักมากขึ้นจนกระทั่งวันครบกำหนดคลอด และความอัศจรรย์ก็ได้บังเกิดขึ้นจริงๆ ค่ะ คือ ลูกสาวที่คลอดออกมาเป็นปกติหมดทุกอย่าง และลูกก็ได้ตั้งชื่อเขาว่า “น้องพิ้งค์” ค่ะ และพอน้องพิ้งค์คลอดได้ 3 สัปดาห์ ลูกจึงอุ้มมารายงานตัวกับคุณยายค่ะ แต่พอถึงคิวลูก ลมก็มาจุกอยู่ที่คอหอย จนลูกพูดไม่ออกอีกแล้วค่ะ แต่น้องพิ้งค์น่ะสิค่ะ กลับส่งเสียงร้องไห้ดังๆแทน แต่พอคุณยายท่านรับน้องพิ้งค์ไปอุ้มปุ๊บ..น้องพิ้งค์ก็หยุดร้องปั๊บ สมกับเป็นลูกคุณยายจริงๆ ค่ะ แล้วคุณยายท่านก็บอกลูกต่อว่า “ยายฝากเลี้ยงด้วยนะ” ซึ่งตรงนี้ลูกทึ่งมากเลยค่ะว่า..ทำไมคุณยายจำได้ว่า..เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว ลูกได้มายกน้องพิงค์ให้เป็นลูกคุณยาย ซึ่งตอนนี้น้องพิงค์อายุได้ 18 ปี เรียนหมอปี 1 แล้วค่ะคุณยายอุ้มน้องพิ้งค์ค่ะตอนนี้น้องพิ้งค์ เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 1 แล้วค่ะ (คนขวามือ)
หลวงพ่อคะ..ลูกรู้สึกว่าคุณยายท่านมีพระคุณกับครอบครัวลูกอย่างจะนับจะประมาณไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะตั้งแต่ลูกมาพึ่งบารมีท่าน ชีวิตลูกดีขึ้นทุกด้าน ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ เรื่องน้องพิงค์ หรือแม้แต่อาชีพการงานของลูกและสามีก็ดีขึ้น คือ สามีได้เลื่อนตำแหน่ง และเงินเดือนก็ขึ้นเร็วกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ ลูกและครอบครัวจึงตั้งใจทำบุญหล่อทอง และจะชวนคนมาหล่อคุณยายอย่างเต็มที่เต็มกำลัง เพราะลูกรู้สึกว่า..เป็นโอกาสดี ที่คนที่มาไม่ทันเจอคุณยาย หรือไม่ทันหล่อคุณยายองค์แรก จะได้มาเอาบุญใหญ่ เพื่อเชื่อมสายบุญกับคุณยายไปเยอะๆ ค่ะและที่สำคัญ เมื่อหล่อรูปเหมือนคุณยายเสร็จแล้ว ลูกหลานคุณยายจะได้มากราบไหว้ มานั่งสมาธิกับท่าน เหมือนในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ค่ะ
http://goo.gl/hvQWyt
พิมพ์บทความนี้
