Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนม่าร์ ได้บัญญัติให้ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ เป็นเรื่องที่ทำให้ชาวพุทธภาคภูมิใจ เพราะประชากรในประเทศประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์นับถือศาสนาพุทธ และมีความเชื่อว่าการยึดถือหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ไม่ได้เป็นไปเพื่อการหลุดพ้นเท่านั้น แต่ต้องเอาหลักคำสอนมาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย เรียกได้ว่า..ตั้งแต่ตื่น..ลืมตา..ไปจนกระทั่งเข้านอนจะมีพระพุทธศาสนาอยู่ในใจ แล้วถ้าเป็นชายก็จะมีความเชื่อว่า การได้บวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา ถือเป็นสิ่งน่าภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต ส่วนเป็นหญิงก็จะบวชเป็นแม่ชีเพื่อจะได้เข้ามาศึกษาหลักธรรมได้อย่างลึกซึ้ง และส่วนใหญ่ก็จะให้บุตรหลานได้บวชกันตั้งแต่ยังเยาว์วัย
อย่างที่เมืองทวาย ที่เราเพิ่งจะปลื้มสุดปลื้มไปกับ 3 บิ๊กบุญ ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ผู้มีบุญ 2 ประเทศ ร่วมแรงร่วมใจกันจัดขึ้น ยังมีเรื่องราวในพระพุทธศาสนาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะถ้าพูดถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ขอบอกว่าชาวพุทธที่นี่นั้น รักพระพุทธศาสนาล้นดวงใจ ถึงขนาดหลายคนบอกว่า “พระพุทธศาสนาเปรียบเสมือนลมหายใจของเขา” “ถ้าเป็นเรื่องศาสนาต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง” และจะเห็นว่ามีวัดอยู่มากมายทั่วเมือง แล้วไม่ใช่มีแต่วัด คนเข้าวัดก็เยอะด้วย ผู้คนตั้งแต่เด็กตัวนิ่วๆ วัยรุ่น วัยกลางคน ผู้เฒ่า จะเข้าวัดไหว้พระสวดมนต์กันทุกเย็นจนเป็นปกติ และจะต้องมีดอกไม้ติดมือเข้าไปเพื่อบูชาพระพุทธรูป บูชาพระเจดีย์ด้วย แล้วเด็กๆที่นี่ถ้าพูดได้ฟังความรู้เรื่องก็จะอาราธนาศีล 5 ได้แทบทั้งนั้น แล้วในวันหยุดผู้ปกครองก็จะให้เด็กๆเข้าเรียนในธรรมะสคูล (Dhamma School) ซึ่งคล้ายๆการเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ของบ้านเรา แต่เด็กๆที่นี่จำนวนมากชอบเรียนธรรมะ ชอบสวดมนต์ พ่อแม่เองก็ยินดีและสบายใจ ที่ได้ฝากอนาคตของลูกไว้กับคำสอนในพระพุทธศาสนา และเด็กเหล่านี้ก็จะเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป อีกเรื่องที่น่าชื่นชมคือในช่วงเข้าพรรษา รัฐบาลเมียนม่าร์ได้ประกาศให้วันพระเป็นวันหยุดราชการ เรียกว่าให้พร้อมใจกันหยุดทั้งประเทศ เพื่อให้ชาวพุทธมีโอกาสได้เข้าวัดฟังธรรมมากขึ้น ซึ่งพอถึงวันพระปุ๊บ เมืองทวายที่เคยคึกคักจะเงียบไปเลย เพราะโรงเรียนก็ปิด สถานที่ราชการก็ปิด ขนาดตลาดก็ยังปิด ร้านค้า ร้านอาหารก็ปิด แม้จะเห็นบางร้านเปิดอยู่ ซึ่งก็จะเปิดไม่เกินเที่ยงวันก็จะปิดเช่นกัน แล้วก็เตรียมเนื้อเตรียมตัว จูงไม้จูงมือกันเข้าวัด ในวันพระคนจะเข้าวัดเยอะเป็นพิเศษขนาดว่าล้นศาลากันเลย และจะใช้เวลาอยู่ในวัดมากกว่าวันธรรมดา โดยจะพร้อมใจกันอาราธนาศีล 8 สวดมนต์ นั่งสมาธิ(Meditation) และฟังพระเทศน์
พ่อค้าแม่ค้าชาวทวายบอกว่า ในช่วงเข้าพรรษาจะขายของได้ไม่ดีเท่ากับช่วงปกติ เพราะชาวทวายจะงดซื้อของฟุ่มเฟือยแต่จะเก็บเงินเอาไว้เพื่อทำบุญ เขาบอกว่า..อาจจะถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายได้ถูกเปลี่ยนเป็นบุญ
และยังมีเรื่องน่าปลื้มอีกอย่าง คือนอกจากชาวบ้านจะออกมาใส่บาตรที่หน้าบ้านตัวเองเป็นปกติแล้ว ยังมีกลุ่มอาสาสมัคร สมัครใจรวมทีมจัดตักบาตรขึ้นทุกวัน โดยจะหมุนเวียนไปตามชุมชน อาสาสมัครที่มาช่วยจะมีตั้งแต่เด็กอายุ 6 ขวบ ไปจนถึงผู้ใหญ่ อายุ 60 ปี ช่วยกันตั้งแต่ลงปัจจัย ลงแรง และลงไปชวนชาวบ้านให้มาร่วมกันตักบาตร ซึ่งก็ต้องเตรียมงานกันข้ามวัน และเตรียมทำอาหารกันข้ามคืนเพื่อให้ทันใส่บาตรในตอนเช้า โดยมีการรวมกลุ่มกันจัดตักบาตรแบบนี้เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว อาสาสมัครบอกว่า ทำเพื่อรักษาประเพณีตักบาตรให้คงอยู่ ต่อไปถึงแม้ทวายจะเจริญแค่ไหนก็ตาม แต่การใส่บาตรแบบนี้ การเข้าวัดฟังธรรมแบบนี้ จะไม่มีวันหายไปจากทวาย
http://goo.gl/LEUgXa
พิมพ์บทความนี้
