ปลื้ม..เพราะกฐินนี้ “ชิตัง เม” ก่อนใคร ตอน ล้านแรกในชีวิตของครูที่หัวใจประเมินค่ามิได้

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 22 กรกฎาคม  พ.ศ. 2558

 

ปลื้ม..เพราะกฐินนี้ “ชิตัง เม” ก่อนใคร
ตอน..ล้านแรกในชีวิตของครูที่หัวใจประเมินค่ามิได้

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

 

     กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
    
    ลูกชื่อ คุณครูรัตนา สอนภาษาอังกฤษเด็กนักเรียน ชั้น ป.5 อยู่ที่โรงเรียนวัดคู้บอน เจ้าค่ะ

 

คุณครูรัตนา สอนภาษาอังกฤษเด็กนักเรียน ชั้น ป.5

     หลวงพ่อคะ ลูกเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลยค่ะ และหลังเรียนจบมาก็รับราชการเป็นครูมาตั้งแต่อายุ 22 ปี จนถึงปัจจุบัน..ก็ใกล้จะเกษียณแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเป็นครูมาอย่างยาวนานถึง 34 ปี เพราะตอนนี้ลูกอายุได้ 56 ปีแล้วค่ะ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลูกรู้สึกว่า..อาชีพครูเป็นอาชีพที่ดีมากเกือบทุกเรื่องเลยค่ะ เพราะมีเกียรติ เป็นอาชีพของพระโพธิสัตว์ เป็นแสงสว่างให้กับโลก ซึ่ง ณ จุดๆ นี้ เรียกได้ว่า..เป็นอาชีพที่กินอุดมการณ์ล้วนๆ แต่ลูกว่าถ้าจะให้ดี ถ้าครูมีเงินเดือนเยอะๆ ก็ดีนะคะ แต่โลกแห่งความเป็นจริงมันไม่ใช่ เพราะถ้าเทียบอาชีพครูกับอาชีพอื่นแล้ว ครูส่วนใหญ่ไม่รวยเอาเลยค่ะ แถมต้องอยู่อย่างพอเพียง จะใช้ชีวิตฟู่ฟ่าฟุ้งเฟ้ออะไรกับเขาไม่ได้ อย่างชีวิตลูกก็เช่นกันค่ะ ถ้าลูกอยากจะมีเงินมากกว่ารายได้ปกติ ก็ต้องกระเสือกกระสนตะลอนๆ ออกไปหาสอนพิเศษ โดยโหนรถเมล์ไปสอนบ้าง นั่งแท็กซี่บ้าง อาศัยติดรถคนรู้จักไปบ้าง เล่นเอาเหนื่อยเพราะไม่มีเวลาพัก หรือบางทีก็สอนจนหมดเสียงไปเลยก็มี และชีวิตลูกวนเวียนอยู่แบบนี้

    จนกระทั่งปี 2544 ซึ่งเป็นปีที่ลูกเข้าวัดพระธรรมกาย  และพอเข้ามา..ลูกก็เข้าใจเรื่องบุญ จนเกิดวิชั่นว่า..อาชีพที่ลูกทำ..แท้จริงแล้วเป็นอาชีพที่สะดวกต่อการสร้างบารมีมากๆ เพราะนอกจากจะสอนวิชาความรู้ให้เด็กๆแล้ว ยังสามารถสอนให้เด็กๆได้สร้างความดี ให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสัมมาทิฏฐิได้ในอนาคต เหมือนกลอนบทหนึ่งที่ว่า…

ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์
ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์    
มีดวงมานเพื่อมวลชนใช่ตนเอง

  ซึ่งพอลูกเข้าใจตรงจุดนี้แล้ว ลูกก็มักจะนำลูกศิษย์ทำความดีมาโดยตลอด เช่น สอนให้เขารู้เรื่องบุญเรื่องบาป ชวนเขามาโปรยดอกดาวรวยต้อนรับพระธุดงค์ได้ถึง 3 คันรถบัส เป็นต้น

    แต่หลวงพ่อคะ แม้อาชีพจะสะดวกต่อการสร้างบารมีมากขนาดไหน ลูกก็ยังอยากรวยค่ะ เพราะถ้ารวยก็จะสะดวกสบายในการสร้างบารมีกว่านี้เยอะเลยค่ะ  ด้วยเหตุนี้เองในปี 2547 ลูกจึงขอรื้อผังจน โดยการตัดสินใจเอาเงินออมทั้งหมดเป็นประธานกองกฐิน S แรกของชีวิตทันที แล้วก็คิดว่า..สักครั้งหนึ่งในชีวิตครูจนๆ อย่างเราต้องเป็นประธานกอง M ให้ได้   ลูกคิดและอธิษฐานทั้งที่ตอนนั้นความหวังของลูกริบหรี่เต็มที เพราะแค่เงินเดือนข้าราชการครูธรรมดาๆ ต่อให้เก็บทั้งชีวิต ก็ไม่รู้จะเก็บถึง M รึเปล่า เพราะพอเงินเดือนออก ก็มีรายจ่ายเพียบเลยค่ะ แต่การที่ลูกตัดสินใจทำบุญไปในระดับ S ก็ถือว่าคิดไม่ผิดเลย เพราะหลังจากทำแล้ว ต่อมาลูกก็ได้เลื่อนวิทยฐานะเป็นครูชำนาญการพิเศษ ทำให้มีรายได้เพิ่มจากเงินเดือนครูปกติถึงเดือนละหมื่นกว่าบาทเป็นอัศจรรย์

     ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้แต่ละเดือนลูกสามารถเก็บหอมรอมริบได้เยอะขึ้น เพื่อสักครั้งหนึ่ง..จะต้องเป็นประธานกอง M ให้ได้ และนับจากวันนั้น..ถึงวันนี้ลูกก็ได้แต่เร่งวันเร่งคืน พยายามประหยัดทุกอย่าง รถก็ไม่ซื้อ สิ่งฟุ่มเฟือยก็ไม่ใช้ มัธยัสถ์จนเก็บเงินได้  M แรกในชีวิตก็ปีนี้แหละค่ะ ซึ่งเงินนี้..เป็นเงินที่ลูกเริ่มสะสมไว้ในบัญชีตั้งแต่อายุ 22 ปี ถึงปัจจุบันก็ 34 ปีพอดี แต่วันนี้..ลูกจะเอาเงินก้อนนี้ทำฝันของตัวเองให้เป็นจริง เพื่อให้สามารถบอกกับตัวเองได้อย่างสมภาคภูมิว่า “ครูรัตนา แห่งโรงเรียนวัด จะได้เป็นประธานกองกฐิน M แรกในชีวิตแล้ว”

 

       ยิ่งนึกลูกยิ่งปลื้มจนน้ำตาไหลแล้วไหลอีกค่ะ และพอถอนเงินออกมา ลูกก็ตะลึงเลยค่ะ เพราะไม่เคยคิดว่า..ชาตินี้ตัวเองจะมีเงิน M กับเขา อีกทั้งตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ก็เพิ่งเคยได้จับเงิน M แรกของชีวิตก็ตอนที่ถอนออกมานี่แหละค่ะ ด้วยเหตุนี้ลูกจึงเอาเงินมากอดใหญ่เลย กอดแล้วกอดอีก เพราะรู้สึกภูมิใจที่ลูกจะได้เป็นประธาน M แล้ว พอลูกคิดอย่างนี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนอัศจรรย์ยังไงบอกไม่ถูก เพราะทั้งตื่นเต้น ทั้งตื้นตันว่า M แรกในชีวิตของเราไม่เหมือนเงิน M ไหนๆ บนโลก และเงิน M นี้ จะเป็น M เปลี่ยนชีวิต เพื่อสร้างผังใหม่ และชาตินี้ลูกขอพูดอย่างเต็มปากว่า “ลูก ชิตัง เม แล้วค่ะ”

     สุดท้ายนี้ ลูกก็ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อมาก ที่ให้โอกาสลูกได้สร้างบุญใหญ่ และลูกก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนมาปิดกองจนสำเร็จเป็นอัศจรรย์ค่ะ

 

รับชมคลิปวิดีโอเพลงประธานกฐินคือเรา