Mobile Versionสมาธิ(Meditation) ปฏิบัติธรรมทบทวนฝันในฝัน วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
ลูกชื่อ นวรัตน์ ส่วนสามีของลูกชื่อ ยงยุทธ เราสองคน ทำธุรกิจขายตรง เป็นระดับไดมอนด์เจ้าค่ะ
กัลฯ นวรัตน์ และครอบครัว
หลวงพ่อคะ ตั้งแต่เด็ก..ชีวิตของลูกไม่มีทางเลือกอะไรเลยค่ะ เหมือนเป็นชีวิตที่ถูกจับโยนเข้าไปสู่ภาวะอันเลวร้ายตลอดเวลา เมื่อคุณแม่ฆ่าตัวตาย ลูกจึงกำพร้าแม่ตั้งแต่เล็ก และคุณพ่อก็เป็นเพียงข้าราชการเงินเดือนน้อย ต้องกู้หนี้ยืมสินมาเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อเลี้ยงทุกชีวิตที่เหลืออยู่ บางวันลูกไม่มีเงินค่ารถ หลังเลิกเรียนก็ต้องเดินกลับบ้าน ซ้ำร้ายตอน ม.3 ก็มาป่วยหนักเป็นวัณโรคกระดูก ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน และที่โชคร้ายไปกว่านั้น..ในขณะที่ลูกเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 ก็ต้องออกกลางคัน มาเป็นเซลล์ขายรถ เพราะคุณพ่อเสียชีวิตเนื่องจากเป็นมะเร็ง และนับจากนั้นไม่นาน ลูกก็เจอกับคู่ชีวิต และช่วยกันเปิดบริษัททำธุรกิจ ซึ่งดูเหมือนชีวิตจะดีขึ้นค่ะ แต่ที่ไหนได้ กลับแย่หนักไปกว่าเก่า เพราะเจอวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 จนลูกและสามีติดหนี้สินหลายล้านบาท โดนยึดรถ บ้านที่อยู่ก็โดนหมายศาล จนลูกหาทางออกโดยการกลับไปทำงานประจำ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังไงก็ไม่ทราบ ผู้จ้างไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้ลูกค่ะ เนื่องจากต้องแบกภาระเลี้ยงลูกเล็กๆ ด้วย ซึ่งขณะนั้นสามีของลูกก็เครียดมากไม่แพ้กัน แต่ก็โชคดีค่ะที่ พระมหาขจรศักดิ์ สตฺติปญฺโญ ท่านเป็นกัลยาณมิตรให้สามีอยู่ในบุญ ทำให้สามีมาวัดบ้าง จนเศรษฐกิจของครอบครัวเริ่มดีขึ้น แต่ชีวิตเราก็ไม่เปลี่ยน คือ ยังวนเวียนกับการทำมาหากินเป็นหลักจนปี 2546 สามีได้เข้ามาบวช และพอลาสิกขาก็ติดจานดาวธรรมรับช่อง DMC ที่บ้าน ลูกจึงได้ดูสกู๊ปชีวิตคุณคำน้อย ซึ่งเป็นแม่ที่ไม่มีขา แต่ยังเลี้ยงลูกได้ จนลูกรู้สึกว่า..หัวใจเธอยิ่งใหญ่มาก เพราะชีวิตที่ไม่มีอะไรเหลือของเธอ สามารถเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับทุกคนบนโลกที่พร้อมกว่าเธอได้ จนลูกรู้สึกสงสัยว่า..ทำไม..คุณคำน้อยถึงคิดแบบนั้นได้ ด้วยเหตุนี้สามีของลูกจึงชวนลูกไปนั่งสมาธิที่พนาวัฒน์ ทำให้ลูกได้ฟังประวัติและมโนปณิธานของครูบาอาจารย์ทั้งสามลูกและสามีของลูกจึงมีแรงใจและเมื่อได้ฟังประวัติคุณยายฯ ได้ยินประโยคที่ว่า..เป้าหมายเป็นหลักอุปสรรคไม่มี จากนั้นลูกก็พบคำตอบให้กับตัวเองได้ว่า..ที่ผ่านมา..ชีวิตที่ไม่เคยเลือกได้ของลูกนั้น เป็นเพราะไม่มีเป้าหมายหรือเข็มทิศนำทาง แต่แท้จริงแล้ว เราเป็นผู้ออกแบบชีวิตเองได้ลูกและทีมงานจัดปล่อยปลาได้ 26 ตันแล้วค่ะ
หลวงพ่อคะ ช่วงนั้น..เป็นช่วงรอยต่อที่ลูกเริ่มเข้ามาทำอาชีพขายตรงแล้วค่ะ ซึ่งรายได้ลูกก็เริ่มดีขึ้นมาก จนมีบ้าน มีรถ แต่ลูกอยากประสบความสำเร็จมากขึ้น จึงก็ตัดสินใจออกแบบชีวิตตัวเองใหม่ ซึ่งสามีก็อะเลิร์ทเห็นด้วย โดยการตัดสินใจเป็นประธาน M หล่อหลวงปู่ครั้งแรกในปี 2551 ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินสดด้วยเหตุนี้ ลูกจึงเอารถฟอร์จูนเนอร์ที่ใช้อยู่ไปขาย จนลูกสามารถเป็นประธานกองกฐินครั้งแรกสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ และด้วยบุญจากการเป็นประธาน M นี่เอง ปรากฏว่าชีวิตลูกพลิกไปกว่าเดิม คือชีวิตลูกพลิกล็อคไปเลยค่ะ ธุรกิจของลูกดีวันดีคืนก้าวกระโดด จนประสบความสำเร็จในระดับไดมอนด์ของธุรกิจ มีคอนโดฯราคาระดับ 50 M มีรถเพิ่มหลายคัน และที่สำคัญที่สุดสามารถเป็นประธานกองกฐินระดับ M และ 2 M ได้ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และล่าสุดพอลูกทราบว่าจะหล่อหลวงปู่องค์ที่ 8 ลูกตัดสินใจทำทันที 1 กิโลทองเจ้าค่ะเนื่องจากลูกซาบซึ้งในบุญนี้มาก เพราะถ้าไม่ใช่เพราะลูกตัดสินใจเป็นประธานกองหล่อหลวงปู่ M แรกในชีวิตตอนนั้น ลูกเชื่อว่า..ลูกไม่มีทางมีวันนี้อย่างแน่นอน ซึ่งลูกก็ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่ออย่างสูงสุด ที่มีบุญศักดิ์สิทธิ์ให้ลูกทำ และทุกวันนี้ ลูกก็ทำหน้าที่ชวนทีมงานทำบุญทุกรูปแบบเช่น ปล่อยปลาเดือนละ 1 ตัน 26 ครั้งแล้วค่ะ (ซึ่งลูกขอกราบถวายบุญทุกบุญให้หลวงพ่อแข็งแรงนะเจ้าคะ) จัดนั่งสมาธิ 100-400 กว่าคนมา 9 รุ่น ล่าสุดจัดนั่งสมาธิที่วัดได้ถึง 100 กว่าคนยังมีรับกองกฐินกันอย่างคึกคัก และขอบวชอีก 5 คนค่ะจัดปฏิบัติธรรมทีมงาน 100-400 กว่าคนมา 9 รุ่น แล้วค่ะจัดปฏิบัติธรรมทีมงาน 100-400 กว่าคนมา 9 รุ่น แล้วค่ะ
ลูกก็อยากบอกว่า เศรษฐกิจปีนี้แย่มากค่ะ ซึ่งหลายคนก็ยังมองไม่เห็นทางว่าจะรอดไปได้อย่างไร แต่พอวัดมีข่าวว่าจะหล่อหลวงปู่องค์ที่ 8 ลูกก็รู้สึกว่า..เป็นบุญใหญ่ที่จะเข้ามาช่วยให้เรารอดได้ฉลุย ซึ่งโอกาสที่จะเอาบุญใหญ่มาถึงทุกคนแล้วนะคะ สุดท้ายอยากกราบขอพรให้ลูกและครอบครัวมีความอดทน กล้าหาญเบิกบานในธรรม รวยทันสนองงานได้ดั่งใจหลวงพ่อนะเจ้าคะ
พิมพ์บทความนี้
