ความประทับใจ ในวันเพ็ญ คืนวิสาขะ...

ภาพที่ปรากฏต่อสายตาสาธารณชนในวันนั้น เป็นภาพกองทัพธรรมที่สง่างาม ทัพหน้าเป็นเหล่าสมณะ งามอร่ามด้วยสีเหลืองทองของจีวร ตามด้วยทัพหลังของเหล่าพุทธบริษัทในชุดสีขาว ขาว เวลานั้นประมาณบ่ายสามโมงเศษ แสงแดดแผดกล้า จุดมุ่งหมายอยู่ที่บรมพุทโธ https://dmc.tv/a1897

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ช่วงเด่นฝันในฝัน > > อินโดนีเซีย
[ 8 มิ.ย. 2550 ] - [ ผู้อ่าน : 18272 ]
ความประทับใจ ในวันเพ็ญ คืนวิสาขะ
ณ พระเจดีย์บรมพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย
 
    ลูกชื่อ รมย์ฤดี เวสสุนทรเทพ ทำงานอยู่ที่ฝ่ายฝึกอบรมธุรกิจการบิน บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ลูกเป็นหนึ่งในคณะทีมงานที่ได้ไปร่วมงานวิสาขบูชาบรมพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมาค่ะ โดยได้เดินทางไปกับ คุณแม่อรทัย รมยานนท์ อายุ 80ปี ลูกทราบมาว่า ขบวนพิธีจะต้องเดินเป็นระยะทางไกลประมาณ 3กิโลเมตร ลูกจึงถามคุณแม่ว่า “เดินไหวไหมคะ” คุณแม่ก็บอกว่า “ไหวสิลูก สบายมาก แค่นี้เด็กๆ เพราะเคยเดินเวียนเทียนรอบมหารัตนวิหารคดมาแล้ว”
 
    การไปครั้งนี้ ลูกๆทุกคนเบิกบานในบุญเป็นอย่างมาก จึงขออนุญาตถ่ายทอดความปลื้มปีติถวาย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ (พระราชภาวนาวิสุทธิ์) ผ่านทางตัวอักษรค่ะ
 
    การเดินทางลัดฟ้าจากดินแดนแห่งมหาธรรมกายเจดีย์ สู่แผ่นดินอันเป็นที่ประดิษฐานของพระเจดีย์บรมพุทโธในครั้งนี้ ประกอบด้วย พระภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา และสาธุชน เกือบ 70ชีวิต ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะฟื้นฟูภาพความรุ่งเรืองแห่งพระพุทธศาสนาในอินโดนีเซียให้กลับคืนมา และเมื่อถึงที่ตั้งของพุทธสถาน บรมพุทโธ จุดเริ่มต้นของขบวนพิธี มีผู้คนมากมายตลอดสองข้างทาง งานวันนี้ทางการถือว่าเป็นงานยิ่งใหญ่ระดับโลก ซึ่งประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย และคณะรัฐมนตรี รวมทั้งคณะทูตจากหลากหลายประเทศ จะมาร่วมงานด้วย โดยสมาคมชาวพุทธแห่งอินโดนีเซีย ที่มีชื่อย่อว่า “วาลูบี้”  (WALUBI) และเป็นผู้เชิญมูลนิธิธรรมกายเข้าร่วมในพิธีวิสาขบูชาครั้งนี้ เป็นเจ้าภาพผู้จัดงาน
 
 
    เราจัดรูปขบวนด้วยความว่องไว โดยมีขบวนพระภิกษุนำหน้า ตามด้วยผู้ถือป้ายชื่อภาษาอังกฤษของมูลนิธิธรรมกาย และขบวนของสาธุชน ส.ว. (สูงวัย) ซึ่งมีอายุเฉลี่ยประมาณ 50ปี โดยมีคุณแม่ของลูก เป็น ส.ส.ว (สาวสูงวัยสูงสุด) เจ้าค่ะ ลูกได้มีโอกาสถือธงของมูลนิธิธรรมกาย ส่วนคุณแม่ของลูกถือพานดอกไม้ พวกเรานอกนั้นต่างก็กุลีกุจอแบ่งหน้าที่ถือธง ถือดอกไม้หรือโคมกันอย่างขมีขมัน เพราะถ้าอยู่ที่วัดโอกาสทองแบบนี้ไม่ถึงมือพวกเราหรอกเจ้าค่ะ พานดอกไม้นั้นต้องเป็นสาว วัยสิบแปด ไม่ใช่ แปดสิบ ส่วนธงนั้นก็คงจะต้องป็นหน้าที่ของอุบาสกรูปร่างสูงใหญ่วัยสะรุ่น ไม่ใช่ลุงๆป้าๆอย่างที่เห็น
 
 
    ภาพที่ปรากฏต่อสายตาสาธารณชนในวันนั้น เป็นภาพกองทัพธรรมที่สง่างาม ทัพหน้าเป็นเหล่าสมณะ งามอร่ามด้วยสีเหลืองทองของจีวร ตามด้วยทัพหลังของเหล่าพุทธบริษัทในชุดสีขาว ขาว เวลานั้นประมาณบ่ายสามโมงเศษ แสงแดดแผดกล้า จุดมุ่งหมายอยู่ที่บรมพุทโธ ซึ่งพวกเรามาทราบภายหลังเมื่อวันกลับ ว่าระยะทางที่แท้จริงนั้นคือ 5กิโลเมตร เพราะระยะทาง 3กิโลเมตรนั้น เดินไปถึงเพียงประตูทางเข้าเท่านั้นเองค่ะ
 
 
    ลูกรับหน้าที่ถือธงสีแดงสัญลักษณ์มหาธรรมกายเจดีย์ ไม่น่าเชื่อเลยว่า ลูกได้เป็นผู้อัญเชิญธงชัยผืนนี้จริงๆ ลูกหันไปดูคุณแม่ซึ่งถือพานดอกไม้อยู่ขบวนหลัง ท่านมีสีหน้าแช่มชื่นเบิกบาน ลูกถือธงด้วยมือขวา พวกเราไม่มีเข็มขัดสายสะพายที่สำหรับเสียบธงที่เอวเหมือนที่วัด จึงต้องอาศัยห่วงยางส่วนตัวเป็นที่วางปลายไม้ธงแทน ส่วนแขนซ้ายคล้องกระเป๋าที่ใส่สัมภาระจำเป็น ลูกได้เตรียมเก้าอี้พับตัวเล็กอีก 2ตัว ไว้ให้คุณแม่และไม้เท้าแบบพับได้ ใส่ในกระเป๋านั้นด้วย ดังนั้นกระเป๋านี้จึงหนักเอาการ แต่...สู้ตายเจ้าค่ะ
 
    แสงแดดร้อนเปรี้ยง จนเหงื่อไหลเข้าตาจนแสบ  ต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเหงื่อเป็นระยะๆ ต้องขอสารภาพว่าตอนนั้นเหนื่อยแทบขาดใจ ปกติลูกไม่ใช่นักกีฬา และไม่ใช่คนชอบออกกำลังกาย เดินคราวนี้อาศัยเดินสมาธิ(Meditation)ไปด้วย แต่น่ามหัศจรรย์เจ้าค่ะ ขณะที่ลูกเดินไปใจเข้ากลางอยู่นั้น บางช่วงรู้สึกตัวเบาสบาย น้ำหนักตัว น้ำหนักธง น้ำหนักกระเป๋าที่แบกอยู่มลายหายไปสิ้น ธงที่ถืออยู่ในมือก็กลายเป็นเบาเหมือนนุ่น ราวกับมีคนมาช่วยถือช่วยพยุง เท้าที่ก้าวเดินเหมือนไม่ได้ก้าวเอง เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้ง ที่ใจรวมเป็นหนึ่งเดียวที่กลางองค์พระกลางกายได้สนิทดี และดูเหมือนว่าวันนี้องค์พระของลูกจะสว่างไสวใหญ่อลังการ ความเหนื่อยถูกแทนที่ด้วยความชื่นใจของธรรมะที่กลางกายได้อย่างมหัศจรรย์
 
    ลูกได้หันไปดูคุณแม่และถามท่านว่า “ไหวมั้ย” ท่านบอกว่า “ไหว” ท่านก็ถามลูกว่า “ไหวมั้ยลูก” ท่านจะมาช่วยเปลี่ยนถือธงแทนลูกด้วยนะเจ้าค่ะ ต่อมามีน้องเจ้าหน้าที่วัด นำโคมมาเปลี่ยนให้ท่านถือแทนพานดอกไม้ คุณแม่บอกว่า “น่าเสียดายไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้” พระเดชพระคุณหลวงพ่อคงเข้าใจนะคะว่า โอกาสที่จะได้ถือพานดอกไม้อย่างนี้ มีเพียงครั้งเดียวในชีวิต และมีที่นี่เท่านั้น
 
 
    ตอนแรกลูกเกรงใจหมู่คณะว่า คุณแม่จะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่ปรากฏว่าสาธุชนที่ไปด้วยมาเล่าให้ฟังว่า ขณะที่เขาเหนื่อยแทบจะเดินไม่ไหว แต่พอหันไปเห็นคุณแม่วัย 80 เดินคอตรงก้าวฉับๆ เขาก็เกิดกำลังใจ “สู้โว้ย” ขึ้นมาทันที ว่าขนาดคุณแม่ยังเดินไหว ตัวเขาก็ต้องเดินไหวด้วย ลูกได้ยินแล้วดีใจมาก
 
 
    ในที่สุด เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง ที่บริเวณบริเวณพิธี เชิงเขาบรมพุทโธ ขบวนพระภิกษุได้เดินขึ้นไปกราบพระเจดีย์และนั่งหลับตาทำสมาธิ จากนั้นเราเตรียมตัวเข้าสู่ปะรำพิธี ซึ่งตามกำหนดการประธานาธิบดี จะเดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 2ทุ่มค่ะ
 
    เมื่อ ประธานาธิบดี มาถึง ก็มีการกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน โดย คุณฮาตาตี้ ประธานฝ่ายฆราวาสของชาวพุทธอินโดนีเซีย ได้กล่าวรายงาน ท่านเป็นสุภาพสตรีที่สูงใหญ่ งามจับตาสง่ามาก จากนั้นเวลาประมาณ 3ทุ่มเศษจึงเริ่มการแสดงพุทธประวัติประกอบแสง สี เสียงจากประเทศต่างๆอย่างสวยงามมาก
 
    เมื่อประธานาธิบดีเดินทางกลับ เราเดินออกมาด้านนอก พอเห็นภาพที่อยู่ข้างหน้าแล้วตกตะลึง หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เพราะเป็นภาพโคมประทีปนับพันที่ถูกจัดวางไว้เรียบร้อยแล้วบนเนินหญ้าเขียวขจีที่มองขึ้นไปเห็นบรมพุทโธกลางแสงจันทร์
    จากนั้น เราได้สวดมนต์ทำวัตรเย็น พระอาจารย์นิโคลัส นำนั่งสมาธิ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ จิตใจชุ่มชื่น ลูกตรึกนึกถึงองค์พระ หลวงปู่ หลวงพ่อ และคุณยาย แล้วปีติใจเกินบรรยาย ภาพบรมพุทโธสว่างใสอยู่กลางกาย เมื่อเริ่มจุดโคมลอย โดยให้ผู้คนโดยรอบให้เข้ามาช่วยกัน โคมค่อยๆถูกปล่อยขึ้นไป จนเต็มท้องฟ้าเหนือพระเจดีย์บรมพุทโธ งดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ
 
    จากนั้น  เราขึ้นไปบนพระเจดีย์เพื่อเดินเวียนประทักษิณ และได้เชิญชวนให้ผู้คนบริเวณนั้น มาเดินกับเราด้วย สุภาพสตรีชาวอินโดฯ ที่เดินอยู่ข้างๆลูก สวดอิติปิโส ได้คล่องแคล่ว คำสวดใกล้เคียงกับของเรา ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวของชาวพุทธทั่วโลก
 
    เที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่พวกเราต้องเก็บงาน เก็บโคมให้เรียบร้อย หลวงพี่และน้องๆ ทำงานกันแข็งขัน แต่พวกเราป้าๆ นั้น หมดแรงจริงๆ จึงได้แต่นั่งจับกลุ่มให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ซึ่ง อาจารย์ลือพงษ์ เรียกให้เก๋ไก๋หน่อยว่า “นั่งวางแผน”
 
    เมื่อได้เห็นภาพการจุดประทีปของเรา ลงในหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งของเช้าวันรุ่งขึ้น บอกไม่ถูกเลยเจ้าค่ะพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า “วินาทีนั้น พวกเราเบิกบานกันแค่ไหน เหมือนเราได้ร่วมกันฟื้นฟู และจุดแสงสว่างแห่งความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ให้บังเกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซียอีกครั้ง ในวันวิสาบูชา ซึ่งเป็นวันของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งพระและฆราวาสยิ้มกันไม่หุบเลยทีเดียวเจ้าค่ะ”

http://goo.gl/9i6r7


พิมพ์บทความนี้

ไปหน้าทบทวนฝันในฝัน



บทความอื่นๆ ในหมวด

      กิจกรรมพัฒนาวัดพิชิตปิตยาราม ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
      กิจกรรมพัฒนาวัดอู่ข้าว ต.คลอง 7 จ.ปทุมธานี
      อานุภาพบุญจากการมาสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ตอนที่ 1
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ได้ตึก 18 ล้านแค่เพียงกระพริบตา
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ความทรงอภิญญาของคุณยายฯที่ผมเจอกับตัวเอง
      ประกาศผลสุดยอดสามเณรแสดงธรรมระดับโลก
      เปิดใจสามเณรแชมป์แสดงธรรมระดับภาค ชิงชัยสู่เวทีแสดงธรรมระดับโลก
      ซุปเปอร์บิ๊กบุญ ตักบาตรแสนรูป ครั้งประวัติศาสตร์
      เส้นทางสามเณร สู่เวทีแชมป์เทศน์ระดับโลก
      เล่าเรื่องคุณยาย ตอน เรื่องเหลือเชื่อของการบูชาข้าวพระที่คุณยายฯฝากไว้
      บวชเณรล้านตักบาตรแสน สานฝันคุณยาย สร้างพระแท้
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน แค่มองหน้า..ก็รู้ทั้งหมด
      แฝด 4 บวชเณรล้านอ่างทองทำลายสถิติโลก




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related