จดหมายจาก ออราน โคเฮน

จดหมายจาก ออราน โคเฮน (แอฟริกาใต้)

 

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2551

 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานมูลนิธิธรรมกายที่เคารพอย่างสูงครับ

 

    ผม ออราน โคเฮน จากประเทศแอฟริกาใต้ครับ พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ตอนนี้ผมกลับมาที่แอฟริกาใต้แล้ว หลังจากที่ผมกลับมาจากเมืองไทย ผมก็นั่งสมาธิ(Meditation)ทุกวัน วันละประมาณ 20-40นาที ผมรู้สึกว่าใจของผม มันขยายขึ้นเรื่อยๆ ผมว่ามันทำให้ผมใจใส สะอาด เหมือนมีความบริสุทธิ์เพิ่มมากขึ้น ผมคิดว่า เพราะใจที่ใสนี้เองที่ทำให้ผมตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้น ดีขึ้น ชีวิตของผมก็ดูยุ่งเหยิงน้อยลง มันลงตัวขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เมื่อก่อนชีวิตของผมมันดูยุ่งเหยิงทั้งวันเลยครับ เหมือนใจไม่เคยได้พักเลย

 

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ตอนนี้ผมคิดถึงเมืองไทยมาก คิดถึงอาหารไทย และผู้คนที่เมืองไทยมาก แต่พอได้ฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่ออ่านเรื่องราวของผมออกทาง DMC นะครับ มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมากครับ อย่างที่ผมเคยบอกไปว่า ผมสนใจพระพุทธศาสนามาตั้งแต่อายุ 16ปี เพราะผมรู้สึกว่าผมเคยเป็นพระมาก่อนแน่นอน เพราะตอนอายุ 16ปี ผมเห็นในมโนภาพว่า ผมเป็นพระ ผมเคยเจอเจ้าอาวาสหลายองค์ ผมยังจำหน้าท่านได้เลยแต่จำชื่อไม่ได้ ผมเห็นห้องพัก หน้าต่าง ถนน เหมือนจริงเลยครับ ซึ่งตรงนี้ทำให้ผมรู้สึกคุ้นเคย และใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนามาก สิ่งนี้เหมือนอยู่ในจิตใต้สำนึกของผม และการที่ผมนั่งในท่าขัดสมาธิอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกว่า ทำได้ยากนั้น ผมมั่นใจว่าผมเคยนั่งในท่านี้มาแล้ว เพราะตอนที่ผมนั่ง ผมรู้สึกได้เลยว่าผมเคยนั่งแบบนี้มาแล้ว

 

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ ตอนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทักทรงผมของผมว่า “ออราน โคเฮน เตรียมตัวจะบวชเป็นพระหรือลูก” ผมนั่งฟังไปก็หัวเราะไป ขำมากเลยครับ และก็รู้สึกชอบพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากเลย พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีอารมณ์ขันดีจังเลยนะครับ

 

    ผมว่านะ…พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ช่างเป็นบุคคลที่มหัศจรรย์มากๆเลย เป็นอัจฉริยะและฉลาดมากๆครับ ผมฟังที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้กำลังใจผม เรื่องการจะเชิญชวนเยาวชนแอฟริกัน จากทุกประเทศในทวีปแอฟริกา มาร่วมการประชุมครั้งนี้ที่โจเบิร์ก มันมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนครับ ผมเห็นด้วยกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากๆ ผมและเพื่อน WSYC ที่อยู่ในแอฟริกา ก็มีเครือข่ายกันพอสมควร ซึ่งเราจะมีการประชุมกันในวันพฤหัสบดี (วันนี้ 13 มีนาคม พ.ศ.2551) ซึ่งผมจะให้เพื่อนๆดู Scoop WSYC ที่ออกอากาศใน DMC ด้วย

 

    ตอนนี้ (วันพุธที่ 12) ผมกำลังโทรศัพท์ตามคณะทำงานทั้งวันเลย พวกเรา Alert และตื่นเต้นกันมาก และเราก็เชื่อมั่นว่า ความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นได้ด้วยการสนับสนุนจากมูลนิธิธรรมกายนั่นเอง ผมตื่นเต้นจริงๆที่ได้รู้ว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อจะคอยเป็นกำลังใจและคอยช่วยเหลือพวกเราอยู่

 

    กราบขอบพระคุณ ในทุกความช่วยเหลือที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อมอบให้ครับ มันมีความหมายมากสำหรับเป้าหมาย และการทำงานของพวกเรา มันทำให้พวกเราอยาก Take action จริงๆครับ

 

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่ออธิบายเรื่องความกล้าฝัน ผมเข้าใจสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพยายามจะอธิบายให้ผมฟังว่า “ถ้าเราเข้าถึงพระธรรมกาย เราจะเกิดความกล้าขึ้นมาได้เองเลย เพราะเป็นแหล่งพลังงานมหาศาล ยิ่งถ้าผมนิ่งได้มากเท่าไหร่ ผมก็จะเข้าถึงพระธรรมกายได้มากเท่านั้น และจะทำให้ผมมีความกล้า สามารถฝันอะไรได้มากมายและยิ่งใหญ่ เพราะใจหยุดรวมเป็นหนึ่งกับพระธรรมกาย” ผมเข้าใจอย่างนี้นะครับ ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ครับ

 

    ที่ผมไม่ค่อยแน่ใจ เพราะว่าผมยังมีความเข้าใจเรื่องนรก-สวรรค์ไม่ลึกซึ้งเหมือนกับชาวพุทธ แต่ผมเข้าใจว่าคุณยายอาจารย์ ท่านคงเข้าไปสู่จุดลึกๆในตัวของท่านได้ จนทำให้ท่านไปนรก-สวรรค์ที่อยู่ในตัวของท่านได้ ผมเองก็รู้สึกผูกพันและเชื่อมกับท่านได้ เพราะผมสัมผัสได้ถึงพลังบริสุทธิ์ในตัวท่าน ที่ออกมาจากใจที่สะอาดของท่าน ผมจึงรู้สึกรักท่านมาก และผมก็สัมผัสได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่ท่านมีต่อมวลมนุษยชาติด้วย

 

 

    ผมเชื่อมั่นว่า WSYC เติบโตได้แน่ๆครับ และมูลนิธิธรรมกายนั่นแหละที่จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเติบโตนั้น ด้วยการที่มูลนิธิธรรมกายให้ความรู้เรื่องการทำสมาธิ นั่นแหละคือขุมทรัพย์สำคัญที่ทำให้งาน WSYC เคลื่อนไปข้างหน้าได้ เพราะมันทำให้เราเห็นได้ชัดขึ้นว่า WSYC ก่อตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร เราจะเดินไปด้วยกัน ผมมีความสุขมากๆครับ

 

    ผมชอบคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาก ที่พูดเรื่องการ C&D (Copy & Development) ผมไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่ผมว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องมากๆเลย เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อ Research (วิจัย) มาให้พวกเราตลอดชีวิตแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ต้องไปเสียเวลาลองหรอก เอาไปทำเลย และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

 

    ผมหวังว่าผมจะได้มีโอกาสได้พบกับพระเดชพระคุณหลวงพ่ออีก ที่แอฟริกาใต้หรือที่เมืองไทย เพราะผมอยากจะเรียนรู้เพิ่มเติมจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และจะได้นำเอาความรู้เรื่องสมาธิ ขยายไปสู่ชาวโลกให้ได้รู้ นั่นเป็นความรู้ที่ประเมินค่าไม่ได้จริงๆครับ เป็นความรู้ที่ทรงพลังมากๆ มากจนผมรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ได้ให้ชีวิตใหม่กับผม ตอนนี้ผมรู้สึกเต็มตื้นไปหมดแล้ว เป็นเกียรติอย่างยิ่ง จนผมทำตัวไม่ถูกเลย กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่งครับ (กราบ 3ครั้ง)

 

ออราน โคเฮน

http://goo.gl/VQ4Mk