ร้านค้าเลิกขายเหล้า เบียร์ บุหรี่

ข่าวสว่างเพื่อการฟื้นฟูศีลธรรมโลก

“เด็กดี V-Star สร้างชื่อ ชวนร้านค้าเลิกขายเหล้า เบียร์ บุหรี่ ได้สำเร็จเกิดขึ้นแล้วที่ จ.อ่างทอง”

สิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ ก็คือ การรวมพลังกันทำความดี ด้วยการไปขอความรู้จากผู้ใหญ่เรื่องโทษภัยของเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยาเสพติด และสิ่งมึนเมา ที่เหล่าเด็กดี V-Star จากทั่วประเทศกำลังทำโครงการ “บอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน” กันอยู่ในขณะนี้ ไม่น่าเชื่อว่าความน่ารักสดใสของเด็กๆที่มาพร้อมกับคำถามที่ถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า

“คุณลุงขา ช่วยตอบหนูหน่อยนะคะ ว่าเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยาเสพติด มันไม่ดีตรงไหน มีโทษอย่างไร” เมื่อผู้ใหญ่หลายๆคนตอบแล้ว เด็กๆก็ยังสงสัยและถามต่อไปอีกว่า “ในเมื่อมันไม่ดี แล้วทำไมผู้ใหญ่ถึงชอบดื่ม ชอบเสพกันล่ะคะ?”

หลายๆคำถามของเด็กๆในวันนี้ได้กลายเป็นเรื่องน่าคิด สะกิดใจ และทำให้ผู้ใหญ่หลายๆคน กลับมานั่งคิดถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา จากการที่ได้เล่าถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตให้เด็กๆฟัง จนทำให้ผู้ใหญ่เป็นจำนวนมาก เกิดแรงบันดาลใจในการประกาศความตั้งใจที่จะเลิกยุ่งเกี่ยวกับสิ่งมึนเมาอย่างเด็ดขาด ดังเรื่องราวของ 

คุณสุภาดา  คล้ายอุนาทร หรือที่เด็ก ๆ เรียกว่า ป้ารำพึง เจ้าของร้านขายของชำที่ใหญ่ที่สุด ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ร.ร.ริ้วหว้าวิทยาคม อ.แสวงหา จ.อ่างทอง  ที่ตัดสินใจเลิกขายสิ่งมึนเมาอย่างเด็ดขาด  ท่านได้เล่าให้ทีมข่าวสว่างฟังว่า “วันนั้นมีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนริ้วหว้าวิทยาคมเขามาถาม มาขอความรู้ถึงโทษภัยของสิ่งมึนเมา แล้วก็มาขอเอาป้ายมาติดที่หน้าร้าน ป้ายนั้นเขียนว่า “โทษเกินร้อย เหล้า เบียร์ บุหรี่ เสพแล้วตาย เสพไปทำไม” ก็อนุญาตให้เขาติดเลยค่ะ ก็ชื่นชมกิจกรรมของเด็กตรงนี้ค่ะ อย่างน้อยป้ายนี้ ก็เป็นอีกแรงหนึ่ง ที่ช่วยกระตุ้นเตือนใจคนซื้ออีกทีหนึ่งด้วยค่ะ และพอดีน้องกระต่ายหลานสาวของดิฉัน ก็เป็นเด็กดี    V-Star ของโรงเรียนนี้ด้วย มีอยู่วันหนึ่งเขาก็มาบอกกับดิฉันว่า

“ป้าจ๋าหนูเป็นเด็กดี V-Star ผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก คุณครูให้มาถาม มาขอความรู้จากผู้ใหญ่ว่า เหล้า เบียร์ บุหรี่ ยาเสพติดนี่ มันมีโทษอย่างไร”

พอดิฉันตอบหลานไป หลานก็ถามดิฉันกลับมาว่า   “ในเมื่อมันไม่ดี มีแต่โทษ งั้นการที่เราขายเหล้า ขายบุหรี่มันก็ไม่ดีสิจ๊ะป้า”  

ดิฉันก็คิดว่า “เออ..ขนาดเด็กมันยังคิดได้เลยนะ” ดิฉันยังคิดในใจเลยว่า “เออเน๊อะ! โครงการนี้ช่วยได้เยอะเลยนะ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้หลานของดิฉันคิดได้”  

 

 

คุณสุภาดา  คล้ายอุนาทร หรือที่เด็ก ๆ เรียกว่า ป้ารำพึง เจ้าของร้านขายของชำ ที่ตัดสินใจเลิกขายสิ่งมึนเมาอย่างเด็ดขาด

 

น้องกระต่าย เด็กดี V-Star ร.ร.ริ้วหว้าวิทยาคม หลานของป้ารำพึง
ผู้จุดประกายความคิด ให้ป้ารำพึงเลิกขายสิ่งมึนเมา ถ่ายรูปคู่กับป้ายหน้าร้าน

 

ตั้งแต่วันนั้นมาดิฉันก็มานั่งคิดว่าความจริงแล้วตอนที่เราตั้งร้านค้า เราก็ไม่ได้อยากขายเลย แต่เมื่อขายแล้วก็ต้องมีของทุกอย่างครบวงจร แต่ใครที่มาซื้อของเราก็บอกเขาทุกคนนะคะว่า “เหล้า บุหรี่ เนี่ยมันไม่ดีนะ อย่าซื้อเลย” แล้วคนซื้อก็ถามกลับมาว่า “ก็ในเมื่อบอกว่ามันไม่ดี แล้วมาขายทำไมล่ะ” ดิฉันก็ตอบเขาไปว่า “ก็เขาผลิตมาน่ะ แต่ว่าเราก็ไม่กิน ไม่สูบ และก็ไม่อยากให้คนที่ซื้อกินหรือสูบด้วยนะ ไม่ใช่อยากจะได้เงินหรอกนะ” เพราะว่าคนรอบข้างที่ตายเพราะสิ่งเหล่านี้มีมากมาย อย่างพี่ชาย และน้องชาย ก็ตายเพราะเหล้าทั้งนั้น ตายด้วยโรคตับแข็งค่ะ ก่อนจะตายเขาก็ทรมานมากเลย พอเห็นแล้วมันก็สะท้อนใจค่ะ เมื่อปีที่แล้วนะคะ ในละแวกนี้ มีคนตายเพราะสาเหตุจากเหล้า บุหรี่ นับ 10 คนเลยค่ะ คนสูบบุหรี่ ก็เป็นมะเร็งตาย คนกินเหล้าก็ตับแข็งตาย ก็ยอมรับเลยค่ะว่า ครอบครัวไหนที่ไม่มีเหล้า ครอบครัวนั้นจะไม่มีปัญหา จะมีความสุขมาก ส่วนใหญ่ครอบครัวที่มีปัญหาก็มาจากเหล้าทั้งนั้น เหล้าเป็นตัวนำเลยนะคะ อย่างครอบครัวของพี่ชาย ก็ไม่มีความสุขเลยค่ะ เพราะพี่ชายติดเหล้า สำมะเร  เทเมาทุกวัน ครอบครัวเขาก็มีปัญหา ตื่นมาก็หน้านิ่วคิ้วขมวดใส่กัน เมื่อพ่อบ้านเมาซะคนหนึ่ง แล้วอะไรจะดีล่ะคะ ในละแวกนี้ก็เหลือเขาคนเดียวนี่แหละค่ะ(พี่ชาย) ที่กินเหล้ามากแล้วยังไม่ตาย นอกนั้นก็ตายกันเกือบหมดแล้วค่ะ

คิดอยู่หลายวันค่ะจนมาตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะเลิกขายแล้วล่ะค่ะ เพราะถึงไม่ขายเหล้า บุหรี่ ก็ยังขายของอื่นๆในร้านได้อยู่ค่ะ พอคิดได้ก็รู้สึกดีใจค่ะ ที่เราตัดสินใจหยุดขายตรงนี้ ซึ่งก็คิดว่าจะเป็นจุดเล็กๆ จุดหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยเหลือสังคมได้ค่ะ

คนผลิตกับคนขายนี่มันสำคัญจริงๆนะคะ ดิฉันอยากให้ออกเป็นกฎหมายมาเลย เพราะอาชีพอื่นก็ยังมีตั้งเยอะตั้งแยะ ถ้าเราไม่ผลิตซะ ร้านค้าก็ไม่มีขาย  เพราะเขาผลิตมา ร้านค้าก็เลยต้องขายเพื่อเรียกลูกค้า   

ดิฉันอยากฝากไปถึงผู้ผลิตทั่วประเทศให้หยุดค่ะ ผลิตอย่างอื่นมาให้ชาวบ้านซะดีกว่า ที่จะมาค้าขายสิ่งเหล่านี้ค่ะ มันไม่คุ้มกันเลย เพราะสิ่งที่เสียหายไป   มันมากกว่าที่รัฐบาลได้อีกค่ะ (ภาพที่ 1-2)

 

น.ส.พลอยไพรินทร์  ชื่นอุรา หรือน้องพลอย อายุ 18 ปี ชั้น ม.6
ประธานชมรม V-Star Club ร.ร.ริ้วหว้าวิทยาคม จ.อ่างทอง

 

ทางด้านนางสาวพลอยไพรินทร์  ชื่นอุรา หรือน้องพลอย อายุ 18 ปี   ชั้น ม. 6  ประธาน V-Star Club ร.ร.ริ้วหว้าวิทยาคม  จ.อ่างทอง เล่าว่า “การทำโครงการบอกโทษเกินร้อยของโรงเรียนของหนู ก็ได้มีการประชุมร่วมกันกับคุณครูและเพื่อนๆในกลุ่ม V-Star จำนวน 90 คนค่ะ   จากนั้นเรานำโครงการนี้ไปให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียน  ไปทำหน้าที่ขอความรู้จากผู้ปกครองและคนในชุมชน เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดมาแล้ว ก็นำมารวมกันตัดข้อซ้ำออกก็ได้โทษถึง 105 ข้อค่ะ

หนูรู้สึกภาคภูมิใจที่หนูได้เป็นเด็กดี V-Star ค่ะ เข็มกลัด V-Star ที่ติดบนเสื้อแทนความภาคภูมิใจของหนู ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ดูดีค่ะ มันทำให้หนูไม่กล้าแม้แต่จะคิดทำสิ่งไม่ดี แต่กลับทำให้หนูคิดว่า “เมื่อเราได้ชื่อว่าเป็นเด็กดี V-Star แล้ว เราก็ควรจะทำแต่สิ่งที่ดีอยู่เสมอค่ะ” หนูอยากเชิญชวนให้ทุกโรงเรียนทั้งประเทศได้เข้าร่วมโครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก เด็กดี V-Star ค่ะ        

 

เหล่าเด็กดี V-Star ร.ร.ริ้วหว้าวิทยาคม  จ.อ่างทอง รวมกลุ่มกันออกแบบเอกสารที่จะใช้ในการสัมภาษณ์ผู้ใหญ่ในชุมชน

 

หนูขอเสนอแนวทางในการแก้ปัญหายาเสพติด สิ่งมึนเมาที่ดีที่สุดนะคะ หนูคิดว่าเราควรจะแก้ที่คุณธรรมจริยธรรมในใจก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ เพราะนี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นมนุษย์ โดยมีพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ สำหรับที่บ้านก็ควรจะทำครอบครัวให้อบอุ่นค่ะ ส่วนการแก้ปัญหาระดับประเทศหนูเห็นว่าเราใช้เวลากันมายาวนานมากแล้ว  กับการรณรงค์แก้ปัญหา แต่ก็ไม่เห็นจะแก้ปัญหาได้ซักที  ภาษีที่ได้มาก็เยอะมากจากสิ่งมึนเมาเหล่านี้     แต่สิ่งที่สูญเสียไปมันมีมากกว่าค่ะ มันไม่คุ้มกันเลยค่ะ หนูอยากให้รัฐบาลตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นพิเศษ และออกนโยบายที่ชัดเจนไปเลยค่ะ เกี่ยวกับการออกกฎหมายหรือการลงโทษผู้ผลิตค่ะ”

http://goo.gl/qpPGq