ชาวใต้รวมใจฟื้นฟูพระพุทธศาสนาโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูป กระหึ่มกึกก้องทุกหมู่บ้านทั่วไทยขยายเวลารับสมัครบวช ถึงวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2553เพราะสถานการณ์ สร้างวีรบุรุษ ฉะนั้น การบวชพระครั้งประวัติศาสตร์นี้ จึงไม่เคยหยุดสร้างวีรบุรุษจนกว่าจะถึงแสน กับเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก่อนปิดรับสมัคร ซึ่งวันนี้ ขอพาทุกท่านล่องทะเลใต้ ฝ่าคลื่นลมไปชมความคึกคักถึงจังหวัดสงขลาถิ่นสมิหลาเพลินใจแห่งนี้ ที่มีคุณศุภกิจ จตุรพิตร นายอำเภอนาทวี ให้การสนับสนุนเต็มที่ ลงพื้นที่คุยกับผู้ใหญ่บ้านด้วยตนเอง และชวนคนมาบวชได้ 25คนแล้วที่อำเภอนาทวี การทำหน้าที่ชวนคนบวชค่อนข้างยาก เพราะชาวบ้านกำลังทำสวนยาง ทุกคนกำลังจดจ่อเรื่องการทำมาหากิน ค่านิยมเรื่องบวชเพื่อเรียนรู้ธรรมะ ยังมีอยู่น้อย นายอำเภอกล่าวว่า “การทำหน้าที่ต้องมุ่งมั่น ใส่ใจในการพูดคุยเพื่อปรับทัศนคติ ให้เขาเห็นโอกาสที่เขาจะได้จากการบวช เวลาผมไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน ผมก็จะค่อยๆอธิบายว่าบุญบวชมันยิ่งใหญ่ไพศาล ที่คนเราล้มเหลวในชีวิตก็เพราะบาปมันตามทัน เราไม่รู้ว่าเราเคยทำบาปกรรมอะไรมาบ้าง ดังนั้นการบวชก็เหมือนการเติมบุญที่ยิ่งใหญ่ เหมือนเอาน้ำทั้งกะละมังมาล้างสิ่งสกปรกออก ตัวเราก็จะดีขึ้น ที่ผ่านมา เราอาจเคยถูกสบประมาท ไม่มีใครเคารพ แต่หากเราบวช แม้แต่นายกยังต้องกราบไหว้ เกิดมาทั้งที ชีวิตนี้ต้องมีคุณค่า มาบวชเถอะตัวผมเองมีลูกชายหนึ่งคน เคยมาบวชรุ่นกองพล 7000ตำบล ทำให้ลูกชายมีหลักธรรมในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ส่วนภรรยาหลังจากมาฝึกนั่งสมาธิ(Meditation)ที่วัดก็เปลี่ยนเป็นคนที่มีความสุขมากขึ้น เพราะฉะนั้นมั่นใจเถิดว่าพระพุทธศาสนาดีจริง และธรรมะก็จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นจริง จากที่ผมเพียรพยายามพูดให้เขาฟัง เมื่อผู้ใหญ่บ้านเข้าใจก็ไปช่วยตามลูกบ้านให้ บางคนตามมาได้สิบคนเลย”ที่จังหวัดภูเก็ต พระเดชพระคุณพระวิสุทธิธรรมคณี เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต ได้รับโครงการนี้เข้าเป็นโครงการของคณะสงฆ์จังหวัดภูเก็ตไปแล้ว และออกจดหมายขอความร่วมมือเจ้าอาวาสทุกวัดจัดส่งกุลบุตร วัดละสองท่าน สำหรับวัดของเจ้าคณะจังหวัดได้ส่งผู้มีบุญรายแรกมาแล้ว เป็นคนนำสวดมนต์ประจำวัดของท่านเองทางด้าน คุณวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ก็ได้ทำหนังสือแจ้งส่วนงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เช่น ประชาสัมพันธ์จังหวัด อบจ. อำเภอทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ให้สนับสนุนกันแบบสุดๆ ทำไปพร้อมๆผู้นำบุญ ซึ่งตั้งแต่ทราบข่าว ทุกคนก็ตื่นตัวเหมือนม้าศึกได้ยินเสียงรัวกลองรบ อยู่เฉยไม่ได้ ร่วมบุญสั่งทำไวนิลประชาสัมพันธ์เกือบสามร้อยผืน เห็นกันอย่างทั่วถึงทั้งเกาะภูเก็ต ติดต่อวิทยุชุมชนมาช่วยกันถึงเจ็ดสถานี พร้อมติดต่อช่อง11มาถ่ายทอดสดให้ด้วย ออกอากาศไปเมื่อวันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ.2553 เวลาบ่ายสี่โมงถึงสี่โมงครึ่ง โดยมีพระครูปริยัตตยานุยุต เจ้าคณะตำบลตลาดใหญ่ เจ้าอาวาสวัดวิชิตสังฆาราม และพระอาจารย์ดนัยภัทร หัวหน้าศูนย์อบรม ร่วมรายการให้สัมภาษณ์ หลังจากจบรายการก็มีคนโทรศัพท์มาสมัครบวชทันทีสิบคนทีมงานอีกหลายท่านอยู่หน่วยทะลวงฟัน วิ่งน็อคดอร์ ออกรถกระจายเสียงทุกวัน ก่อนทำหน้าที่ก็จะนั่งรวมใจอธิษฐานจิตหน้าพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ตอนแรกตั้งใจว่า วันละห้าคนก็ได้แล้ว แต่ปรากฏว่า ยอดผู้สมัครบวชเข้ามาทุกวัน วันละสิบคน แม้ช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซั่นที่ทุกคนจะยุ่งกับธุรกิจของตัวเอง แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า เราเป็นลูกใคร...พ่อสู้ เราไม่สู้ก็ไม่ใช่ลูกพ่อ จึงช่วยกันทำสถิติสูงสุดขึ้นใหม่ ได้ถึงวันละ 25คน ทำให้ยอด ณ วันนี้ แตะที่ 150คนเรียบร้อยแล้ว แต่นี่ยังไม่ใช่ยอดในดวงใจ เพราะทุกคนจะบูชาธรรมคุณครูไม่ใหญ่ 200เปอร์เซ็นต์ คือ 200คน ทีมงานบางคนรับบุญจนลืมวัยว่าเกือบ 80ปีแล้ว ชวนคนบวชจนลืมป่วย ลืมเจ็บ ลืมหิว ลืมนอน บางคนพักงานที่ร้าน มาเอาบุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อก่อน แต่ก็แปลก...กลับขายดีกว่าเดิม ยอดขายสูงมากซึ่งไม่เคยขายได้อย่างนี้มานานแล้ว จนร้านข้างเคียงสงสัย ถามว่ามีของดีอะไรหรือ ถึงขายได้อยู่ร้านเดียว และที่เกาะภูเก็ตแห่งนี้ยังพบเรื่องแปลกของชายแมนแมน คือ ชายคนแรกเล่าว่า “ก่อนที่พี่จะชวนผมบวช ผมฝันว่าตัวเองได้ใส่ผ้าเหลืองมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว พอพี่มาชวน ผมก็บวชเลย” ชายคนที่สองเล่าว่า “ผมฝันเห็นพระธุดงค์มาตามจะเอาตัวกลับไป ผมก็กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น พอพี่มาชวนบวช ผมก็...อ้อ...อย่างนี้นี่เอง สมัครบวชเลยครับ” ปิดท้ายกันที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทีมงานทั้งพระอาจารย์และผู้นำบุญกำลังทำหน้าที่อย่างทุ่มเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ยอดรวมตอนนี้ทะลุเกิน 200คนไปแล้ว เรียกได้ว่า เป็นการคัดเพชรน้ำเอกแห่งเมืองคนดีกันเลยทีเดียว เพราะทุกคนที่สมัครมานั้น มาแบบสมัครใจและตั้งใจจะเป็นบุคคลประวัติศาสตร์ในการบวชครั้งนี้ ผู้มีบุญอย่างกัลยาณมิตรเบญจลักษณ์ ช้องทอง ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบริหารพื้นที่เช่าและกิจกรรมสาขา ห้างโลตัสสาขาสุราษฎร์ธานี นับจากวันที่เธอได้พบพระอาจารย์ครั้งแรก เธอได้เรียนธรรมะ นั่งสมาธิ และชักชวนให้ผู้บริหาร น้องๆพนักงาน มานั่งสมาธิ ฟังธรรมะด้วย ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาก คือ เธอหันมาสนใจศึกษาธรรมะและนั่งสมาธิก่อนนอนทุกวัน บรรยากาศการทำงานจากที่ไม่ค่อยพูดกัน ก็พูดกันมากขึ้น มีรอยยิ้ม อ่อนโยนและน่ารัก งานนี้ เธอจึงไฟเขียวให้พนักงานลางานไปบวชได้เต็มที่ 49วัน ทั้งให้พื้นที่สำหรับเปิดบูธประชาสัมพันธ์แบบฟรีๆไม่มีค่าเช่า และบอกอีกว่า ต้องการอะไร...บอกมา เดี๋ยวจัดให้ เธอยังได้ปวารณาตัว ยินดีสนับสนุนโครงการบวชพระแสนรูปดีๆแบบนี้ตลอดไป เพราะอยากเห็นพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ส่วนบริษัทใหญ่แห่งเมืองสุราษฎร์ คือ บริษัททักษิณปาล์ม จำกัด คุณแม่มัณฑนาและลูกชาย...คุณบดี เชิดวิศวะพันธ์ ก็พาลูกน้องในบริษัทสมัครบวชไปแล้วสิบกว่าคน สนับสนุนเต็มที่แบบไม่คิดวันลา แถมให้เงินเดือนตามปกติ ทางด้านผู้นำบุญหลัก คือ กัลยาณมิตรมุกดา โพธิกุล และทีมงาน จากอำเภอคีรีรัฐนิคม บอกได้เลยว่า ทีมนี้สุดยอด เพราะออกทำหน้าที่ทุกวัน ทีมนี้ทีมเดียวชวนคนบวชได้เกือบร้อยคนแล้ว และบอกว่ายังจะมาอีกเรื่อยๆ
http://goo.gl/tg4U0