เทิดพระคุณครู 2 (ร.ร.บ้านตะวันจาก)

เด็กอนุบาลบ้านตะวันจาก ยกมือ

“หนูขอเทิดพระคุณครูก่อนใครๆ”

 

    

“เมื่อวานนี้หนูกลับไปบ้าน  ไปทำความดีอะไรมาบ้างจ๊ะ” นี่คือคำถามจากคุณครูผู้ให้แสงสว่าง ของโรงเรียนบ้านตะวันจาก จ.สมุทรสงคราม

ที่จะถามเด็กอนุบาลทุกวัน ก่อนที่ตัวเล็กๆจะออกมาเล่าถึงความดีที่ได้ทำด้วยความ Alert เบิกบาน ที่หน้าชั้นเรียน

     

     โครงการ “เทิดพระคุณครู เรียบเรียงเกินร้อย รับทุนเกินล้าน” จึงเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ทำให้เด็กดี V-Star ทั้งตัวเล็ก และตัวใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ และตั้งใจที่จะออกไปขอความรู้จากผู้ใหญ่ใจดีกันทั้งโรงเรียน ด้วยความเบิกบานกันสุดๆ

 

 

คุณครูภัทรานิษฐ์   บุญแก้ว หรือ ครูศรี คุณครูผู้ประสานงานโครงการ V-Starโรงเรียนบ้านตะวันจาก จ.สมุทรสงคราม

     คุณครูภัทรานิษฐ์   บุญแก้ว หรือ ครูศรี คุณครูผู้ประสานงานโครงการ V-Star  เล่าถึงโครงการนี้ด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้เริ่มทำโครงการ “เทิดพระคุณครู เรียบเรียงเกินร้อย รับทุนเกินล้าน”แล้วค่ะ โดยจะบอกเด็กทั้งโรงเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึง ป.6 ว่า “ให้ไปถามผู้ใหญ่คนไหนก็ได้ ไปถามข้างนอกมาก็ได้ แต่ยกเว้นครูนะ เขียนใส่กระดาษนี้มา แล้วก็ใส่ชื่อคนที่สัมภาษณ์มาด้วยนะ จะได้รู้ว่าไปถามใครมา” ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีการทยอยมาส่งกันแล้วค่ะ และที่พิเศษกว่านั้นก็คือ เด็กนักเรียนจะได้ออกมาพูดพระคุณของคุณครูที่หน้าเสาธง ในตอนเช้าของทุกวัน ตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไปค่ะ

 

     ส่วนเด็กอนุบาลจะมีความกระตือรือร้นที่จะทำกิจกรรมเทิดพระคุณครูมากกว่ารุ่นพี่ๆอีกนะคะ จึงเริ่มให้ออกมาเล่าให้ฟังหน้าห้องเรียนไปได้ 1 สัปดาห์แล้วค่ะ ก็มีเด็กอนุบาลอยู่คนนึงนะคะ เขาอยู่กับคุณยาย ก็เลยไปถามยายว่า “คุณยายขา พระคุณของครู มีอะไรบ้างคะ” ยายก็ตอบตามภาษาคนแก่ว่า “ครู เขามีพระคุณนะลูก ถ้าไม่มีครู เราก็อ่านหนังสือไม่ออก ก.ไก่ ข.ไข่  เราก็จะอ่านไม่ได้ซักตัว” 

 

     เด็กบางคนก็มาเล่าให้ฟังว่า “ครูทำให้หนูร้องเพลงคาราโอเกะได้เพราะว่าหนูอ่านตัวหนังสือบนหน้าจอได้ค่ะ”

 

     หรืออย่างบางคนก็บอกว่า “คุณครูเป็นเหมือนแม่ของหนูเลย แต่แม่ของหนูท่านไม่ว่าง ไม่มีเวลาเลี้ยงหนู แต่คุณครูต้องเลี้ยงหนูเหมือนกับเป็นแม่ของหนูจริงๆเลย เพราะคุณครูป้อนข้าวให้หนูกินด้วยค่ะ”  คือพ่อแม่ของเด็กแถวนี้ ส่วนใหญ่จะทำงานโรงงาน และไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ต้องออกจากบ้านแต่เช้า หน้าที่ตรงนี้จึงเป็นของคุณครูค่ะ ที่จะคอยป้อนข้าวให้เด็กเล็กๆ    เด็กอนุบาลเขาใกล้ชิดกับครูมากกว่าแม่ ก็จะพยายามรวบรวมของเด็กอนุบาลเอาไว้ค่ะ โดยคุณครูเป็นผู้บันทึกเอง เพราะเด็กอนุบาลเขาเขียนไม่ได้ และที่สำคัญจะพยายามเก็บสำนวนของเด็กเอาไว้ด้วยค่ะ เพราะเป็นภาษาที่ออกมาจากใจของเด็กเอง

 

     โครงการนี้ดีระดับสุดยอดไปเลยค่ะ ทำให้เด็กได้ทำความดีอย่างสม่ำเสมอ จนเป็นนิสัย ได้ระลึกถึงพระคุณครูมากขึ้น เหมือนกับว่าเด็กเขารู้อยู่แล้ว ว่าครูมีพระคุณ แต่การที่หลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ให้เด็กไปถามผู้ใหญ่นั้น เป็นการเรียนรู้ที่ครบวงจรเลยค่ะ เพราะเมื่อเด็กได้ถาม ก็จะได้ฟัง ได้เขียน และก็ได้คิด ตรงตามหลัก สุ จิ ปุ ลิ เลยค่ะ ทำให้พระคุณของครู มันก็จะยิ่งฝังแน่นลงไปในใจของเด็กเข้าไปอีก และทำให้ครูรู้สึกว่า ตัวของครูเองมีค่ามากกว่าเดิม ถ้าเป็นเมื่อก่อน ครูจะรู้สึก เหมือนเรือจ้าง อย่างที่ใครๆเขาเปรียบเทียบ  แต่พอมาทำงานด้านศีลธรรม มีความรู้สึกว่า คนในชุมชนเขาเห็นเรามีความสำคัญมากขึ้น เราไปที่ไหนมีแต่คนต้อนรับค่ะ

 

     โครงการของหลวงพ่อที่เพิ่มเติมเข้ามาให้เด็กดี V-Star ได้ทำ แต่ละปีๆไม่เคยซ้ำกันเลยนะคะ แต่ละโครงการทำให้เด็กได้รู้ว่าการทำความดี มันง่ายนิดเดียว มันเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่เราทำกันอยู่ทุกวัน เมื่อได้ทำแล้ว ก็สนุก เด็กๆเขาชอบกันมากค่ะ

 

     วันไหว้ครูปีนี้ นอกจากจะมีพิธีไหว้ครูตามปกติแล้ว ก็จะมีพิธีกล่าวคำแสดงตนเป็นพุทธมามกะ มีการให้เด็กนักเรียนนำข้าว นำอาหารมาถวายพระ  และตั้งใจว่าจะนิมนต์พระอาจารย์ที่วัด มาเทศน์เรื่องพระคุณครูอีกด้วยค่ะ

 

     ดิฉันกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่นะคะหลวงพ่อดำริโครงการนี้ขึ้นมา ทำให้ครูมีความหมายมากยิ่งขึ้น และยังทำให้วิชาพระพุทธศาสนาในโรงเรียนมีคุณค่า พระคุณของคุณครูได้ถูกปลูกฝังลงไปในใจเด็กให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าและความหมายของการเป็นครู ทำให้คุณครูเองก็มีกำลังใจอยากสอน  รักในอาชีพครูและรักนักเรียนมากยิ่งขึ้นค่ะ

 

http://goo.gl/DbuO5