การปลุกยักษ์ในตัวคุณ
การปลุกยักษ์ในตัวคุณ ในที่นี้คือ การปลุกศักยภาพในตัวมนุษย์ทุกคนซึ่งแต่ละคนมีอยู่อย่างมหาศาลเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน1.ภาษากาย ปรับปรุงบุคลิกภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง เช่น การเดินยืดอก เพราะการยืดอกจะทำให้อากาศเข้าไปในปอดได้ดีขึ้น สมองก็ได้รับออกซิเจนมากขึ้น2.การพูดเรื่องเชิงบวกกับตัวเอง เช่น การยิ้มหน้ากระจกทุกวัน แล้วก็ชมตัวเองในกระจก ห้ามพูดกับตัวเองในทางลบ3.การลองปรับเปลี่ยนตัวเอง ลองเปลี่ยนการแต่งกายให้ดูสดใสขึ้น สุภาพสตรีก็ลองแต่งหน้าด้วยสีที่สดใสกว่าเดิม4.การขอบคุณสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ รวมทั้งขอบคุณทุกอย่างรอบข้างที่มีผลต่อการดำรงชีวิตในแต่ละวัน5.การใช้จินตนาการย้ำเป้าหมาย อยากได้สิ่งใดมีเป้าหมายอย่างไรก็จินตนาการให้สูงไว้ ถ้าเป้าหมายเราสูง อุปสรรคจะเป็นเรื่องเล็ก6.การพูดว่าใช่ เวลาทำสิ่งใดไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเล็กๆ หรือเป้าหมายใหญ่ เมื่อทำสำเร็จให้ตอกย้ำความสำเร็จนั้นด้วยการพูดคำว่า Yes! จะทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจมากยิ่งขึ้นนอกจากการพูดให้กำลังใจตัวเองแล้ว เราก็ต้องให้กำลังใจกับผู้คนรอบข้างเพื่อโลกจะได้น่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วย 10 วลีทรงพลังของคนคิดบวก คือ1.ฉันผิดเอง 2.ฉันขอโทษ 3.คุณทำได้4.ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ 5.ฉันภูมิใจในตัวคุณ 6.ขอบคุณ7.ฉันต้องการคุณ 8.ฉันวางใจในตัวคุณ9.ฉันเคารพในตัวคุณ 10.ฉันรักคุณความจริงมนุษย์มีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพภายในที่จะสามารถบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ถ้าตั้งใจฝึกตนเองจริงๆ ไม่ย่อท้อกลางคันก็จะสามารถสร้างบารมีไปเรื่อยๆ จนตรัสรู้ธรรมเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งได้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าจะทำบาปก็แทบจะไร้ขีดจำกัดเหมือนกัน มนุษย์สามารถทำบาปจนแผ่นดินยังทรงไว้ไม่ได้ต้องแยกออก แล้วสูบลงมหานรกไปเลยก็มี เพราะฉะนั้นกายมนุษย์นี่สำคัญยิ่งนักการปลุกยักษ์ในตัวคนตามแนวทางพระพุทธศาสนาก็คือ มรรคมีองค์ 81.สัมมาทิฏฐิ คือ เห็นถูก มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง2.สัมมาสังกัปโป คือ คิดถูก ต้องคิดเชิงบวก อย่าคิดไปในทางร้าย ไม่คิดสมมุติว่าเรื่องที่ไม่ดีจะเกิด3.สัมมาวาจา คือ คำพูดร้ายๆ วาจาร้ายๆ ทำลายตนอง ทำลายคนอื่น อย่าพูด ให้พูดแต่เรื่องที่ดีมีประโยชน์ มีตัวอย่างหนึ่ง คือ มีคนๆ หนึ่งอุ้มแพะไปตลาด พอซื้อข้าวของอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่มีคนซื้อ ก็พาแพะกลับบ้าน ระหว่างทางมีกลุ่มนักเลงที่วางแผนจะหลอกเจ้าของแพะ เพื่อหาทางเอาแพะไปให้ได้ นักเลงคนที่ 1 ก็ทำท่าเดินเข้าไปถามว่า นี่คุณ ไปจูงสุนัขมาทำไม สักพักนักเลงคนที่ 2 ก็เดินมาทักว่า อ้าวคุณ จูงสุนัขไปไหน คนที่ 3 ที่ 4 ก็ทักอย่างเดียวกัน เจ้าของแพะจึงเสียความเชื่อมั่นว่า เราจูงสุนัขมาจริงๆ เมื่อคิดเช่นนี่จึงปล่อยแพะไป เพราะนึกว่าเป็นสุนัข นักเลงจึงมาจูงแพะไป นี่คือธรรมชาติของคน ที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง4.สัมมากัมมันตะ ทำการงานชอบ ไม่ไปเบียดเบียนใคร5.สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีพชอบ การหาทรัพย์ต้องหาด้วยความถูกต้อง รวมถึงการใช้ทรัพย์ก็ต้องใช้ให้พอดี6.สัมมาวายามะ มีความเพียรชอบ ทำงานอย่างทุ่มเท หนักเอา เบาสู้7.สัมมาสติ มีสติชอบ ทำอะไรต้องตื่นตัวมีสติอยู่ตลอด8.สัมมาสมาธิ(Meditation) เอาใจจดจ่อทำสมาธิอยู่บ่อยๆเมื่อใจเราเป็นสมาธิจะเป็นการพัฒนาศักยภาพตัวเราเองโดยตรง เหมือนแดด เวลาเราไปยืนกลางแดดรู้สึกร้อนจึงคิดว่าแดดมีอานุภาพเท่านั้น แต่ถ้าเอาเลนส์รวมแสงไปรวมให้แดดเป็นจุดเดียว แดดก็จะมีอานุภาพมาก ถ้าเอากระดาษไปวางไว้ไฟก็จะลุกได้ทีเดียว ใจเราก็เหมือนกัน ถ้าเป็นสมาธิเมื่อไหร่ ศักยภาพเราก็จะเพิ่มพูนมากมายมหาศาลดังนั้นให้เราเองหมั่นทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ไม่ใช่ทำเฉพาะตอนนั่งอย่างเดียว แต่ให้ทำทั้งวัน มีใจจดจ่อกับงานที่ทำ ถ้าทำได้อย่างนี้ ศักยภาพของเราก็จะพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไปทั้งหมด 8 ข้อนี้ หรือ มรรคมีองค์ 8 คือการปลุกยักษ์ในตัวเราให้ตื่นขึ้นมา ทำให้มนุษย์ทุกคนสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จสูงสุดในทางโลกเท่าที่ตนเองพึงปรารถนา
http://goo.gl/kMppl